5
มันง่ายไป!
ร่างกายที่สะบัดไหว เด้งยกกระดกสะโพกขึ้นๆ ลงๆ ชวนลิ้มไล้ ประกบปากลงทาบฟัดพูเนื้ออวบปลิ้นให้เต็มปากกลับถูกผละออกห่าง สร้างความงุนงงในดวงหน้าทรมานเพราะความกระสันซ่าน
“เอาล่ะ จบการตรวจสอบสินค้า ฉันให้เธออยู่ในเกณฑ์ผ่าน ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปรอฉันที่หน้าโรงพยาบาล”
กายหนาหันหลังให้ราวกับไม่สนใจนุ่มเนื้อฉ่ำกับร่างงามที่เกร็งสั่นและทิ้งบั้นท้ายลงบนที่นอนอย่างอดสู
เพลงรัมภามองเห็นเขากำลังดึงถุงมือออกจากมืออย่างใจเย็น ก่อนร่างสูงจะลุกจากเตียงเดินไปหย่อนมันลงถังขยะตรงมุมห้อง เหมือนหัวใจที่ริ้วรอนของเธอถูกเขาทิ้งไปด้วย
“ฉันเกลียดคุณ”
เสียงที่กดเน้นแค่นออกมาทีละคำทำให้หมอหนุ่มหันกลับมา ปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างน่ารังเกียจในสายตาคนมอง
กันต์ธีร์กวาดมองเรือนร่างที่แอ่นอ้าเปลือยท่อนล่างด้วยสายตาโลมเลียกักขฬะสาสมใจ จงใจละเลียดโลมจากส่วนเนินสาวขึ้นไปด้านบนจนได้สบตาวาวๆ
“ก็ดี ยิ่งคนเกลียดกันมากๆ เวลากระโจนเข้าฟัดกันมันคงสะใจพิลึกนะว่ามั้ย โอ้ว... คิดแล้วฉันชักจะมีอารมณ์ขึ้นมาซะแล้วสิ จะเสียวขนาดไหนนะถ้าคนที่เกลียดกันอย่างเธอต้องมาส่ายร่อนอยู่บนตัวฉัน จูบฉัน และดูดเลียไอ้นั่นของฉัน”
หญิงสาวสะอึก หน้าชา พลิกตัวหนีสายตากักขฬะนั่นด้วยความคับแค้นและอดสูใจ รีบคว้ากางเกงมาสวมใส่ แต่ทว่าบางชิ้นกลับอยู่อีกฟากของเตียง
กันต์ธีร์เหมือนจะรู้ เขาเดินมาหยิบกางเกงในตัวจ้อย ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวมันเอาไว้ขณะที่ชูขึ้นแกว่งไกวในอากาศ
“อันนี้เธอไม่ต้องใส่”
“จะบ้ารึไง”
“อ๊ะๆ อย่าลืมสิเพลงรัมภา เวลานี้เธอเป็นของเล่นของฉัน แล้วฉันจะเล่นกับมันยังไงก็ได้”
เพลงรัมภากัดปากแน่น ส่งสายตาเคืองแค้นใส่ตาคม แบบนี้มันแกล้งฉีกหน้ากันชัดๆ เหมือนที่เขาแกล้งเธอเมื่อครู่
เพลงรัมภากัดปากแน่น ส่งสายตาเคืองแค้นใส่ตาคม แบบนี้มันแกล้งฉีกหน้ากันชัดๆ เหมือนที่เขาแกล้งเธอเมื่อครู่
เขาแกล้งให้เธอค้างเติ่งขณะที่แบะแบอ้าซ่ารอเขาอย่างผู้หญิงร่านสวาท
ตอนนี้เขาแกล้ง ทั้งที่รู้ว่า น้ำสวาทของเธอมันยังไหลรินเพราะอารมณ์ที่คั่งค้าง ถ้าขืนออกไปแบบนี้มีหวังมันต้องเลอะกางเกงให้คนอื่นๆ หัวเราะเยาะแน่นอน
“ห้องน้ำอยู่นั่น เธอคงไม่อยากออกไปทั้งที่สภาพเหมือน...” เขากวาดตาชนิดหนึ่งไปทั่วร่างงาม “ฟัดกับใครมา... ฉันอนุญาตให้เธอใช้ห้องน้ำได้ รึถ้า...เธอไม่อาย จะออกไปทั้งอย่างนั้น ฉันก็ตามใจ ไม่มีปัญหา”
ความร้อนที่อาบไปทั่วใบหน้ายังไม่เท่าไฟที่สุมใจ เพลงรัมภาทั้งโกรธทั้งอาย สะบัดหน้าพาตัวเองหนีเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับการกระแทกประตูปิดเต็มเหนี่ยว แต่ประตูที่ถูกทำไว้อย่างดี ทำให้มันเพียงดีดตัวกลับไปปิดงับลงเบาๆ เท่านั้น
ร่างบางถลันมายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ล้างมือ กระจกเงาบานใหญ่สะท้อนภาพความยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงของผมเผ้า ใบหน้าแดงก่ำกับดวงตาฉ่ำเพราะฤทธิ์ราคะสวาท มองตัวเองที่สะท้อนออกมาขอบตาสวยร้อนผ่าว...
ผู้ชายบ้า คนบ้านั่น ทำไมใจร้ายใจดำแบบนี้ การกระทำหยาบหยามเมื่อครู่บอกเธอได้ดี เธอในวันนี้ก็แค่ของเล่นที่เขาอยากจะหวนกลับมาเล่นอีกครั้ง
ทำไมนะ! ทำไม... ทำไมเธอต้องมาอ้อนวอนคนพรรค์นี้ด้วย
ภาพความทรมานของเพลงนาราผู้เป็นพี่สาวผุดขึ้นมาในสมอง เพลงนาราญาติเพียงหนึ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่กำลังป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมองจำต้องได้รับการผ่าตัดเร่งด่วน เธออยากช่วยพี่ แต่ความอดสูที่เกาะกินใจเพราะมัจจุราชใจร้าย คนที่เอื้อมมือมาหา ยื่นข้อเสนอเหมือนหวังดีให้ กำลังสร้างความอดสูในจิตใจเกินกว่าจะทนนิ่งยอมเป็นของเล่นของเขาได้อีกต่อไป...
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไล่ความคั่งค้างทางอารมณ์ที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกไป แม้จะยาก... เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา มีเลือดเนื้อ มีอารมณ์ มีความรักความต้องการและรู้สึกรู้สาต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น ไม่ใช่ก้อนกรวดก้อนหินที่ไม่รู้สึก สัมผัสจับต้องของกันต์ธีร์มีผลต่อเธอ แต่เธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นใหญ่เหนือชีวิตและจิตวิญญาณ
เพลงรัมภารีบจัดความเรียบร้อยให้ตัวเอง สวมใส่กางเกงทั้งที่ไม่มีชั้นใน หลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า เธอยังมีทางที่ไม่อยากเลือก แต่ตอนนี้เพื่อชีวิตของเพลงนารา เธอต้องทำมัน...
เมื่อไม่ยอมเป็นของเล่นของกันต์ธีร์ เธอก็ต้องขายทรัพย์สินเดียวที่พอมี...
ที่ซุกหัวนอนของเธอและเพลงนารานั่นเอง
กันต์ธีร์ปรายตามองใบหน้าเชิดด้วยความรั้นของหญิงสาว เขาซ่อนความพึงพอใจเอาไว้ภายใต้หน้ากากที่กำลังยิ้มเยาะนั่น
“ฉันมีงานอีกหน่อย ลงไปรอที่สวน”
เพลงรัมภาไม่ต้องเอ่ยปากถามให้ยากและลำบากใจ เธอเคยคุ้นกับอารมณ์ของชายหนุ่มมาก่อน ย่อมรู้ว่า เขาจะทำอะไรต่อไป แต่ครั้งนี้ เธอจะไม่ให้เขาสมหวัง
ดวงตาคู่งามปรายตามองสบตาคมกล้า
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
หรืออีกนัย เธอต้องรอจนกว่าเขาจะเตะถ่วงเวลาจนพอใจ ทำให้เธอสิ้นไร้จนแทบกลั้นใจตาย
“บางทีคุณก็มั่นใจอะไรผิดๆ นะคะ”
คิ้วเข้มขมวด หากริมฝีปากได้รูปยังมีรอยยิ้มระบาย ส่งให้ใบหน้าคมนั้นดูหล่อเหลาและเป็นมิตรอย่างไม่ควรเป็น
“ฉันมั่นใจในสิ่งที่ทำเสมอ แล้วมันก็ไม่พลาดด้วยสิ”
“ไม่แน่หรอก คนเคยพลาด มีหรือจะไม่พลาด”
“หมายความว่าไง”
“ไม่รู้สิคะ” เพลงรัมภาใส่จริตเท่าที่อายุยี่สิบแปดแบบเธอรู้จักมา กรีดยิ้ม ปรายตา ทำท่าว่ามั่นใจสุดฤทธิ์ทั้งที่ใจอกตรมขมไหม้ “ถึงฉันจะเสนอ แต่พอถูกสนองไม่ถูกใจ ฉันก็มีสิทธิ์คิดใหม่ อย่ามั่นใจนักคุณหมอ... ทุกวันนี้คุณป๋าสายเปย์เยอะเสียด้วยสิ บางทีอาจจะมีสักคนที่ฉันพอใจยอมเป็นตุ๊กตาบนเตียงก็ได้”
“จะบอกว่าเธอยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อทดสอบความร่านของตัวเองงั้นสิ”
“จะเป็นไรไปล่ะ จะขายทั้งทีก็ต้องหาที่ถูกใจหน่อย เมื่อก่อนแบให้ฟรีๆ ก็เคยแล้วนี่ จริงไหมคะ”
ถ้าจะมีเรื่องดีในชีวิตของเพลงรัมภาวันนี้ ก็คงเป็นสีหน้าบึ้งขึงเครียดของคนตรงหน้า เธอฉีกยิ้มหยัน ทิ้งสายตาประมาณว่า มองเด็กน้อยที่ไร้ความสามารถ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปด้วยท่าทางที่มั่นใจ
ในเมื่อในสายตาเขา เธอมันก็แค่ผู้หญิงเหลวแหลกเอาตัวเข้าแลกเพื่อสิ่งที่ต้องการ แล้วทำไมเธอต้องสนใจ แสดงท่าทางเป็นคนดีเพื่อให้เขาชื่นชมอย่างนั้นเหรอ กับคนพรรค์นั้น มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน!
กันต์ธีร์กำมือแน่นทั้งสองข้าง ดวงตาลุกโชนแสงจัดจ้า ขณะที่มองตามร่างบางลับหายออกไปจากประตูราวกับนางพญา ความฉุนเฉียวพวยพุ่งคับอก ก่อนดวงตาคมกริบจะหรี่ลง ความคิดในสมองกลั่นกรองอย่างมีระบบอีกครั้ง
ถ้าเธอคิดจะปั่นหัวเขาได้ก็ผิดแล้ว เพราะเขาต่างหากที่จะปั่นเธอให้หลอมละลาย มอดไหม้อยู่ใต้ร่างกายเขาเอง
ชายหนุ่มเดินไปคว้ากุญแจรถ ออกจากห้องมาสั่งงานเลขาหน้าห้อง
ดลฤดีไม่พูดมาก เป็นคนที่ไว้ใจได้ เขาจึงเลือกมาทำงานด้วย และเธอก็ทำงานกับเขานานที่สุดตอนนี้
“พรุ่งนี้คุณหมอไม่มีนัด ไม่มีเคสนะคะ”
นั่นเป็นเรื่องดีที่สุด เขารู้ตารางงานของตัวเอง แต่บางครั้งก็มีกรณีพิเศษเข้ามา
“ถ้ามีเรื่อง ตามผมได้ตลอดนะ”
“ทราบค่ะคุณหมอ”
ตอนนี้ เขามีเคสพิเศษที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน!!!