ตอน 1

1552 Words
ณ สนามบินสุวรรณภูมิเวลานี้คราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างคนต่างมีจุดหมายของตัวเอง เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารโดยประชาสัมพันธ์เสียงแพทเทิร์นเดียวกับห้างฯ ทั่วประเทศดังโดยไม่ขาดระยะ รวมทั้งประกาศอื่นๆ  ผู้คนจ๊อกแจ๊กจอแจ วรกาลหญิงสาวหน้าตาดีครบคุณสมบัติสาวสวย ทั้งบุคลิกหน้าตาท่วงท่า ผมยาวถึงกลางหลังดำขลับไม่แต่งแต้มด้วยสารเคมีเช่นสาวสมัยใหม่วัยเดียวกัน เธอยืนร่ำลาบิดามารดา อยู่ตรงที่พักผู้โดยสาร  “ให้กาลไปเถอะค่ะแม่ ขืนกาลอยู่กาลคงคิดอะไรบ้าๆ” วรกาลสาวน้อยผู้กำลังจะจากลาเมืองไทยไปที่ไหนสักแห่ง กล่าวกับมารดาด้วยหัวใจร้าวราน พิศใบหน้ามารดาด้วยความอาลัย การจากไปครั้งนี้มีคราบน้ำตาติดหัวใจไปด้วย ไม่ มันไม่ใช่การหนีปัญหา เพียงแต่หาทางออกให้กับหัวใจบอบช้ำ เธอจำต้องเลือกเพราะมันจะทำให้เธอลืมใครบางคนที่โหดร้ายต่อหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอ “ให้ลูกไปเถอะคุณ จากเมืองไทยไปสักพัก คงจะดีขึ้น แต่....พ่อขอนะยัยกาล แค่สักพัก ไม่ใช่หายไปเลย” บิดาของวรกาลกล่าว พร้อมโอบไหล่บุตรสาวซึ่งดวงตาฉายแววเศร้าสร้อย จนบิดาจำยอมให้เธอจากอ้อมอกแม่ด้วยความจำใจ หากขืนปล่อยให้บุตรสาวเห็นภาพบาดตา ผู้เป็นพ่อเป็นแม่เองจะทุกข์แทน เรื่องบางเรื่องปล่อยให้ห่างกันทุกอย่างอาจจะดีขึ้น  “ค่ะพ่อ กาล....จะพยายาม” เธอกลืนความช้ำอึกใหญ่ ก่อนจะบอกบิดาด้วยความลำบากใจ เธอรู้ดีว่าตอนนี้หัวจิตหัวใจของเธอมันช่างบอบบาง ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะสัญญาอะไรกับใครได้ “พ่อกับแม่เข้าใจว่ากาลรู้สึกอย่างไร แต่อย่าลืมนะต่อให้ใครๆ ในโลกไม่รักกาล พ่อกับแม่รักกาลไม่ว่ากาลจะสุข โศกเศร้าสักปานใดก็ตาม” บิดากล่าวต่อ พร้อมเขย่าหัวไหล่บุตรสาวผู้ช้ำรักเบามือ เพื่อให้กำลังใจ “ใช่จ้ะลูก พักผ่อนให้สบายใจ  ลืมทุกอย่างให้หมด แล้วกลับมาหาพ่อกับแม่ และยัยแก้มใส รายนั้นถ้าตื่นขึ้นมาคงร้องหาแม่กาลแน่ๆ”  นางคนึงนิตย์กล่าวถึงหลานตัวน้อย ซึ่งยังไม่ตื่นตอนที่ทั้งสามออกจากบ้าน “ ฝากดูแลยัยแก้มใสด้วยนะคะแม่  อยู่ติดกับกาลตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลก กาลหายไปคงทำใจยาก”  กล่าวถึงลูกสาวตัวน้อยซึ่งติดคุณแม่กาลยิ่งกว่าตังเมเสียอีก    “ท่านผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางไปประเทศฮ่องกง เที่ยวบินที่ TG xxx  กรุณามาขึ้นเครื่องที่ช่องทางออกหมายเลข xx ด้วยค่ะ”  “แม่คะ พ่อคะ กาลต้องไปแล้วค่ะ” วรกาลฟังประกาศจากเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ซึ่งมันสามารถเรียกสติเธอได้ดีทีเดียว การเดินทางของเธอคืบคลานเข้ามาถึงจนวินาทีสุดท้าย เธอคงต้องไปแล้วสินะ หวังว่าทุกอย่างมันคงดีขึ้นและดีมากขึ้นตามลำดับ นั่นคือความคิดในแว้บแรก  “จ้ะ อย่าลืมนะลูก พ่อกับแม่รักลูกเสมอ แม้ว่าใครจะไม่รัก” นางคนึงนิตย์บอกลาด้วยประโยคสุดท้าย  แม้รู้เต็มอกว่าบุตรสาวกำลังหนีหัวใจช้ำรัก และย้ำประโยคสุดท้ายว่ารักอีกครั้ง พร้อมทั้งโบกมือร่ำลาบุตรสาวด้วยความอาลัยรัก คุณกรณรงค์ตบไหล่ภรรยาเบาๆ ให้คลายห่วงบุตรสาว “บ๊ายบาย ค่ะพ่อ ดูแลแม่และน้องแก้มใสดีๆ นะคะ” กล่าวจบ วรกาลก็พาร่างสูงโปร่ง ใบหน้างดงามแววตาเปี่ยมไปด้วยความหม่น ลาจากบิดามารดาไปตามช่องทางออก ผ่านผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ โดยไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะเป็นอย่างไร  พงษ์ระพีเป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนมากมาย ซึ่งเดินผ่านหญิงสาวในเส้นทางตรงข้าม เธอไปเขากลับ แต่ด้วยสัญชาตญาณเพลย์บอยมักส่งประกาย เมื่อปะทะเข้ากับสาวสวยสะดุดตา เพียงเสี้ยวเวลา ก็ทำให้คนที่ชีวิตไม่เคยขาดหญิงสาวเช่นเขา หันไปมองเธอจนสุดสายตา ขณะที่เธอไม่ได้สนใจมองเขา  “สวย” คำเพ้อเหม่อลอย หลุดออกจากริมฝีปากหนาได้รูปของเขาอย่างไม่ได้สติ ขณะที่ยังเหม่อ เสียงเรียกจากเพื่อนรัก ก็ลอยเข้ามาปลุกเขาให้หลุดออกจากภวังค์ “อาร์ม ทางนี้โว้ย”  อณวัฒน์ตะโกนเรียกเพื่อนรักผ่านผู้คนมากมาย แต่ดูเหมือนคนถูกเรียกไม่ค่อยใส่ใจ เสียงเรียกซึ่งผ่านมากระทบหูสักเท่าไหร่ “ไอ้อาร์มๆ” อณวัฒน์ยังคงเรียก เมื่อผู้ถูกเรียกเข็นรถโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเขาแม้เพียงนิด จนต้องก้าวออกไปประชิดตัวตบเบาๆ ที่บ่ากว้าง ที่เข็นรถเข็นกระเป๋าของสนามบิน  เหลียวซ้ายแลขวา ราวกับพบคนรู้จัก “เฮ้ย เหม่ออะไรวะไอ้เสือ” อณวัฒน์จ้องหน้าเจ้าเล่ห์ของคนที่ไม่สนใจเสียงเรียกของเขา  “เหม่อไร ไม่เหม่อ แล้วนี่ใครแจ๋ไปบอกแกวะ ว่าฉันกลับวันนี้” พงษ์ระพีต่อว่าเพื่อนรัก ที่เป็นเพื่อนร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่อนุบาล เนื่องจากบ้านของทั้งสองหนุ่มอยู่ติดกัน ร่วมใช้รั้วเดียวกันมาช้านาน  “ทำไมวะ แกกลัวฉันจะเห็นว่าแกควงแหม่มมาหรือวะ” อณวัฒน์กระทุ้งตรงประเด็น  “ฉันไปทำงานไม่ได้ไปหาเมีย และนี่ฉันก็ไปแค่อาทิตย์เดียว จะมีเวลาที่ไหนหาแหม่ม กระทั่งพากลับมาเมืองไทยวะ” พงษ์ระพีต่อว่าเพื่อน ที่มักรู้ทันเรื่องผู้หญิงเขาไปซะหมด “อย่างแกห้านาทีก็หาคู่นอนได้แล้ว ไม่ต้องถึงอาทิตย์หรอกว่ะ”  รู้ไส้รู้พุงขนาดนี้เชียว     “เกินไปแก ฉันไม่ได้มั่วขนาดที่คว้าใครก็คว้านะเว้ย” เขาค้านทั้งที่ขัดกับความจริง  “เออๆ ให้มันจริงเถอะวะ ฉันเห็นย่ำราตรีทีไรแม่ง...จบลงที่เตียงทุกที” อณวัฒน์ล้ออีกครั้ง ในขณะที่เดินไปยังรถยุโรปสีดำเงาวับคันหรูคู่ใจ เหมาะสมกับฐานะนักธุรกิจ ระหว่างทางทั้งสองหนุ่มคุยกันสัพเพเหระ รวมทั้งเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อตกลงธุรกิจครั้งนี้ของพงษ์ระพี ระหว่างพงษ์ระพีและอณวัฒน์เป็นทั้งเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน หลังจากเรียนจบทั้งปริญญาตรีและยาวไปถึงปริญญาโท ทั้งสองก็ตัดสินใจร่วมหุ้นกันก่อตั้งบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในทั่วราชอาณาจักร กระทั่งกิจการเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จัก และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ได้รับบริการทุกราย  เขาสองคนคือคู่บัดดี้ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กระทั่งเรื่องความรัก เรื่องอิสตรี ทั้งสองก็ไม่เคยขาดหญิงสาว คู่ควงข้างกาย พงษ์ระพีคือหนุ่มเนื้อหอมอันดับต้นๆ ควงผู้หญิงออกงานไม่ซ้ำหน้า  “เจอไอ้แดนบ้างหรือเปล่าวะ” พงษ์ระพีถามขึ้น เพราะเบื่อจะคุยเรื่องธุรกิจ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์เขาต้องเจรจาเรื่องธุรกิจทุกวัน “เจอสิวะ เมื่อคืนยังไปร้านมันมาเลย” แดนที่สองหนุ่มกล่าวถึง คือเพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยเรียนปริญญาตรี เป็นเจ้าของผับดังย่านท่องราตรีแหล่งวัยรุ่นพลุกพล่าน “มหา มันออกจากวัดยังวะ” พงษ์ระพีไม่ลืมผู้ทรงศีลประจำกลุ่ม ซึ่งวันๆ เอาแต่เทศนาเพื่อนในยามที่เพื่อนในกลุ่มออกนอกลู่นอกทาง หากไม่มีใครเชื่อในคำเทศนาของสิทธิโชคหรือมหา เพื่อนๆ จึงตั้งฉายาให้เขาว่ามหา “มันก็เข้าๆ ออกๆ นั่นแหละ ฉันไม่มีเวลาสนใจมันเท่าไหร่ เซ็งมันว่ะ เวลามันเห็นฉันควงผู้หญิงคนใหม่มันก็จะบอกว่า มันบาปนะวัฒน์ ไม่รักไม่ชอบอย่าไปหลอกเขาเลย”  “แล้วแกว่าไงวะ” พงษ์ระพียิ้มถามอารมณ์ดี ได้แต่นึกถึงเรื่องราวประมาณเดียวกัน คิดแล้วชวนให้หวิวหัวใจ   “จะว่าไงวะ ฉันก็บอกมันไปสิวะ ไอ้มหาเอ๊ย ผู้หญิงน่ะเกิดมาคู่กับผู้ชาย ทุกวันนี้ผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชาย  เพราะผู้ชายมันหันไปชอบกันเอง 10% เป็นตุ๊ด 50% แอ๊บอีก 10% ผู้ชายแท้ๆ อย่างพวกเรามันเหลืออีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์เอง ฉันต้องทำหน้าที่ผู้ชายที่เหลือให้ดีที่สุด” อณวัฒน์บอกเพื่อนรักด้วยความอารมณ์ดี ในสไตล์ความคิดของผู้ชายเจ้าชู้ “มันว่าไงวะ มันคงสาธุ” คำว่าสาธุทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน ทำให้ภายในรถถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะแทนเสียงเพลงจากเครื่องเสียงในรถยนต์ราคาแพง “ว่าแต่ คืนนี้เอาไงวะ” คำถามเจ้าเล่ห์รู้ใจกัน   “ท่องราตรี....แล้วแกไม่ต้องแวะไปหาสาวในฮาเร็มหรือวะ พ่อคาสโนว่า” อณวัฒน์ถามขึ้นอย่างรู้ทัน     “ไม่เห็นจะยาก รับไปด้วยสิวะ” เขานึกถึงผิวขาวเนียนสะอาดและความร้อนแรงของขิง คู่ควงไฮโซคนล่าสุดของเขา ซึ่งพบกันโดยบังเอิญก่อนหน้าเดินทางไปดูงานต่างประเทศ  “คืนนี้ใครวะ” อณวัฒน์ถามเมื่อจ้องหน้าเพื่อนแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้าต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD