สายป่านนอนซมอยู่แต่ในห้องเพราะไม่สบาย และไม่อาจจะกล้าเดินออกไปไหนได้เพราะร่องรอยบอบช้ำฝีมือของเจ้าของไร่ที่ฝากเอาไว้ราวกับเป็นตราบาปและสภาพร่างกายทั้งจิตใจเธอยังไม่ไหวจริงๆ งานหมั้นที่คุณทัศนาตั้งใจจะจัดในอีกสามวันข้างหน้าคงต้องเลื่อนไปอีก5วัน ส่วนเขา หลังจากวันนั้น เธอไม่เจอเขาแม้แต่เงา ดีแล้วล่ะที่เธอไม่เจอเขา เพราะแค่นึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวจิตตกขึ้นมาทันที เธอเลือกใช้วิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยการนั่งกึ่งนอนวาดรูปไปเรื่อยเปื่อยแถมบางวันมีกำไรเพื่อนสนิทแวะมาหาเธอเอาของกินมาให้เธออยู่บ่อยครั้งชวนคุยเรื่องสนุกๆให้สายป่านลืมๆสิ่งร้ายๆที่เกิดขึ้นไปบ้างในชั่วขณะ แต่ใครเล่าจะเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีวันลืมได้ง่ายๆ เพราะเธอคือคนที่ถูกกระทำมันยังคงฝังอยู่ในใจเธอไปชั่วชีวิต
ก๊อกๆๆ
“สายป่านฉันขอเข้าไปข้างในได้มั้ย?”
“คะ ค่ะ ได้ค่ะ” สายป่านรีบรวบเก็บกระดาษที่เธอวาดแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืนต้อนรับคุณทัศนาที่อุตส่าห์มาหาเธอถึงที่ แบบที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“ไม่ต้องลุกขึ้นหรอก จะนอนจะนั่งก็ตามแต่ใจ” คุณทัศนายกมือรับไหว้หล่อนแล้วนั่งลงกับพื้นไม้เก่าซอมซ่อ ที่เธอมาวันนี้เธอตั้งใจจะมาเยี่ยมดูอาการของสายป่าน และเรื่องงานหมั้นแบบคร่าวๆ
“ดีขึ้นบ้างแล้วรึยังล่ะ ยังไงฉันก็ต้องขอโทษแทนลูกชายฉันด้วยนะ ที่ทำกับเธอขนาดนี้ ฉันเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันดี” เธอมองหญิงสาวอย่างเวทนา ทั้งนึกโกรธลูกชายในคราเดียวกัน แอบมาข่มขืนลูกสาวเขาถึงบ้านแถมฝากรอยช้ำเป็นจ้ำๆขนาดนี้ไม่ถูกแจ้งความก็ดีแค่ไหนแล้ว ถึงแม้สายป่านจะเป็นแค่คนใช้ก็เถอะ เธอไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่าแน่นอน
"หนูขอบคุณนะคะ ที่คุณทัศนาอุตส่าห์เมตตาและมาเยี่ยมป่านถึงที่นี่”
“ฉันเตรียมบ้านพักให้เธอกับแม่อยู่แล้วนะ เรือนหลังนี้มันเก่าเกินไป เธอและแม่เธอเตรียมย้ายไปอยู่ที่รีสอร์ทหลังเรือนใหญ่ของฉันได้เลยนะ ที่นั่นกว้างขวางและสะดวกสบายดี”
“ขอบคุณมากนะคะแต่หนูคงไม่กล้าไปหรอกค่ะ”
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะสายป่าน ไหนๆเรื่องมันก็มาขนาดนี้แล้ว ฉันรู้เธอคงเกลียดลูกชายฉันไม่มากก็น้อย แต่ฉันอยากแสดงความรับผิดชอบเธอจริงๆ มีอะไรให้ช่วยได้ฉันเต็มใจช่วย เธอจะได้เป็นคู่หมั้นลูกชายฉันแล้ว ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธออยู่ในที่ซอมซ่อแบบนี้ให้คนเขาว่าได้หรอก อาจจะไม่ได้ให้เข้าไปในเรือนใหญ่ นั่นเธอก็คงจะพอเข้าใจดีอยู่แล้วนะ ว่าทำไม เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เต็มใจกันสักนิด เฮ้อ ฉันจะอธิบายยังไงดี”
“หนูเข้าใจค่ะ แค่นี้หนูก็ขอบคุณมากๆแล้ว ถ้าเป็นไปได้ หนูขอไม่หมั้นได้มั้ยคะ” เพราะเธอกลัวเขาเหลือเกิน หากหมั้นไปแล้ว เธอรู้ชะตากรรมดีว่าเขาคงข่มเหงเธอได้สะดวกขึ้นแน่ จะพูดออกไปว่าอยากหนีจากที่นี่ไป ไม่อยากรับความเมตตาใดๆจากที่นี่แล้วก็ไม่กล้าจะเอ่ย เธอเกรงใจคุณทัศนาเหลือเกิน
"เอ่อ เรื่องงานหมั้น ยังไง ดิฉันก็อยากให้มีนะคะ ฉันต้องขอโทษแทนนังป่านมันนะคะคุณทัศนา ลูกสาวฉันมันปากแข็งสักหน่อย คงเพราะทั้งคู่ยังงอนกันอยู่น่ะค่ะ” จู่ๆฉวีก็พูดแทรกขึ้นมาทันที เกือบไปแล้ว หากเธอมาช้ากว่านี้คงได้โดนลูกเลี้ยงสมองน้อยทำแผนเธอพังอีกครั้งแน่
"อืม งั้นก็ดีแล้ว หายไวๆนะหนูนะ ฉันต้องกลับก่อนแล้ว”
“ให้หวีไปส่งมั้ยคะ”
"ไม่ต้องหรอก ดูแลสายป่านที่นี่เถอะนะฉวี” คุณทัศนายกมือรับไหว้สายป่านและฉวีก่อนเดินออกจากห้องไป เธออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมเธอจะไม่ล่วงรู้ความรู้สึกของสายป่านและแม่เลี้ยงเล่า เธอรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ตัวการเรื่องทั้งหมดอย่างลูกชายของเธอก็สมควรจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองก่ออยู่แล้ว ถึงแม้ว่าภูผาและสายป่านไม่น่าจะไปกันรอดก็เถอะ แต่เธอไม่ยอมแกล้งทำเป็นหลับหูหลับตาแล้วปล่อยให้คนที่ด้อยกว่าถูกรังแกไม่ได้ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
"ไงล่ะมึง..ถ้ากูมาไม่ทัน กูคงต้องชวดเงินเป็นล้านอีกแน่” ฉวียืนเท้าสะเอวก้มลงมองลูกเลี้ยงที่ค่อยๆเอนกายลงนอนช้าๆ
"คือ ป่านขอโทษจ๊ะแม่ ฮือๆๆ ป่าน ป่านกลัว แม่ ฮือๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาอย่างน่าอดสู ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเธออีกบ้าง
เมื่อฉวีเห็นสายป่ายที่ปล่อยโฮออกมาอย่างน่าเวทนาแล้ว เธอจึงยอมอ่อน ค่อยๆนั่งลงกับพื้นใช้ฝ่ามือแตะหน้าผากลูกเลี้ยงอย่างเห็นใจ
“อีป่านเอ๊ย ไหนๆมึงก็เสียให้เค้าไปแล้ว มึงจะยอมเสียตัวฟรีรึ? นี่คือชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยายที่มึงอ่าน จนๆอย่างมึงกะกู มีโอกาสได้รับเงินก้อนโตขนาดนี้ก็รับๆไว้ซะ”
“ฮือๆๆ ป่านกลัวเหลือเกิน”
“เฮ้อ ครั้งแรกของผู้หญิงมันก็เจ็บกันทุกคนล่ะว่ะ ถ้าเขาเอามึงอีกรับรองมึงจะรู้สึกสบายตัว มึงเชื่อกูอีป่าน บุญจิ๋มมึงแค่ไหนแล้วที่จะได้ผัวหล่อแถมรวยขนาดนี้ห๊า”
“ไม่ ไม่แม่ ป่าน ป่าน..
"มึงหยุดพูดเลย ไหนมึงบอกอยากเรียนต่อ กูไม่มีปัญญาส่ง มึงก็ให้ผัวมึงส่งเสียสิ แถมแม่ผัวก็เมตตามึงอยู่ น้ำขึ้นให้รีบตักดั่งโบราณเขาบอกไว้ไงนังโง่ รีบๆกอบโกยซะก่อนเขาจะผลักไสมึงซะป่าน” เพราะตอนนี้ดูท่าคุณภูผาคงจะติดใจในข้าวใหม่ปลามันอย่างมันไม่น้อย มันต้องรีบๆโกยๆเงินก่อนที่เขาจะเบื่อมันเสีย
“คนไม่ได้รักกันจะแต่งกันได้ไงจ๊ะแม่”
“โธ่ อิป่าน กูก็ไม่ได้หวังจนถึงงานแต่งหรอกนะ เขาคงไม่คิดจะแต่งยกย่องให้มึงเป็นเมียตกเมียแต่งหรอก เขาแค่จำใจต้องรับผิดชอบ ก็อย่างนี้ไง กูถึงบอกให้มึงรีบๆโกยเงินมาให้เยอะที่สุด แล้วถึงวันนั้นกูสัญญาจะพามึงไปจากที่นี่แน่นอน"
“ฮือๆๆ ฮึกๆๆ” น้ำตาลูกเลี้ยงสาวไหลลงหยดแหมะใส่ซองจดหมายของนทีที่ส่งมาให้เธอเป็นประจำ
“มึงคิดถึงลูกเจ้าของไร่ฝั่งโน้นใช่มั้ยนังป่าน? ...มึงคิดดูดีๆนะ ต่อให้คุณนทีจะรักมึงแค่ไหน มึงคิดว่าครอบครัวฝั่งโน้นเขาจะยอมรับมึงเหรอป่าน ...เรามันจน เขาไม่มีทางจะรับมึงเข้าบ้านหรอกนังป่านเอ๊ย”
"ฮือๆๆๆ”
"แถมมึงก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเดิมอีกแล้ว"
ส่ายป่านได้แต่ก้มหน้าร้องไห้กำจดหมายไว้แน่น ต่อไปเธอคงจะไม่กล้าส่งจดหมายไปหาเขาแล้ว เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี
เวลาผ่านไปเกือบเดือน งานหมั้นกำลังจะเกิดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า พิธีหมั้นหมายจะถูกจัดแบบเงียบๆเชิญเพียงญาติที่สนิทสนมกันเท่านั้น เพราะขืนจัดใหญ่โตกลัวว่าลูกชายของเธอจะดื้อแพ่งทำลายงานหมั้นให้อับอาย และหากต้องถอนหมั้นหรืองานแต่งเป็นหมันกันขึ้นมาจะได้ไม่ถูกนินทากันไปในวงกว้างมากนัก เธอรู้ดีว่าภูผารักเอ็มม่าขนาดไหน ส่วนการหมั้นครั้งนี้จะเป็นบทเรียนราคาแพงให้แก่ลูกชายของเธอได้ดี จะได้เลิกทำตัวเหลวไหลไม่จริงจังเสียที
"จ๊ะเอ๋ ยัยป่าน แกทำอะไรอยู่” กำไรเดินขึ้นมาบนเรือนของสายป่านพร้อมกับแตงกวาที่เธอแอบหยิบมาจากตู้เย็นในห้องครัวคนงานมาให้เพื่อนสาว
“ อะไรเหรอกำไร?มาซะค่ำมืด นั่นแกถืออะไรมากินด้วยน่ะ”
“ก็เลิกงานพอดี เลยแวะเอาแตงกวามาให้แก ป่าวเอามากิน เอามาให้แกพอกหน้า"
“หา??"
“ก็ดูสภาพเบ้าหน้าแกตอนนี้ซะสิ โทรมขนาดนี้ ใกล้จะถึงงานหมั้นแล้ว ต้องเรียกความสดชื่นซะหน่อย”
“ใช้หั่นแค่บางๆ แกเล่นเอามาสองสามอันเชียว”
กำไรบรรจงหั่นแตงกวาให้เพื่อนสาวพร้อมๆบังคับให้นอนหงาย สายป่านจึงผัดเสื้อมาใส่แค่กระโจมอก นอนรอให้กำไร วางชิ้นแตงกวาเย็นๆพอกหน้าพอกตาให้
“เป็นไง เย็นสบายเลยมั้ย”
"อืม” เธอเพียงตอบสั้นๆเพราะกลัวแตงกวาจะหลุดออก
“แกนอนๆไปเลยนะ ฉันต้องกลับแล้ว เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วงเอา”
“อืม บาย ขอบใจนะ”
"จ้า ไปล่ะ”
ร่างบางนอนหงายอมยิ้มอย่างสบายอารมณ์เสียทีหลังจากที่ยิ้มไม่ออกมานานแรมเดือน เธอนอนพอกมันไว้อย่างนั้นอย่างรู้สึกผ่อนคลาย เย็นๆสดชื่นขนาดนี้ร่างบางจึงเผลอหลับไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีเจ้าของไร่หนุ่มแอบย่องขึ้นมาหาเธอบนเรือนหลังจากที่เขาไม่ได้เจอหน้าเธอนานเกือบเดือนแล้ว
ภูผาค่อยๆแง้มบานประตูออกช้าๆให้เบามือที่สุด ดวงตาคมกวาดสายตามองรอบๆห้องเจอแม่สาวใช้กำลังนอนพอกหน้าแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยว่าเธอต้องทำให้เขาต้องทะเลาะกับแม่และแฟนซ้ำยังต้องมาถูกรวบหัวรวบหางให้จำต้องหมั้นกับสาวใช้คนนี้อีก ภูผาใช้สายตาโลมเลียทุกส่วนสัดของเจ้าหล่อนโดยเฉพาะหน้าอกที่ล้นออกมานอกกระโจมอกจนแทบจะชนคางเรียว จากที่เคยตั้งใจว่าจะมาอาละวาดกลับต้องมากลัดมันทันทีเมื่อเห็นร่างลาวโพลนนอนอวดผิวขาวโพลนจนน่าเล่นปู๋กี้ยิ่งนัก
เจ้าของไร่หนุ่มค่อยๆเดินทอดน่องมาช้าๆคุกเข่าก้มลงมองเนินเนื้อใต้ผ้าถุงรู้สึกขัดใจที่แสงไฟตะเกียงไม่ได้ช่วยให้เขามองเห็นภาพกลางกายหล่อนได้ชัด จึงเลื่อนมือไปถลกผ้าถุงเธอขึ้นช้าๆก่อนใช้สายตาจับจ้องเนินเนื้ออวบอูมน่าลิ้มรสสักพักจึงค่อยๆ ใช้ลิ้นยื่นเข้าไปแตะทักทายกลุ่มขนอ่อนนุ่มแผ่วเบาแล้วลากไล้ทักทายยอดติ่งสีแดงสดช้าๆ มันช่างละมุนลิ้นยิ่งนัก สักพัก ผู้รุกรานเริ่มทนไม่ไหวจึงใช้ลิ้นหนาปาดเลียตวัดขึ้นๆลงส่วนกลางระหว่างแคมทั้งสอง จนเจ้าของร่างบางเริ่มครางฮึมฮัมในลำคอ
“อือ อืม”
น้ำใสๆกลางกลีบกุหลาบเริ่มไหลออกมาจนเขาต้องชิมความหอมหวานอย่างอดใจไม่ไหว ภูผาใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างแหวกกลีบด้านนอกออกมองเห็นความซับซ้อนด้านในสีแดงแจ๋ หลืบด้านในช่องคลอดมีรอยฉีกเล็กน้อยอันเกิดจากฝีมือเขาที่นำความแปลกใหม่เข้าร่องสาวที่อาจจะแค่เคยเจอไซส์ที่เล็ก จากคนก่อนๆ แต่เขากลับเป็นผู้แหกความสาวให้มันขยายออกรับความมหึมาในตัวเขา ร่องสวาทมีน้ำไหลเยิ้มออกมา เม็ดติ่งสั่นระริกเหมือนกำลังรอให้ถูกรุกรานอีกครั้ง เขาเหลือบมองไปเห็นแตงกวาขนาดพอดีมือวางอยู่ในจานจึงหยิบมาหนึ่งลูก นำมันมาแตะกับยอดติ่งเสียวของเจ้าหล่อนที่กำลังเริ่มส่งเสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆ
“อะ อืม อือ อ่าส์”สายป่านรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน เธอฝันว่ากำลังนอนถ่างขาอ้าซ่าโดยมีชายหนุ่มปริศนากำลังหยอกล้ออยู่กับส่วนล่างของเธออย่างหฤหรรษ์ เธอรู้สึกเสียวตรงกลางกายอย่างประหลาด เม็ดติ่งถูกกระตุ้นให้แข็งขึ้นเป็นไตจนขนลุกซู่ ร่องตอดขมิบจนน้ำไหลลงร่องทวาร เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า นี่มันไม่ใช่ความฝัน ฝันอะไรเล่าจะเหมือนจริงขนาดนี้
สายป่านพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่กลับถูกแรงเล้าโลมตรงกลางกายทำให้การขัดขืนเชื่องช้าลง หัวใจเต้นรัวขึ้น
‘ใครกัน???’
“อย่า อย่า อูยยย” ลิ้นแตะดูดเลียขบเม้มจนเธอต้องเผลอครางแทรกเสียงต่อต้าน เธอได้กลิ่นไอของความเป็นชายของผู้รุกรานมั่นใจได้50เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นภูผา ส่วนแขนล่ำที่กำลังทาบทับต้นขาเธอเอาไว้จนเธอรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อยจากขนแขนนุ่มๆของเขายิ่งมั่นใจได้เกินล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าคือเขาแน่ๆ
“จุ๊ๆๆ อยู่เฉยๆน่า กำลังหิวน้ำพอดี” เขาดูดดื่มน้ำสวาทของเธอที่ไหลออกมาเรื่อยอย่างไม่นึกรังเกียจกลับรู้สึกว่ามันช่างหอมหวานซะจนไม่อยากจะละไปที่อื่น
ดวงหน้าหวานแดงก่ำภายใต้แตงกวาที่ยังแปะหน้า เธอได้ยินเสียงริมฝีปากเจ้าของไร่ดูดส่วนล่างของเธอจนเกิดเสียงดังทำเอาสาวใช้ขนลุกซู่ มือจิกที่นอนแน่นเพื่อคลายความทรมานในกาย เธอทำได้แค่ครางแผ่วเบาเท่านั้น
“อ่าส์ ซี้ดดด อืม”
“รู้อะไรมั้ย? เธอกำลังใช้แตงกวาผิดวิธีอยู่”
เขานำแตงกวาจ่อปากทางสวาทหลังจากที่ใช้มันถูๆไถลากไล้สลับกับริมฝีปากได้สักพัก สายป่านถ่างขาออกกว้างโดยไม่รู้ตัว เธออยากให้ความทรมานเสร็จสิ้นไปเสียที สะโพกบางลอยขึ้นรอรับบทสวาทจากเขาอย่างลืมตัว ภูผาค่อยๆดันแตงกวาเข้าไปในร่องสาวช้าๆ หากแต่เจ้าของร่างนิ่มกลับรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกคับแน่นเสียวแปลบ
“นะ นั่น คุณทำอะไร อูยย”
“ลุกขึ้นมาดูสิ สายป่าน อ่าส์ ตอนนี้น้องของเธอกำลังกลืนแตงกวาอยู่” เขาใช้นิ้วแหกแคมออกกว้างๆมองดูกลีบสาวกำลังกลืนแตงลูกใหญ่แต่ยังขนาดย่อมกว่าน้องชายของเขา
ส่ายป่านส่ายศีรษะไปมาจนแตงกวาจนออกจากหน้าไม่หลือสักชิ้น แขนเรียวพยุงให้ส่วนบนลุกขึ้นมองการกระทำของเขา
พ่อแก้วแม่แก้ว ..ตอนนี้เขากำลังใช้แตงกวาแทงเข้ามาในรูของเธอเข้าๆออกๆ
ช้าๆจนแทบจะสุด เธอร่อนสะโพกใบหน้าเหยเกพยายามจะดิ้นหนีจากความพิเรนแต่ร่างกายกำลังร่อนส่ายสะโพกสู้กับแตงกวาอย่างเย้ายวน น้ำไหลเยิ้มออกมาเรื่อยๆทำให้การชักเข้าสะดวกขึ้น เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสายป่านเสียวสะท้านปริ่มจะแตะขอบสวรรค์แต่ภูผากลับผ่อนความเร็วให้ช้าเนิบนาบจนสาวใช้ร้องคราญครางทรมาน
“ซี๊ดดดด อืม คุ คุณภู ผา อ่า อูยย”
“นังร่าน อืมม น้ำออกเยอะแยะ” เขาขยับกายขึ้นใช้ลิ้นแยงแตะทักทายแต่งเสียวของหล่อนจนต้องสูดปากครางเสียงดังจนลืมอาย
“อ๊ายยย อ๊าส์ อู๊ยยย ทรมานเหลือเกิน ซี้ดดด”
ลิ้นหนายังไม่ลดละยังคงไล้เลียรอบกลีบอวบที่ยังอมแตงกวาไว้ ส่วนมือยังคงสาวแตงกวาช้าๆเนิบนาบ มือที่ว่างไม่ปล่อยนิ่งเขาเลื่อนมันขึ้นมาบีบนวดขยำนมอวบอิ่มเคล้นหนักๆเป็นจังหวะ
“อูยย คุณภูผา ป่านไม่ไหวแล้ว” เธอส่ายหัวไปมาร้องขอให้เขาช่วยให้เธอคลายความทรมานลงเสียที
“ได้ ฉันสนองให้ อ่า เอาของจริงของฉันดูนะ รับรองเธอจะเสียวกว่านี้อีก”
เขาถอดแตงกวาออกเสียงดังป๊อก จับขาเรียวยกขึ้นสักพักนำอ่อนเอ็นขนาดใหญ่ถูๆไถๆไม่นานจึงแทงเข้าไปในกายสาวอย่างหื่นกระหาย เพราะเขาอดกลั้นมานานแล้ว หากอ้อยอิ่งไปกว่านี้มีหวังได้ขาดใจตาย
“โอ้วววแน่น ซี้ดดด/อื้อ อ๊าส์ คับ มันคับ อื้อ” ทั้งสองครางพร้อมๆกันเมื่อความใหญ่ถูกดันเข้าไปจนสุดด้าม
ภูผารู้สึกพอใจที่สาวใต้ร่างดิ้นเร่าครางอย่างเสียวกระสัน
พั่บๆๆๆๆๆ
เขาระรัวสะโพกถี่ยิบจนเธอหัวสั่นหัวคลอนครางถี่ขึ้นตามจังหวะสะโพก มือหนาบีบบี้หัวนมที่สั่นกระเพื่อมขึ้นๆลงตามแรงโหมจากเอวสอบ ลีลารักหนักหน่วงจากผู้เจนจัดทำเอาสาวอ่อนประสบการณ์เบิกตาโพลงกระตุกไปแล้วหลายรอบ
“อ่า สายป่านแม่สาวร่านราคะของฉัน โอ่วว”
เขาเร่งซอยเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสายป่านหวีดร้องเสร็จสมอีกครั้ง
ป๊อก
เสียงท่องเนื้อหลุดจากร่องแฉะ สายป่านมองเขาที่กำลังลุกขึ้นจับท่อนเอ็นจ่อใบหน้าของเธอก่อนรูดสาวถี่ยิบจนน้ำกามสีขุ่นพุ่งใส่ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนเต็มดวงหน้า
“โอ้วๆๆ เยสส อ่าฟัค” เขาครางเสียงต่ำอย่างสุขสม มองใบหน้างามกำลังหลับตาพริ้มอ้าปากค้างตกใจการกระทำของเขา
“หึๆ นี่แหละ การพอกหน้าที่ได้ผลที่สุด ..เชื่อฉัน” เขากระซิบข้างใบหูหล่อนก่อนลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเหยียดริมฝีปากมองมายังสาวใช้ที่กำลังนอนหายถี่ ใช้มือเช็ดน้ำกามของเขาออกจากดวงตาเศร้าคู่งาม
“ฮึกๆ คุณมานี่ทำไม”
“หึ สายป่าน คืนนี้ฉันไม่มาอาละวาดเธอก็บุญแค่ไหนแล้ว แถมยังมอบความเสียวที่เธอรอคอยมานานให้ถึงที่อีก เธอต้องขอบคุณฉันมากกว่านะ” เขาตอบเธออย่างไม่แยแส จนสายป่านกัดฟันกรอดกล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ภายใน ลุกขึ้นยืนควานหาผ้ามาเช็ดหน้าจนลืมดูหน้าต่างที่เธอเปิดไว้อ้าซ่า หากมีใครมองเข้ามาคงได้เห็นร่างนุ่มนิ่มขาวโพลนหน้าอกอวบใหญ่กับเนินเนื้อสาวอวบอูมเป็นได้น้ำลายสอกับผู้ที่บังเอิญผ่านมาเจอเป็นแน่
“นังนี่!!!” ภูพาโมโหหนักเมื่อเห็นหล่อนยืนขึ้นไม่ดูตาม้าตาเรือ ..หรือว่าตั้งใจอ่อยกันแน่??
เขาผลักร่างบางอย่างแรงจนเธอล้มหงายกระแทกพื้นไม้ไม่ทันได้ตั้ตัว เจ็บจนทุกไปทั้งร่าง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา เจ้าของไร่บ้าอำนาจชี้นิ้วเชิงขู่เธอไม่ให้ลุกขึ้นหือกับเขา
..ทำไมถึงได้เอารมณ์ผีเข้าผีออกแบบนี้ ช่างใจร้ายกับเธอจริงๆ
“โธ่เว้ยย!!!” // ปึงง!!!!
ภูผารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นน้ำตาของหล่อน เขาปิดประตูห้องของหล่อนเสียงดังเดินกระแทกเท้าปึงปังลงเรือนไปอย่างหัวเสีย นึกถึงงานหมั้นที่ไม่เต็มใจกำลังใกล้เข้ามาในอีกแค่สองวัน ไม่น่าเลยเขาไม่น่าหลวมตัวเข้ามาพัวพันกับผู้หญิงหน้าเงินแบบเธอ ถ้าย้อนกลับไปได้เขาไม่อยากจะมาที่ไร่นี้เลย หากเขายอมลดทิฐิในใจเคลียร์กันกับเอ็มม่าให้รู้เรื่องทุกอย่างคงไม่บานปลายขนาดนี้
“หึ นังผู้หญิงหน้าเงิน” ภูผาเดินคิดไม่ตกสูบบุหรี่ระหว่างเดินขึ้นรถไป จากที่ตั้งใจจะกลับไปดื่มเหล้าหนักๆที่เรือนใหญ่คงต้องเปลี่ยนแผนเป็นกลับไปนอนพักผ่อนร่างกาย เพราะคืนนี้รู้สึกโล่งตัวอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่อึดอัดมานานหลายวัน