รถบัสจำนวนสามคันแล่นตามกันบนท้องถนน ในรถคือนักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย NT TECH เสียงเพลงจังหวะ EDM เปิดดังก้องรถ พร้อมกับนักศึกษาหลายคนที่ลุกขึ้นเต้นอย่างสนุกสนาน บางคนก็ขยับโยกอยู่ที่เบาะนั่งของตัวเอง
นักศึกษาของรถแต่ละคันจะถูกจัดให้นั่งตามกลุ่มรหัส แน่นอนว่าตอนนี้กานดานั่งคู่อยู่กับพี่เฮดว้ากที่เป็นลุงรหัสของเธอ
“พี่แผน ๆ ปกติแล้วที่คณะไปที่นี่ทุกปีเลยเหรอ” เสียงเล็กใสเอ่ยถามขึ้น เพราะเสียงเพลงที่ดังจนคุยกันแทบไม่ได้ยิน ทำให้เธอต้องยื่นหน้ามาใกล้ ๆ เพื่อรอฟังคำตอบ
“ไม่ทุกปี ปีที่แล้วไปทะเล แต่ปีนี้จะไปพักรีสอร์ทในป่ากัน เปลี่ยนบรรยากาศ” แผนตอบคำถามพร้อมกับก้มมองใบหน้าสวย ๆ ที่กำลังพยักขึ้นลงเหมือนจะบอกว่าเธอเข้าใจแล้ว
‘น่ารักจัง’ จู่ ๆ คำนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว หญิงสาวตัวเล็กกะทัดรัด ผิวขาวอมชมพู ตาโต ปากเป็นกระจับน่าจูบ จะว่าไปก็นานแล้วที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมาก็ไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่ว่าเรื่องมาก เลือกเยอะอะไร แต่เพราะผู้หญิงหลายคนพอได้มารู้จักกันแล้วก็พากันกลัวเจ้าเพชร สุดท้ายก็แยกทางกัน
ทั้งที่ใส่สุดทุกท่าทุกลีลา ยังรั้งเอาไว้ไม่อยู่
แต่หลานรหัสคนนี้ มันน่ากินทุกส่วน ขนาดใส่เสื้อช็อปคลุมเอาไว้ ยังเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ใครจะหาว่าคิดอกุศลก็ช่างเถอะ แต่ได้สักทีจะไม่ลืมพระคุณเลย
“พี่แผน”
“...”
“พี่แผน ที่ถามเนี่ยได้ยินหรือเปล่า”
“ได้ยิน มีอะไร” เพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่ทำให้ไม่ได้ยินสิ่งที่กานดาถาม แต่ก็ต้องทำท่าเออออไป
“ได้ยินจริงอะ งั้นบอกหนูมาว่าเมื่อกี้หนูถามว่าอะไร”
พอเธอมาไม้นี้ก็ทำเอาแผนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูก ก็ตอนนั้นมัวแต่เหม่อไม่ได้ยิน แล้วจะให้ตอบว่ายังไง สุดท้ายก็จำยอมต้องรับสารภาพว่าไม่ได้ฟัง
“โทษที พี่ได้ยินไม่ชัด ไหน ถามใหม่สิ”
“โธ่...แล้วทำเป็นมาบอกว่าได้ยิน”
หลานรหัสตัวแสบทำปากขมุบขมิบเหมือนบ่นอะไรสักอย่างก่อนที่จะยอมถามดี ๆ อีกครั้ง
“หนูถามว่า ที่พักเป็นยังไง พอดีหนูไม่ชอบพักรวมกับใครน่ะ” จะว่าเรื่องมากก็ได้ แต่ตั้งแต่ขึ้นมัธยมก็นอนคนเดียวมาตลอด ไปเข้าค่ายก็ขอครูจ่ายค่าห้องเองเพื่อที่จะได้พักคนเดียว
“สายรหัสแต่ละกลุ่มจัดการกันเอง ส่วนของกลุ่มเราพี่เปิดสามห้อง ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงเราก็ได้นอนคนเดียวอยู่แล้ว”
พอได้ยินคำตอบจากปากของเขา กานดาก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วกลับไปนั่งในท่าปกติ แต่แผนนี่สิ รู้สึกเหมือนหัวใจจะเต้นผิดจังหวะมากขึ้นเรื่อย ๆ
ใช้เวลาเดินทางกว่าหกชั่วโมง รถบัสทั้งสามคันก็มาจอดยังรีสอร์ทที่ทางคณะได้ทำการจองเอาไว้ นักศึกษาขนของเข้าห้องพักตามที่สายรหัสของต้วเองจัดเอาไว้ให้
“ใจคอพวกพี่จะไม่ช่วยหนูยกกระเป๋าหน่อยหรือไง มันหนักมากนะ” หากถนนในรีสอร์ทมันราบเรียบปกติก็คงไม่จำเป็นต้องขอร้องให้ใครช่วย เธอคงลากกระเป๋าไปตามทางได้สบาย แต่นี่ มีแต่ก้อนหินทั้งนั้น
“แล้วจะเอามาทำไมเยอะ ๆ” ครามพูดขึ้น ทำให้กานดาตวัดหางตาไปมองทันที
“ก็พวกพี่เป็นผู้ชายจะไปเข้าใจอะไร หนูเป็นผู้หญิงนะ จะให้ใส่กางเกงในกลับด้านไปมาแบบพวกพี่ได้ยังไง”
ทันทีที่เธอพูดจบ บอยที่กำลังจะเข้ามาช่วยยกกระเป๋าก็หัวเราะดังลั่นออกมาทันที
“ดารู้ได้ไงว่าพี่ครามชอบใส่กางเกงในกลับด้านเวลามาเข้าค่ายแบบนี้” พูดเสร็จก็ยังหัวเราะต่อจนตัวโยน ส่วนแผนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็อดที่จะหัวเราะเพื่อนตัวเองไม่ได้
“ไอ้บอย น้อย ๆ เลยมึง เดี๋ยวกูปล่อยนอนคนเดียว ให้ผีหลอกเสียให้เข็ด” คำขู่นี้ได้ผล เมื่อสงครามพูดจบบอยก็ยกมือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะทันที เพราะเขาเป็นคนที่กลัวผีมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“พวกมึงเลิกเถียงกันได้แล้ว ช่วยน้องมันยกของเร็ว ๆ จะได้ออกมารวมตัวทำกิจกรรม” แผนพูดขึ้นเพื่อห้ามศึกของพี่น้องรหัสเดียวกัน แล้วก็เดินเข้าไปช่วยกานดาถือกระเป๋าหนึ่งใบ ส่วนที่เหลือ บอยกับสงครามก็ช่วยกันถือมาคนละใบ
ทั้งสี่คนเดินมายังสุดทางของถนน ก็เจอห้องพักสามห้องติดกัน และเป็นห้องที่แผนจองเอาไว้ให้สายรหัสของตัวเอง เขานอนห้องริมซ้าย กานดานอนห้องกลาง ส่วนครามกับบอยนอนห้องริมขวาสุด
“ไปเก็บของกันเร็ว ๆ เข้า ให้เวลาสิบนาที”
เพราะเป็นเฮดว้าก แผนจะต้องคุมสายรหัสของตัวเองให้ดี เพื่อที่จะได้คุมสายรหัสอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งสามคนรับปากแข็งขันก่อนที่จะขนของเข้าไปเก็บในห้องพักของตัวเอง
สิบนาทีไม่ขาดไม่เกิน ทั้งหลานรหัส เพื่อนสนิทและน้องรหัสก็มาพร้อมกันด้านหน้า
“รีบไปเร็ว เสียงนกหวีดรวมตัวดังแล้ว เดี๋ยวไอ้พวกนั้นจะว่าเอา”
แผนพูดจบก็เดินนำทุกคนไปยังลานกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อรวมตัวกับกลุ่มอื่น ระหว่างที่เดิน เขาก็สังเกตเห็นใครบางคนกำลังจ้องกานดาไม่วางตา สายตาที่มองมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ภากร คือชื่อของผู้ชายคนที่กำลังมองกานดาตาไม่กะพริบ คงไม่มีปัญหาอะไร หากมันไม่ใช่เสือผู้หญิงที่ชอบฟันเด็กปีหนึ่งไม่เลือกหน้า ยิ่งหน้าตาที่เรียกว่าหล่อจนถึงขั้นเป็นเดือนมหา’ลัย ยิ่งง่ายต่อการเข้าหาผู้หญิง
แต่หลานรหัสคนนี้ เขาจะไม่ยอมให้มันยุ่งเด็ดขาด
กิจกรรมในช่วงกลางวันก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่เล่นเกมสานสัมพันธ์กันปกติ พอตกเย็นก็ปล่อยทุกคนแยกย้ายให้ไปอาบน้ำ กินข้าว ก่อนที่จะมารวมตัวกันทำกิจกรรมรอบกองไฟ
“พี่ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” ขณะที่กานดากำลังจะตักข้าวเข้าปาก ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ เมื่อหันไปมองก็เห็นเป็นผู้ชายหน้าตาดีถือจานข้าวยืนอยู่ข้าง ๆ
“นั่งได้...”
“ไม่ได้ มึงกลับไปนั่งกับสายรหัสมึงดิ จะมายุ่งกับสายรหัสกูทำไม” ยังไม่ทันที่กานดาจะพูดจบ แผนก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับสายตาที่มองภากรอย่างไม่พอใจ
“อะไรวะไอ้แผน แค่นี้ต้องหวงด้วยเหรอวะ หรือว่ามึงหวงไว้กินเอง” ภากรพูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้ายียวน
“ถ้ามึงไม่อยากมีปัญหา ก็กลับไปหาสายรหัสของมึง และอย่ามายุ่งกับสายรหัสกูอีก”
เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของอีกฝ่าย ภากรก็ยอมถอยหลังกลับไปแต่โดยดี มีเรื่องกับแผนไม่คุ้ม เพราะเท่าที่สังเกตมา ใครมีปัญหาด้วยมักจะเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ เสมอ
“พี่แผน ก็แค่นั่งกินข้าวด้วยกัน ทำไมต้องหาเรื่องพี่เขาด้วยล่ะ” กานดาถามขึ้นด้วยความอยากรู้ ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ทุกคนก็เรียนคณะเดียวกันอยู่แล้ว
“พี่เตือนเราเอาไว้เลยนะ ว่าห้ามยุ่งกับไอ้กร ถ้าไม่อยากต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าทีหลัง”
ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แค่รู้จักกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องก็ไม่ได้ แต่ยัยตัวเล็กก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ต่อ คิดว่าคงมีเหตุผลเขาถึงได้ห้าม
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ กิจกรรมรอบกองไฟก็เริ่มขึ้น มีการเล่นดนตรีและร้องเพลงสนุกสนาน จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน รุ่นน้องทั้งหมดถึงได้ถูกปล่อยตัวให้กลับไปพักผ่อนที่ห้องตัวเอง ส่วนรุ่นพี่ก็ช่วยกันเก็บของที่ใช้ทำกิจกรรมเมื่อกี้ก่อนจะกลับ
กานดาเดินกลับมายังห้องพักเพียงคนเดียว เพราะแผน คราม และบอยต้องช่วยกันเก็บของก่อน ระหว่างที่เดินเธอก็เห็นร่างสีขาวหายเข้าไปในพุ่มไม้
“ฮั่นแน่ คิดจะมาหลอกผีรุ่นน้องเหรอ เหอะ อย่างกานดาไม่กลัวหรอก” เธอพูดขึ้นเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ย่องเข้าไปทางพุ่มไม้ที่เห็นร่างสีขาวลอยเข้าไปเมื่อกี้
“เอ๊...ตรงนี้มีผีหรือเปล่าน้า” เสียงใส ๆ พูดขึ้น แล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลัง “อยู่นี่เอง พวกพี่หลอกหนูไม่สำเร็จหรอก”
กานดายังคงคิดว่าสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า คือรุ่นพี่ที่แกล้งแต่งชุดคล้ายผีเพื่อมาหลอกรุ่นน้อง
“ไหน ขอหนูดูหน่อยว่าเป็นใคร พี่แผนเหรอ หรือพี่คราม เอ๊ะ หรือว่าพี่บอยนะ” คำพูดออกมาพร้อมกับมือที่ยื่นไปหวังจะจับไหล่คนตรงหน้าให้หันมา
วืด...
แต่เหมือนเธอสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า แล้วร่างนั้นก็ขยับห่างออกไปอีกเล็กน้อย
“ฮั่นแน่...ลูกเล่นเยอะจริงนะ” กานดายังไม่ยอมแพ้ ด้วยนิสัยไม่ใช่คนขี้กลัว และไม่เชื่อเรื่องผีสาง ทำให้ไม่นึกคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือผี
แต่ก็เหมือนเดิม เมื่อเธอจะเอื้อมไปแตะตัว ก็เหมือนสัมผัสไม่โดน แล้วร่างนั้นก็ขยับออกห่างอีกครั้ง คนตัวเล็กเท้าสะเอวยืนมองร่างที่อยู่ในชุดสีขาว จนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
“นี่พี่ หันหน้ามาดูหน่อยสิว่าเป็นใคร เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้ว มันไม่ได้น่ากลัวเลยนะ” เมื่อสุดจะทน กานดาเลยพูดออกไปตรง ๆ
“ดา! ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น” เสียงเรียกที่ดังมาจากอีกทางทำให้เธอต้องหันไปมอง ก็เห็นแผน ครามและบอยยืนอยู่
“เวรแล้วไง” แผนพูดขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามาหากานดาที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก ปากก็ท่องคาถาไล่ผีไปพลาง เพราะที่เห็นยืนอยู่ข้างหลังของเธอนั้น มันไม่ใช่คน แต่เป็นผีผู้หญิงที่กำลังกลายสภาพจนดูน่ากลัว โชคดีที่กานดาหันหลังให้เลยไม่เห็นภาพนั้น
พอเขาไปถึงตัวเธอ ผีตนนั้นก็หายวับไปกับตา
“มายืนทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่เข้าห้อง”
ด้วยความเป็นห่วง ทำให้แผนเผลอจับแขนเล็ก ๆ ของกานดาเต็มแรง ใบหน้าสวยยู่ลงด้วยความเจ็บ พยายามบิดออกจากการเกาะกุมของเขา
“พี่แผน หนูเจ็บนะ”
พอเห็นดวงตากลมโตเริ่มคลอด้วยน้ำใส แผนถึงได้สติและรีบปล่อยมือตัวเองออกจากแขนของเธอ
“พี่โกรธทำไม ดาก็แค่เล่นกับพี่เขาเอง” พูดเสร็จก็หันกลับหลังเพื่อจะบอกว่าเธอกำลังเล่นกับใคร แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนี้แล้ว
“อ้าว พี่เขาไปไหนแล้วล่ะ”
“พี่ไหน”
“ก็พี่ผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาวมาทำเป็นหลอกผีหนูไง”
ได้ยินแบบนั้นแผนก็พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ นอกจากจะไม่กลัวแล้ว กานดายังคิดว่าผีตนนั้นคือรุ่นพี่ปลอมตัวมาเล่นด้วยอีก
“มันไม่มีรุ่นพี่ตั้งแต่แรกแล้ว” แผนตอบคำถามแล้วก็ดึงแขนเธอให้เดินตามมายังที่ครามกับบอยยืนรออยู่
“พี่แผนหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่า นั่นมันเป็นผีไม่ใช่คน”
“ผี!”
“เออ ผี”
พอได้ยินคำตอบที่ชัดเจน กานดาก็รีบกระโดดขี่หลังลุงรหัสของตัวเองอย่างไม่ต้องคิดทันที สองแขนโอบรอบคอเขาไว้แน่น ส่วนสองขาก็เกี่ยวเอาไว้กับเอวสอบกันตัวเองตก
“ดา จะขึ้นมาขี่หลังพี่ทำไม”
“กะ ก็หนูกลัวผีนี่”
“ทีเมื่อกี้ยังยืนคุยอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่กลัว”
“ก็หนูไม่รู้ว่าเป็นผีไง”
ยิ่งพูด ทั้งแขนทั้งขาก็รัดตัวเขาแน่นขึ้น จนแผนต้องรีบพาเธอเดินมาให้ถึงห้องพักให้เร็วที่สุด กานดาถึงได้ยอมปล่อยและลงไปยืนบนพื้นตามปกติ
“เข้าไปนอนได้แล้ว” แผนเอ่ยบอกคนตรงหน้า แต่เธอก็ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมเข้าไปในห้องตัวเอง
“ไม่เอา ไม่กล้านอนคนเดียว” กานดาก้มหน้าก้มตาบอก ไม่ใช่ว่าอาย แต่เพราะกลัวว่าถ้าเงยหน้าขึ้นมาจะเห็นผีตัวเมื่อกี้อีก
“แล้วจะไปนอนกับใคร”
“นอนกับพี่แผนไง พี่นอนคนเดียวไม่ใช่เหรอ”
พอได้ยินคำตอบของเธอก็ทำเอาครามกับบอยรีบหันหลังกลับเข้าห้องตัวเองไปทันที ปล่อยให้แผนแก้สถานการณ์ตรงหน้าคนเดียว
“จะบ้าหรือไง”
“ไม่บ้าแหละ หรือพี่จะให้หนูไปขอนอนกับคนอื่น”
นั่นยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่ ส่วนมากที่มาก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น ปล่อยให้ไปนอนด้วยคงไม่เหลือแน่
///////////////////////////////////////////////////////