หลงรักพ่อเลี้ยง :: CHAPTER 4 [50%]

1455 Words
หลงรักพ่อเลี้ยง :: ตอนที่ 4 “แซนวิชค่ะ บัวทำมาเผื่อว่าพ่อเลี้ยงจะหิว” “น่ากินมาก” “ทานเยอะๆ เลยนะคะ นี่น้ำผลไม้ค่ะ” ฉันเปิดกล่องแซนวิชที่ทำเองตั้งแต่เช้าให้กับพ่อเลี้ยงที่อยู่ในห้องทำงานของรีสอร์ทเพื่อรอเพื่อนของเขามาคุยธุระเรื่องจัดงานปาร์ตี้คุยธุรกิจที่ไร่ เมื่อเช้าฉันบังคับพ่อเลี้ยงด้วยล่ะเขาเองก็ตามใจฉันด้วยเรื่องการสวมรองเท้าแตะมาที่นี่แทนการสวมรองเท้าหนัง เพราะเท้าเขายังไม่หายดีไงฉันว่าต้องประคบกับนวดอีกสองสามวันก็คงจะดีขึ้น แต่ผู้ชายคนนี้ก็คือดื้อที่สุด “อร่อยไหมคะ?” “มีอะไรบ้างที่เธอทำไม่อร่อย” “มีค่ะ” “อะไร?” “ต้มบะหมี่” “บะหมี่สำเร็จรูปจะไม่อร่อยได้ไง” พ่อเลี้ยงทำหน้ามึนงงพลางกัดแซนวิชแฮมที่ฉันทำกับแซนวิชปูอัดมายองเนส,ไส้กรอกและสลัดผักด้วย “คืนนี้ลองทำให้กินหน่อยอยากรู้” “ไม่ดีนะคะบอกเลยว่าเพื่อนของบัวก็เคยบอกว่าบัวต้มบะหมี่ไม่อร่อยสุดๆ” “ไม่เชื่อ” “พ่อเลี้ยงต้องเชื่อค่ะ ถ้าไม่อยากอ้วกแตก” ฉันย่นจมูกใส่เขาที่อมยิ้มพลางเอื้อมมือมาบีบจมูกฉันจนจับมือเขาออก “บัวเจ็บนะคะ” “มันเขี้ยวซะจริงเด็กคนนี้ แค่ต้มบะหมี่จะไม่อร่อยได้ไง” “งั้นพ่อเลี้ยงก็ต้มให้บัวกินบ้างสิคะ สอนหน่อยบัวต้มไม่อร่อยจริงๆ” คนตรงหน้าเลิกคิ้วขึ้นพลางยิ้มขำ “ลองต้มให้ฉันกินก่อน ไม่อร่อยจริงเดี๋ยวฉันต้มให้กิน” “จริงนะคะ!” “ตื่นเต้นขนาดนั้นเชียว” “ก็พ่อเลี้ยงจะต้มบะหมี่ให้บัวกิน ไม่ตื่นเต้นได้ยังไงคะ” ดีใจและตื่นเต้นที่สุดเลยล่ะ พ่อเลี้ยงส่ายหน้าไปมาก่อนจะกัดแซนวิชและทำงานไปด้วย ฉันนั่งมองไปรอบๆ ห้องทำงานของพ่อเลี้ยงในรีสอร์ทพลางลุกขึ้นเดินดูรูปที่ถ่ายรีสอร์ทไว้ทุกตารางนิ้วรวมไปถึงรูปพนักงานหลายคน “ทำไมไม่เห็นมีรูปพ่อเลี้ยงเลย” “ฉันไม่ชอบถ่ายรูป” “ถึงว่าที่บ้านก็ไม่มีรูปพ่อเลี้ยงสักใบ” แม้แต่ในห้องของเขาเองก็ยังไม่มีรูปตัวเองติดเลย คิดดูว่าต้องไม่ชอบถ่ายรูปมากขนาดไหนอะ ฉันขยับมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและเอาแขนซ้อนบนโต๊ะเกยคางมองใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มหน้าเซ็นเอกสารพลางกัดแซนวิชไปด้วย “เบื่อหรือไง? ออกไปเดินเล่นที่สวนก็ได้นะ” “ไม่เบื่อค่ะ บัวอยากไปกับพ่อเลี้ยงไม่อยากไปคนเดียว” “โตแล้ว กลัวหลงทำไม” “บัวไม่ได้กลัวหลง แต่บัวอยากไปกับพ่อเลี้ยงจริงๆ นี่คะ” “เด็กหนอเด็ก” เขาเอื้อมมือมายีเส้นผมฉันที่มัดรวบไว้ตรงท้ายทอยจากนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ฉันหันไปมองพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้อง พร้อมถือถาดอะไรบางอย่างเข้ามาด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ แต่มองฉันพลางเบ้ปากใส่อีกต่างหาก “ดิฉันกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะหิวก็เลยเอาอาหารกับกาแฟมาให้ค่ะ” “ไม่เป็นไร” พ่อเลี้ยงปฏิเสธพลางชี้นิ้วมาที่กล่องแซนวิช “บัวทำแซนวิชมาให้ ฉันกินไปสองชิ้นอิ่มแล้ว” “เอ่อ...” “เธอเอาไปกินเถอะ แล้วก็ถ้าเพื่อนฉันมาก็ให้ไปรอที่ห้องรับรองได้เลย” เธอคนนี้หน้าเสียพลางมองค้อนฉันตาเหลือก ฉันผิดอะไรก่อนเนี่ย “เดี๋ยวก่อน” “พ่อเลี้ยงจะรับอาหารใช่ไหมคะ?” “หิวหรือเปล่า จะกินลองท้องก่อนก็ได้” “บัวรอกินพร้อมพ่อเลี้ยงตอนเที่ยงได้ค่ะ เมื่อเช้าบัวก็กินแซนวิชที่ตัวเองทำไปแล้ว” “แน่ใจนะ” “ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มกว้างให้กับพ่อเลี้ยงที่เอ่ยปากไล่พนักงานออกจากห้องทำงาน หล่อนหัวเสียเล็กน้อยหรือว่าจะชอบพ่อเลี้ยงกันแน่นะ ไม่เว้นแม้แต่พนักงานของรีสอร์ทเลยเหรอคิดว่ามีผู้หญิงคนอื่นมาตามตอแยพ่อเลี้ยงก็ว่าเยอะแล้ว ยังจะมีพนักงานที่นี่ด้วยเหรอไม่อยากจะเชื่อเลย “เซ็นเอกสารเสร็จ เดี๋ยวฉันพาไปเดินเล่นที่สวน” “พ่อเลี้ยงคะ” “ว่าไง?” “คือว่าถ้าเพื่อนของบัวจะมาเที่ยวที่ไร่ พ่อเลี้ยงอนุญาตไหมคะ?” “เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย” “ทั้งคู่เลยค่ะ” คำตอบของฉันทำให้พ่อเลี้ยงเงยหน้าจากเอกสารมาสบตากับฉันที่ระบายยิ้มให้เขา “ได้สิ” “ขอบคุณนะคะ” “อยู่มหาลัย มีเพื่อนผู้ชายเยอะหรือเปล่า?” พ่อเลี้ยงถามโดยไม่สบตากับฉัน แน่นอนก็ตอบไปตามความจริง “มีแค่จอมคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่นที่เป็นรุ่นพี่คณะอื่นมาชอบบัว แต่บัวไม่ได้สนใจหรอกค่ะบัวอยากเรียนให้จบ” “ดีแล้ว ตั้งใจเรียนก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน” ฉันพยักหน้ารับและจ้องหน้าพ่อเลี้ยงที่อ่านเอกสารเซ็นไปแล้วหลายต่อหลายเล่ม พอได้มองก็ยิ่งอยากมองเขาไปเรื่อยๆ จนเผลออมยิ้มออกมาคนเดียวเหมือนคนบ้า กระทั่งแฟ้มเอกสารปิดลงปากกาถูกเก็บเข้าปลอกเขาก็ลุกขึ้นมองฉันพลางพยักหน้ารับเชิงบอกว่า ‘ฉันเสร็จงานแล้วเด็กดื้อ’ “คุยธุระกับเพื่อนฉันเรียบร้อย ฉันมีที่ที่หนึ่งที่จะพาเธอไป” “ที่ไหนเหรอคะ?” “ที่ดินที่ฉันเตรียมทำดอกไม้เมืองหนาว” เดินตามพ่อเลี้ยงออกจากห้องทำงานจังหวะนั้นพนักงานหลายคนก็มองหน้าฉันพลางซุบซิบนินทา แต่พอพ่อเลี้ยงเดินผ่านพวกเขาก็ยกมือไหว้พ่อเลี้ยงทำความเคารพ “ตายจริง ข้อเท้าพ่อเลี้ยงไปโดนอะไรมาคะ” ฉันหยุดชะงักเท้าตัวเองทันทีไม่ต่างจากพ่อเลี้ยงที่เซจนฉันประคองเอวสอบไว้ไม่ให้เขาล้ม มองพนักงานสาวอีกคนที่ไม่ใช่คนที่เอาข้าวไปให้ย่อตัวนั่ง หากแต่ว่าสาบเสื้อเชิ้ตที่ใส่คือแยกออกจากกันเห็นทรวงอกล้นจนแทบจะทะลักทิ่มตาพ่อเลี้ยงที่ชักเท้าตัวเองกลับ “ไม่เป็นอะไร เธอลุกขึ้น” “ให้วรรณช่วยดูแลพ่อเลี้ยงไหมคะ?” “ไม่ต้อง บัวดูแลฉันแล้ว” คำปฏิเสธของพ่อเลี้ยงทำให้หล่อนถึงกับหน้าเหวอลุกขึ้นยืน พลางทำตัวไม่ถูก “ไปทำงานของตัวเองให้ดี ไม่ใช่มายุ่งวุ่นวายเรื่องของฉัน” “ค่ะ” “ไปกันบัว” พ่อเลี้ยงคว้าต้นแขนฉันเดินออกจากรีสอร์ทไปด้านหลังที่เป็นสวนขนาดย่อมเอาไว้รับรองแขก มีลานน้ำพุและมีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่ในน้ำใสๆ และที่สำคัญดอกไม้สวยมากจนฉันฉีกยิ้มวิ่งไปดูน้ำพุเหมือนเด็กน้อย “พ่อเลี้ยงดูสิคะ ปลาตัวใหญ่ยังกับชะโดแหน่ะ” “รู้จักปลาชะโดด้วย?” “ที่มหาลัยมีค่ะ ตัวใหญ่มากแบบกินปลาด้วยกันเองจนพุงกาง” ฉันพูดแล้วทำท่าไปด้วยสร้างเสียงหัวเราะให้กับพ่อเลี้ยงที่ยืนกอดอกมองฉัน “รีสอร์ทของพ่อเลี้ยงสวยมากเลยนะคะ ได้เห็นชัดๆ ก็ตอนนี้” “ถ้าเรียนจบมีที่ให้เลือกทำงานระหว่างทำงานที่ไร่กับรีสอร์ท อืม แล้วก็ไร่ดอกไม้เมืองหนาว เธออยากทำที่ไหน?” “บัวแล้วแต่พ่อเลี้ยงเลยค่ะ” “แล้วแต่ฉันได้ยังไง เธอเป็นคนทำงานนะ” เม้มริมฝีปากตัวเองพลางหันไปสบตากับพ่อเลี้ยงเอามือไขว่ไว้ด้านหลังและเดินไปหยุดตรงหน้าเขาที่เลิกคิ้วขึ้นรอฟังคำตอบ “บัวอยากทำงานที่ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อเลี้ยงได้ค่ะ” “...” “ที่ไหนก็ได้ค่ะหรือจะให้ทำทั้งสามที่เลยก็ได้ บัวอยากช่วยพ่อเลี้ยง” พูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างให้กับเขาพลางเบิกตากว้างที่เห็นคนสวนกำลังลงดอกไม้อยู่และดอกนั้นก็คือดอกทิวลิปหลากสีสัน “พ่อเลี้ยงสอนงานบัวที่รีสอร์ทด้วยได้ไหมคะ เมื่อวานสอนที่ไร่ไปแล้ว” “ทีละขั้นสิ ที่ไร่ยังมีที่ให้เธอเรียนรู้อีกเยอะเลยนะนั่นแค่ 1% เอง” “นะ หนึ่งเปอร์เซ็นเองเหรอคะ!” “หึ” “พ่อเลี้ยงหลอกบัวเหรอคะ” เกินไปนะที่เรียนรู้ไปเมื่อวานเรียนรู้ได้แค่ 1% แล้วอีก 99% คือฉันต้องเรียนรู้อีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย “บัวต้องเรียนรู้ไปอีกกี่ปีคะเนี่ยถึงจะเก่งแบบพ่อเลี้ยง” “ตลอดชีวิต” “ตะ ตลอดชีวิตเลยเหรอคะ” น้ำเสียงแผ่วเบาช่วงท้ายทำให้ฉันหันกลับมามองดอกทิวลิปพลางยกมือทาบทับแก้มตัวเองที่ร้อนผะผ่าวจนแทบไหม้ “ฉันหมายถึงถ้าเธอจะเรียนรู้ทั้งหมด คงต้องใช้เวลานานประมาณนั้นน่ะ” [50%] *--------------------------------------------*
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD