Chapter 9
“หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ ฉันไม่ชอบให้เธอร้องไห้” เขากระซิบเสียงดุตรงริมหู
“อาบน้ำได้แล้ว ถ้าเธอยังไม่เลิกร้องไห้ ฉันจะกระแทกเธอในห้องน้ำอีกรอบ”
ปลายฝนถอนสะอื้น เธอรับแปรงสีฟันที่เขาบีบยาสีฟันเรียบร้อยแล้วมาให้
“ฉันไม่เคยบีบยาสีฟันให้ใครมาก่อน เธอเป็นคนแรกที่ได้เกียรตินี้ รู้เอาไว้ซะด้วย”
“ฉันไม่ได้ต้องการ” แม้จะพูดแบบนั้น แต่เธอก็หันไปแปรงฟัน มืออีกข้างก็ปิดป้องเรือนร่างไปด้วย
“ว้าย!” เธอโดนดึงไปใต้ฝักบัวเมื่อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เขาพาเธอไปอาบน้ำด้วยกัน เธอดิ้นเขาก็ไม่ได้เคืองโกรธ แต่ดูเหมือนจะสนุกที่ได้เอาชนะเธอ
สุดท้ายเธอก็เหนื่อยล้าไปเอง ยอมให้เขาอาบน้ำให้เหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิตตัวหนึ่งที่เขาอยากทำอะไรก็ทำ
“เธอคงไม่อยากกลับบ้านใช่ไหม ถึงได้ชักช้าอยู่แบบนี้” ประโยคของเขาทำให้เธอตกใจ รีบหันไปมองนาฬิกาตรงมุมห้อง เธอออกมาจากโรงพยาบาลนานหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ถ้ากลับบ้านมืดค่ำมารดาจะเป็นห่วง แล้วเพื่อนสนิทอย่างรตีก็รอเอกสารรายงานอยู่
“นั่นเธอจะไปไหน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคุณ” หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบเดินไปที่ประตูห้อง ปากดีออกไปก็ต้องด่าตัวเอง เธอออกไปจากห้องนี้ไม่ได้ถ้าเขาไม่เปิดประตูให้
“คราวนี้จำเป็นหรือยัง”
“ฉันต้องไปหารตีเพื่อจัดการเรื่องรายงานค่ะ”
“ขอร้องฉันสิ”
“คุณคิง”
“ว่าไงล่ะ” เขานั่งไขว้ห้างรอให้เธออ้อนวอนขอร้องเขา
“คุณคิงคะ ฉันขอออกไปหารตีนะคะ”
“แล้วเธอจะตรงกลับบ้านเลยเหรอ”
“ค่ะ”
“ฉันไปส่ง”
“ไม่ต้องค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณ”
“ไม่อยากรบกวนหรือกลัวไอ้ไทน์เห็นกันแน่” เหมือนอารมณ์ของเขาจะขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อเอ่ยถึงธนา
“ไม่ใช่ค่ะ แต่ปลายไม่อยากให้ใครสงสัย”
“เธอกลัวคนอื่นรู้เรื่องของเราขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาเดินมาประจันหน้ากับเธอ พลางหรี่ตาเอ่ยถาม
“มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณคิงเองก็คงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเรา”
“อย่าคิดแทนฉันสิ” เขาบีบปลายคางสวยของเธอ จนหญิงสาวต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เธอสะบัดคางหนี ก่อนที่เขาจะถอยออกไปหลายก้าว ลูบปลายคางไปมา กวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับสายตาของเขานัก มันดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจแล้วก็มากไปด้วยแผนการ
“ฉันกลับคิดว่าให้คนอื่นรู้ก็ดีนะ โดยเฉพาะไอ้ไทน์”
“อย่านะคะ ฉันขอร้อง”
“จะเอาตัวเองใส่ตะกร้าล้างน้ำไปประเคนให้มันอีกรอบว่างั้น”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่เกี่ยวกับพี่ไทน์ แต่เพราะแม่”
“แม่ของเธอ ทำไมเหรอ” เขาเลิกคิ้วพลางเอ่ยถาม
“แม่ไม่อยากให้ทำตัวไม่ดีก่อนเรียนจบ ถ้าแม่รู้คงเสียใจ” ประโยคของเธอทำให้เขาชะงัก เธอให้ความสำคัญกับมารดามากว่าธนา เขาก็รู้สึกโอเคขึ้นมาหน่อย
อย่างน้อยแม่ของเธอก็เคยเลี้ยงดูเขามา จำความได้ก็เห็นว่าปภาพรทำงานงกๆ อยู่ในบ้าน ใช่ว่าเขาเห็นปภาพรเป็นแค่คนใช้ในบ้าน แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจอะไรให้เขาเลย
“ก็ได้ฉันจะเห็นแก่แม่ของเธอ” ประโยคของเขาทำให้เธอถอนใจอย่างโล่งอก
“แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”
“ข้อแปลกเปลี่ยนอะไรคะ”
“เธอต้องยอมทำตามความต้องการของฉันทุกอย่าง แลกกับ ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครก็ได้ โดยเฉพาะไอ้ไทน์ ผู้ชายที่เธอปลื้มนักปลื้มหนา”
“ค่ะ” เธอกัดปาก เรื่องของเธอกับเขาจะพูดให้ใคร ๆ ฟังได้อย่างไรกัน ยิ่งมารดายิ่งไม่ได้ใหญ่ คันสรก็เป็นเจ้านายที่ดี รักและเอ็นดูเธอมาก หากท่านรู้คงเสียใจมาก
เธอยอมแบกรับความทุกข์เอาไว้คนเดียว ดีกว่าต้องให้คนอื่นรับรู้
“หน้าที่ก็คือไปคุมกำเนิดมาด้วย ถ้าพลาดท้องขึ้นมา ฉันจะคิดว่าเธออยากจับฉัน”
“ค่ะ ปลายไปได้หรือยังคะ” ปลายฝนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่น
“ก็ไปสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่ต้องค่ะ”
“เมื่อกี้เพิ่งพูดไปว่าอย่าขัดใจฉัน ต้องทำตามที่ฉันต้องการทุกอย่าง เธอก็ยังจะขัดใจฉันให้ได้เลยใช่ไหม”
“ค่ะ” ขอแค่ได้ออกไปจากห้องนี้ เธอก็ต้องยอม แค่เขาไปส่งเอง เธอไม่ควรมีปัญหากับเขา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่จบเรื่องแน่วันนี้
คชาไปส่งปลายฝนที่บ้านเพื่อนเพื่อคุยกันเรื่องรายงาน เขาให้เวลาเธอไม่นานเพราะไม่ชอบรออะไรนาน ๆ ปลายฝนจึงลนลานค่อนข้างมาก
“ปลายเป็นอะไรจ๊ะ ดูลนลานรีบร้อน”
“เรามีธุระต่อน่ะ ต้องขอโทษรตีด้วยนะ”
“ธุระอะไร กับคนที่รออยู่ในรถน่ะเหรอ” รตีเอ่ยถาม เธอรู้สถานะของปลายฝนดีว่าเพื่อนอาศัยอยู่ในบ้านของคิง เป็นลูกคนใช้ในบ้าน เธอเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เป็นแค่เด็กนักเรียนทุน เลยคบกับปลายฝนได้ เพราะคนอื่นเป็นลูกผู้ดีมีเงินเอาแต่ดูถูก จึงโดนแกล้ง และไม่มีใครคบเธอนอกจากปลายฝน
เธอเป็นคนไม่ยอมคน หลายครั้งทำให้มีเรื่อง แต่เพราะเงินทุนการศึกษาค้ำหัว ถ้าเธอมีปัญหากับลูกคนรวยในโรงเรียนที่บริจาคเงินให้โรงเรียนครั้งละหลายล้านบาท เธออาจจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนก็ได้ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ฝ่ายผิดก็ตามที
“อืม... เขารออยู่ เอาไว้จะเล่าให้ฟัง”
“ไปเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว อาทิตย์หน้าก็เตรียมพรีเซ้นหน้าห้อง” รตีเอ่ยบอกเพื่อน ประโยคนั้นของรตีทำให้ปลายฝนต้องรีบสาวเท้าไปที่รถสปอร์ตคันหรูของคชาในทันที
“ทำไมนาน ฉันบอกว่าให้คุยกันแป๊บเดียว”
“ปลายคุยเรื่องรายงานและการพรีเซ้นงานค่ะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
“รู้ไหมว่าฉันไม่ชอบรอใครนาน ๆ” เขากระชากรถออกจากหน้าบ้านของรตี สีหน้าแลดูหงุดหงิด
“เดี๋ยวก่อนถึงบ้านคุณคิงจอดหน้าปากซอยก็ได้นะคะ”
“ทำไม” เขาเอ่ยถาม ปลายตามองอย่างไม่สบอารมณ์ จนเธอต้องนั่งตัวลีบเล็กเข้าไปอีก
“ปลายไม่อยากให้ใครสงสัยน่ะค่ะ”
“การตัดสินใจเป็นของฉัน ไม่ใช่เธอ อย่าต่อรองมาก” เขาเบรกรถจนเธอหัวทิ่ม
“คุณคิงจอดรถทำไมคะ”
“เธออยากลงก็ลงไปสิ ลงตั้งแต่ตรงนี้เลย”
“แต่ตรงนี้เปลี่ยวนะคะ” เธอมองไปรอบกาย ทางเข้าหมู่บ้านตรงส่วนนี้ไม่มีบ้านคน และค่อนข้างเปลี่ยว เคยมีเหตุฆาตกรรมและฉุดคร่าผู้หญิงที่ทำงานกลับดึก ๆ ดื่น ๆ เวลากลางคืนมาแล้ว มีสายตรวจมาวนเวียนอยู่พักใหญ่จนเรื่องเงียบไป และตอนนี้ก็เริ่มมีเหตุการณ์ไม่ดีอีกแล้ว เมื่อสายตรวจไม่ได้เข้ามาดูบ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน
“หน้าตาแบบเธอใครจะกล้าทำอะไร” ประโยคของเขาทำให้เธอสะอึก
“มีหน้าตาเป็นอาวุธซะขนาดนี้”
“คุณคิง!”
“เรียกฉันทำไม”
“คุณนี่มันปากเสีย ปากไม่ดี”
“แล้วทำไม เธอมีปัญหาหรือไง”
“ถึงฉันจะขี้เหร่แค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ไม่ต้องมาบูลลี่หน้าตาของคนอื่น”
“เธอนี่มันปากดีไม่เลิก”
ความจริงแล้วเธอเป็นคนหน้าตาดี เกินหน้าเกินตาลูกคนใช้ในบ้านเสียด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ชมให้เธอได้ใจไปหรอก
“คุณก็ไม่ใช่จะหล่อเลิศกว่าใคร”
“ปากดี อยากตายนักหรือไง” เขาบีบปลายคางของเธอ จนเธอต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ