กลับบ้านกับคนที่ชอบ

2180 Words
ห้างสรรพสินค้า... เดินมาตั้งนานเพิ่งได้ของแค่5อย่างเอง รายการที่แม่เขียนให้ฉันมีตั้ง12รายการ ฉันเดินหยิบของใส่ตะกร้าพร้อมกับเดินดูนู้นนี่นั่นไปพรางๆ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงของที่แม่สั่งก็วางอยู่บนรถเข็ญเรียบร้อยแล้ว “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้เรื่องครีมพวกนี้ไหม”ชายคนหนึ่งทักขึ้นขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน “เอ่อ...”ฉันอึ้งมากเมื่อเงยหน้าขึ้นไปเจอเอพริล ใช่คนตรงหน้าฉันคือเอพริล “ว่าไงครับ...ไม่สะดวกไม่เป็นไร^^” “อ๋อ...แล้วคุณต้องการแบบไหนล่ะคะ” “ครีมกันแดดน่ะ” “ถ้างั้นต้องลองอันนี้ค่ะ เพราะป้องกันยูวีได้ถึง3เท่า ไม่ระคายเคืองผิวเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวค่ะ”ฉันหยิบครีมกันแดดยี่ห้อหนึ่งขึ้นมานำเสนอรายละเอียดให้เขาฟังประหนึ่งว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างไงอย่างงั้น “ขอบคุณมากนะ^^”เอพริลรับครีมกันแดดที่ฉันยื่นให้ ก่อนที่จะเอ่ยคำขอบคุณพร้อมรอยยิ้มมาให้ฉัน “ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันขอตัวนะ”ฉันรีบเดินออกมาจากแถบเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวผู้หญิงมาที่เคาน์เตอร์แทน หลังจากที่คิดตังเสร็จฉันก็เดินออกมารอแท็กซี่ที่หน้าห้างสรรพสินค้า จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นเงาของแท็กซี่สักคันเดียว แถมเวลาตอนนี้ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้วด้วย อากาศก็เย็นยะเยือก รถที่ผ่านไปมาก็เริ่มน้อยลงเข้าไปทุกทีแล้ว คราวนี้ฉันจะกลับบ้านยังไงล่ะเนี้ย พรึบ!! แสงไฟจากรถคันหนึ่งสาดเข้ามาที่ใบหน้าของฉันทำให้ฉันต้องหลี่ตามองด้วยความสงสัย รถมินิคูเปอร์สีดำเงาจอดเทียบข้างทาง ดูเหมือนว่าคนในรถกำลังจะดับเครื่องยนต์ซะด้วย ไม่นานร่างสูงเจ้าของรถมินิคูเปอร์ก็เปิดประตูออกมา “เธอมาทำอะไรที่นี้มืดๆ”ซันถามด้วยใบหน้านิ่งไม่มีความรู้สึกใดๆ อยากจะรู้นักว่าคนอย่างเขาเคยยิ้มแย้มบ้างหรือเปล่า “มาซื้อของให้แม่น่ะ” “แล้วกลับยังไง” “รอแท็กซี่”เขาจะถามฉันทำไมเนี้ย “ขึ้นรถฉันสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่าเนี้ย “O.O” “ฉันบอกให้ขึ้นรถ กลับแท็กซี่ตอนนี้มันอันตราย” “อื้ม”และฉันก็ต้องเดินไปขึ้นรถ ตามที่เขาสั่ง ภายในรถมีแต่ความเงียบ ไม่มีใครเปิดปากพูดอะไรออกมาเลยจนฉันเริ่มอึดอัด จะมีก็แต่เสียงลมหายใจของฉันและเขาเท่านั้น จนเขาเป็นคนทำลายความเงียบเองด้วยคำถามว่า “บ้านเธออยู่ไหน”ถามทางอ่ะนะ “ตรงไปเรื่อยๆถึงแยกเลี้ยวซ้าย ตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกทีแล้วจะเห็นหมู่บ้านนายก็เลี้ยวเข้าไปเลย” ”อยู่หมู่บ้านใกล้ๆกับพอร์ชเลย” “อื้ม”ตลอดทางฉันก็เอาแต่ตั้งคำถามว่าควรจะบอกเขายังไงเรื่องแฟนของซัน “เธอ...มีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า”อยู่ๆซันก็ทักขึ้นจนฉันที่นั่งอยู่สะดุ้งโหยง บ้า! เขารู้ได้ไงเนี่ย “พูด...พูดอะไร...ไม่มีO_O”ฉันปฏิเสธ “แต่ฉันรู้ว่ามี เพราะสายตาเธอมันฟ้อง”เดาเก่งแบบนี้ ไม่เดาเอาเองเลยล่ะว่าฉันคิดอะไร “เอ่อ...ไม่มีจริงๆ...ขอบคุณนะที่มาส่ง”พอซันขับรถมาที่หน้าบ้านฉัน ฉันก็รีบบอกลาเขาเลย ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกเขาตอนนี้นี่นา ซันเหมือนจะเรียกฉันไว้แต่ฉันไม่ฟังเขาหรอกรีบลงจากรถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช้าวันต่อมา..... วันนี้ฉันไม่ต้องไปโรงเรียนเอง ฮูเล่เย้ๆ เพราะว่าวันนี้ฉันตื่นแต่เช้าฉันก็เลยได้นั่งรถเบนซ์มาโรงเรียนโดยคนขับรถคือพ่อฉันเองค่ะ วันนี้ชั่งเป็นเช้าที่สดใสมีความสุขเหลือเกินอีกอย่างฉันไม่อยากมาสายเพราะรู้ว่าต้องเจอกับนายซันซึ่งฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกอะไรเขาตอนนี้ ฉันรู้ว่าซันต้องกำลังสงสัยว่าฉันปิดบังอะไรเขา ยังไงเขาก็ต้องมาซักถามฉันแน่ๆ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงตื่นแต่เช้าเพื่อหลบหน้าเขาไงล่ะคะ “อีกสองอาทิตย์มาร์ชจะกลับมาจากฝรั่งเศสแล้วนะ”พ่อบอกกับฉันก่อนที่ฉันจะลงจากรถ “จริงหรอคะพี่มาร์ชจะมาหรอ”สงสัยกันใช่ไหมล่ะคะว่ามาร์ชคือใคร พี่ชายฉันเองค่ะเขาไปเรียนที่ฝรั่งเศสเพราะพ่อให้ไปช่วยลุงบริหารงานที่นั่นฉันล่ะอิจฉาที่พี่มาร์ชได้ไปต่างประเทศซึ่งฉันก็ฝันอยากจะไปเหมือนกันแต่พ่อบอกว่าให้ฉันเรียนให้จบก่อนแล้วพ่อจะพาไปที่นั่นและหาทำเลขยายธุรกิจอีกสาขาหนึ่ง “ใช่ลูก...ลงไปได้แล้วเดี๋ยวพ่อไปทำงานสาย”พ่อไล่ฉันลงจากรถ อะไรเนี่ย ชวนคุยแล้วยังมาไล่ลงจากรถอีก มาเช้านอกจากอากาศจะดีแล้วเนี้ยที่ลานน้ำพุหลังโรงเรียนยังสงบเงียบหน้าอ่านหนังสือนิยายเสียจริง ระหว่างที่รอเพื่อนฉันก็ใช้เวลานี้หยิบหนังสือนิยายสุดโปรดปรานขึ้นมาอ่านหนังสือรงหนังสือเรียนหรอฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะอ่านมันเลย แค่คิดก็เวียนหัวจะแย่แล้ว นอกจากใกล้สอบ ฉันถึงจะรีบอ่านเท่านั้นตอนนี้ขอพักสมองด้วยการอ่านหนังสือบรรเทิงก่อนนะ “มิวๆ...มีคนส่งมาให้”หัวหน้าห้องเรียนของฉันยื่นการ์ดพร้อมกับกุหลาบขาวหนึ่งดอกมาให้ เอ๊ะคราวนี้ทำไมมีดอกไม้ด้วยล่ะ “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร จำไว้ว่าเจ้าของจดหมายนี้คือคนที่ไม่คาดคิดและนี่ดอกไม้สำหรับเธอ”ฉันอ่านกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆนั่น คนที่ไม่คาดคิดงั้นหรอใครกันล่ะเนี้ย “แหม...นั่งอ่านหนังสือนิยายน้ำเน่าอยู่นี่เอง”>น้ำขิง “ว่าแต่ฉัน แกก็อ่านเหมือนกันแหละ เล่มที่แล้วยังไม่คืนฉันเลยนะ-_-”ฉันบ่นยัยน้ำขิง “โอ๊ย...รู้หรอกน่าฉันไม่เอาของเธอไปขายหรอก-_-!” “แต่เรื่องนี้พระเอกเด็ดมากเลยแก เป็นมาเฟียด้วยแถมหล่อกระชากใจฉันสุดๆเลยอ่ะ^^” “จริงดิ งั้นฉันขอยืมไปอ่านต่อนะ”>น้ำขิง “อะไรกันเนี้ยพวกเธอ อย่าบอกนะว่าพูดถึงนิยายน้ำเน่าของพวกเธออีกเนี้ย”>พิกเล็ทที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยขึ้น “เหลือแต่ปาร์ตี้สินะ”>ฉัน “ทำไมวันนี้มาเช้าได้ล่ะ”>พิกเล็ทถามฉัน “ตื่นเช้าไง-_-” “ปกติคาบแรกถึงจะมาโรงเรียน”>น้ำขิงเสริม “ก็ฉันไม่อยากเจอนายซัน...อุ๊บ!O.O”ไม่ทันแล้วมิว เธอหลุดปากออกไปแล้ว “มีอะไรปิดบังพวกฉัน เล่ามาให้หมด”>พิกเล็ทจับพิรุธฉันได้ พร้อมกับชี้นิ้วอย่างจับผิด “ไม่มีนี่O0O” “อย่าโกหกเลย แกโกหกไม่เนียนเลยรู้มั้ย”>น้ำขิง “แต่ฉันไม่ได้โกหกนี่นาพวกแกอย่าถามฉันเลยนะ-_-!!”ลำบากใจชะมัด “นี่แกเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่าเนี้ย-_-”>พิกเล็ทดึงดราม่า “โอเคๆเล่าก็เล่า-_-” และสุดท้ายฉันก็ต้องยอมจำนนเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้เพื่อนของฉันฟังว่าทำไมฉันถึงต้องหลบหน้าซัน และฉันก็ยังเล่าให้ยัยเพื่อนสองคนนี้ฟังด้วยว่านาเดียวางแผนที่จะทำให้วงซีเคร็ตของพอร์ชล่มอีกด้วย “ฉันว่าแกไปบอกเขาเถอะ เชื่อฉันอย่าหลบหน้าซันเลย”>นี่คือคำแนะนำของพิกเล็ท “เธอคิดว่าคนอย่างนายนั่นจะเชื่อฉันหรอ-_-” “ก็ถ้าแกไม่บอก แกจะรู้ไหมว่าเขาจะเชื่อแกหรือเปล่า”>น้ำขิงเอ่ยขึ้นบ้าง เอ๊ะหรือว่าฉันจะไปบอกความจริงกับเขาดีล่ะ แล้วเขาจะหาว่าฉันใส่ร้ายแฟนเขาหรือเปล่านะ โอ๊ยยิ่งคิดฉันก็ยิ่งปวดหัวมันใช่เรื่องของฉันซะเมื่อไหร่ ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าทำเพื่อพอร์ชล่ะก็ฉันไม่บอกนายหรอก เอาล่ะเอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะบอกเขาก็แล้วกัน ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้นค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน “พอร์ช...เห็นซันไหม”หลังเลิกเรียนฉันก็เดินมาที่ห้องซ้อมดนตรีของซีเคร็ตโค้ดเพื่อที่จะมาบอกความจริงที่ฉันเก็บงำเอาไว้มาบอกซันให้เขาตาสว่างสักที คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจะได้ไม่เดือดร้อนเพียงเพราะเขาคนเดียว “ไม่เห็นอ่ะสงสัยกลับบ้านไปกับนาเดียแล้วมั้ง มิวมีอะไรกับมันหรอเดี๋ยวเราบอกให้^^” “อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกงั้นฉันกลับบ้านก่อน^_^;;” “เดี๋ยวสิ”พอร์ชเรียกให้ฉันหยุดก่อนที่ฉันจะคว้าลูกบิดประตูให้เปิดออก “ห๊ะ^_^;;”ฉันจึงรีบหันกลับไปมองพอร์ชด้วยรอยยิ้ม “กลับด้วยกันนะ^^”จริงหรอเนี้ย หูไม่ฝาดใช่ไหม นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม พอร์ชชวนฉันกลับบ้านด้วยอ่ะเขินเป็นบ้าเลย^///^ แล้วใครเขาจะกล้าปฏิเสธได้ล่ะเนี้ย “อ่ะ...อื้ม^///^”ฉันยิ้มอย่างเขินๆแต่เขาคงไม่สังเกตเห็นมันหรอกใช่ไหม นี่เป็นวันแรกที่พอร์ชเอ่ยปากชวนฉันกลับบ้าน ฉันดีใจเป็นที่สุดจนลืมเรื่องสำคัญที่จะบอกนายซันนั่นเลยด้วยซ้ำ ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเดี๋ยวค่อยบอกก็ได้อีกตั้งสองอาทิตย์นี่นา บอกพรุ่งนี้ก็ยังไม่สายหรอก เขาไม่อยู่เองทำไมล่ะคนอุตส่าห์ตั้งใจจะมาบอกวันนี้นายก็ดันกลับบ้านไปกับนาเดียซะก่อน “มิว...”พอร์ชเรียกชื่อฉันหลังจากที่เราสองคนขึ้นมาอยู่บนรถเมล์แล้ว “ห๊ะ^^?” “เธอกลับบ้านเวลานี้ทุกวันเลยหรือเปล่า” “ประมาณนี้แหละ^^” “งั้นต่อไปเรากลับด้วยกันนะ^^”ห๊ะ!! มิวนี่แกฝันไปหรือเปล่าเนี้ย อ๊ายพอร์ชชวนฉันกลับบ้านด้วยถ้านี่เป็นฝันจริงๆขอไม่ตื่นดีกว่านะ โอกาศทองแบบนี้มีหรอที่ฉันจะปฏิเสธ^///^ “ได้สิ^///^” “เอ๊ะ...ฉันว่าแอร์ก็ออกจะเย็นฉ่ำนะทำไมเธอหน้าแดงล่ะ”ว๊าย!! ตายแล้วนี่ฉันเขินจนออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยหรอเนี้ยไม่ได้นะยัยมิว แกจะให้เขารู้ว่าแกชอบไม่ได้เด็ดขาดไม่อย่างงั้นแกจะไม่ได้รับโอกาศดีๆที่ได้ใกล้ชิดกับพอร์ชแน่ “เอ่อ...อ๋อสงสัยว่าฉันจะไม่สบายน่ะโดนแอร์มากเลยหน้าแดง^_^;;”ฉันแก้ตัว ถึงแม้ว่านี่จะเป็นความคิดที่โง่แต่ฉันก็ไม่รู้นี่นาว่าจะแก้ตัวยังไงนอกจากจะพูดแบบนี้ (คนบ้าอะไรไม่สบายแล้วหน้าแดง) “งั้นเดี๋ยวฉันปรับแอร์ให้นะ โดนเธอมากไม่ได้เพราะเธอไม่สบาย”พูดจบพอร์ชก็ปรับแอร์ให้หันไปทางเขา นี่เขาเป็นห่วงฉันหรอ^///^เขินจะตายอยู่แล้ว พอร์ชนอกจากจะหล่อแล้วยังมีจิตใจงามอีกด้วย พอร์ชฉันเกิดมาเพื่อได้รักนายมันคุ้มจริงๆถึงแม้ว่านายจะไม่ได้รักฉันแต่มันก็คุ้มที่ฉันได้รักนายนะ^_^; “ขอบใจนะพอร์ช^^” “ไม่เป็นไรแค่เนี้ยเล็กน้อยมาก^^”ละลายเลย รอยยิ้มนายมันเผาผลาญร่างฉันให้เป็นผุยผงหมดแล้วรู้ไว้ซะด้วย ฉันและพอร์ชนั่งไปซักพักแต่แล้วอยู่ๆก็มีคุณยายคนหนึ่งเดินมามองหาที่นั่งแต่บังเอิญว่าที่นั่งเต็มพอร์ชเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วให้คุณยายคนนั้นนั่งแทนที่เขาแทน สุภาพบุรุษมากพอร์ช “ขอบใจนะพ่อหนุ่ม^^”คุณยายกล่าวขอบคุณก่อนจะส่งยิ้มให้กับพอร์ชที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างปลื้มใจ คุณยายแย่งซีนหนูรู้ไหมว่าหนูรอโอกาศที่จะได้นั่งข้างๆพอร์ชมานานแค่ไหน แต่ไม่เป็นไรวันอื่นก็ยังมี “ครับคุณยาย^^”พอร์ชยิ้มตาหยีไปให้คุณยายอย่างจริงใจ พ่อเทพบุตร พ่อคนจิตใจอารีมีเมตตา เห้อ! แบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง “เอ่อ...ขอโทษค่ะคุณยายขอทางหน่อยค่ะ^_^”ฉันขอทางคุณยายเพื่อเตรียมตัวลง คุณยายจึงหลีกทางให้ฉัน “จะลงแล้วหรอ”>พอร์ชถาม “ใช่จะถึงแล้ว”ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ข้างๆพอร์ชแทน กลิ่นตัวเขาหอมจัง เขาเก็บใส่กระเป๋ากลับไปดมที่บ้านได้ไหม ติ๊ด!! พอร์ชกดกริ่งให้ฉันเพื่อเป็นสัญญาณให้คนขับจดป้ายต่อไป “บ๊ายบายมิว^^” “บ๊ายบายนะพอร์ช”ฉันโบกมือลาพอร์ช พร้อมกับส่งยิ้มกว้างๆไปให้เขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD