ตอนที่ 6.

1524 Words
“กรี๊ดดด ไอ้พ่อมดชั่ว เจ้าบังอาจมาก” นางภูติเอเลน่าพยายามทำลายลูกบอลแก้ว แต่พลังเวทย์ของนางไม่กล้าแกร่งพอจึงได้แต่บินชนผนังไปมาไม่ต่างจากแมลงที่ถูกขัง ส่วนพ่อมดหนุ่มยืนกอดอกหัวเราะขบขันท่าทางของนาง “เสียแรงเปล่าน่า เกราะแก้วของข้าสร้างจากพลังเวทย์ที่กล้าแกร่ง นางภูติชั้นต่ำอย่างเจ้าไม่มีทางทำลายได้” “ไอ้พ่อมดชั่ว ปล่อยข้าออกไปนะ” นางภูติเอเลน่ากรีดร้องเสียงแหลม รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาเมื่อนึกรู้ว่าพลังของตนอาจจะสู้พลังของพ่อมดตนนี้ไม่ไหว “หุบปากเสีย ข้าแสบหูไปหมดแล้วนะ กรีดร้องไปเจ้าก็หนีออกไปไม่ได้หรอก จงบอกข้ามาว่าผลึกมรกตอยู่ที่ใด” “ไม่ ข้าไม่มีทางบอกเจ้า” นางภูติสะบัดเสียงตอบเขา หยุดดิ้นรนหนีเมื่อรู้ดีว่านางหนีไม่พ้น พ่อมดคาไลน์จ้องใบหน้างดงามของนางนิ่งครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้าง “ข้ารู้แล้วว่าผลึกมรกตอยู่ที่ใด” เขาร่ายเวทย์ให้ลูกบอลแก้วเคลื่อนตัวลอยจากบริเวณนั้นไปยังยอดเขา อันเป็นที่ตั้งของต้นไม้แห่งภูติ เพราะได้อ่านความคิดของนางภูติเอเลน่าจนรู้ว่าผลึกมรกตถูกเก็บไว้ที่นั่น พ่อมดหนุ่มพาหัวหน้าภูติต้นไม้ไปหยุดใต้ต้นไม้แห่งภูติ เขายืนมองต้นไม้ลักษณะสูงมีกิ่งก้านสีมรกต บางกิ่งมีดอกขนาดใหญ่ห้อยลงมาลักษณะไม่ต่างจากต้นไม้แห่งชีวิตในดินแดนเวทมนตร์ ภายในดอกไม้คงเป็นนางภูติที่รอเวลากำเนิด ตรงกลางลำต้นมีผลึกมรกตติดอยู่ ส่องประกายสีเขียวสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ “ได้โปรดอย่าเอาผลึกไปเลย หากเจ้านำมันออกจากต้นไม้แห่งภูติ จะทำให้ต้นไม้ไม่อาจให้กำเนิดภูติต้นไม้ได้ พวกภูติต้นไม้ในดินแดนพฤกษาแห่งนี้ก็จะหลับใหลไม่ฟื้นจนกว่าผลึกมรกตจะกลับไปอยู่ที่เดิม” นางหัวหน้าภูติต้นไม้ลงทุนคุกเข่าอ้อนวอนขอความเห็นใจ ยอมบอกความลับของดินแดนพฤกษาให้อีกฝ่ายรู้หวังให้เห็นใจ แต่พ่อมดหนุ่มไม่อาจปล่อยให้ความเห็นใจทำให้หน้าที่บกพร่องได้ เขาต้องทำตามบัญชาของราชินีแม่มด “นางภูติ ข้าแค่ขอยืมผลึกมรกตเปิดประตูเท่านั้นไม่คิดยึดครอง” “ท่านคงไม่ยอมทำตามที่ข้าขอร้องใช่ไหม” นางภูติเอเลน่าถามเสียงอ่อนหมดหวัง พ่อมดหนุ่มพยักหน้ารับ “ใช่ ข้าต้องทำตามบัญชาของราชินีแม่มด เอาเถอะ หากข้าทำหน้าที่ของข้าสำเร็จแล้ว ข้าสัญญาว่าจะนำผลึกมาคืนให้พวกเจ้า” เขาให้สัญญากับนาง “ข้าคงไม่มีปัญญาขัดขวางท่าน ได้แต่หวังว่าท่านจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้” นางหัวหน้าภูติต้นไม้ถอนหายใจแรง ยอมรับว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจพ่อมดหนุ่มได้ ดินแดนพฤกษาคงเป็นดินแดนร้างเมื่อพวกภูติต้นไม้หลับใหลกันทั้งหมด “ไม่ต้องวิตก ข้าจะทำตามสัญญาแน่นอน” พ่อมดหนุ่มเดินมาแตะไหล่มนของนางภูติด้วยความเห็นใจ นางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ใบหน้างามเปื้อนคราบน้ำตาน่าสงสารนัก ทำให้คนมองใจอ่อนยวบใช้ปลายนิ้วป้ายคราบน้ำตาออกจากแก้มนวล “อย่าร้องไห้เลยนางภูติเอ๋ย... เราต่างมีหน้าต้องทำ ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว” เขาประคองร่างงามให้ลุกขึ้น “ข้าแค่เสียใจที่ไม่อาจปกป้องดินแดนของข้าได้” นางรำพึงเสียงแผ่ว “ข้าขอโทษที่ต้องทำเช่นนี้ แต่ข้ามีความจำเป็น” เขาเชยคางนางให้มองสบตา ยิ้มให้นางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “นางภูติคนงามเอ๋ย... ก่อนที่เจ้าจะหลับใหล ข้าจะทำให้เจ้านอนหลับฝันดี” ดวงตาสีนิลมองจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความกังขา เขาจะทำอะไรให้นางหลับฝันดี พ่อมดหนุ่มไม่ปล่อยให้นางภูติสาวสงสัยนาน เขาก้มลงมาประทับริมฝีปากกับเรียวปากอิ่มสีแดงสดของนางแล้วมอบจุมพิตแสนหวานให้นางสัมผัสทันที “อ๊ะ ท่านจะทำอะไรข้า อุ๊ย!” นางภูติสาวยืนนิ่งตกตะลึงกับการจู่โจมแสนหวานของพ่อมดหนุ่ม ริมฝีปากร้อนผ่าวแนบชิดริมฝีปากนุ่มของนางบดเคล้าอย่างเร่าร้อน จูบไซ้ดูดดึงริมฝีปากสาวจนนางร้องครางด้วยความตกใจเผยอริมฝีปากออก ทำให้เขามีโอกาสใช้ปลายลิ้นสอดไซ้เข้าไปในโพรงปากนุ่มแสนหวานของนาง พร้อมกับกวาดปลายลิ้นไปทั่วโพรงปากหวานฉ่ำ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดุนลิ้นเล็กราวกับหิวกระหาย กวาดต้อนความฉ่ำหวานกลับมาจนพอใจในรสหวานล้ำราวกับน้ำผึ้งป่า “อื้อ... ท่าน... อาซ์...” เสียงครางในลำคอสาวดังอืออา ร่างงามบิดตัวไปมาเมื่อถูกมือลูบโลมไปทั่วกายซึ่งบัดนี้เปลือยเปล่าด้วยถูกเวทย์เปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างจนสิ้น พ่อมดหนุ่มเองก็เปลือยกายเช่นเดียวกัน ในลูกบอลแก้ววิเศษถูกเนรมิตเตียงนุ่มบุผ้าขนสัตว์ขึ้นมา เขาพาร่างนางภูติสาวเอนกายลงบนเตียง ก่ายเกยร่างหนาเสียดสีบดเบียดกายแกร่งที่ชูชันกับดอกกุหลาบสาวที่เริ่มผลิน้ำหวานจนชุ่มฉ่ำ นางภูติเอเลน่ามีอายุมากที่สุดในบรรดาภูติต้นไม้จึงได้เป็นหัวหน้าภูติ และนางมีความงามมากกว่านางภูติต้นไม้ในดินแดนพฤกษาเช่นกัน พ่อมดหนุ่มทอดสายตามองกายสาวขาวผ่องอมชมพูราวกับผิวไข่มุก ยอดทรวงเม็ดกลมเล็กไม่ต่างกับเม็ดมุกสีหวาน ทรวงอวบกลมขนาดใหญ่ล้นมือที่กำลังกอบกุมคลึงเคล้นอย่างเมามันส์ เขาเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงกับความงามจนต้องขยับถอยห่างออกมาเพื่อจะได้กวาดตามองร่างงดงามนี้ให้ถ้วนทั่ว ทรวงสล้างใหญ่น่าฟัดด้วยขนาดมโหฬาร หน้าท้องแบนเรียบแต่เนินสาวกลับอวบอูมไร้เส้นขนปิดบัง ผิวสีชมพูเปล่งปลั่งราวกับเด็กแรกเกิด มือหนาสั่นระริกเมื่อลูบไล้ผิวนุ่มลงมายังเนินกุหลาบสีหวาน นางหลับตาด้วยความเอียงอาย น่ารักน่าใคร่จนเขาต้องก้มลงจูบริมฝีปากหนักๆ ก่อนจะลงมือสำรวจกายสาวให้สมใจปรารถนา ปลายนิ้วชี้กรีดไปแนวตามร่องสะดือไล่เรื่อยลงมาหาเกสรสาวสีชมพูเม็ดกระจิริด ค่อยคลี่กลีบผกางามให้แยกออก น้ำหวานไหลเยิ้มเคลือบกลีบสีชมพูสวยฉ่ำวาว ช่องทางสวรรค์ปิดสนิทบ่งบอกว่าไม่เคยมีชายใดได้ผ่านเข้าไปเชยชมถ้ำสวาทของนางมาก่อน ซึ่งพ่อมดหนุ่มคิดว่าตนเป็นชายคนแรกที่มีโอกาสได้เห็นความงามล้ำค่านี้ “อาซ์ งามมากนางภูติเอ๋ย... สมแล้วที่เจ้าเป็นหัวหน้าของเหล่านางภูติต้นไม้ ความงามของเจ้าแม่มดบางตนยังเทียบไม่ได้ ข้าโชคดีเหลือเกินที่ได้เสพสมกับเจ้า” พ่อมดหนุ่มครางกระหึ่มด้วยความดีใจ “เสพสม... ท่านจะเสพสมกับข้าหรือ...” นางภูติสาวลืมตาขึ้นมองพ่อมดหนุ่มด้วยแววตาวาวหวาน ริมฝีปากแย้มยิ้มละมุนตา นึกถึงสิ่งที่เขาจะมอบให้แล้วขนกายลุกชันขึ้นมาทันใด หวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา... นางกำเนิดมามีอายุขัยสองร้อยกว่าปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าภูติต้นไม้ต่อจากหัวหน้าภูติตนเดิม ร้อยกว่าปีก่อนนางได้พบกับผู้บุกรุกก็คือราชาพ่อมด เขาได้เข้ามาในอาณาเขตของภูติต้นไม้ ในตอนนั้นอาณาจักรภูติกับดินแดนแห่งเวทมนตร์ยังไม่ได้ทำพันธสัญญาต่อกัน ราชาพ่อมดได้บุกเข้ามาเพื่อจะนำผลึกมรกตผ่านทางไปยังปราสาทของราชินีภูติ แต่นางไม่ยอมมอบผลึกให้เขาโดยง่าย จึงถูกราชาพ่อมดสั่งสอนด้วยเวทมนตร์ที่เหนือกว่าจนถูกจับเป็นเชลย ครั้งนั้นนางถูกย่อร่างแล้วขังไว้ในตะเกียงแก้ว ราชาพ่อมดได้ลงทัณฑ์นางที่บังอาจต่อต้านพระองค์ด้วยการ... “นางภูติต้นไม้ เจ้าช่างบังอาจนัก ข้าจะลงทัณฑ์เจ้าด้วยการทำให้เจ้าร้องครวญครางจนไม่มีแรงส่งเสียงร้อง ก่อนที่เจ้าจะหลับใหลไป” ราชาพ่อมดประกาศก้อง ขณะมองนางภูติที่อยู่ในตะเกียงแก้วด้วยสายตาวาววับน่าเกรงขาม “ท่านจะทำอะไรข้า ได้โปรดเถิด อย่าทำอะไรข้าเลย ข้ากลัวแล้ว” นางภูติเอเลน่าหวาดกลัวมาก นางพยายามอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยเกรงว่าราชาพ่อมดจะฆ่านาง แต่อีกฝ่ายกลับใช้ไม้คฑาวิเศษโบกไปมาจนเกิดลำแสงสีทอง ลำแสงเวทมนตร์พุ่งไปยังดอกไม้ของต้นไม้แห่งภูติดอกหนึ่งซึ่งกำลังรอเวลาถือกำเนิดเป็นภูติตนใหม่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD