ตอนที่ 5 อดีตของชานนท์

2116 Words
Part ชานนท์ ตั้งแต่วันที่สอบไฟนอลในเทอมสองเสร็จ ลูกน้องของพี่ชายก็พาอีฟมาหาผมเพื่อเคลียร์ในเรื่องที่ผมสงสัย อีฟสารภาพทั้งหมดว่าตัวเองเป็นคนนอกใจผม และเป็นฝ่ายเชิญชวนผู้ชายก่อน เพราะผมไม่มีเวลาให้ ในช่วงที่ผมตั้งใจเรียนตามที่พี่นาฟบอกหลังจากโดนคาดโทษเพราะติดทัณฑ์บน อีฟไม่ยอมบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ผมรู้สึกว่าอีฟปกป้องมัน ผมอยากรู้ว่ามันเป็นใคร อยากจะต่อยหน้ามันสักครั้งที่มายุ่งกับคนของผม ผมยังไม่ให้อภัยอีฟในวันนั้น แต่ยังไม่ได้บอกเลิก ผมรักอีฟอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ยังทำใจไม่ได้ สองวันให้หลังผมกลับเห็นอีฟเดินไปกับคนผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งอย่างสนิทสนม จึงพาลูกน้องตามไป คราวนี้ผมจับได้คาหนังคาเขาที่ห้องของอีฟ ผมมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่พี่ชายผมจับได้ เพราะมันคงโดนพี่ชายผมอัดเละไปแล้ว ไม่มีวันมาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้แน่ อีฟและผู้ชายคนนั้นเห็นผมก็ผละออกจากกันอย่างตกใจ อีฟหน้าซีดกลัวลนลาน ส่วนผู้ชายก็ทำหน้าตกใจที่เห็นผมกับลูกน้องเข้ามา “กูให้โอกาสมึง ไม่เอาเรื่องครั้งที่แล้ว แต่มึงกลับทำเรื่องระยำเป็นครั้งที่สอง” ผมใช้สรรพนามแบบนี้กับอีฟเป็นครั้งแรก เธอคงรู้ว่าครั้งนี้ผมเอาจริง ท่าทางสั่นดูกลัวผมมาก ผมหันไปทางผู้ชายที่ตอนนี้ลูกน้องผมล็อกตัวไว้อยู่ “กูให้โอกาสมึงพูด” ผมบอกมัน “อีฟเขามาชวนผมก่อน อีฟเขาบอกทะเลาะกับแฟนจะเลิกกันแล้ว” ผู้ชายบอก “ทะเลาะกับกูสองวันหาผัวใหม่เนี่ยนะ มึงมันร่าน” ผมหันไปด่าอีฟ หมดกันความรักที่เคยมีให้ ตอนนี้รักมากก็เกลียดมาก “ผมกับอีฟคบกันมาจะสองเดือนแล้วครับ” ผู้ชายคนนั้นพูด เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ “นี่มึงคบซ้อนสามคนเลยเหรอ” ผมอยากตบหน้าอีฟ แต่เป็นผู้ชายเลยต้องอดทนไว้ไม่ลงมือกับผู้หญิง ผมให้ลูกน้องลากผู้ชายคนนั้นออกไปสั่งสอนพอเป็นพิธี แล้วผมก็ตัดสัมพันธ์กับอีฟทันที อีฟกอดผมไว้แน่น พร่ำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก “มึงอย่าให้กูเห็นหน้ามึงอีก ถ้ากูเห็นมึงอีกครั้งกูจะให้คนของกูลากมึงไปทำเมีย ให้สมกับความร่านของมึง” ********************* เหตุการณ์เหล่านั้นผ่านไปเป็นเดือนแล้ว ตอนนี้ผมทำใจได้แล้ว ทุกครั้งที่ผมทำตัวเกเร พี่นาฟจะต้องขู่ผมว่าจะส่งไปฝึกวินัยกับเพื่อนรุ่นน้องของพี่นาฟที่ออสเตรเลีย พี่นาฟต้องดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ เลยไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยแบบปกติเหมือนผม พี่นาฟเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแบบเปิด ไปเรียนเสาร์อาทิตย์ และไปสอบตามกำหนด เลือกลงสบายๆ แค่เทอมละไม่กี่หน่วยกิจ กว่าจะจบก็ปาไปหกปี และได้เพื่อนรุ่นน้องคนนี้นี่แหละเป็นคนติวสอบให้พี่นาฟ เธอชื่อซอด้วง พี่ซอด้วงลงเรียนเพื่อเอาปริญญาตรีใบที่สองควบกันกับใบแรก รู้จักกันในช่วงที่พี่นาฟเรียนอยู่ปีห้า พี่ซอด้วงบ้าเรียนหนักมาก ตอนนี้พี่ซอด้วงกำลังเรียนต่อที่ออสเตรเลีย เธอเป็นสาวเนิร์ดระเบียบจัด และเข้มงวดกับผมเป็นอย่างมาก เธอเป็นคนตัวเล็กๆ ใส่แว่นหนาเตอะ ทำผมแค่ทรงเดียวคือมัดรวบหางม้า พี่นาฟจ้างให้พี่ซอด้วงมาเป็นพี่เลี้ยงของผม ในช่วงปิดเทอมตอน ม.สาม ช่วงที่พี่นาฟแต่งงานและย้ายไปนอนที่คอนโดกับพี่มิ้นท์หลังแต่งงาน ตอนนั้นผมโคตรอึดอัด พี่ซอด้วงกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งกำลังจะขึ้นปีสอง พี่ซอด้วงเรียนควบสองมหาวิทยาลัย เลยตอบตกลงเพื่อหารายได้เสริมมาจ่ายค่าเทอม พี่ซอด้วงทำกับข้าวอร่อยมาก แต่เป็นพี่เลี้ยงที่ไม่ได้เรื่อง เพราะความเจ้าระเบียบ และเข้มงวดนั่นแหละ ทำให้ผมไม่ชอบเธอ พี่ซอด้วงบังคับให้ผมกินผัก บังคับให้ทำการบ้านก่อน บังคับให้ดื่มนมจืด (ปกติผมอ้อนพี่นาฟขอดื่มนมรสหวานแทนและสำเร็จเสมอ) บังคับให้เข้านอนก่อนสองทุ่ม และปลุกผมมาออกกำลังกายตอนตีห้าครึ่ง ห้ามกินข้าวคำน้ำคำ ห้ามพูดขณะทานอาหาร ห้ามเล่นโทรศัพท์บนโต๊ะอาหาร ห้ามเปิดเพลงเสียงดัง ถอดรองเท้าให้เป็นที่ และอีกมากมาย ทำหน้าที่เกินพี่เลี้ยง อย่างกับเป็นแม่คนหนึ่งของผม พี่นาฟแทนที่จะช่วยกลับสนับสนุนให้ยัยแม่มดนี่มาบงการผม แต่จะว่าไปผมเป็นผู้เป็นคนได้ทุกวันนี้พี่ซอด้วงก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย ********************* ช่วงนี้พี่นาฟก็ยังกลับบ้านมานอนเป็นเพื่อนผมอยู่สัปดาห์ละ1-2วันเหมือนเดิม แต่ผมรู้สึกว่าพี่นาฟเปลี่ยนไป ดูอารมณ์ดีขึ้น ยิ้มบ่อยขึ้น “เหมือนคนมีความรัก” พี่นาฟเป็นแบบนี้ล่าสุดก็ตอนผมอยู่ ม. ต้น ตอนแต่งงาน แต่ก็อยู่ด้วยกันไม่ถึงปีก็เลิกกันเพราะพี่นาฟไม่มีเวลาให้พี่มิ้นท์ พี่นาฟเลยกลับมาพักใจที่บ้าน ช่วงนั้นพี่นาฟก็ได้พี่ซอด้วงนี่แหละเตือนสติให้เข้าเรียนเข้าสอบ เพราะอีกปีเดียวพี่นาฟก็จะจบแล้ว ไม่อยากให้ความพยายามห้าปีที่เรียนมาต้องสูญเปล่า เพื่อธุรกิจและเพื่อผม พี่นาฟก็พยายามลืมพี่มิ้นท์และตั้งใจเรียนจนจบ พี่ซอด้วงอยู่บ้านเราในฐานะพี่เลี้ยงของผมจนผมขึ้นม.หก และพี่นาฟเรียนจบในช่วงนั้นพอดี พี่ซอด้วงย้ายไปอยู่หอพัก และผมก็ไม่ได้เจอพี่เขาอีก ผมคิดถึงสาเหตุที่แท้จริงที่พี่ซอด้วงย้ายไปอยู่หอพักแล้วก็รู้สึกไม่ดี พี่นาฟเองก็คงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง “พี่นาฟเนียนจบแล้ว ซอหมดหน้าที่แล้ว ซออยากกลับไปโฟกัสการเรียนของซอ และเตรียมตัวเรียนต่อโท” นี่คือเหตุผลที่พี่ซอด้วงบอกพี่นาฟก่อนไป ที่โต๊ะอาหารในตอนนี้ พี่นาฟกำลังมองดูผมที่เขี่ยข้าวในจานไปมา “นนท์ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า” “อ่อ เปล่าครับ พอดีคิดถึงอดีตนิดหน่อย” “ปิดเทอมว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็อ่านหนังสือของเทอมถัดไปรอนะ” “ครับพี่นาฟ” “เทอมหน้าตั้งใจเรียนนะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องความรัก กับเรื่องแฟนเก่า” พี่นาฟบอก “ผมไม่คิดแล้วครับ เลิกไปแล้ว ผมรู้แล้วว่าคนของผมมันไม่ดีเอง นี่ผมเพิ่งจับได้รอบสองกับคนใหม่ หลังจากพี่จับคนแรกได้แค่สองสามวันเอง” ผมเล่าให้พี่ชายฟัง “อืม ลูกน้องแกรายงานฉันแล้ว” พี่นาฟบอกตามตรง “ไอ้คนแรก ถ้าแกรู้ว่าเป็นใคร แกจะทำอะไร” พี่นาฟถาม “ผมคงปล่อยผ่าน เพราะผมรู้ว่าแฟนผมมันมั่วเอง เป็นใครโดนเสนอก็ต้องสนอง ผมไม่อยากติดใจอะไรใครแล้ว” ผมตอบตามจริง “อืม ดีแล้ว” พี่นาฟพูด น้ำเสียงผ่อนคลายขึ้น “แล้วพี่จัดการมันยังไง” ผมถาม “ก็สั่งสอนมันไปนิดหน่อย ช่างเถอะ จบแล้วก็ดี” พี่นาฟตัดบท “เออ ลืมบอก เพื่อนพี่เรียนจบแล้วนะ” พี่นาฟพูดขึ้น “แล้วเกี่ยวอะไรกับผม” ผมถาม “ซอจะมาพักที่บ้านเรา ถ้าได้งานทำ ได้ที่พักแล้วค่อยย้ายออก” ผมทำช้อนหลุดมือ ที่ได้ยินชื่อนี้ “ห๊ะ!!!! ยัยแม่มดจะมาพักที่นี่” ผมร้องเสียงดัง “เออ แค่ชั่วคราว” พี่นาฟบอกผม คงตลกในท่าทางของผม “อย่ามายุ่งกับผมแล้วกัน ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ผมบอกพี่ชาย “นนท์ เขาแค่มาพักด้วย พี่ไม่ได้ให้เขามาดูแลนนท์ แต่ว่ายังไงนนท์ก็ต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลซอด้วย อย่าทำให้พี่ขายหน้า ซอเขามีบุญคุณกับพี่ และนนท์ด้วย เข้าใจที่พี่พูดนะ” พี่นาฟบอกผมโทนเสียงแบบนี้ ผมก็ขัดไม่ได้สินะ “ครับ” ผมรับปากแล้วขอตัวขึ้นห้องไป ********************* ปิดเทอมหน้าร้อนสองปีที่แล้ว พี่นาฟเรียนจบแล้วเหลือแค่รอรับปริญญาในปลายปีนี้ ส่วนผมเองก็กำลังจะขึ้น ม.หก พี่ซอด้วงก็ขึ้นปีสี่ ยัยแม่มดเจ้าระเบียบวันนี้อยู่บ้านทั้งวันไม่ได้ออกไปไหน พี่นาฟก็ออกไปดูไนต์คลับและคาดว่าคืนนี้จะไม่กลับมาพักที่บ้าน ผมต้องอยู่กับยัยแม่มดนี่ กับคนรับใช้และลูกน้องไม่กี่คนที่พี่นาฟให้ดูแลความเรียบร้อยในบ้าน พี่ซอด้วงเดินเข้ามาบอกให้ผมเข้านอน “นอนได้แล้วนนท์” “พี่ซอ นี่ปิดเทอมนะ นอนดึกก็ไม่เป็นไรหรอกน่า” ผมบอกขณะเล่นเกมในมืออย่างเมามัน “งั้นพี่ให้เวลาถึงสามทุ่ม พี่จะมาอีกรอบ” ยัยแม่มดสั่งแล้วเดินออกไป พอสามทุ่มก็เข้ามาอีกรอบ เป๊ะๆ “นนท์นอนได้แล้ว” “เออ” ผมบอก หงุดหงิดกับความเจ้ากี้เจ้าการของพี่ซอด้วง “ผมถามจริงเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกทำเหมือนผมเป็นเด็ก วัยนี้ใครๆ เขาก็นอนดึกกันทั้งนั้น ยิ่งช่วงปิดเทอมแบบนี้ จะอะไรกับผมนักหนา” ผมบ่นออกมา “พี่จะเคี่ยวเข็ญนนท์จนกว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นู่นแหละ เป็นผู้ใหญ่เมื่อไหร่พี่จะไม่ตามคุมนนท์แล้ว เพื่ออนาคตของนนท์เองทั้งนั้น” พี่ซอด้วงบอกจริงจัง ผมมองไปที่พี่ซอด้วง นี่ขนาดชุดนอนนะ คลุมปิดอย่างกับแม่ชี แว่นก็ไม่เคยถอด แต่ถึงไม่ถอดผมก็ดูออกว่าพี่ซอด้วงเป็นคนสวย ตาสวยกลมโต จมูกโด่งงามเป็นธรรมชาติ ปากอวบอิ่มนั้นขยับพูดไม่หยุด นี่ถ้าลดความเนี๊ยบลงอีกนิด ผมอาจจะเชียร์ให้พี่นาฟจีบเธอเลยก็ได้ “ไม่ต้องรอผมเข้ามหาวิทยาลัยหรอก ตอนนี้ผมก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว” ผมเถียง “เด็กน้อยเอ้ย” พี่ซอด้วงเอามือมาขยี้หัวผม ผมปัดมือออก “บอกว่าไม่ใช่เด็ก” ผมร้องใส่ พี่ซอด้วงทำหน้านิ่ง ปกติเจอผมโวยวายจนชินแล้วเลยไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย “เชื่อฟังกันบ้างนะนนท์” “พี่ไม่ใช่แม่ผมนะ อย่าบังคับกันให้เยอะ พี่เข้มงวดเกินไป ไม่ให้ผมได้หายใจเลย เป็นแค่พี่เลี้ยง อย่าทำตัวเหมือนแม่” ผมบอก “พี่ทำเพื่ออนาคตของนนท์ทั้งนั้น” “พี่ทำเพื่อเงิน และพี่นาฟ” “พี่ไม่เคยคิดอะไรกับพี่นาฟ” “พี่ออกไปได้แล้ว ผมจะนอน” “ไม่ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” พี่ซอด้วงไม่พอใจที่ผมเข้าใจผิดเรื่องพี่นาฟ “แทงใจดำละสิ” ผมยั่วโมโหพี่ซอด้วง “อยากเป็นเมียพี่นาฟจนตัวสั่น” ผมพูด “เพี๊ยะ” พี่ซอด้วงตบหน้าผมอย่างแรง จนผมหน้าหัน ผมอยากตบคืน แต่เธอเป็นผู้หญิงสิ่งเดียวที่นึกออกในตอนนี้คือฉากในละครตบจูบ ผมดึงพี่ซอด้วงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้ามา แล้วจูบเธอเหมือนในละครหลังข่าว ผมจูบยังไม่เป็น เลยได้แต่บดปากเธอเท่านั้น พี่ซอด้วงผลักผมออก จะตบอีกรอบ ผมจับมือไว้ “คนแบบพี่ไม่คู่ควรกับพี่นาฟหรอก จืดชืด ไม่เร้าใจ เจ้าระเบียบ อย่าว่าแต่พี่นาฟเลย คงไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้สนใจยัยแม่มดอย่างพี่หรอก” ผมพูดจบ พี่ซอด้วงก็สลัดแขนออก ผลักหน้าอกผมออกให้พ้นทาง แล้วเดินออกจากห้องไป และนั่นเป็นคืนสุดท้ายที่เธออยู่ที่บ้านของผม *********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD