'อาจารย์อยากให้ลองกลับไปคิดดูให้ดี ๆ นะ'
ร่างอวบอิ่มในชุดนักศึกษาเดินออกมาจากห้องพักของอาจารย์ที่ปรึกษา สมองของเธอยังคงคิดถึงคำพูดของอาจารย์ที่ปรึกษาในก่อนหน้านี้ด้วยใจอันแสนเหม่อลอย
ปึก
"ขะ...ขอโทษค่ะ"เซลีนได้สติเธอรีบกล่าวขอโทษอีกฝ่ายความใจลอยทำให้เธอเดินไม่ทันได้ดูเส้นทางเผลอชนเข้ากับร่างของใครบางคนจนข้าวของและกระเป๋าใบสวยของอีกฝ่ายหล่นลงกระแทกพื้นจนเป็นรอย
"นี่ เดินภาษาอะไรของเธอฮะเซลีนไม่เห็นหรือไงว่าฉันยืนอยู่"
"นะ...น้ำเหนือ"เซลีนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคู่กรณีของเธอนั้นเป็นใคร ร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาพอดีตัวรีบคว้ากระเป๋าใบสวยขึ้นมาดูก่อนเธอคนนั้นจะหันมาจ้องหน้าของเธอด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นรอย
"กระเป๋าฉันเป็นรอยเลยเห็นไหม"
"เราขอโทษ"เซลีนเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงลนลาน เธอนึกโทษตัวเองที่เดินไม่ทันระวังจนเผลอทำให้เกิดเรื่อง
"ขอโทษแล้วกระเป๋าของฉันมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม"
"..."
"คอยดูเถอะ ฉันจะบอกราล์ฟเรื่องที่เธอทำกระเป๋าของฉันพัง"น้ำเหนือมองหน้าเซลีนด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากว่าร้ายแล้วก็เดินจากไป
ไม่มีใครกล้ายุ่งหรือคิดที่จะมีเรื่องกับเซลีน ด้วยอำนาจและเงินทองของครอบครัวทำให้ทุกคนต่างพากันรู้ดีว่าไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนี้
เซลีนที่ไม่รู้ว่าจะพาตัวเองไปอยู่ส่วนไหนของบนโลกใบนี้ดี เธอตัดสินใจเดินไปตามถนนบริเวณหน้ามหาลัย สายตากวาดมองบริเวณรอบกายชายหญิงหุ่นบางร่างดีกำลังเดินเคียงคู่หัวเราะกันอย่างมีความสุข ต่างจากเธอ ผู้หญิงหุ่นอวบอิ่มไม่มีใครต้องการ
ปี๊น ปี๊น
เสียงแตรรถดังขึ้นจากทางด้านหลังดึงดูดความสนใจของนักศึกษาบริเวณนั้นให้หันไปมองรวมถึงร่างของเซลีนเมื่อรถคันสวยของสงครามจอดเทียบข้างถนนตรงกับร่างของเธอ
ครืด
"จะไปไหน"น้ำเสียงเรียบนิ่งดังมาจากทางฝั่งคนขับเมื่อกระจกถูกเลื่อนลง เซลีนส่ายหน้าไปมาเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะไปอยู่ที่ไหนดี วันนี้เธอรู้สึกไม่อยากกลับห้องไม่อยากกลับไปเจอผู้ชายใจร้ายคนนั้น
"ขึ้นรถมา"
"จะพาไปไหน"
"เที่ยว"จะผิดไหมถ้าเธอรีบเปิดประตูก้าวขาขึ้นไปนั่งอยู่บนรถของสงครามเพื่อนสนิทจอมเงียบขรึมเพียงหนึ่งเดียวภายในกลุ่ม
"เรื่องไอ้ราล์ฟ"
"เราเห็นแล้ว"เกิดความเงียบภายในรถ สงครามลอบถอนหายใจกับสิ่งที่เพื่อนได้ทำเอาไว้ทั้งที่มันรู้ว่าเซลีนรักมันขนาดไหนแต่อีกฝ่ายก็คิดจะทำไม่ดี
"เหนื่อยไหม"เซลีนหันไปมองหน้าหล่อเหลาของสงครามในยามเมื่อเขากำลังขับรถบังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทางอย่างชำนาญ
"เหนื่อยสิ แต่เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองทนไหว"
"..."
"แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วสงคราม"
"..."
"สองปีเลยนะที่เราพยายามทำอยู่ฝ่ายเดียว พยายามโดยที่รู้ทั้งรู้ว่าราล์ฟคงไม่หันมามองเรา"ฝ่ามืออวบอิ่มที่วางอยู่บนตักบีบเข้าหากันแน่น เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาแม้ว่าตอนนี้จะมีก้อนแข็งตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอแล้วก็ตาม
"รักตัวเองสิ"สงครามหันมามองหน้าหญิงสาวด้วยแววตายากจะคาดเดาในระหว่างที่รถของเขาจอดติดไฟแดง
"ก่อนจะรักคนอื่น เริ่มรักตัวเองให้ได้ก่อน"
"..."
"ถ้าเธอไม่รักตัวเอง แล้วใครจะมารัก"
"รักตัวเองอย่างนั้นเหรอ"เซลีนนึกคิดถึงคำพูด ทั้งทับทิมและสงครามต่างพากันบอกให้เธอรักตัวเอง ทุกคนต่างคอยปกป้องเธอแล้วทำไมเธอถึงไม่ปกป้องหัวใจตัวเองบ้างล่ะ
"ทะเลเหรอ ทำไมถึงพาเรามาที่นี่ล่ะ"เซลีนเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเพื่อนสนิทอย่างสงครามลงทุนขับรถพาเธอมาเที่ยวถึงพัทยา
"ลงเถอะ"ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถโดยมีร่างอวบอิ่มของทางฝั่งคนนั่งข้างเปิดประตูเดินลงตามมาติด ๆ บรรยากาศริมชายหาดใกล้ตะวันจะตกดินมีผู้คนประปรายและไม่มีใครคิดจะหันมาสนใจนักศึกษาทั้งสองคนอย่างพวกเขา
"บรรยากาศดีจังเลยเนอะสงคราม"ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มออกมา สองแขนยกขึ้นออกกางอ้ารับลมทะเล
เสียงคลื่นซัด เสียงนกร้องยามเมื่อเหล่าบรรดานกตัวน้อยบินกลับรังของพวกมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจ ทั้งคู่ตัดสินใจนั่งลงใต้ร่มไม้เบื้องหน้าคือผืนท้องทะเลอันกว้างใหญ่ทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีครามมีดวงอาทิตย์เปล่งแสงสีส้มใกล้จะลาลับขอบฟ้าอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง
ทั้งคู่จมอยู่กับการใช้ความคิด ก่อนที่จะเป็นเซลีนเอ่ยปากถามชายหนุ่มอีกครั้ง
"นายว่าฉันอ้วนไหม"ชายหนุ่มละสายตาจากบรรยากาศตรงหน้าหันมามองร่างหญิงสาวด้านข้าง
"นายคิดว่าฉันอ้วนไหม หน้าตาของฉันเป็นยังไงบ้างพอใช้ได้หรือเปล่า"
"อืม"
"อืมอะไรเล่า ช่วยตอบอะไรที่มันยาว ๆ กว่านี้สักหน่อยได้ไหม ช่วยอธิบายอะไรให้ฉันเข้าใจหน่อยได้หรือเปล่า"หญิงสาวเริ่มโวยวาย ไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่มาตั้งคำถามกับชายหนุ่ม
"ถ้าเธอไม่อ้วน เธอจะสวย"
"โห พูดไม่รักษาน้ำใจกันเลย"ชายหนุ่มยักษ์ไหล่ไม่ได้สนใจสีหน้าเศร้าสลดของหญิงสาว
"การลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องลดเพื่อให้ผู้ชายมารัก"
"..."
"ลดเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเองจะดีกว่า เธอน่ะถ้าหากลดน้ำหนักลงกว่านี้อีกสักนิดจะดีมากเลย"เซลีนนั่งคิดตามคำพูดของชายหนุ่ม ตั้งแต่เกิดมาทั้งบิดาและมารดาต่างดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่ว่าเธอจะอยากทานอะไรท่านทั้งสองก็จัดหามาให้ไม่เคยขาด จากที่หิวมันกลายเป็นความเคยชินเมื่อเธอได้กินอย่างเอร็ดอร่อยในทุก ๆ วัน ทำให้น้ำหนักของเธอนั้นในตอนนี้พุ่งสูงจนมาถึงแปดสิบกิโล
ทั้งคู่นั่งดูพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าก่อนสงครามจะพาเซลีนนั่งรถกลับมายังที่พัก
"ขอบคุณมากเลยนะสำหรับคำแนะนำ"
"อืม"
"ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน บาย"เซลีนโบกมือลาก่อนเธอจะเปิดประตูก้าวขาลงจากรถคันหรูของชายหนุ่ม
หญิงสาวยืนส่งยิ้มโบกมือลาเธอมองรถคันหรูของสงครามขับเคลื่อนออกไป ก่อนตัวเธอจะหมุนตัวเดินเข้าไปภายในอาคารสูงใหญ่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในกิจการของครอบครัวของราฟาเอล
แกร๊ก
ประตูห้องพักถูกเปิดออก กลิ่นคละคลุ้งของควันบุหรี่ตีแผ่กระจายทำให้หญิงสาวไอจนแสบคอ
"ราล์ฟ แค๊ก แค๊ก"เธอมองเห็นชายหนุ่มนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟาไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่ ด้านบนของเขาเปลือยกายสวมใส่แค่เพียงกางเกงยีนตัวเดียว นิ้วเรียวคีบมวลบุหรี่ที่จุดไฟแล้วเอาไว้
สายตาแข็งกระด้างไล่มองไปตามร่างกาย ชายหนุ่มจัดการอัดสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายของตัวเองอีกครั้งอย่างคนพยายามใจเย็น
"แค๊ก แค๊ก ราล์ฟ เราหายใจไม่ออก"
"หึ สนุกไหม"
"..."
"หายหัวไปเที่ยวกับไอ้สงครามมาครึ่งค่อนวันสนุกไหม"ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอแสดงรูปถ่ายที่ลูกน้องของเขาถ่ายมาได้ให้หญิงสาวตรงหน้าได้ดู
"คิดจะสวมเขาให้คนอย่างกูเหรอฮะ เซลีน"