สามเดือนผ่านไป
แสงดาวผ่านทดลองงานและได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานของสำนักงานโดยสมบูรณ์และเธอเริ่มรู้สึกเข้าที่เข้าทางกับงานมากขึ้น เธอชอบอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่กับคนหมู่มาก จึงมีบ้างที่ถูกเพื่อนร่วมงานบางคนพูดแซะ ซึ่งเธอรู้แต่ไม่ตอบโต้
กริ๊งกริ๊ง เสียงระบบภายใน
"แสงดาวเข้ามาหาผมหน่อย"
"ค่ะหัวหน้า"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เข้ามา
"หัวหน้าเรียกแสงมามีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ"
"อืม มี หัวหน้าจะให้หนูไปกับทีมพี่ ๆ เค้าร่วมตรวจสอบบัญชีบริษัทนึงน่ะอยากลองสถาณการณ์จริงมั๊ยล่ะ"
"ยะ..อยากค่ะ แสงอยากทำค่ะ"
"อืม เตรียมตัวไว้นะ เร็ว ๆ นี้แหละ หัวหน้ามีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละออกไปได้"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะที่ให้โอกาสหนู" แสงดาวพูดพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อม
หนุ่มใหญ่ใจดีได้แต่ยิ้มในหน้าไม่พูดอะไรแล้วก้มหน้าก้มกดโทรศัพท์ยุกยิก ๆ
ไลน์
ศรัณ: เรียบร้อยครับ
แดนชล: ขอบคุณมากครับเฮียรัน
ศรัณ: ไม่เป็นไรเลยครับ เล็กน้อย ไม่เท่าที่คุณแดนเคยช่วยผมหรอกครับ
แดนชล: ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มให้
..............................
บริษัทอาร์.พี.กรุ๊ป
"ที่นี่เป็นบริษัทในเครือของที.ดี.กรุ๊ป นะครับ เดี๋ยวพวกเรามาทางนี้เลย เดี๋ยวจะมีพนักงานเอาเอกสารบัญชีการเงินมาให้ ระหว่างนี้ก็พักผ่อนกันสักครู่ก่อน"
ในระหว่างรอแสงดาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทบทวนบทเรียนที่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อเป็นการฆ่าเวลา
ไม่นานแฟ้มงานต่าง ๆ ก็ถูกลำเลียงเข้ามา
"น้องแสงมานั่งดูเอกสารตรงนี้กับพี่มะ" พี่แต้วหัวหน้าใจดีอีกคนที่เมตตาเธอเสมอเรียกไปสอนงานซึ่งแสงดาวรับมันด้วยความยินดี
หลังจากตรวจดูบัญชีกระทบเอกสารแสงดาวพบความผิดปกติแต่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกไปจึงแอบกระซิบพี่ที่สนิทคือพี่แต้วของเธอนั่นเอง และแต้วเองไม่รีรอรีบรายงานต่อศรัณทันทีเช่นกัน
.......…………………
สายโทรออก
แดนชล: ครับเฮียรัน
ศรัณ: คนของคุณแดนพบความผิดปกติของบัญชีครับ เก่งมากเลยนะ เห็นนิ่ง ๆ กัดไม่ปล่อยจริง ๆ ใครเหรอ ครับถามได้มั๊ย?
แดนชล: ว่าที่ภรรยาน่ะ
ศรัณ: ห๊า จริงดิ่ คุณแดนไม่เคยพูดถึงเรื่องแฟนให้ผมฟังเลย ยิ่งน้องยิ่งไม่มีทีท่าว่าจะมีแฟนเลยครับ
แดนชล: หึหึ ไม่แปลกหรอก เพราะน้องไม่รู้
ศรัณ: ห๊า เฮีย..งง..เฮียคงล้าสมัยเกินไปที่จะเข้าใจ เอาเป็นว่าคนสำคัญ แตะไม่ได้ เจ็บไม่ได้ว่างั้น
แดนชล: ก็ทำนองนั้นแหละครับ ฝากดูแลด้วยนะครับ ห่วงความปลอดภัยน้องน่ะครับ
ศรัณ: โอเค เข้าใจ เดี๋ยวเฮียจะช่วยดูอีกที ว่าแต่จะเอายังไงกับเรื่องนี้ จะให้ผมรายงานอย่างเป็นทางการเลยมั๊ย
แดนชล: ยังครับ ผมขอรายงานป๊าก่อน แล้วค่อยว่ากัน ผมอยากให้ปิดเป็นความลับไว้ก่อนน่ะครับ
ศรัณ: โอเค ได้ ตามนั้น งั้นแค่นี้ก่อน เฮียวางนะ
แดนชล: ครับ ขอบคุณมากครับเฮีย สวัสดีครับ
ศรัณ: อืม ติ๊ด ศรัณกดวางสาย
..............………………
แดนชลหลังจากวางสายจากพี่ชายที่นับถือแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะทำงานคิดอะไรไปเรื่อยฉุกคิดอะไรได้ ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดสักพักแล้ววางไว้ที่โต๊ะทำวานเช่นเคย ชายหนุ่มนั่งพิงพนักเก้าอี้ วางแขนบนที่พักแขนอย่างผ่อนคลายและยิ้มมุมปาก
สองปีผ่านไป
แสงดาวเรียนจบปริญญาโทตามที่ตั้งใจไว้แต่เธอรู้สึกเบื่อการแก่งแย่งชิงดีจึงคิดลาออกไปทำธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ของตัวเอง ที่บ้านเกิดเพราะอยากอยู่ดูแลบิดาด้วย เธอทำคุ๊กกี้และขนมอื่น ๆ ขายพร้อมกับกาแฟอีกด้วยซึ่งก็เรียกแขกได้ดีไม่น้อย
เป็นเวลาสองปีแล้วที่เธอหันหลังให้กับอาชีพที่เธอรัก
แสงดาวในลุคบาริสต้าสาวสวยควบพนักงานต้อนรับนั่งพักเหนื่อยหลังจากลูกค้าทยอยกลับไปได้สักพัก ทำให้คิดถึงคนที่สำนักงานตรวจสอบบัญชีเอกชนของศรัณที่เธอได้ร่วมงานมา คิดถึงพี่แต้วพี่สาวที่ดีจริงใจคอยสอนเธอทุกอย่าง
"เฮ๊อ....เป็นยังไงกันบ้างนะ ป่านนี้ใครจะช่วย จะยุ่งจนหัวหมุนหรือเปล่านะ" คนคัวเล็กบ่นพึมพำคนเดียวเบา ๆ
กรุ๊ง.....กริ๊ง..... เสียงเซ็นเซอร์บานประตูร้าน
"สวัสดีค่ะ ระ..."
"เอสเปรสโซ่หวานน้อยครับ.." เสียงทุ้มกังวาลเปล่งออกมาก่อนที่เจ้าของร้านจะพูดจบ
"ไง จำพี่เค้าได้รึเปล่า" เป็นสรที่เอ่ยถามลูกสาวสุดที่รักเพราะมีลูกคนเดียว ส่วนอีกคนเอียงคอคิดคำนึงอยู่สักพัก
"คุ้น ๆ ค่ะ/สวัสดีค่ะ ไหว้ไว้ก่อนละกัน หึหึ" แสงดาวยกมือกระพุ่มไหว้อย่างน่ารัก
"พรื่ด" เสียงคนที่มาใหม่พ่นขำออกมา
"น้องคงจำไม่ได้น่ะ ก็เจอกันครั้งเดียวเมื่อเกือบสิบกว่าปีที่แล้วนู่นเน๊าะ หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างแยกย้าย" สรอธิบาย