บทที่ 3 ตอนที่ 1

1462 Words
“ฮิ้วว...โอ...ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส...มองเห็นกางเกงใน...ลอยอยู่ใน...ทะเล...” “อีบ้า!กางเกงในที่ไหน กูไม่เห็นมันใส่...” ฉันกับมารีนั่งขำทับทิมกับแก้วร้องเพลงแซวบรรดาหนุ่มชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในทะเล พวกเรามาถึงที่นี่เกือบค่ำ จัดการเอาข้าวของไปเก็บในห้องพักซึ่งจองไว้ก่อนหน้าแล้ว จากนั้นก็มานั่งรับลมยามเย็นย่ำแถวๆ หน้ารีสอร์ตนี่แหละ “คืนนี้เอาไงดี...ปาร์ตี้ริมทะเล ไปแดนซ์มันๆ กันในผับ หรือปิ้งย่างหน้าห้องพักนี่แหละ กินลม...โชมมมมมผู้ชาย” เสียงทับทิมเอ่ยปากถามความเห็นของทุกคน ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบเชิงจะเอายังไงก็ได้ แก้วกับมารีก็เช่นกัน กลายเป็นว่าทับทิมเป็นหัวเรือใหญ่ในการตัดสินใจครั้งนี้ โดยมีพวกเราสามคนพลอยเห็นด้วยกับความคิดของทับทิม “งั้นเอางี้...เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวกันแล้วไปหาอะไรกินกันก่อนนะ นั่งฟังเพลงสบายๆ ชิลล์ๆ แล้วค่อยไปปาร์ตี้ชายหาดกัน ดึกๆ นะมึง!!เหยื่อเพียบ!”ทับทิมทำหน้าทำตาเอาจริงเอาจังจนน่าขัน “เออ...แล้วแต่มึงเลย...ว่าแต่เลิกส่องผู้ชายเหอะกูชักหิว น้ำน่ะค่อยกลับมาอาบเหอะหาร้านชิลล์ๆ สั่งอะไรมากินรองท้องกันเลยไหม จากนั้นจะปาตงปาร์ตี้ก็ค่อยว่ากัน” “ว่างั้นก็ดี กูยิ่งมองยิ่งหิว เอ๊ย! ยิ่งอยู่นานยิ่งหิว...” มารีเห็นด้วยกับฉัน เราลุกขึ้นปัดเศษทรายเศษฝุ่นออกจากตัวแล้วก็เตรียมตัวไปเดินเล่นในตลาดนัด ซึ่งเป็นกิจวัตรไปเสียแล้วในทุกครั้งที่มาที่นี่ เพื่อนๆ ของฉันเดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อย แซวผู้ชายบ้าง วางแผนเรื่องของกินกันบ้างแต่ไม่เป็นกิจจะลักษณะ เรามาแบบชิลล์ๆ ไม่เคร่งเครียดเรื่องแพลนแบบจริงจัง วันนี้ฉันดูเงียบกว่าใครๆ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างให้คิด... คิด...ถึงเขา คนที่ทำได้เพียงแตะต้องสัมผัสแต่ครอบครองไม่ได้ คิด...ถึงเขา เมื่อเห็นคู่รักหลายคู่พากันเดินจูงมือพูดคุยหัวร่อ หรือแม้แต่ช่วยกันเลือกซื้อของ มองหาร้านอาหารดินเนอร์หวานๆ ฉันเหรอ...ไม่เคยมีโมเมนต์นั้นสักครั้งตลอดเวลาที่คบหากัน สักครั้ง...ก็ไม่มี พี่เพิร์ทบันดาลให้แต่เงิน อยากได้อะไรขอให้ออกปาก อยากไปไหนขอให้เอ่ย เขาจะหยิบยื่นค่าใช้จ่ายให้ สำหรับคนอย่างฉันที่เขามีให้และได้อยู่ด้วยกันคือห้องในคอนโดและที่ทำงาน...วันไหนว่างก็จะไปรับไปส่ง...แค่นั้นจริงๆ บางห้วงอารมณ์ ความดำมืดก็เข้าครอบงำจิตใจให้อยากได้ใคร่ดีครอบครองในตัวพี่เพิร์ท อยากให้เป็นเหมือนคู่รักทั่วๆ ไป ที่เขาสามารถไปไหนมาไหนด้วยกันได้ ทำอะไรๆ ด้วยกันโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนรอบข้าง อยากเป็นตัวจริง...เป็นคนสำคัญในชีวิตของเขา แต่ความจริงก็มักตบหน้าฉันอยู่เสมอว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อให้มีสักวันที่พี่เพิร์ทจะเลิกรากับภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งเขาบอกว่าคงสถานะเอาไว้เพื่อลูกที่ป่วยเป็นลูคีเมียก็ตาม พี่เพิร์ทก็ไม่มีทางหอบหิ้วผู้หญิงที่เคยมีสถานภาพอย่างฉันมาอุ้มชูในสังคมของเขาหรอก เพราะรอบๆ ตัวเขามีผู้หญิงที่เพียบพร้อมดีๆ มากมายก้าวเข้ามาในชีวิตให้เลือก “มาพัทยาเนี่ยดีเนอะ เปิดหูเปิดตาแม่ง!กูนี่วารีดำเนินเป็นเกลียวคลื่นเชียว...” “ถุย!ทำมาเป็นทับศัพท์ ดีออก...กระโปรงเปียกแล้วนั่น” ทับทิมกับแก้วยังกัดกันไม่เลิก พลบค่ำวันนี้อากาศค่อนข้างดีมาก มีลมเย็นๆ โชยพัด ไม่ร้อนและไม่เย็นยะเยือกจนเกินไป เราเดินจากที่พักมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดนัดเคหะ ตลาดนัดขึ้นชื่อของที่นี่ ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ สองข้างทางมีของหลากหลายวางจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ทั้งอาหารนานาชนิดและเครื่องใช้อุปโภคหลากหลาย “คนมีคู่ไม่รู้หรอก...ดูๆ เยาะเย้ยกูกันจั๊ง!!” ความอิจฉาตาร้อนของทับทิมไม่มีสิ้นสุด มันมองทุกคู่หนุ่มสาวแล้วทำหน้าทำตาราวจะเข้าไปกัดเขาอย่างนั้นแหละ “ฉีดยามายังมึง...” ฉันถาม “กูดื้อยา!” “เออ...กูถึงว่ายาฆ่าหญ้ายังเอาไม่อยู่” “ฮ่า ๆ” แก้วกับมารีหัวเราะลั่นกับคำสัพยอกของฉัน ส่วนไอ้ทับทิมน่ะเหรอหันมาเหลือบมองฉันเสียตาเขียวแทนการโลมเลียผู้ชายไปแล้ว “เฮ้ย!!” มารีที่เดินนำหน้าเคี้ยวขนมตุ้ยๆ หยุดกะทันหันทำเอาพวกเราทั้งสามต้องชะงักไปด้วย “ตื่นเต้นอีกแล้วมึง...กูยิ่งหลอนเรื่องเมื่อตอนขามาอยู่ด้วย ดูๆ ดูทำหน้าเข้าเห็นอีเจี๊ยบฟีเจอริ่งกับจ่าพิชิตเหรอมึง” ทับทิมยังปล่อยมุกฮาไม่เลิกเพราะมันมองแต่หน้าเหวอๆ ของมารี ส่วนฉัน...เห็นและรู้แล้วถึงสิ่งที่เกิดขึ้น “คุณเพิร์ท...” แก้วอุทาน เสียงของมันเรียกให้ทับทิมหันไปมองเบื้องหน้าอีกคน คราวนี้ต่างก็พากันเงียบยืนอึ้งกิมกี่กันอยู่อย่างนั้น โดยเฉพาะ...ตัวฉันเองภาพที่พวกเราเห็นคือพี่เพิร์ทกับผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งกำลังเกาะแขนเกี่ยวควงกันเดินเลือกซื้อของด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่ง ฉันรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว มึนงงชั่วขณะก่อนจะสลัดความโหวงเหวงนั้นให้หลุดพ้นและสะกิดเพื่อนๆ ให้เดินไปอีกทางทั้งที่ตัวเองแทบจะก้าวขาไม่ออก “เขารู้ไหมว่ามึงมาพัทยา” “ไม่รู้...กูไม่ได้บอก แค่บอกว่าไปต่างจังหวัด” ฉันตอบมารีเสียงสั่นพยายามปรับดีกรีความปวดหนึบในหัวใจแต่มันก็ยังไม่เป็นปกติเสียทีเดียว พวกเราหันหลังเดินกลับทางเดิมและเลี้ยวขวาไปตามอีกเส้นทางหนึ่งด้วยความรวดเร็วเพื่อหนีคนทั้งคู่ที่อาจจะเดินตรงเข้ามาในไม่ช้า กระนั้นภาพของพี่เพิร์ทและผู้หญิงคนนั้นกลับติดฝังลึก สองคนเดินคลอเคลียกะหนุงกะหนิงราวกับเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามัน มันช่างทิ่มแทงฉันเหลือเกินเมื่อนึกย้อนกลับไปแล้วพบว่า ฉัน...ไม่เคยได้มีโอกาสแบบนี้สักครั้ง และหากเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายความรู้สึกมันก็คงไม่แหลกลาญถึงเพียงนี้ เพราะฉันจำได้และรู้ดีว่าผู้หญิงสวยชุดดำที่มาด้วยนั้น...ไม่ใช่ ดังนั้น...เธอคนนั้นก็มีสถานะไม่ได้ต่างจากฉัน เพียงแค่...การแสดงออกของพี่เพิร์ทที่มีต่อเจ้าหล่อนบ่งบอกถึงความสำคัญที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง “มึงไหวไหมโอลีฟ...” “กูไหว...” ฉันลดความเร็วของเท้าลงเมื่อเห็นว่าห่างมาพอสมควรแล้ว และมันคงไม่เกิดความบังเอิญซ้ำให้ต้องพบเห็นคนทั้งสองอีก ขณะนั้นสายตาฉันแทบมองไม่เห็นอะไรอีกเลย ทุกอย่างเลื่อนลอย วูบวาบปลาบหวิวไปตามอารมณ์ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะฉันก็รู้ดีทุกอย่างอย่างถ่องแท้อยู่แล้ว ฉันไม่ใช่คนที่ใช่...พี่เพิร์ทมีผู้หญิงที่เขาเลี้ยงดูเหมือนๆ กันอยู่หลายต่อหลายคน แม้เขาจะไม่เคยปริปากพูด ฉันไม่เคยเห็นคาตาตัวเอง แต่ฉันก็รู้...และวันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมากับการเผชิญหน้าความเป็นจริงเหมือนหนีเสือมาเจอจระเข้ หรือนี่จะเป็นเวรกรรมของผู้หญิงบาปหนาเช่นฉัน... “กูหิวแล้วว่ะ เราไปจากที่นี่กันเถอะหาร้านนั่งสั่งอะไรมากินดีกว่า” มารีดึงสติฉันด้วยการจับมือเบาๆ และเสนอความคิดขึ้นมา “เออ...ไป...” ทุกคนเห็นพ้อง สำหรับฉัน...ตอนนี้หัวเสียไปหมดแล้ว จับต้นชนปลายไม่ถูก สถานภาพที่เคว้งคว้างอยู่แล้วมาเจอแบบนี้เข้าไปอีก บอกตรงๆ แม้จะรู้จุดยืนของตัวเองดีแต่เป็นใครก็รับไม่ได้ เพราะสำหรับฉัน...หัวใจของฉันมีแค่เขาเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิต “ว้าย!!” “เฮ้ย!โอลีฟ!!” ตุ้บ!!ความเจ็บตรงก้นซึ่งเกิดจากการล้มลงกระแทกพื้นส่งผลทำให้ฉันจุก เพราะความรีบและไม่มีสมาธิมองอะไรทั้งนั้นทำให้ฉันเดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังและเป็นผลให้ฉันกระเด็นก้นจ้ำเบ้าเช่นนี้ ความระบมนั้นจางหายไร้ความรู้สึกไปโดยพลันเมื่อสายตาแหงนเงยขึ้นมามองเห็นคู่กรณี...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD