ตอน 5

1710 Words
อาเหมยร่านสวาทกัดกินลูกชายของเฮียปราบอย่างเมามัน ทั้งเลีย ทั้งดูด แล้วก็ดันดุนเข้าไปในโพรงปากอย่างไม่เกรงเจ้าของสมบัติล้ำค่าจะเจ็บแต่อย่างใด             “อ่า...อร่อยจังปราบขา” หล่อนครางไม่เป็นศัพท์ ด้วยความอร่อยที่ตุงอยู่ในปาก เฮียปราบแข็ง...แรงมากๆ ดูดเท่าไหร่ เลียเท่าไหร่เฮียยังไม่สะท้าน มีเพียงใบหน้าซึ่งแหงนหงายจากความเสียว และซ่านตรงส่วนปลายเท่านั้น             “อร่อยก็กินเยอะๆ สิจ๊ะอาเหมย” เขาบอกหล่อน ด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า อยากดูลีลาอาหมวยคนนี้เสียจริงๆ นอกจากผิวขาวเปล่งประกายดั่งน้ำนม เพราะเป็นลูกผู้ดีมีเงินย่อมมีเงินเข้าสถานเสริมความงาม ดูแลตัวเอง บ่มเพาะความงามได้ ด้วยเงินตราเหลือเฟือ หล่อนเปลื้องอาภรณ์ที่เหลือออกจากร่างโดยไม่ต้องพร่ำบอก             ดังนั้นร่างกายผิวขาวนวลจึงไร้ซึ่งสิ่งปกปิด ไม่ต่างจากที่เขาถูกหล่อนจัดการจนไม่เหลือหลอผ้าสักชิ้นให้กำบัง มืออาเหมยร่านสวาทว่องไวดังนักฉกมืออาชีพ และนั่นคนโดนฉกเต็มอกเต็มใจให้ฉกเสื้อผ้าเสียเหลือเกิน             ปราบพิชิตดึงร่างเนียนเหวี่ยงลงไปบนที่นอน แทนที่เขาเมื่อกี้ จากนั้นจึงจัดการปรนเปรอลากปลายลิ้นกับร่างกายของหล่อน สองมือร้อนผ่าวบีบเคล้าสองเต้าสล้าง ราวกับจะทำให้มันหลุดจากโคนกระนั้น             “อ่า...อ๊ะ...เฮียปราบขา” หล่อนครางคล้ายคนกำลังจะตาย ดวงหน้าร้อนผ่าว แก้มเนียนแดงก่ำ สองมือจิกที่นอนจนยับ แล้วยิ่งสิ่งที่เฮียปราบกำลังกระทำ ยิ่งทำให้เสียงครางดังมากขึ้น อย่างไร้ขีดจำกัด ใครจะสนในเมื่อห้องนี้บุด้วยวัสดุเก็บเสียงอย่างดี ไม่ใช่วัสดุราคาถูกๆ ห้องนี้แพงกว่าโครงการบ้านจัดสรรเกือบทั้งหมู่บ้านเสียด้วยซ้ำ             นิ้วที่เคลื่อนเข้าออกในทางสวาทอันหยาดเยิ้มด้วยสายน้ำผึ้ง ทั้งสองนิ้วกำลังสร้างความปั่นป่วน ซ่านสยิวให้กับเจ้าของช่องทางหวาม เฮียปราบขยับสองนิ้วอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้ง แล้วยิ่งขยับน้ำหวานอาเหมยทะลักทะล้น พร้อมให้เฮียปราบพาสมบัติล้ำค่าใหญ่ยักษ์เข้าไปกระทุ้ง บริหารจังหวะได้แล้วเท่าที่รู้สึก             ดังนั้นเขาจึงหยุดชักนิ้ว แล้วเดินไปที่กองกางเกงคว้าขึ้นมา ล้วงลงไปหยิบซองสีเงินออกมา เดินกลับมาที่เตียงกว้าง ยื่นสิ่งนั้นส่งให้อาเหมยที่แสดงสีหน้าผิดหวังเมื่อถูกทิ้งให้ลอยเท้งเต้งกลางอากาศ             หล่อนรู้หน้าที่เมื่อซองเล็กๆ ยื่นมาตรงหน้า จึงหยิบมาแล้วจัดการฉีกด้วยไรฟันคม บรรจงสวมหมวกนิรภัยครอบลงท่อนเนื้ออันแข็งแกร่งโด่มิรู้ล้ม อย่างถนอมพร้อมกับโปรยยิ้มให้ชายหนุ่ม เจ้าของท่อนเนื้อนั้นอย่างมีความหวัง เฮียปราบจะไม่มีวันหลุดพ้นไปจากมือหล่อนเด็ดขาด ตำแหน่งสะใภ้สกุลก้องพาณิชย์ต้องเป็นของหล่อนเพียงผู้เดียว             พอสวมปราการป้องกันเรียบร้อยแล้ว เฮียปราบยื่นนิ้วไปผลักร่างเปลือยขาวผ่อง ลงไปนอนหงายกลางเตียงเช่นเดิม แล้วตัวเขาก้าวพรวดขึ้นไปคร่อม กระชากข้อเท้าของหล่อนดึงเข้าหาตัวอย่างเร็วรี่ กระแทกท่อนแกร่งเข้าตรงช่องทางหวามที่หยาดฉ่ำ อย่างไม่ปรานีเท่าไหร่ เพราะเขารู้ว่าลีลาอย่างอาเหมย คงไม่ใช่ครั้งแรกของการมีเซ็กซ์ เวทีร่วมกับเขาไม่ใช่เวทีแรกของหล่อน             ครั้นพอเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เฮียปราบกระทั้นตัวเป็นจังหวะรุนแรง เถื่อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สะโพกเขาขยับเข้าทางอาเหมยต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน             “โอ้วววว แรงดีเหลือเกินเฮียปราบ อีกค่ะ เหมยต้องการเฮียปราบ เหมยต้องการ” หล่อนทำตัวเป็นกองเชียร์ให้กับนักกีฬาเข้าจังหวะให้ฮึกเหิม โจนทะยานรีบสาวแล้วสาวอีก จนกว่าจะถึงเส้นชัย             ส่วนนักกีฬานั้นเร่งเร้าตัวเองไม่หยุดยั้ง เขาไม่รู้ว่าอาเหมยอร่อยไม่อร่อย หากแต่เขาต้องการปลดปล่อยตัวเอง มากกว่าคิดอย่างอื่น ร่างกายร้อนเร่าไม่ต่างกับนอนอยู่บนกองไฟ เมื่อได้กระแทกกระทั้นตัวเองกับช่องหวามของอาเหมย ความร้อนคลายลงบ้าง หากแต่ไม่หมดมอดดับซะทีเดียว จนกว่าเขาจะหลั่งนั่นล่ะ             อาเหมยพลิกจังหวะมาเป็นคนเดินเกม ด้วยการนั่งบนตักแข็งแรงคนตัวใหญ่ จากนั้นหล่อนส่งสะโพกผายขึ้นลงตามจังหวะที่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง ลีลาหล่อนเด็ดดวง ทั้งส่ายสะบัดใบหน้า ทั้งยกมือบีบหน้าอกขนาดกระเปราะของตัวเอง อย่างเร้าอารมณ์ ส่วนอีกมือลูบลงไปตามหน้าท้องแล้วจับเนินเนื้อน้องสาวของตัวเอง ต่ำลงไปบดปลายนิ้วกับเกสรที่ไหวระริก ด้วยแรงปรารถนาอันหนักหน่วง             “อ๊า...เฮียปราบขา” หล่อนครางเสียงหลง หลงละเมอกับเซ็กซ์สุดยอด อันได้กำหนดลีลาด้วยตัวเอง             ปราบพิชิตวางฝ่ามือบนเอวคอด ช่วยหล่อนให้บรรลุความต้องการ เขาเด้งรับเด้งสู้กับหล่อนไม่หยุดหย่อน ไร้ซึ่งการพัก ไฟราคะโหมหนักขนาดนี้ ไม่มีทางที่เขาจะหยุดเกมลงกลางคัน คนที่โรมรันยังไร้ทีท่าหมดเรี่ยวหมดแรง ดังนั้นเขาผู้ชายที่แรงดีกว่าจะยอมได้อย่างไร             ชายหนุ่มจับแม่นางเหมยร่านสวาทพลิกนอนคว่ำ ดึงสะโพกหล่อนยกขึ้นให้กลายเป็นท่าหมาสี่ขา จากนั้นส่งผ่านความร้อนเข้าทางเดิม กระแทกท่อนแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่ง คนอย่างเฮียปราบท่ายากก็เยอะ ท่าง่ายนั้นไม่ใช่น้อย เพียงไม่กี่ท่าที่นำมาใช้กับเกมสวาทถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว จึงเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อร่างกายเขาบอกว่าสวรรค์มาเยือน             แม้จะมีหมวกครอบไว้หากแต่เฮียปราบ กลับชักท่อนแกร่งของตัวเองออกมา แล้วดึงหมวกนิรภัยออกโยนทิ้งลงข้างเตียง ชักความแกร่งลงบนหน้าท้องอาเหมยร้อนสวาทหลังจากที่เขาจับหล่อนหงายท้อง ลงไปนอนกับที่นอนนุ่ม ตอนนี้หน้าท้องอาเหมย ระบายไปด้วยคราบความใคร่ขาวข้น หล่อนใช้นิ้วละเลงเล่น อย่างสุขใจ ด้วยตนได้ผ่านไปบนท้องฟ้าแสนเวิ้งว้างอย่างสุขสม แล้วสุขกว่าเมื่อเห็นเฮียปราบพ่นคาวสวาทในตัวเขาใส่ร่างกายของหล่อน             “โอ้ว...” เขาทิ้งตัวลงนอนด้วยอาการเพลีย หากแต่พิษร้ายยังไม่หมดไปจากกาย เขาพร้อมโรมรันกับอาเหมย ร้อนสวาทคนนี้อีกหลายรอบ             “เฮียปราบเป็นสมบัติของเหมยได้มั้ยคะ” หล่อนคลานมานอนเคียงข้างกับเขา หลังจากดึงกระดาษชำระเนื้อนิ่ม เช็ดตามร่างกายจนหมดจดแล้ว             “คนอย่างเฮียปราบ ยังเป็นของใครไม่ได้หรอกจ๊ะ เหมยจ๋า” เขาพูดขณะดวงตาปิดรับแสงไปแล้ว ไม่จำเป็นที่เขาต้องพูดจาให้ความหวังกับผู้หญิง ที่ซั่มกันโดยไร้พื้นฐานความรัก เพราะคนอย่างเฮียปราบไม่ใช่เพิ่งผ่านผู้หญิงมาคนเดียว แต่เขาผ่านมามากกว่าที่อาเหมยคนนี้คิดนัก และเขาเองก็ไม่รู้ว่าหล่อนมีผัวมาแล้วกี่คน ก่อนจะมาพบกับเขา เพราะถ้าหากกล้าวางยาผู้ชาย ผู้หญิงคนนี้ย่อมไม่ธรรมดา             ดังนั้นคืนนี้เฮียปราบจึงสนองความประสงค์ ของอาเหมย อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อยาที่หล่อนผสมในเครื่องดื่มของเขา ไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ของมัน ศึกตะลุยเข้าถ้ำ จึงไม่ได้หยุดเพียงแค่ครั้งเดียว แต่กลับยาวนานต่อเนื่องถึงห้าครั้ง กระทั่งอาเหมยต้องร้องบอกให้เฮียปราบหยุด หยุด โปรดหยุดซะที             ปราบกลับบ้านในเวลาสายของวันใหม่ เขาไม่เข้าสำนักงาน ขืนเข้าไปในสภาพอย่างกับซอมบี้ คงได้ถูกคนงาน หรือแม้แต่เลขาจับสังเกตแน่ ยัยเหมยตัวแสบเอ้ย และป่านนี้หล่อนคงก้าวลงจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ เจอศึกใหญ่เสียขนาดนั้น ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร กล้ามาล้วงคออนาคอนด้าอย่างเขาต้องเจอไม้ตายแบบนี้             “หนูหยีเอ้ย ไปเก็บผ้าในห้องคุณปราบลงมาซักหน่อยสิ” ป้าหวินเรียกหญิงสาวที่นั่งเหม่อมองแต่โทรศัพท์ในมือ ไม่กระดิกไปไหนอยู่นานแล้ว คงรอคอยบิดาอยู่เป็นแน่ คิดแล้วก็น่าสงสาร อยู่ในอาการจ้องมองทางแบบนี้ตั้งแต่วันที่มาแล้ว ถ้าไม่ให้หญิงสางฟุ้งซ่านกับการรอคอยบิดา คงต้องหาอะไรให้ทำเพื่อจะได้ไม่ว่าง คงเป็นการดีที่สุด             “อ๋อ ได้ค่ะป้าหวิน” หญิงสาวรับปากโดยไม่ได้คิดอะไร แม้การเดินขึ้นไปบนชั้นสองของคฤหาสน์หลังนี้ ยังเหม่อลอย คิดถึงแต่บิดาและการร่ำเรียนของตัวเอง เธออยากไปเรียน อยากเก็บหน่วยกิจให้จบ อีกสองสัปดาห์จะสอบแล้ว เธอจะทำอย่างไรดี อยากไปเรียนเหลือเกิน อยากจบจะได้หางานดีๆ ทำ อย่างน้อยก็มีรายได้ มาดูแลตัวเอง และดูแลบิดา             หญิงสาวสาวเท้าเดินขึ้นไปตามบันไดโค้งหินอ่อน ซี่ลูกกรงก็เป็นหินอ่อนเช่นเดียวกัน ป้าหวินบอกว่าห้องคุณปราบอยู่ตรงกลาง ด้านขวา ตายจริงบ้านหลังนี้ มีห้องหับมากมาย ขนาดนี้เชียวเหรอ เท่าที่มองดู น่าจะเกินสิบห้อง แล้วห้องคุณปราบของป้าหวินคือห้องไหนล่ะเนี่ย ยอดหยาหยีเดินนับห้องทางปีกขวา ห้องตรงกลางก็ต้องเป็นห้องที่ห้า หญิงสาวคิดคำนวณเสร็จสรรพในใจจึงก้าวไปหน้าห้องๆ หนึ่ง             “ห้องนี้ล่ะวะ” ยอดยาหยีตัดสินใจในการจะเคาะประตู เชื่อว่าตัวเองคำนวณไม่ผิด หากจำคำป้าหวินได้ ช่วงนี้ตัวเองค่อนข้างเบลอ รู้ตัวด้วยว่าเบลอ แต่ทำอย่างไรได้มีเรื่องให้ขบคิด แล้วคิดหาจุดสิ้นสุดไม่ได้เสียด้วย บิดาไม่ติดต่อมา เพื่อนๆ หลายคนโทร.มาตามให้ไปเรียน เธอเองบอกความจำเป็นไม่ได้เต็มปากอย่างที่อยากบอก             หลังจากเคาะประตูสองสามครั้ง เสียงด้านในเอ่ยอนุญาตแบบคล้ายคนยังง่วงงุนอยู่ หญิงสาวจึงตัดสินใจหมุนลูกบิด แล้วก้าวเข้าไปในห้อง 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD