ตอน 6

1595 Words
“โห...ห้องนี้เท่ากับบ้านเราทั้งหลังเลยมั้งนี่” ยอดยาหยีครวญกับตัวเองเบาๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้เธอไม่เคยเดินสำรวจเลย ด้วยเกรงจะทำเปิ่น ไม่เป็นที่เหมาะสม จึงอยู่แต่ในส่วนที่เธอคิดว่าเป็นพื้นที่สำหรับตัวเอง             “มาเก็บผ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกไป แบบกล้าๆ กลัวๆ มองหาเจ้าของห้องไปพลาง แล้วระแวดระวังไปด้วย สายตามองหาตะกร้าผ้า แล้วก็พบว่าสิ่งนั้นอยู่ข้างๆ ตู้ จึงเดินไปตรงนั้น แต่ก่อนจะเดินไปถึงตู้ต้องผ่านปลายเตียงใหญ่ขนาดคิงไซต์             ยอดยาหยีเห็นเจ้าของห้องนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ แต่แล้วเพียงเสี้ยววินาที ที่หญิงสาวก้าวผ่านปลายสายตาก็เห็นว่าผ้าห่มท่าทางนุ่มมากผืนนั้นเปิดขึ้นผ่านสายตาไป หญิงสาวหันขวับตามการเคลื่อนไหวของวัตถุนั้น ภาพ !!! ภาพที่เธอเห็น             “ว้าย !!! ชีเปลือย” ตะกร้าผ้าในมือหล่นลงกับพื้นทันที สองมือยกขึ้นปิดตาอย่างเร็ว ทว่า...กลับแอบกางนิ้วออกนิดๆ             “อยากดูก็ดู เฮียไม่หวงหรอก อีหนู” เฮียปราบก้านใหญ่บอกออกไปอย่างไม่อาย เขาชอบนอนไม่ใส่เสื้อผ้า แต่ชอบห่มผ้าหนาๆ เพื่อกันไม่ให้ตัวเองเป็นปอดบวม ตอนที่เขากลับมาก็ล้มหัวลงนอนแล้วสลัดเสื้อผ้าออกจากร่างกายทุกชิ้น เสื้อผ้าของเขายังเกลื่อนเต็มพื้น ถ้าแม่ตัวบางร่างน้อยวัยละอ่อน คิดจะมาเก็บผ้าไปซักคงต้องเก็บชิ้นที่เกลื่อนห้องไปด้วย             “ไม่...ไม่ค่ะหยีออกไปก่อนดีกว่า” ยอดยาหยีปากสั่น ควานหาเสียงตัวเองไม่เจอ ได้แต่ร้องออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เฮียปราบคิดว่าตัวเธอตั้งใจจะดูของลับของเขา แต่เธอได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าเอ็นท่อนของจริงก็วันนี้เอง             “นี่เข้ามาทำไมล่ะ” เขาก้าวเข้าไปใกล้แม่สาวน้อยอีกนิด แต่การเข้าไปอีกนิดของเขา เกือบชิดร่างแน่งน้อย ที่ยืนตัวแข็งทื่อยกฝ่ามือปิดตาแต่นิ้วกางเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น             “ขะ...เข้ามา เอ่อ...” หญิงสาวลืมเรื่องที่ตัวเองเข้ามาในห้องนี้ จนหมดสิ้น สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักกับภาพชีเปลือยล่อนจ้อนไม่มีสิ่งใดปกปิด แม้แต่กางเกงใน สักตัวก็ไม่มี แล้วไอ้อวัยวะตรงกลางของเฮียปราบนั้น โด่ไม่ต่างกับเสากระโดงเรือ แถมยังชี้มาทางเธอราวกับจะยิงด้วยลูกกระสุนจุดสองห้อย เสียให้ได้             อาการลืมตัว ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สมองไม่สั่งการ ร่างกายจึงหยุดนิ่ง ราวกับโลกหยุดหมุน             “เก็บผ้าค่ะ” เธอตอบออกไปสั่นๆ รัวราวกับลิ้นถูกแช่แข็ง             “เก็บที่เกลื่อนพื้นไปด้วยแล้วกัน” ว่าเสร็จเขาผละจากหนูน้อยเดียงสานั้นไป แต่ก็แอบยิ้ม ที่ทำให้เธอแก้มแดงปลั่งได้ ว่าแต่ตอนแม่นั่นหน้าแดงก็น่ารักไปอีกแบบนะ เขาไม่ค่อยเจอผู้หญิงเดียงสาแบบนี้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่อย่างน้องเหมย ซึ่งจงใจทอดสะพาน ยื่นตัวเองใส่พานให้เขากินอย่างอร่อย เช่นเมื่อคืนเขาอิ่มจนล้นกับลีลาแม่สาวหน้าหมวย รวยลีลาที่เพิ่งพบกันครั้งแรก หล่อนก็สวาปามเขาไปหลายยก ที่แน่ๆ เขาเองแหละเป็นคนฟาดหล่อน ด้วยฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ แหม...พูดกันดีๆ ก็ได้ทำไมต้องใช้เครื่องทุ่นแรง               หลังจากโยนผ้าลงเครื่อง ด้วยหัวใจกระโดดโครมครามอยู่ในอก ครั้นพอปรับสติให้นิ่งแล้ว ยอดยาหยีก็ไปนั่งเล่นในสวน คิดอะไรเรื่อยเปื่อยรอเวลาให้เครื่องซักผ้าทำงานครบวงจร จะได้นำผ้าไปตาก บ้านหลังนี้มีบริวารเยอะแยะมากมมาย ดังนั้นทุกคนต่างมีหน้าที่ เธอผู้มาใหม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในฐานะสาวใช้ จึงวางตัวลำบาก จะต้องทำอะไรช่วยใคร ป้าหวินมักเป็นคนสั่งหรือวานเธอให้ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ เธอเองจึงไม่เกี่ยงงอนที่จะทำ             ปราบก้าวลงจากห้องเดินถือถ้วยกาแฟยามบ่าย เข้าไปในสวนจึงเห็นสาวน้อยกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่เบื้องหน้า เขายืนมองหญิงสาวอยู่เงียบๆ จึงนึกขึ้นได้ว่าควรทำอะไรจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง กลับลงมาอีกทีในอีกสิบนาทีต่อมา ยอดยาหยี ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขาจึงเดินเข้าไปหา             “ไปด้วยกันหน่อย” เขาพูดออกไปพร้อมกับถือโอกาส คว้าข้อมือเล็กดึงให้เดินตาม ด้วยแรงน้อยนิด หากแต่คนตัวเล็กไม่อาจต่อต้านได้เลย             “ปะ...ไปไหนคะคุณปราบ” เธอรั้งข้อมือกลับ หากแต่ไร้ผล เขายังคงลากเธอไปตามทางเดิน จนถึงโรงรถที่มีรถยนต์จอดเรียงรายกันไว้มากมายเกือบสิบคัน มากกว่าจำนวนคนขับซะอีก             “เรียกเฮียปราบสิ” เขาสั่งโดยไม่หันกลับไปมองหน้าคนที่ถูกฉุดให้เดินตามหลังมา             “เฮีย” เหรอคะดูสนิทเกินไปหรือเปล่า เธอกับเขาแทบไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ จะให้เรียกแบบสนิทอย่างนี้จะดีอย่างนั้นเหรอ             “ใช่น่ารักดี ไหนลองเรียกซิ เฮียปราบ” เขาสั่งเธอด้วยเสียงทุ้ม ก้มหน้าลงไปหา จ้องมองดวงตาหวานไหวระริกคู่นั้น จนรู้สึกป่วนปั่นในหัวใจ เอาล่ะสิ...ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สู้ดีนัก              เสียงชายหนุ่มออกคำสั่งกับเธอ พานให้สมองมึนงง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาช่างไพเราะเสนาะหู ชวนเคลิบเคลิ้ม แล้วเธอได้ยินเสียงตัวเองเรียกชายหนุ่มออกไปตามที่เขาเอ่ยขอ             “เฮียปราบ” หญิงสาวทวนคำด้วยเสียงสั่น ติดๆ ขัดๆ             “ดีมาก คราวนี้ช่วยไปด้วยกันหน่อยนะ” เขาเอ่ยชมพร้อมกับจูงมือสาวน้อยให้เดินตาม             “ไปไหน” คนถูกดึงข้อมือเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย ทำไมเธอต้องไปกับเขา แล้วเขาจะพาเธอไปไหน เธอกับเขาไม่มีธุระข้องเกี่ยวกันด้วยซ้ำ จะเรียกใช้ชงกาแฟ ซักผ้า หรือทำความสะอาดบ้านบอกตรงๆ เลยเธอยินดีทำตามทุกอย่าง เพื่อทดแทนข้าวปลาอาหาร และที่อยู่ซุกหัวนอนคุ้มภัยอย่างที่บิดาว่าด้วยความเต็มใจเชียวล่ะ             “เอาน่าไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง” เขาเป็นคนไม่ชอบพูดเยอะ คิดอะไรก็ทำเลย ขี้เกียจต้องสารทยายให้ใครต่อใครฟัง เอาง่ายๆ เขาเป็นคนประเภท ทำมากกว่าพูด ยิ้มเท่าที่จำเป็น เยือกเย็นเป็นประจำ คนรอบข้างเขามักรู้ถึงนิสัยแบบนี้ของเขาดี             ปราบยัดร่างแน่งน้อยเข้าไปในรถ แล้วตัวเองอ้อมกลับไปนั่งประจำที่คนขับ เคลื่อนรถออกไปจากโรงเก็บรถอย่างเร็ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจึงฝ่าการจราจรมาถึงที่หมาย             “คุณ...เอ้ย เฮียปราบจะมาซื้อของเหรอคะ”             “เปล่า”             “อ้าว แล้วมาทำไมล่ะคะ”             “พาเธอมาเดินเล่น”             “แต่...พ่อของหยีบอกว่าห้ามออกจากบริเวณบ้านเด็ดขาด”             “ทำไมล่ะ”             “พ่อบอกว่าหยีจะไม่ปลอดภัย”             “อยู่กับฉัน ฉันจะคุ้มภัยให้เธอเอง”             “ขนาดหยีจะไปเรียนป๋า เอ่อ...คือหยีหมายถึงพ่อค่ะ ท่านยังไม่ให้ไปเรียนสั่งให้ดรอปไว้ก่อน ทั้งๆ ที่หยีเรียนเทอมสุดท้าย สัปดาห์หน้าจะสอบปลายภาคแล้วด้วย หยีอยากไปเรียน อยากเก็บหน่วยกิจให้ครบ จะได้หางานทำซะที แต่เมื่อป๋าห้ามแบบนี้ หยีคงต้องทำตาม” หญิงสาวร่ายยาวขณะเดินตามคนร่างสูงเข้าไปในห้าง             “อยากไปเรียนหรือ ไปสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สงสารหญิงสาวที่ต้องมาอุดอู้ อยากไปไหนก็ไม่ได้ไป จะไปเรียนยังโดนสั่งห้าม แบบนี้เท่ากับนกในกรงไม่ผิดสักนิด             “ป๋าบอกพวกมัน ซึ่งไม่รู้พวกไหนจะมาจับตัวหยี” ยอดยาหยีนึกย้อนไปตอนที่เห็นกลุ่มคนแปลกหน้าแต่งกายชุดดำ เดินวนเวียนอยู่หน้าบ้าน แล้วนำมาผนวกกับคำพูดของบิดา จึงคิดว่าท่านคงพูดวามจริง แล้วตอนนี้ล่ะท่านเป็นอย่างไรบ้าง ไม่โทร.มาหาเธอเลย ไม่รู้หรืออย่างไรลูกสาวคนนี้เป็นห่วงจนข่มตาไม่เคยหลับเลยด้วยซ้ำ             “ฉันจะคุ้มครองเธอจนกว่าเธอจะเรียนจบ อยากไปไหนไปได้เลย เชื่อใจฉันนะ” ปราบพิชิตไม่รู้ว่าตัวเองพูดประโยคนั้นออกไปได้อย่างไร รู้แต่ว่าตัวเองอยากพูด อยากปกป้องดูแลหญิงสาวคนนี้ ในแบบที่เขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง             “เอ่อ...หยีไม่เข้าใจ” อีกอย่างคนอย่างเขาจะมีเวลา มาดูแลเธออย่างที่เขาว่าอย่างนั้นหรือ เขาพูดเพื่ออะไรบิดาเธอขอร้องให้เขาทำหรือว่าเขาต้องการทำเรื่องที่ว่าเอง             “ช่วงเวลาที่ฉันไปทำงาน ฉันจะมีบอดี้การ์ดพาเธอไปมหาวิทยาลัย พร้อมอยู่รอรับกลับทุกวัน จนกระทั่งเธอสอบเสร็จ”             “แล้วเฮียปราบทำอย่างนี้เพื่ออะไรคะ”             “อยากทำ อย่าถามมาก เธอทำตามก็พอ จะไปเรียนบอกด้วย ฉันจะได้ให้บอดี้การ์ดขับรถไปส่ง” เขาพูดได้แค่นั้นก็พาเธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรู 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD