ข่าวดีจากวังอ๋องกับความแตกต่างระหว่างครรภ์ทั้งสอง

1520 Words
ที่ชายป่าท้ายวังที่ไม่ไกลจากตำหนักเล็กเท่าใดนักมักจะมีสองเงานัดพบกันเป็นประจำก่อนที่จะนำเรื่องราวที่พวกเขาได้สืบค้นรวมทั้งเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวังไปรายงานให้กับนายเหนือหัวของพวกเขาได้รับทราบ “พี่ใหญ่ท่านได้ความว่าอย่างไรบ้าง” เอ้อสงถามเสียงเบาคล้ายกับกลัวว่าใครจะมาได้ยิน “ข้าคิดว่าพระชายารองกำลังตั้งครรภ์เพราะอาการเหมือนท่านแม่ตอนท้องเจ้าไม่มีผิดแต่หลิวเยี่ยกลับมีลับลมคมในยิ่งนักจากการที่เขามาตรวจครั้งสุดท้าย เขามาพร้อมกับยาและของบำรุงครรภ์มากมายแต่ทำไมถึงปล่อยข่าวออกไปว่าชายารองป่วยหนักก็ไม่รู้ แล้วตำหนักซ้ายเล่ามีความคืบหน้าว่าอย่างไรบ้าง” อี้สงถามน้องชายบ้างพร้อมกับวิเคราะห์อย่างมีหลักการแม้แต่พระชายาหลินหลานและสาวใช้ยังปักใจเลยว่านางต้องตั้งครรภ์แน่ ๆ ทั้งที่พวกนางอายุก็น้อยนิดแต่หมอหลวงสกุลหลิวนี่สิที่น่ากังขานักรวมทั้งคนตำหนักซ้ายก็ด้วย รายงานครั้งนี้ทำให้เงาอย่างเขาคิดหนักไม่น้อยเพราะกลัวใจของนายเหนือหัวเหลือเกิน “พระชายาหลินกุ้ยฮวาก็ทรงตั้งครรภ์ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน พี่ใหญ่แน่ใจรึว่าพระชายาหลินหลานตั้งครรภ์จริง ๆ ไม่ได้ป่วยตามที่เขาเล่าลือ มันน่าแปลกนะชายารองตั้งครรภ์ทำไมจะต้องปิดบังและเหตุใดคนทั้งตำหนักใหญ่และตำหนักซ้ายถึงได้พากันพูดว่าพระองค์ป่วยกัน อีกอย่างข้าว่าคนที่ตำหนักซ้ายดูจะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเหมือนข้าได้รับข่าวสารแค่เรื่องที่พวกเขาอยากจะให้รู้เท่านั้นแล้วเรื่องนี้เราจะรายงานท่านอ๋องว่ายังไงดีละพี่ใหญ่” “หากเป็นอย่างที่เจ้าว่าก็ต้องรายงานตามที่รู้และที่เห็น” “เอ่อ..มันยังมีอีกเรื่อง ก่อนหน้านั้นข้าได้กลิ่นกำยานที่น่าจะเป็นของคนบางกลุ่ม” “แล้วทำไมเจ้าถึงเพิ่งมาบอกข้า!” อี้สงได้ยินสิ่งที่น้องชายบอกก็เกิดโมโหและขึ้นเสียงใส่ทันที “ก็ข้าไม่คิดว่าจะมีเรื่องแปลก ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นนี่นา แล้วจะเป็นยังไงหากเรารายงานท่านอ๋องตามที่พี่ใหญ่ว่ามันจะดีหรือ นั่นหวางเฟยเชียวนะท่านอ๋องก็ทั้งรักทั้งหวงยิ่งนัก พระองค์จะเชื่อเราอย่างนั้นหรือ” ผั๊วะ!!! “โอ้ย! ข้าพูดสิ่งใดผิดรึ?” เอ้อสงพูดจบแทนที่จะได้ยินคำตอบจากคนเป็นพี่แต่กลับได้รับฝ่ามือใหญ่ฟาดลงมาก่อนเสียนี่ ทำเอาคนน้องแทบหัวทิ่มทั้งมึนงงว่าเขาพูดสิ่งใดผิดไปรึยังไงกัน “เราร่วมเป็นร่วมตายกับท่านอ๋องมาตั้งครึ่งชีวิตพระองค์ไม่เคยใช้ความเสน่ห์หาตัดสินพระทัยเจ้าอย่าได้คิดแทนท่านอ๋องเชียว” อี้สงถึงจะดุด่าน้องชายออกไปแต่เขาก็หวั่นใจในตัวของเจ้านายไม่แพ้กัน เพราะตลอดสามปีที่ท่านอ๋องมีหวางเฟยอยู่ข้างกายพระองค์ก็ไม่เคยขัดใจชายาผู้นี้แม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาจะขอเดิมพันด้วยชีวิตและมันจะไม่เหมือนเดิมเพราะครั้งนี้มีทายาทของราชวงศ์จ้าวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หวังว่าท่านอ๋องคงจะไม่ปล่อยผ่านเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา “โธ่ หากไม่ใช้ความเสน่ห์หาตัดสินพระทัยแล้วที่เราต้องมาอยู่ที่นี่เล่าไม่ใช่เพราะท่านอ๋องตามใจหวางเฟยหรอกหรือ อ๊ะ..ห้ามตบข้าอีกนะ เกิดข้าความจำเสื่อมเลอะเลือนขึ้นมาท่านนั่นแหละจะลำบาก”เอ้อสงพูดพร้อมกับถอยกรูดออกไปไกลก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะฟาดลงมาอีกครั้ง “เหอะ! ข้าก็แค่หาคนมาแทนที่ไม่เห็นว่ามันจะลำบากตรงไหน” “ฮิ ฮิ พี่ใหญ่ข้าไม่พูดแล้วก็ได้ อันดับสองต้องเป็นข้าเท่านั้นห้ามให้ใครมาเทียบเคียง ท่านรีบไปรายงานท่านอ๋องเถอะเอ้อสงคนนี้จะเฝ้าตำหนักเล็กเอง ที่นี่น่าสนใจและน่าอยู่กว่าตำหนักทางโน้นเป็นไหน ๆ พี่ใหญ่ว่าไหม” “หึ ๆ ๆ ข้าไปล่ะ แล้วอย่าไปหลงเสน่ห์แม่นางน้อยเสี่ยวจูเข้าล่ะ” อี้สงบอกลาแล้วก็จากไปโดยไม่รอฟังคำพล่ามจากน้องชายอีกเลย “ทำไม ท่านหวงนางรึ คอยดูข้าจะฟ้องพี่สะใภ้” เอ้อสงว่าให้ไล่หลังพี่ชายพร้อมกับมองไปยังทิศทางของตำหนักเล็กอย่างสนอกสนใจ ค่ายบูรพา... อี้สงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้เป็นนายพร้อมกับรายงานความเป็นไปของวังอย่างไม่ขาดตกบกพร่องทั้งยังมีหมอโจวเฉินมาร่วมนั่งฟังอยู่เป็นสักขีพยานด้วยอีกคน ชินอ๋องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินว่าชายารักกำลังตั้งครรภ์และความสงสัยเรื่องของหมอหลวงสกุลหลิวก็ถูกปัดตกไปทันที จ้าวโม่หยางจึงคิดว่ากุ้ยฮวาจะต้องเป็นห่วงและหวงแหนครรภ์นี้มากเป็นพิเศษจนไม่อาจไว้ใจให้ผู้ใดมาดูแล นางจึงต้องการหมอหลวงที่เป็นคนของตนเพียงเท่านั้น “เจ้าได้ยินหรือไม่โจวเฉิน นางตั้งครรภ์แล้วกุ้ยฮวากำลังอุ้มท้องบุตรของข้า” “ได้ยิน..ก็นั่งฟังอยู่ด้วยกันและข้าก็มั่นใจด้วยว่าชายาอีกคนของเจ้าก็ตั้งครรภ์ไม่ได้ป่วยอย่างที่เขาลือกันแน่นอนหรือว่าเจ้าเชื่อคำเล่าลือนั่น” “ก็ไม่..นางตั้งครรภ์แล้วอย่างไรหรือข้าไม่สมควรดีใจกับบุตรที่จะเกิดมาเพราะความรักของข้ากับกุ้ยฮวาหรือยังไง ส่วนครรภ์ของหลินหลานมันคือความผิดพลาดที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเพราะข้าไม่เคยคิดแม้แต่จะร่วมหอกับนางด้วยซ้ำ” “แต่เด็กนั้นเลือกเกิดไม่ได้อย่างไรก็เลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะจะเกิดมาด้วยวิธีใดเขาก็ไม่มีความผิดหากท่านอ๋องจะเกลียดชังแม่ก็เกลียดไปสิ อ้อ..อีกอย่างยาห้ามครรภ์ก็มีทำไมไม่ให้นางกินหากไม่อยากให้นางมีลูก แล้วทำไมคนตำหนักซ้ายถึงต้องการปิดเรื่องนี้กับพระองค์ด้วยนะ” โจวเฉินพูดให้ได้คิดอีกครั้งเพราะเขาสุดจะทนกับความลำเอียงของสหายรักที่มีต่อครรภ์ทั้งสอง พูดกับชินอ๋องเสร็จเขาก็ค้อมศีรษะแล้วผลุนผลันจากไป เป็นสหายรักกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่เคยเลยที่หมอโจวจะมาพิธีรีตองกับชินอ๋องแบบนี้นอกเสียจากเวลาที่โมโหเท่านั้น ซึ่งก็คือตอนนี้นี่เอง “หึ ๆ ยังไม่ทันจะเป็นก้อนแป้งเจ้าก็มีลุงโจวเป็นพวกแล้วหรือ บิดาขอโทษก็ได้ที่พูดไม่ทันคิดแต่อย่าโกรธเคืองกันเลยนะที่กล่าวว่ามารดาของเจ้า” บ่นว่าให้กับธาตุอากาศไปแล้วชินอ๋องก็หันมาออกคำสั่งกับองครักษ์มือหนึ่งของตน “อี้สงต่อไปให้เจ้าคอยดูแลตำหนักเล็ก” คำสั่งของนายเหนือหัวทำให้องครักษณ์มือหนึ่งถึงกับมึนงงไปชั่วขณะเขาคิดว่าตัวเองฟังผิดไปแน่ ๆ มันเหนือความคาดหมายที่ชินอ๋องจะให้ความสำคัญกับคนในตำหนักเล็กเพราะคิดว่าท่านอ๋องจะต้องให้เขาไปคอยดูแลหวางเฟยที่กำลังตั้งครรภ์เสียอีก “เอ่อ...” พอจะอ้าปากถามก็ถูกคนเป็นนายขัดขึ้นเสียก่อน “สงสัยอะไร ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรอกหรือ ต่อไปหน้าที่ของเจ้าไม่ใช่แค่สอดส่องแต่ต้องดูแล ทำให้ดีล่ะหากเจ้าก้อนแป้งเป็นอะไรโจวเฉินเอาเจ้าตายแน่” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” องครักษ์มือหนึ่งรับคำสั่งแบบงง ๆ เพราะไม่คิดว่านายของตนจะให้ความสำคัญกับตำหนักเล็กขนาดนี้ และเขาก็ยังอยากจะถามท่านอ๋องอีกด้วยว่าบุตรของพระองค์ไปเกี่ยวข้องกับหมอโจวตรงไหนกัน “แล้วตำหนักซ้ายละพ่ะย่ะค่ะ” “ถอนคนของเราออกมาให้หมดเผื่อเจ้าของกลิ่นกำยานนั้นจะกลับมา ข้าก็อยากจะรู้ว่าจริงเท็จแล้วกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับวังของข้ากันแน่” เรื่องกลิ่นกำยานทำให้อ๋องหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ากำยานพวกนี้มีกลุ่มคนประเภทไหนที่ใช้บ้าง ‘กุ้ย ฮวาพี่หวังเหลือเกินว่าทั้งหมดจะเป็นเพียงการเข้าใจผิด ได้โปรดเถิดชายารักอย่าให้ข้าต้องผิดหวังและดีใจเก้อเลยนะ’ อ๋องหนุ่มเพียรภาวนาอยู่ในใจ ทีแรกเขาก็ดีใจมากที่ได้ยินว่าเมียรักตั้งครรภ์แต่ว่าความปรีดามันกลับไม่เต็มสิบส่วนอย่างที่ควรจะเป็น ทำไมกันนะ? เป็นครั้งแรกที่ชินอ๋องตั้งคำถามและไม่มั่นใจกับความรู้สึกที่มีต่อหวางเฟยของตน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD