สามปีต่อมา
สองขาเรียวหยุดยืนอยู่หน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณ ที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มสวมเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูละลานตา มุมปากหยักโค้งขึ้น สองแขนกอดอกมีท่าทีมั่นใจ
กานดา เป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดัง แต่เธอกลับไม่เรียนหมอตามความต้องการของพ่อ ที่เลือกสอบเข้าคณะวิศวฯ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ผู้ชายคณะนี้ขึ้นชื่อว่าหล่อเท่ที่สุดในบรรดาทุกคณะ พอมาเห็นกับตาตัวเองวันนี้ เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นไม่ผิดจริง ๆ
ทางนั้นขาวตี๋เกาหลีหล่อละมุน ส่วนทางนี้ก็หล่อคมเข้มสไตล์ไทยแท้ ส่วนฝั่งนู้น ก็หน้าตาราวกับลูกครึ่ง
‘ต้องได้สักคนล่ะวะ’ เธอคิดในใจ
ไม่ต้องยืนมองให้เสียเวลา กานดารีบก้าวเดินเข้าไปใต้โถงตึกคณะ ที่ตอนนี้เหล่าบรรดารุ่นน้องปีหนึ่งกำลังนั่งต่อแถวรอกิจกรรมจับสายรหัส เพราะเป็นสาขาที่มีผู้หญิงเรียนไม่มากนัก ทำให้มองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้ชาย ทั้งรุ่นพี่และรุ่นเพื่อน
เป็นอาหารตาชั้นดีเลยก็ว่าได้
“มากันครบแล้ว จะเริ่มจับสายรหัสล่ะนะ จะได้ไม่เสียเวลา” เสียงประกาศใส่โทรโข่งดังมาจากทางด้านหน้าของแถว เมื่อหันไปมอง ดวงตากลมโตของเธอก็ต้องหยุดนิ่ง ก็รุ่นพี่คนนั้นช่างดึงดูดสายตา
ผิวสีเข้มแบบพอดี ทรงผมดูดีแตกต่างจากคนอื่น หนวดเคราที่ขึ้นบาง ๆ เป็นคนที่หล่อและน่าค้นหามากทีเดียว เขาคือรุ่นพี่ปีสี่ และเป็นเฮดว้ากในปีนี้
ไม่นานโถแก้วที่บรรจุกระดาษสำหรับจับสายรหัสก็ส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ จับได้หมายเลขอะไรก็ให้ไปหาหมายเลขนั้น ซึ่งจะเป็นหมายเลขของกลุ่มรหัสตัวเอง
‘62’ คือหมายเลขรหัสกลุ่มของกานดา
คนตัวเล็กเดินวนไปมาอยู่ใต้โถงคณะพร้อมกับมองหากลุ่มรหัสของตัวเองไปด้วย จนเธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มสามคน และหนึ่งในนั้นก็คือรุ่นพี่ที่เป็นเฮดว้ากเมื่อกี้รวมอยู่ด้วย และที่ข้อมือของเขาก็มีผ้าสีขาวเขียนเลข 62 พันเอาไว้
“พวกพี่เป็นกลุ่มรหัสของหมายเลข 62 หรือเปล่าคะ” กานดาเอ่ยถาม พร้อมกับโชว์ป้ายหมายเลขที่เธอจับได้ให้พวกเขาดู
“ปีนี้โชคดีว่ะไอ้แผน ได้หลานรหัสเป็นผู้หญิง” สงครามเอ่ยบอกเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ข้างกัน ทั้งสองคนอยู่ปีสี่แล้ว และแผน ก็เป็นพี่เฮดว้ากของปีนี้
“เรียนไหวเหรอเราน่ะ ตัวก็นิดเดียว ดูท่าเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี” แผนเปิดปากพูดขึ้น แต่ดันเป็นคำพูดที่น่าจะไม่ค่อยเข้าหูคนฟังเท่าไหร่
“แหม ลุง ยังไม่ทันครบหนึ่งอาทิตย์เลย อย่าเพิ่งดูถูกกันสิ เห็นตัวแค่นี้ แรงดีไม่มีตกนะ อยู่ได้ทั้งคืนยาว ๆ”
“โอ้โห...ไอ้แผนโดนเล่นแล้วเว้ย” สงครามพูดขึ้น เมื่อเห็นรุ่นน้องปีหนึ่งต่อปากต่อคำกับแผนอย่างไม่ลดละ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ปกติ ขนาดผู้ชายด้วยกันยังไม่ค่อยกล้าจะพูดกับเขา
“สรุป พวกพี่เป็นกลุ่มรหัสของหนูจริง ๆ ใช่ไหมคะ” กานดาถามต่อ แล้วหยุดพูดเพื่อรอฟังคำตอบ
“อืม...พี่กับไอ้ครามอยู่ปีสี่ เป็นลุงรหัส ส่วนไอ้บอยเป็นพี่รหัส อยู่ปีสอง” แผนพยักหน้า พร้อมกับแนะนำตัวเองและอีกสองคนที่อยู่ในกลุ่ม
“แล้วพี่ชื่ออะไรอะ แนะนำแต่คนอื่น ทำไมไม่แนะนำตัวเองด้วย” ท่าทียัยเด็กปีหนึ่งคงจะแสบไม่เบา ท่าทางการพูดจาดูมั่นอกมั่นใจ แบบนี้น่าสนุกดี
“พี่ชื่อแผน”
พอได้ยินคนตัวโตแนะนำตัวเองรอยยิ้มหวานก็ระบายขึ้นบนใบหน้า ‘คนนี้แหละเป้าหมาย’
“หนูชื่อกานดา เรียกดาเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ ๆ ด้วยนะคะ” กานดาโค้งศีรษะลงพร้อมกับเอ่ยฝากเนื้อฝากตัว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาโชว์ยิ้มกว้าง
“วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว กลับบ้านไปเถอะ” แผนเอ่ยปากแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น แต่กานดาก็วิ่งตามไปดักหน้าเอาไว้
“จะกลับกันแล้วเหรอคะ ทำไมกลุ่มรหัสเราไม่มีไปเลี้ยงต้อนรับน้องรหัสเหมือนกลุ่มอื่นล่ะ”
หญิงสาวตรงหน้ายืนกอดอกขวางเอาไว้ ทำเอาแผนต้องหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทและรุ่นน้องที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เพื่อขอความเห็น
“พวกมึงจะเอาไง ยัยเด็กนี่อยากไปเลี้ยงรับรหัส”
“ก็ไปดิ ไม่เห็นจะมีปัญหา” สงครามตอบแล้วก็หันไปมองหน้าบอย
“ผมก็ไม่มีปัญหา” บอยพยักหน้าพร้อมเช่นกัน
แผนหันกลับมามองหน้ากานดาที่ยังยืนรอฟังคำตอบอยู่
“กินเหล้าได้หรือเปล่า” เขาถามออกไป อายุเพิ่งจะ 19 จบ ม.หก มาได้ไม่นาน คงไม่เคยกิน ที่แผนถามแบบนี้ออกไป ก็เพื่อให้เธอยกเลิกความคิดที่จะไปเลี้ยงรับรหัส เหตุผลที่ไม่อยากพาไปด้วย ก็เพราะกานดาเป็นผู้หญิง ไปกินเหล้าด้วยก็คงจะดูไม่ดี
“กินได้ สบายมาก เห็นหนูตัวเล็กแบบนี้คอแข็งมากเลยนะจะบอกให้” ยัยตัวเตี้ยยืดอกตอบคำถามอย่างมั่นอกมั่นใจ ที่จริงก็ดื่มไม่เก่งขนาดที่อวด แต่แค่อยากเข้าใกล้พี่เฮดว้ากก็เท่านั้น
“ดี กินได้ก็ดี เมาแล้วไม่ไปส่งนะบอกไว้ก่อน” แผนตอบกลับ ซึ่งกานดาก็พยักหน้ารับทุกคำพูด
“ไม่ต้องห่วง หนูดูแลตัวเองได้”
ใบหน้าคมเข้มส่ายหัวไปมา ถึงเธอจะพูดมาแบบนั้น แต่คนอย่างแผนก็รู้ดีว่ากานดากำลังโกหก จะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะเขาสามารถอ่านใจคนได้ถ้าต้องการ
“แล้วพวกมึงจะรออะไร ไปเลี้ยงรับน้องรหัสกัน”
สงครามกับบอยลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาหยุดข้างแผน
“ไปแท็กซี่มั้ยพี่แผน วันนี้ผมไม่ได้เอารถมา พอดีพี่ยืมไปน่ะ” บอยเอ่ยบอก
“พี่ ๆ ไม่ต้องไปแท็กซี่ เพราะหนูมีรถ” ว่าแล้วกานดาก็ชูกุญแจรถที่ล้วงออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาโชว์
“ไอ้แผน งั้นมึงเป็นคนขับ” สงครามพูดขึ้น พร้อมกับรับกุญแจรถจากกานดามายื่นให้แผน
“ทำไมต้องเป็นกู”
“ก็มึงเป็นคนตกลงกับน้อง มึงก็ต้องเป็นคนขับ”
ทุกสายตามองมาที่เขาเป็นตาเดียว ทำให้แผนต้องรับกุญแจรถมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
รถยนต์สีขาว ข้างในเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารัก กำลังขับโดยชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ซึ่งมันไม่เข้ากันเอาเสียเลย ข้างคนขับมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักกำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ส่วนเบาะหลังก็มีชายหนุ่มอีกสองคน
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็มาถึงร้านนั่งดื่มแบบโอเพ่นแอร์ กานดาลงจากรถแล้วมองเข้าไปดูในร้านก็เห็นนักศึกษาจากคณะเดียวกันหลายโต๊ะนั่งดื่มกินอยู่ก่อนแล้ว
“พี่แผน ๆ เด็กคณะเราชอบมาที่นี่กันเหรอ” เธอถามออกไปด้วยความอยากรู้ ใบหน้าจิ้มลิ้มเต็มไปด้วยความสงสัย จะว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ก็ได้ เพราะตอนอยู่ ม.ปลาย เธอมีคนขับรถคอยไปรับไปส่ง และพ่อห้ามเธอเที่ยวกลางคืนเด็ดขาด
“อืม...เรียกได้ว่าเป็นร้านประจำเลยก็ได้ ไอ้พวกนี้ก็มาประจำ” ตอบคำถามเสร็จก็พยักเพยิดหน้าไปทางสงครามและบอยที่กำลังเดินตามหลังมา
“อ้าว แล้วพี่แผนไม่ได้มากับพวกพี่ ๆ เขาเหรอ”
“ไม่ค่อยได้มาหรอก ต้องอยู่เลี้ยงลูกที่ห้อง”
“ลูก?” กานดาทวนคำด้วยความตกใจ เพิ่งจะอยู่ปีสี่เอง มีลูกแล้วเหรอ หรือว่าจะรักสนุกจนมีเด็กคลอดออกมา เอ๊ะ แล้วแบบนี้ แม่เด็กล่ะ เขามีเมียหรือเปล่า
“แล้วนี่เมียกับลูกพี่รออยู่ที่ห้องเหรอ” เธอถามย้ำอีกครั้ง ถึงจะถูกใจเขามาก แต่หากมีลูกมีเมียแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้าไปเป็นมือที่สาม เพราะผู้หญิงดี ๆ เขาไม่ทำกัน
“เปล่า ไม่มีเมีย มีแต่ลูกชาย” แผนตอบคำถาม พร้อมกับนั่งลงยังโต๊ะที่ว่าง กานดาเองก็นั่งลงข้างกัน ตามมาด้วยสงครามกับบอย
สรุป เลิกกับแม่ของลูกไปแล้ว ‘ผู้ชายมีลูกติดก็ไม่เลว’ ถ้าอย่างนั้นจะจีบเขาก็คงไม่ผิด ถึงจะดูเป็นผู้หญิงก๋ากั่น แต่ก็ใช่ว่าจะเคยผ่านผู้ชายมาก่อน แต่ความฝันก็คืออยากได้แฟนเป็นรุ่นพี่วิศวะ และพี่เฮดว้ากที่พ่วงด้วยตำแหน่งลุงรหัส ก็เป็นเป้าหมายที่เธอต้องการ
Love you love your son
คติประจำใจได้เกิดขึ้นแล้ววันนี้
///////////////////////////////////////////////////////