"หึหึ ใจน่ะครับ ใจเท่านั้น กล้า ๆ หน่อยซิครับ" สรพูดปลอบใจว่าที่ลูกเขยแต่เขาเองก็ไม่กล้าออกหน้าเหมือนกันกลัวลูกสาวตัวดีจะโกรธเอา ใครจะกล้าล่ะ
"ฟูว์ ผมไม่เคยรู้สึกปอดแหกเท่านี้มาก่อนเลยบอกตรง" แดนชลเผยความในใจอย่างหมดอาย
"เหมือนผมตอนจีบแม่เจ้าแสงใหม่ ๆ เลยครับ" สรเล่าบ้าง
"แล้วอาสรผ่านมาได้ยังไง แล้วอาแสงเดือนยอมรับอาได้ยังไงครับ" แดนชลถามอย่างอยากรู้
"เข้าหาน่ะ เอาตัวไปอยู่ใกล้ ๆ เขาในทุกโอกาส วันนึงติดธุระไม่ได้ไปเค้าก็มองหา แล้วเราก็เปิดใจกันมากขึ้น ก็เท่านี้แหละครับ" สรเล่าเรื่องส่วนตัวได้ยืดยาวที่สุดในรอบปีก็ว่าได้
"อยู่ใกล้จนชินงั้นเหรอครับ?"
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้" 《ถ้าจะไปไม่เป็นจริง ๆ ว่ะ ว่าที่ลูกเขยกู ยังไม่ทันไรก็กลัวเค้าซ๊ะล๊ะ นี่ถ้าตบแต่งกันไปไม่เป็นเบ้เค้าเลยเหรอ กุจะสงสารดีมั๊ยนะ เหมือนย้อนไปดูตัวเองยังไงก็ไม่รู้》 สรได้แต่คิดในใจ
ทางด้านแสงดาว
หลังจากไปเอาคุ๊กกี้สูตรพิเศษหวานน้อยนุ่มละมุนมาให้ผู้เป็นบิดาก็หายเงียบไปในห้องส่วนตัว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก "พ่อเองลูก พ่อเข้าไปได้มั๊ย?" สรเคาะประตูเรียกลูกสาว
"เข้ามาได้เลยค่ะ แสงไม่ได้ล็อคประตูค่ะ"
แอ๊ด......เสียงสรเปิดประตูเข้ามา
"ทำอะไรอยู่ลูก ยุ่งอยู่มั๊ย?"
"ไม่ค่ะพ่อ" แสงดาวตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้
"พ่อจะมาบอกว่าวันพรุ่งนี้พ่อมีงานต้องตามนายใหญ่ไปอีกที่นึง แสงอยู่ได้มั๊ยลุก พี่เค้าก็อยู่" สรพูดพร้อมกับลูบผมลูกสาวอย่างเมตตาเอ็นดู
"ได้ค่ะพ่อ ว่าแต่พ่อจะไปไหนเหรอคะ" แสงดาววางศีรษะลงกับอกแกร่ง
"เรื่องของของเจ้านายน่ะ ไปใกล้ ๆ แถวนี้แหละ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก" สรพยายามอธิบายให้ลูกสาวฟัง
"เหรอคะ งั้นเสร็จงานแล้วพ่อรีบมานะคะ" แสงดาวรู้สึกใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกก็เพราะต้องอยู่กับอิพี่สองต่อสองนี่แหละ
"อืม...คุ๊กกี้อร่อยนะ ทำให้พี่เค้ากินบ้างซิ พี่เค้าก็ชอบกินคุ๊กกี้เหมือนกันนะ" สรพยายามช่วยว่าที่ลูกเขยเต็มที่ 《เฮ๊อ..ทำไมกุรู้สึกผิดกับลูกสาวจัง ขอโทษนะแสงเดือน ลูกเราโตพอจะมีครอบครัวได้แล้วอย่าโกรธพี่เลยนะ》สรได้แต่ขอโทษลูกเมียในใจ
"ก็ได้ค่ะถ้าว่างนะ"
"งั้นพ่อไปนะ ต้องออกจากที่นี่ตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันน่ะ"
"แถวนี้มีไก่ด้วยเหรอคะ แหะแหะ" แสงดาวแกล้งหยอก
"......" สรไม่พูดอะไรได้แต่เอามือวางลงบนศีรษะทุยของลูกสาวแล้วโยกไปมาอย่างไม่แรงนัก จากนั้นจึงเดินออกไปโดยมีสายตาของผู้เป็นลูกมองตาละห้อย
"เฮ๊อ...." คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายจึงเดินลงมาข้างล่างเพื่อทำอาหารง่าย ๆ กินแต่ไม่คิดว่าใครอีกคนกำลังเข้าครัวปรุงอาหารอย่างขมักเขม้นดูคล่องไปเสียหมดคนตัวเล็กเผลอมองอยู่นานนึกถึงผู้เป็นบิดาเวลาทำอาหารให้เธอทาน
"แอบมองเฮียขนาดนี้เฮียเก็บค่าดูนะเออ" แดนไตรแกล้งแหย่คนตัวเล็ก
"อืม...ใช่มองเพลินจริงแหละ...เฮียดูคล่องจัง" แสงดาวชมจากใจ
"อยากลองทำหรือเปล่าล่ะเดี๋ยวเฮียช่วยสอนแต่เฮียคิดค่าสอนนะ!" แดนชลเต๊าะได้อีก
"เออ ไม่ดีกว่าค่ะเฮียทำเถอะ เดี๋ยวเฮียทำเสร็จแสงจะมาทำอะไรง่าย ๆ กินบ้าง" ว่าแล้วคนตัวเล็กก็คิดจะหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้น
..แต่....!!! ...พรึ่บ..."เดี๋ยวซี ยังไม่แก่ซ๊ะหน่อยใจน้อยไปได้ แค่นี้เฮียทำให้กินได้ มีแกงจืดเต้าหู้ไข่ใส่หมูสับ ผัดผักรวม น้ำพริกปลาทู ผักต้ม ไข่เจียว พอมั๊ยหรือเราอยากกินอะไรอีกสั่งมาได้เลยเดี๋ยวเฮียทำให้" คนตัวโตเดินไปขวางคนตัวเล็กไว้เพราะอยากให้คนตัวเล็กเห็นแววตาที่มีแต่ความจริงใจอย่างที่สุด
"โอ๊ะ.. แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องทำเพิ่มแล้ว..เปลือง" คนตัวเล็กพูดซื่อ ๆ
《ดูเอาเถอะ ว่าที่เมียของฉั๊น จะงกไปถึงไหน มิน่าล่ะถึงผอมแห้งอยู่แค่เนี๊ยะ น้ำหนักน่าจะไม่ถึง 45 กก.เพราะดูเธอผอมบางมาก ส่วนสูงก็น่าจะประมาณ 165 ซม.เรียกว่ากำลังดีเลยแหละสำหรับความคิดเขา》แดนชลคาดคะเนในใจ
"เฮียขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะ แสงไม่ต้องเกรงใจเฮีย เฮียทำให้แสงได้ทุกอย่าง เราต้องอยู่ด้วยกันอีกนานนะ" แดนชลแอบบอกความในใจแต่
"ไม่นานหรอกค่ะ แค่จับคนทุจริตได้ไม่น่าจะถึงปีด้วยซ้ำนะคะ" คนตัวเล็กแย้งได้อีก
"......." แดนชลเงียบ มองบนแพล๊บ แล้วรีบลำเลียงอาหารไปวางที่โต๊ะกินข้าว แสงดาวเห็นดังนั้นจึงถือจานช้อนตามไป สองคนกินข้าวกันอย่างเงียบจนอิ่มแล้วช่วยกันล้างจานชามเช็ดจนแห้งแล้วมานั่งย่อยอาหารในห้องนั่งเล่น
"เอาเครื่องดื่มอะไรมั๊ยเดี๋ยวเฮียทำให้?" แดนชลเสนอความคิด
"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ แสงว่าจะไปเดินเล่นในสวนหน่อย อยู่แต่ในนี้มันอุดอู้น่ะ"
"ไปซิ เดี๋ยวเฮียเดินไปเป็นเพื่อน" 《ใครว่าเดินไปเป็นเพื่อน เดินไปเป็นแฟนต่างหากล่ะ..งู๊ย....》แดนชลนึกกระหยิ่มในใจ
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ" แสงดาวขอบคุณอย่างจริงใจ เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกปล่อยคว้างกลางทะเลที่ซึ่งไม่มีคนที่เธอรู้จักมักคุ้นเลย อย่างน้อยชายหนุ่มขี้เต๊าะคนนี้ถึงจะปากดีไปหน่อยแต่ก็สุภาพอ่อนโยนกับเธอและพ่อของเธอยังเกรงใจเค้าอีกด้วยคงจะไว้ใจได้บ้างหละ