ตกเย็นเราสองคนก็ลงจากเขาซึ่งท้องฟ้าก็มืดมิดตามกาลเวลา ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยที่พ่อเลี้ยงยืนหันหลังไม่มองเหมือนกับที่ฉันเองก็ไม่มองเขาตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า รถกระบะวิ่งเข้ามาจอดในไร่เห็นรถมินิคูเปอร์สีขาวจอดอยู่พร้อมร่างบอบบางที่นั่งคุยกับป้าศรีกำลังฉีกยิ้มให้กับพ่อเลี้ยงและรับไหว้ฉันที่ยกมือไหว้สวัสดีคุณดา
“สนุกกันไหมคะ? คราวหน้าถ้าไปชวนดาด้วยนะคะพ่อเลี้ยง”
“แน่นอนครับ”
“ป้าทำกับข้าวเตรียมไว้ให้แล้ว จะรับประทานกันเลยไหมคะ”
“เอ่อ บัวขอเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
“งั้นเราไปคุยเรื่องงานกันดีกว่าครับ เชิญครับ” พ่อเลี้ยงผายมือให้คุณดาเดินเข้าไปในบ้าน ฉันแอบได้ยินคำแซวจากปากคุณดาว่า ‘เหมือนพ่อพาลูกสาวไปเที่ยวเลยนะคะ’ พอได้ฟังก็รู้สึกหน่วงในใจ คนปกติมองฉันกับพ่อเลี้ยงมันต้องเป็นแบบนี้ล่ะเหมือนพ่อกับลูกมากกว่าคนอื่นที่มองไปในเชิงชู้สาว
“พ่อเลี้ยงกับคุณดาดูเหมาะสมกันดีนะคะคุณบัว”
“ใช่ค่ะ”
“ตอนนั้นถ้าพ่อเลี้ยงไม่เจอกับคุณเบญก่อน ป้าคงคิดว่าพ่อเลี้ยงจะแต่งกับคุณดาแล้ว”
“พวกเรารู้จักกันมานานแล้วเหรอคะ?” หันไปสบตากับป้าศรีที่พยักหน้ารับอย่างยิ้มๆ
“เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ป้าน่ะแก่แล้วค่ะดูออกว่าคุณดาคิดยังไงกับพ่อเลี้ยง ยิ่งพ่อเลี้ยงเลิกกับคุณเบญไปแบบนี้ ป้ายิ่งเชียร์คุณดาสุดใจเลยค่ะ”
“...”
“ตอนสมัยเรียนจนถึงตอนนี้ก็คอยดูแลเอาใจใส่กันเสมอค่ะ ทั้งไร่ ทั้งฟาร์มแล้วก็ไร่ดอกไม้เมืองหนาวที่พ่อเลี้ยงจะทำทุกอย่างเลยนะคะ คุณดาก็เป็นเพื่อนคู่คิดแนะนำให้ค่ะ” แบบนี้เองสินะ พอฉันได้ฟังก็ระบายยิ้มออกมามองแผ่นหลังกว้างที่เดินเคียงคู่เข้าไปในบ้านกับคุณดา “ถ้าเป็นคุณดาป้าว่าชีวิตของพ่อเลี้ยงคงไม่เจอใครที่เหมือนคุณเบญแล้วค่ะ อุ๊ย! ป้าขอโทษนะคะคุณบัว”
“ไม่เป็นไรค่ะ แม่บัวก็ทำแบบนั้นจริงๆ นี่นา”
“เดี๋ยวป้าไปจัดโต๊ะก่อนนะคะ รีบอาบน้ำจะได้มาทานข้าวค่ะ”
“เอ่อ บัวขอทานกับป้าศรีในครัวได้ไหมคะ? ไม่อยากรบกวนการทำงานของพ่อเลี้ยงแล้วก็คุณดา” ฉันเรียกรั้งป้าศรีไว้ท่านก็พยักหน้ารับก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปด้านหลังครัว ส่วนฉันก็เดินเข้ามาในบ้านตัดผ่านโซนรับแขกก็เห็นพ่อเลี้ยงกับคุณดากำลังคุยเรื่องงานกันค่อนข้างซีเรียส ฉันก็เดินเข้ามาในห้องพลางทิ้งกระเป๋าผ้าลงบนพื้นจากนั้นก็นอนคว่ำกอดหมอนทอดสายตามองไปยังวิวที่มืดมิดด้านหน้า
‘พ่อเลี้ยงเลือกคุณดา เขาน่าจะมีความสุขหรือเปล่านะ? แต่คงจะมีความสุขมากแน่ๆ เพราะคุณดาเพียบพร้อมไปทุกอย่างเลยนี่นา’
และที่สำคัญพวกเขารู้จักกันมานานแล้วด้วย ความรู้สึกบางทีก็แปรเปลี่ยนกันได้นี่นา เหมือนที่พนักงานที่รีสอร์ทพูดนั่นแหละเด็กกะโปโลอย่างฉันไม่มีตรงไหนเหมาะสมกับพ่อเลี้ยงเลยสักนิด คุณดานี่ล่ะ... เหมาะกับพ่อเลี้ยงที่สุด ฉันหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าออกพลางเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ก้นบึ้งหัวใจ อย่าให้พ่อเลี้ยงรู้เลยว่าเธอเปลี่ยนไปนะบัว แบบนั้นจะมองหน้าพ่อเลี้ยงติดได้ยังไงกันล่ะ เขาอุตส่าห์อุปการะเธอยังกล้าไปหลงรักเขาอีก ก็พอจะเข้าใจผู้หญิงคนอื่นนะเพราะพ่อเลี้ยงเป็นคนดี มีเสน่ห์และที่สำคัญใจดีอีกต่างหาก ใครบ้างจะไม่หลงรักเขา เด็กอย่างฉันที่ไม่เคยคิดอะไรกับเขา พอได้ใกล้ชิดกันก็ดันรู้สึกจนได้ เกลียดตัวเองชะมัดเลย!
ฉันอาบน้ำและสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มสีดำออกจากห้อง จังหวะนั้นก็แอบมองพ่อเลี้ยงกับคุณดาที่คุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานมีความสุข หลงคิดมานานนะว่าตัวเองเป็นคนทำให้พ่อเลี้ยงยิ้มได้ ที่ไหนได้คุณดาต่างหากที่เป็นคนทำให้พ่อเลี้ยงสบายใจเวลาอยู่ด้วยกันและที่สำคัญเธอคงจะปลอบใจเขาเรื่องของแม่ฉันได้ดีกว่าฉันแน่นอน
“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะพ่อเลี้ยง”
“รอบัวก่อน”
“เดี๋ยวบัวไปทานในครัวกับป้าศรีค่ะ” ฉันเดินออกจากมุมหลังเสาพลางฉีกยิ้มให้กับพ่อเลี้ยงที่ขมวดคิ้วอย่างมึนงง
“ทำไม?”
“พ่อเลี้ยงจะได้คุยกับคุณดาเรื่องงานได้อย่างเต็มที่ไงคะ ไปกันค่ะป้าศรี”
“ดีเลยค่ะ ลุงโตไปข้างนอกป้าต้องกินข้าวคนเดียวด้วย”
“ป้าศรีเดี๋ยวช่วยจัดห้องให้คุณดาด้วยนะครับ คุณดาจะค้างที่นี่เพราะดึกแล้วผมไม่อยากให้เธอขับรถกลับ”
“ดากลับได้นะคะพ่อเลี้ยง” หันไปมองทั้งสองคนที่กำลังเถียงกันไปมาเรื่องที่พ่อเลี้ยงเป็นห่วงคุณดาไม่อยากให้ขับรถกลับเข้าไปในเมืองดึกๆ ดื่นๆ
“เชื่อผมเถอะครับ”
“ก็ได้ค่ะ ฉันเคยขัดอะไรพ่อเลี้ยงได้บ้างเนี่ย”
ฉันมองพวกเขาด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยม พอเห็นพ่อเลี้ยงยิ้มและลุกขึ้นไปยังโต๊ะทานอาหารที่ถ้าเป็นปกติฉันกับเขาคงได้กินข้าวร่วมโต๊ะกันสองคน แต่ตอนนี้มีคุณดามาอยู่ด้วยฉันก็ไม่อยากเป็นก้างขวางคอทั้งเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว หลังจากที่ฉันกินข้าวกับป้าศรีเรียบร้อยก็ขึ้นมาชั้นบนช่วยป้าศรีจัดแจงห้องที่อยู่ติดกับห้องของพ่อเลี้ยงเป็นห้องว่างนั่นแหละ
“คุณบัวมีไปไหนกับพ่อเลี้ยงหรือเปล่าคะพรุ่งนี้”
“ไม่มีนะคะ พ่อเลี้ยงคงไปดูที่ดินกับคุณดามั้งคะ ป้าศรีมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ป้าจะชวนคุณบัวไปในเมืองด้วยกัน ไปไหมคะเห็นว่ามีร้านใหม่ๆ มาเปิดเพียบเลย ป้าจะไปซื้อพวกของสดมาให้พ่อเลี้ยงด้วยน่ะค่ะ”
“ไปค่ะ” ฉันรีบตอบรับคำทันทีพลางสวมกอดป้าศรีอย่างตื่นเต้น
“เดี๋ยวถ้าใครปากมากเรื่องคุณบัว ป้าจะจัดการเองค่ะ ป้าชอบด่าคน ชอบมากสุดๆ” ถึงกับหลุดหัวเราะขณะจัดแจงที่นอนให้กับคุณดาเรียบร้อย “ตายจริง คุณบัวช่วยไปดูในครัวให้ป้าทีนะคะ ป้าต้มน้ำไว้จะชงชาให้พ่อเลี้ยงกับคุณดาน่ะค่ะ”
“ได้ค่ะ”
“ระวังด้วยนะคะ” พยักหน้ารับฉันก็รีบลงจากบันไดตรงเข้าไปในครัวเห็นกาต้มน้ำอยู่บนเตาแก๊สกำลังเดือดปุดๆ เลยจึงรีบปิดไฟก่อนอันดับแรกจากนั้นก็หยิบผ้าขี้ริ้วมาวางตรงที่จับ เทน้ำร้อนใส่เหยือกชาที่เตรียมเอาไว้แล้วหากแต่ว่าด้วยเพราะมันร้อนเกินไปจึงทำให้ไอร้อนกระจายโดนนิ้วโป้งฉัน
“ว้าย!”
“บัว เป็นอะไร?” ฉันตกใจที่เห็นพ่อเลี้ยงโผล่เข้ามาพร้อมกับคุณดาที่รีบวิ่งมาดูฉัน เอามือกุมตรงนิ้วโป้งที่เป็นรอยแดงก่อนที่พ่อเลี้ยงจะจับมือฉันไปดู “แดงเลย”
“ให้น้ำจากก๊อกไหลผ่านก่อนค่ะพ่อเลี้ยง จะได้ไม่เป็นตุ่มพอง”
“บะ บัวทำเองค่ะ” รีบชักมือตัวเองกลับจนพ่อเลี้ยงขมวดคิ้วอย่างมึนงง
“ฉันทำให้”
“บัวขอทำเองนะคะ” พูดจบก็เดินไปยังซิงค์ล้างจานจากนั้นก็เปิดน้ำให้ไหลผ่าน ก่อนที่คุณดาจะเดินมาช่วยฉันและใช้ปลายนิ้วโป้งลูบไล้ตรงผิวหนังตรงนั้น
“ไม่เป็นไรนะคะ ไม่น่าจะพองเพราะโดนแค่ไอร้อน”
“ขอบคุณค่ะคุณดา”
“เดี๋ยวทายาก็น่าจะดีขึ้น” ฉันพยักหน้ารับเหลือบสายตามองพ่อเลี้ยงที่ยืนกอดอกมองฉันด้วยสีหน้าบึ้งตึง แค่อยากเว้นระยะห่างก็แค่นั้นเอง ไม่อยากให้ใครต่อใครมองแล้วเข้าใจผิดอีก สำคัญคือคุณดาด้วยฉันไม่อยากให้เธอมองว่าฉันอ่อยพ่อเลี้ยงทั้งที่มันไม่ใช่ความจริง ความจริงคือฉันหลงรักพ่อเลี้ยงแต่ไม่เคยคิดจะทำหน้าที่ตรงนั้นแทนใคร ยิ่งพ่อเลี้ยงย้ำชัดว่าเราสองคนไม่มีวันมีความสัมพันธ์เชิงนั้นฉันก็ยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้นหรือเปล่า
“คุณบัว ป้าขอโทษนะคะ”
“ไม่ใช่ความผิดป้าศรีนะคะ บัวเองที่ไม่ระวัง” ป้าศรีนั่งทายาให้ฉันภายในห้องนอนหลังจากที่แยกย้ายกันเรียบร้อยในครัว ฉันก็กลับเข้ามาในห้องทันที “บัวอยากไปอยู่หอพัก แต่บัวไม่มีเงินมากพอ”
“ยังคิดเรื่องที่อีเจี๊ยบมันพูดอยู่เหรอคะ?”
“ค่ะ บัวไม่สบายใจเท่าไหร่เลย”
“พ่อเลี้ยงเป็นเจ้าของไร่นะคะ คุณบัวไม่จำเป็นต้องฟังเสียงของใครค่ะ พ่อเลี้ยงเอ็นดูคุณบัวขนาดนี้อยู่ที่นี่เถอะนะคะ ป้าปกป้องคุณบัวได้ค่ะ” สบตากับป้าศรีที่ทายาให้ฉันเรียบร้อย “คุณบัวเป็นความสดใสของไร่สิงหาเลยนะคะ”
“เดี๋ยวอีกหน่อยก็เป็นคุณดาค่ะ”
“ฮั่นแน่ แอบเชียร์คุณดากับพ่อเลี้ยงเหมือนป้าเลยใช่ไหมคะ?” ถึงจะไม่ได้อยากเชียร์ก็เถอะ แต่ทำยังไงได้ก็ต้องจับคู่ให้พ่อเลี้ยงกับคุณดา เพื่อที่เขาสองคนจะตกลงปลงใจกันและฉันจะได้ไปจากที่นี่ไง นี่ล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการขืนอยู่ที่ไร่มองพวกเขาสองคนรักกัน ฉันก็จะยิ่งเจ็บกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ถึงฉันจะโกหกไม่เก่ง แต่บอกเลยเรื่องเก็บความรู้สึกฉันเก่งมากเลยล่ะ
“บัวเป็นยังไงบ้างครับป้าศรี”
“พ่อเลี้ยง ไม่เป็นอะไรมากค่ะป้าทาว่านห่างจระเข้ให้ น่าจะดีขึ้นค่ะ” พ่อเลี้ยงยืนพิงขอบประตูพลางกอดอกมองฉันที่ฉีกยิ้มกว้างให้เขา
“บัวไม่เป็นไรค่ะ”
“พรุ่งนี้ป้าจะชวนคุณบัวไปในเมือง พ่อเลี้ยงอนุญาตไหมคะ?”
“ถามเจ้าตัวสิครับ”
“คุณบัวตกลงค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะใครพูดจาไม่ดีป้าศรีคนนี้จะจัดการแทนคุณบัวเองค่ะ”
“ป้าศรีรบกวนออกไปคุยเป็นเพื่อนคุณดาก่อนได้ไหมครับ ผมขอคุยธุระกับบัวสองคนก่อน”
“ได้ค่ะพ่อเลี้ยง” ป้าศรีออกจากห้องไปพร้อมประตูที่ปิดลงจนฉันทำอะไรไม่ถูก
“พ่อเลี้ยงมีอะไรจะคุยกับบัวเหรอคะ?”
“เธอเป็นอะไร ตั้งแต่กลับจากน้ำตก ทำไมดูห่างเหินกับฉัน”
“บัวเปล่านะคะ” ปฏิเสธทันทีก่อนที่ร่างสูงจะตรงเข้ามานั่งบนเตียงตรงข้ามฉัน พลางจับมือข้างที่โดนไอร้อนจากกาน้ำร้อนลวกจนเป็นรอยแดง “บัวแค่อยากทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง โดยไม่พึ่งพาพ่อเลี้ยง”
“พึ่งพาฉันแล้วมันทำไม? ฉันยอมให้เธอพึ่งพาฉันไปตลอดนะบัว”
“แต่สักวันพ่อเลี้ยงก็ต้องมีคนรัก พ่อเลี้ยงจะมาเป็นที่พึ่งให้บัวไม่ได้ตลอดหรอกนะคะ”
“...”
“ให้บัวได้โตเองเถอะนะคะ บัวขอ” อย่างน้อยเขาก็ตามใจฉันทุกเรื่อง ถ้าขอเรื่องนี้ยังไงพ่อเลี้ยงก็ต้องยอมตามใจฉันล่ะนะ ฉันเชื่อว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้เป็นคนใจร้ายกับฉันขนาดนั้น “บัวโตไม่ได้แน่ ถ้ายังพึ่งพาพ่อเลี้ยงอยู่แบบนี้”
“บอกมาก่อนว่าเธอเป็นอะไร?”
“บัวไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ” ถึงจะเป็นจริงก็เถอะนะ ต่อให้ต้องลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองก็ต้องทำ ฉันอยากเผื่อใจเอาไว้ในอนาคตที่ไม่มีเขาอยู่ข้างๆ กัน หวังคิดไปไกลว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันไปตลอด เห็นแก่ตัวขอไม่ให้พ่อเลี้ยงมีคนรักใหม่ ฉันเห็นแก่ตัวหลายอย่างมากจนอาจจะทำลายความสุขของพ่อเลี้ยงแบบไม่ได้ตั้งใจ
“ก็ได้ แต่ต้องไม่ทำตัวแบบนี้อีก ตกลงนะ”
“ตกลงค่ะ” ฉันส่งยิ้มดีใจไปให้เขา รับรู้ถึงฝ่ามือหนาที่เอื้อมมือมาประคองแก้มฉันอีกครั้ง
“ฉันอยากเห็นเธอยิ้มให้ฉันแบบนี้ไปทุกๆ วันนะบัว”
“...” แค่ยิ้มเองสินะ หวังมากกว่านั้นก็เป็นการหวังมากเกินตัวไป อย่างฉันน่ะเหมาะกับแบบนี้ที่สุด เหมาะที่จะยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็เพียงพอแล้ว
“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันอาจจะออกบ้านก่อนเธอ เดี๋ยววางเงินไว้หน้าทีวี”
“ไม่ต้องค่ะ ที่ให้บัวตอนนั้นยังมีอยู่”
“เอาเป็นว่าฉันให้ก็แค่รับไว้”
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมาก ฉันยังตามใจเธอได้เลย เพราะงั้นตามใจฉันบ้าง” พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้พ่อเลี้ยงจึงวางมือลงบนศีรษะฉันและลูบไล้เบาๆ เป็นความอบอุ่นในแบบที่ฉันชอบมากเลยล่ะ แต่ก็คงเก็บความรู้สึกเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจเท่านั้น “ไหนดูสิ เด็กดื้อทำอะไรไม่ระวัง”
“บัวระวังแล้ว”
ลอบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มหน้าลงเป่าลมออกจากริมฝีปากเบาๆ รดรินบนนิ้วโป้งที่โดนไอน้ำร้อนลวก ฉับพลันรอยยิ้มของฉันก็ผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก็ได้แค่หลงรักเขาเท่านั้นล่ะบัว... ให้เป็นมากกว่านั้น ไม่มีวันนั้นอยู่แล้ว
*-------------------------------------------*