มาเฟียร้ายขังรัก
บทที่ 3.
นักรบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากวางสายโทรศัพท์ และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เลขาส่วนตัวหน้าห้องทำงานก้าวเท้าเข้ามา
"นายครับ คุณประภามาขอพบครับ"
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที เมื่อได้ยินชื่อของคนที่มาขอพบ เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกด้วยซ้ำ
"ให้เข้ามา"
นักรบเอ่ยเสียงเรียบ เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าประภาจะมาไม้ไหนอีก
ไม่นานร่างระหงของหญิงวัยสี่สิบแต่หุ่นยังคงสวยพริ้งก็ก้าวเดินเข้ามาในห้องทำงานของนักรบราวกับนางพญา เธอทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับเจ้าของห้องทันทีโดยไม่รอคำเชิญ พลางส่งรอยยิ้มหวานไปให้ หากแต่สีหน้าที่กำลังยิ้มแย้มก็ค่อย ๆ เจื่อนลง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนักรบนั้นมีแต่ความเฉยชา
"ไม่ได้เจอกันนานเลย คุณรบไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ"
"ต้องการอะไร"
นักรบเอ่ยถามเสียงเย็น ประภากระแอมกระไอออกมาเล็กน้อย สมองของเธอกำลังคิดหาคำพูดสวยหรูอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องดั้นด้นมายังเกาะส่วนตัวของนักรบเพียงลำพังในครั้งนี้
"ฉันกับคุณอธิปต้องการมาขอยืมเงินสิบล้านไปใช้หนี้ค่ะ"
ประภากล่าวอ้างไปถึงสามีที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลยสักนิด แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้เธอรอว่าใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็คงไม่ทันการณ์
"ยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ แถมยังกล้ามาขอยืมเงินคนที่สามีของตัวเองเคยยักยอกไป ทั้งที่เรื่องผ่านไปยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ"
"ฉันจำเป็นต้องกล้าค่ะ จะเรียกว่าหน้าด้านก็ได้ที่บากหน้ามาขอความเหลือจากคุณถึงที่นี่ และตอนนั้นที่คุณอธิปยักยอกเงินของคุณไป จริง ๆ แล้วฉันเองก็มีส่วนผิดไม่น้อย"
ประภาแสร้งตีกน้าเศร้าเล่าความเท็จ และหวังในใจลึก ๆ ว่านักรบจะเห็นใจและคล้อยตาม
"ที่เรามีหนี้สินท่วมหัว สาเหตุหนึ่งก็มาจากลูกสาวตัวดีของคุณอธิปนั่นแหล่ะ ฉันเองก็รักแกเหมือนลูกในไส้อุตส่าห์หวังดี อยากให้เธอได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดี มีหน้ามีตาในสังคม แต่เด็กนั่นกลับทำตัวเหลวแหลก เรียนก็แทบจะไม่จบ แถมยังมั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า ผลาญเงินผลาญทองไปมากมาย จนทำให้ต้องเป็นหนี้หัวโตอย่างทุกวันนี้"
ประภาพูดไปพลางบีบน้ำตาไป มือเรียวหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับหยดน้ำตาที่พยายามบีบออกมาไม่ขาดสาย
"แล้วยังไง ฉันต้องรับรู้เรื่องในครอบครัวของเธอด้วยไหม"
นักรบเอ่ยถาม รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นตรงมุมปาก มือหนาตั้งท่ายื่นไปกดปุ่มบนเครื่องอินเตอร์โฟน ตั้งใจจะให้ลูกน้องเข้ามาหิ้วปีกผู้หญิงคนนี้ออกไปให้พ้นหูพ้นตา หากแต่ต้องชะงักเมื่อคนตรงหน้ารีบยื่นซองเอกสารที่เตรียมมาให้กับเขา
"อะไร?"
"โฉนดบ้านพร้อมที่ดิน สัญญาจำนอง และก็รูปของพราวมุกค่ะ"
คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย พลางชักมือกลับจากอินเตอร์คอม เมื่อนักรบมีทีท่าสนใจ ประภาจึงรีบอธิบายต่อ
"คุณอธิปยินดียกบ้านพร้อมที่ดิน รวมทั้งหนูพราวมุกให้กับคุณ เพื่อเป็นหลักค้ำประกันว่าเราสองคนจะรีบหาเงินมาคืนคุณทั้งหมดแน่นอนค่ะ"
นักรบหรี่ตาจับจ้องผู้หญิงตรงหน้าอย่างพิจารณา ด้วยเหตุเพราะไม่เชื่อถือนัก
"นายอธิปน่ะรึ ต้องการเอาทั้งบ้านทั้งลูกสาวของตัวเองมาจำนองไว้กับฉัน"
นักรบถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ สายตาคมจ้องมองประภาอย่างจับผิด
ประภากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกเกรงกลัวในสายตาและน้ำเสียงดุดันของอีกฝ่าย
"ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันกับคุณอธิปไม่ต่างอะไรกับหมาจนตรอก ขอเพียงมีหนทางใช้หนี้ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรพวกเราก็ยอมค่ะ"
"ยอมได้ทุกอย่างเลยจริง ๆ หรือ"
"ทุกอย่างเลยค่ะ"
นักรบยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก มือหนายื่นไปเปิดลิ้นชักและหยิบวัตถุสีดำขึ้นมา และเล็กปลายกระบอกปืนไปยังประภาที่ผุดลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตกตะลึง เอ่ยเรียกชายหนุ่มตรงหน้าเสียงสั่น
"คะ คุณนักรบ"
"นั่งลง!"
นักรบตวาดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม เต็มไปด้วยความดุดัน
และคราวนี้น้ำตาของประภาก็ไหลรินออกมาจริง ๆ หากแต่เป็นเพราะความรักตัวกลัวตาย รีบลนลานนั่งลงตามคำสั่งด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
"คุณรบ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ แห็นแก่อธิปที่เคยทำงานให้คุณด้วยความซื่อสัตว์มาหลายปีก็ได้"
ประภาเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นจากความหวาดกลัว พร้อมทั้งยกมือไหว้ชายหนุ่ม ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชนัก
"ซื่อสัตย์อย่างนั้นเหรอ จะเอาความซื่อสัตย์มาจากไหนอีก ในเมื่อพวกแกทำลายมันไปหมดแล้ว"
ประภาสะดุ้งสุดตัวที่ถูกนักรบตะโกนใส่หน้า
"ถ้าอยากได้เงินมากนัก ก็เอาชีวิตของเธอมาแลกก็แล้วกัน"
"ไม่ ๆ ไม่นะคุณรบ ฉันยังไม่อยากตาย"
ร่างอวบอัดรีบขยับถอยไปทางด้านหลัง เมื่อเห็นว่านักรบสอดนิ้วเพื่อจะเหนี่ยวไกปืน ก่อนจะผงะเมื่อได้ยินเสียงแกร๊กดังขึ้นจากปลายกระบอกปืน แต่ไม่มีลูกกระสุนพุ่งเข้าใส่ตัวเอง ความหวาดกลัวส่งผลให้ประภาถึงกับทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
"ไหนบอกจะยอมทุกอย่างไง แต่พอฉันเสนอให้แลกกับชีวิตของเธอ ทำไมทำไม่ได้ซะล่ะ เป็นแบบนี้ จะให้ฉันเชื่อใจเธอได้ยังไง"
นักรบเอ่ยเสียงเรียบเย็น ขณะวางปืนลงบนโต๊ะทำงาน และประภาก็ถึงกับพูดไม่ออก
"ไปให้พ้นหน้าฉัน"
ไม่ต้องรอให้นักรบเอ่ยไล่อีกเป็นครั้งที่สอง ประภารีบผุดลุกขึ้นทันที สายตาเหลือบไปมองซองเอกสารสีน้ำตาลที่บัดนี้ถูกกระบอกปืนวางทับอยู่เล็กน้อย ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องทำงานของของนักรบไปด้วยความคับแค้นใจ นอกจากจะเสียเวลาและเสียหน้าแล้ว เธอยังต้องเสียโฉนดบ้านกับที่ดินไปโดยไม่ได้เงินกลับมาสักบ้านเดียว
หลังจากที่ประภาออกไปแล้ว นักรบก็หันกลับมาสนใจซองเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง มือหนาหยิบเอกสารออกมาจากซอง ดวงตาคมทอดมองสัญญาจำนองและโฉนดบ้านพร้อมที่ดินด้วยแววตาเฉยเมย ก่อนจะเปลี่ยนมาให้ความสนใจกับรูปของพราวมุกทุกช่วงวัย ทั้งตอนเป็นเด็ก เป็นเด็กสาว ม.ปลาย หรือแม้กระทั่งตอนอยู่มหาลัย
รูปพวกนี้คงถูกขยำทิ้งลงถังขยะไปแล้ว หากนักรบไม่สังเกตอะไรบางอย่างบนใบหน้าสวยหวานที่ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก และจับจ้องอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
"นายครับ"
เลขาหนุ่มเอ่ยเรียก พร้อมกับหยุดยืนอยู่ตรงหน้า คนถูกเรียกสะดุ้งเล็กน้อย และรีบคว่ำรูปถ่ายของพราวมุกลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
"มีอะไร"
"คนของเราส่งข่าวมาว่า นายอธิปตายแล้วครับ ส่วนสาเหตุการตาย ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายครับ"
"ว่าไงนะ"