“โอเคครับ เงินเดือนเดิมสามหมื่น เพิ่มอีกสามหมื่น เป็นอันว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา คุณเค้กเซ็นชื่อตรงนี้เลยครับ เดี๋ยวผมจะส่งไปฝ่ายเอสอาร์ครับ”
“ค่ะ”
นัดดากรรับปากกาจากมือเขาที่ยื่นมาให้ ทั้งที่อยากจะใช้ของตัวเองมากกว่า แต่เขาก็ยังยืนยันว่าไม่ยอม ด้วยการยื่นมาให้อยู่อย่างนั้น
“เรียบร้อยครับ”
“ค่ะ เค้กขอกลับไปทำงานต่อนะคะ”
“ยังไปไม่ได้ครับ เพราะผมยังไม่หายคิดถึงเลยครับ”
“คะ?”
“เอ่อ...ผมหมายถึงว่า ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องงานของเราเลยครับ ก็เรายังคุยกันไม่จบเรื่องนี่ครับ ว่าแต่คุณเค้กจะรีบไปไหนครับ หรือว่านัดใครไว้ครับ ลูกค้าเหรอครับ? แต่ก็ไม่น่าจะใช่นะครับ ปกติคุณวดีบอกว่าคุณเค้กจะออกเซลข้างนอกตอนบ่ายนี่ครับ นี่ยังเช้าอยู่ แล้วอีกอย่าง เสร็จจากนี่ คุณเค้กก็จะต้องเข้าประชุมกับผมและผู้จัดการฝ่ายอื่นๆ นี่ครับ”
“ไม่ได้แค่ฝ่ายฟร้อนต์อย่างที่ท่านประธานบอกไว้เมื่อวานเหรอคะ?”
“ผมเลื่อนเป็นรอบบ่ายครับ รอบเช้าประชุมรวมและอาจจะยิงยาวไปถึงเที่ยงครับ เพราะมีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย ถ้ามีนัดที่ไหน ก็เลื่อนได้เลยนะครับ เพราะนอกจากจะเป็น Banquest Director แล้ว คุณเค้กก็มีตำแหน่งผู้ช่วยผมด้วยนะครับ ช่วงนี้ผมขอให้งดออกไปหาลูกค้าไว้ก่อนครับ”
“ค่ะ”
“คุณเค้กมีใครอยู่ในใจ หรือว่ามองๆ ใครไว้หรือยังครับ?” คนถามมองหน้าเธอแล้วยิ้มน้อยๆ
“คะ?” คนถูกมองเลยงง
“ผมหมายถึง Banquest Manager หรือ เลขา หรือว่าจะเป็น Staff ในฝ่ายไงครับ คุณเค้กคิดไว้หรือยังครับ ว่าจะดึงใครมาทำงานด้วย หรือต้องประกาศรับสมัครเพิ่มดีครับ?”
“อ๋อ”
ก็คำถามเขามาแบบกำกวม ชวนให้สงสัย ใครจะไม่คิดไปในทางนั้นกันเล่า
“Manager มีคนหนึ่งแล้วค่ะ คุณรุ่งฤดีไงคะ ตอนนี้เป็นเลขาฝ่ายอยู่ค่ะ เรามาสมัครงานพร้อมกันและในตำแหน่งเดียวกัน ทำงานได้ไม่นาน พี่วดีก็บอกว่าจะลดคนออก รุ่งฤดีเป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้ารุ่งฤดีรับเป็นเลขาฝ่ายที่ลาออกในเดือนนั้น ก็จะได้ทำงานต่อค่ะ ถ้าหมดวิกฤติก็ค่อยจะให้กลับมาเป็น Manager อีกทีค่ะ”
“ถ้าคุณเค้กเห็นสมควร ผมก็ approved ให้ได้ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมอยากจะให้หามาเพิ่มอีกสักคนหรือสองคนครับ เพราะต้องมาเทรนงานเพิ่มเติมก่อนครับ”
“ทำไมรับเพิ่มเยอะจังเลยคะ? ในเมื่อตอนนี้ เอ่อ...”
ต่อให้โรคร้ายเกือบหมดไปแล้ว และทุกคนได้รับวัคซีนกันครบแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าลูกค้าจะหลั่งไหลมาใช้บริการซะเมื่อไหร่ เป็นอะไรที่เธอไม่เข้าใจเขาเลย
“หาคนงานตอนนี้ เรามีสิทธิ์คัดแต่คนเก่งๆ ระดับเงินเดือนก็ไม่ต้องแข่งกับใคร เพราะคนต้องการงานมากกว่างานต้องการคน และก็อย่างที่บอกไว้ล่ะครับ ว่าเราจะขยายงาน และทำให้เป็นระดับห้าดาวแบบสากล คนของผมต้องได้รับการเทรนด้านบริการจนได้มาตรฐานและยอมรับทั่วโลกครับ”
“อ๋อค่ะ”
“ขอบคุณนะครับที่คุณเค้กเป็นห่วงผม”
“คะ”
“ผมหมายถึงเป็นห่วงองค์กรของผมน่ะครับ”
“ค่ะ”
“โอเคครับ งั้นเรามาคุยเรื่องสโคปงานใหม่ของคุณเค้กกับผมกันครับ” นัดดากรแทบจะจดไม่ทันด้วยซ้ำ กับความต้องการของท่านประธานตรงหน้า เพราะมันออกจะใหญ่ขึ้นและต่างจากขอบเขตงานที่เธอรับผิดชอบอยู่ แต่ก็เข้าใจว่าเขาจะทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นระดับห้าดาว และกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนั้น เป็นคนมีคลาสเกือบทั้งหมด
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวผมต้องเตรียมตัวประชุมใหญ่ คุณเค้กก็ด้วย กลับไปดื่มน้ำชา กาแฟ หรือเข้าห้องน้ำได้เลยครับ แต่จะแค่เข้าห้องน้ำอย่างเดียวดีกว่านะครับ เพราะเครื่องดื่มกับของว่าง ผมมีให้ในที่ประชุมแล้วครับ รับรองว่าทำงานกับผมไม่มีอดครับ ผมมักจะเลี้ยงคนที่อยู่ด้วยเป็นอย่างดีแบบนี้ล่ะครับ คุณเค้กน่าจะพอรู้ ว่ามั้ยครับ?”
“คะ?”
“ผมหมายถึงว่า เท่าที่เรารู้จักกันมาสองวัน น่าจะดูออกว่าผมไม่ใช่คนใจแคบกับคนที่ทำงานด้วย ใช่มั้ยครับ?”
“เอ่อ...ค่ะ”
นัดดากรไม่เข้าใจว่าเขาจะบอกอะไรยืดยาวขนาดนั้น และไม่รู้มาก่อนว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงๆ จะต้องเอาใจใส่พนักงานระดับล่างทุกเรื่องเลยหรือยังไง แต่จะไปถามทำไม สู้รีบออกไปจะดีกว่า เพราะงานที่ได้มานี่ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้พักกินข้าวแล้ว เลยรีบลุกขึ้นแล้วเตรียมจะเดินออก
“เอ่อ...คุณเค้กครับ”
“คะ?”
พอเดินไปถึงประตู เสียงนุ่มๆ ก็ดังตามเลย เลยหันกลับไปหาเจ้าของเสียง พร้อมทั้งส่งท่าทางอ่อนน้อมนิดๆ ให้เขา ก็เขาเป็นเจ้านาย และเธอเองก็เด็กกว่าเขาน่าจะไม่น้อยกว่ารอบหนึ่งแน่นอน
“เป็นผู้ช่วยผม คงจะต้องประชุมบ่อยๆ นะครับ ยังไงช่วงนี้ ผมฝากให้ช่วยใส่กระโปรงยาวกว่านี้สักครึ่งฟุตนะครับ ขอบคุณครับ เชิญครับ”
ท่านประธานหนุ่มผายมือพร้อมกับยิ้มน้อยๆ แล้วก้มหน้าลงไปหางานทันที ราวกับไม่อยากได้ยินเสียงแย้งจากผู้จัดการสาว
“ค่ะ”
ตั้งใจจะแย้ง ว่ามันเรื่องอะไรของท่านกันล่ะวะคะ ที่ต้องมายุ่งกับกระโปรงของพนักงานด้วย แต่เขาดันผายมือเชิญ (ไล่) ก่อน เลยทำอะไรไม่ถูก นอกจากรับคำเสียงห้วนหน่อยๆ แล้วเดินหน้าคว่ำออกจากห้องมา นั่นเลยทำให้ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของคนหน้าหล่อ พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ
“คุณกับผมน่ะมันคนละรุ่น อย่าพยายามเลย ยังไงๆ คุณก็ไม่ชนะผมหรอกที่รัก และอย่าคิดหนีผมไปไหนอีกเชียวนะ คุณก็ไม่มีทางหนีผมพ้นอีกหรอก ผมพลาดมารอบหนึ่งแล้ว ผมจะไม่ยอมพลาดรอบสองอีกหรอกที่รัก”
ถ้าลองท่านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการสายธุรกิจโรงแรมแห่งวีพีกรุป ได้ลั่นวาจาไว้ขนาดนี้ ก็ยากที่เป้าหมายจะรอด