(แดนที่ 1) พบหมอ
(หมอรัน)
ช่วงเวลาเลิกงานของหลายคนอาจแตกต่างจากฉันเพราะทุกเย็นที่ฉันออกเวร
สิ่งแรกที่ต้องทำคือแอบหนีออกจากโรงพยาบาล ฉันเป็นหมอสูตินะคะ อย่าพึ่งคิดว่าฉันเป็นคนไข้หลบหนีของโรงพยาบาล ฮ่าๆ
เหตุผลที่ฉันต้องแอบหนีออกจากโรงพยาบาลนะหรอ ก็เพราะพวกผู้ชายไงล่ะ จะไม่ให้ฉันหนีได้ยังไง พวกเขาเล่นมาดักรอที่โรงพยาบาลแทบทุกวัน
ฉันเคยใช้วิธีไม่หลบแล้ว ปรากฏว่าเกือบเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในโรงพยาบาลเหตุเกิดจากพวกเขาทะเลาะกันเพื่อแย่งจีบฉัน
น่าอับอายมั๊ยละ TT หลังจากวันนั้นฉันจึงต้องใช้วิธีแอบหนีออกทางหลังโรงพยาบาลตลอด
“จ๊ะเอ๋”
“วร๊าย หมอไม่ว่างนะคะ ไม่ว่าง”
“ฮ่าๆ อะไรของเธอ รัน นี่ฉันเอง”
“อ้าว ตาต้า เล่นอะไรเนี่ย ฉันตกใจหมด”
“เธอคิดว่าฉันเป็นคุณธาม ประธานบริษัทสุดหล่อ หรือ คุณนิค ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลล่ะ อิอิ”
“เลิกล้อฉันเลยนะ ว่าแต่สองคนนั้นกลับไปยัง”
“ยัง แถมวันนี้เพิ่มมาอีกคนด้วย เหมือนจะชื่อปีเตอร์อะไรนี่แหละ”
คำตอบของเพื่อนรักทำเอาฉันถึงกับกุมขมับ ปีเตอร์คือญาติคนไข้ เขาบอกว่าจะมารับฉันไปชิมไวน์บ้าบออะไรไม่รู้และฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะมาจริงๆ -_-
พระเจ้าให้ความสวยฉันมาแต่ทำไมต้องให้ความวุ่นวายแบบนี้มาด้วยนะ
“เฮ้อ เอาเถอะ ฉันกลับบ้านก่อนนะ”
“รถเสียไม่ใช่หรอ ให้ฉันไปส่งมั๊ย”
“ไม่เป็นไร เจอกันวันอังคารนะ”
“ย่ะ ถึงบ้านแล้วบอกด้วย”
ฉันแยกกับตาต้าออกทางหลังโรงพยาบาลก่อนจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
ระหว่างนั่งรถอยู่ก็คิดออกว่าพรุ่งนี้หยุดยาวตั้งสามวัน
ฉันแวะซื้อของสดที่ห้างไว้หน่อยดีกว่า จะได้ไม่ต้องออกมาอีก
คิดได้อย่างนั้นฉันเลยให้แท็กซี่จอดตลาดหน้าปากซอยแทนที่จะไปส่งบ้าน
เมื่อซื้อของเสร็จฉันเลยตัดสินใจเดินกลับบ้านเพราะบ้านกับตลาดอยู่ห่างกันไม่มาก
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าจากด้านหลังทำให้ฉันรีบเร่งฝีเท้าตัวเองให้เร็วขึ้นแต่ดูเหมือนเสียงนั่นก็ดังขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
หมับ!
“กรี๊ด ไอชั่ว ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน”
เมื่อโดนรวบตัวจากด้านหลัง ฉันเลยฟาดของในมือใส่เขาไม่ยั้งจนคนด้านหลังล็อกฉันแน่นกว่าเดิมและยังมีอีกคนมาจับขาฉันไว้อีกด้วย
“ไอเลว ปล่อยฉัน ช่วยด้วย ช่วยย อุ๊ป”
“หมอครับ พวกผมไม่ทำอะไรหรอก”
“ใช่ครับ แค่จะให้หมอช่วยไปดูอาการเจ้านายพวกผมแค่นั้นเอง”
“แอ่วอับอั๋นอ๋ำไม”
“หมอว่าอะไรวะไอซ้าย”
“ไอควาย มึงก็ปล่อยมือออกจากหมอสิวะ”
ฉันมองพวกเขาสลับกันด้วยความสับสน ดูๆไปพวกเขาไม่เหมือนโจรสักนิด
เสื้อสูทสีดำ รองเท้าดำหนังแก้วเงาวับนั่นทำให้พวกเขาดูเหมือนบอดี้การ์ดมากกว่า ว่าแต่บอดี้การ์ดจะมาจับฉันทำไม -_-*
“พวกผมขอโทษนะครับคุณหมอ”
“พวกผมจำเป็นจริงๆ”
พูดจบ ไม่ทันให้ฉันได้ถามหรือโวยวายอะไร ทั้งคู่ก็อุ้มฉันตรงไปยังรถตู้สีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลก่อนจะจับฉันยัดใส่รถ
ตุ๊บ
“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร คอยดูนะฉันจะแจ้งตำรวจ”
“หนวกหู พวกมึงไปเอาตัวอะไรมาเนี่ย”
ถ้อยคำไร้มารยาทจากบุคคลด้านข้างทำให้ฉันต้องหันไปจ้องเขม็งเขา
จากตอนแรกที่คิดว่าจะหันไปด่าแต่เมื่อเห็นหน้าหล่อๆดุๆของเขา คำด่ากลับถูกกลืนหายไปในลำคอแทบทันที คนอะไรหล่อมากแม่ อร๊าย >
“มองอะไร”
แต่เสียงดุๆนั่นทำลายมโนฉันเรียบร้อย
ฉันเลยรีบหลบสายตาเพื่อไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันตะลึงในความหล่อของเขา
สายตาฉันเหลือบไปเห็นเลือดสีแดงสดไหลซิมอยู่บริเวณเอวสอบของคนด้านข้าง ด้วยความเป็นหมอ ฉันรู้ได้ทันทีว่าแผลคงใหญ่ไม่ใช่น้อย
“ผมเห็นเธอใส่เสื้อกราวน์เลยคิดว่าน่าจะรักษาคุณแดนได้ครับ”
“เหอะ หมอเถื่อนรึเปล่าก็ไม่รู้”
บางทีฉันควรจะปล่อยให้เขาเลือดไหลหมดตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปนะ
“เออ ฉันมันหมอเถื่อนถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยฉันสิ”
“บ้านเธออยู่ไหน”
“ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย”
“หมออย่าลีลา ถึงจะสวยกูก็กล้าฆ่านะ”
ยอมรับว่าฉันเริ่มกลัวเขาขึ้นมานิดๆ ถึงแม้หน้าเขาจะหล่อแต่เสียงและสีหน้าเขาดูดุดันจนน่ากลัว
เอาวะ เราหลอกเขาไปบ้านก่อนจากนั้นค่อยหาทางเอาตัวรอด
ไม่นานเราก็มาถึงบ้านสุดแสนน่ารักของฉัน ไอหน้าหล่อนั่นเดินตามลงมาด้วยท่าทางสบายๆเหมือนแผลไม่มีผลอะไรกับเขาเลย
“พวกคุณรอตรงนี้ล่ะกัน เดี๋ยวฉันจะไปโทรเรียกเพื่อนมาทำแผลให้แต่ยังไงฉันก็แนะนำให้พวกนายพาเจ้านายไปโรงพยาบาลอยู่ดีนะ”
“พวกผมพาคุณแดนไปโรงพยาบาลไม่ได้จริงๆครับ”
ฉันพยักหน้าทำเป็นเข้าใจเพราะขี้เกียจเถียง สู้โทรไปหาพี่หมอให้มาช่วยดีกว่า
“ไม่ต้องโทร หมอนั่นแหละมาทำแผล”
“คุณว่าฉันเป็นหมอเถื่อน ไม่กลัวฉันทำคุณตายรึไง”
บุคคลหน้าหล่อถอนหายใจแสดงความรำคาญออกมาอย่างชัดเจน
เขามีสิทธิอะไรมารำคาญฉัน ฉันสิที่ต้องเป็นคนรำคาญพวกเขาหนะ!!
“หมอ พูดด้วยดีๆนะ”
หน๋อย กล้ามาก กล้าบอกว่าตัวเองพูดดี
“ฉันไม่ทำ ถ้าไม่ให้ฉันโทรตามหมอคนอื่นมาทำให้ พวกนายก็ออกไปเลย”
ฉันยืนกอดอก ประกาศกร้าว พวกเขาเป็นใครฉันยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วยซ้ำ
มิหนำซ้ำยังจับตัวฉันมา พูดจาก็ไม่ดีแถมยังมาบังคับอีก เรื่องอะไรฉันจะต้องช่วยคนเถื่อนพวกนี้
“ไอขวามึงเอาปืนมาสิ”
“เอาไปทำไมครับพะ... เอ่อ คุณแดน”
“ยิงคุณหมอหน้าสวยนี่ทิ้งซะ เกะกะชิบหาย ไม่มีประโยชน์”
“ดะ...เดี๋ยว นี่คุณจะยิงฉันหรอ”
ฉันเบิกตากว้างเมื่อคนใส่สูทดำยื่นปืนให้ไอคนหน้าหล่อตามคำสั่ง
“เออ รำคาญ”
ดิบเถื่อนที่สุด ใครบอกผู้ชายหน้าตาดีจะมารยาทดี ฉันขอเถียงหัวชนฝาเพราะที่กำลังเจอนี่ มารยาททรามมาก
“นอนลงสิ แล้วไม่ต้องแหกปากดังนะเดี๋ยวคนข้างบ้านคิดว่าควายโดดเชือด”
“หึ ผมอึด ไม่เชื่อหมอลองสิ”
ฉันแสยะยิ้มกับคำพูดของเขา คอยดูเถอะพ่อคนอึดแม่จะทำให้ร้องขอชีวิตเลย
น่าเจ็บใจ น่าเจ็บใจมากๆ ไม่ว่าฉันจะทำแผลเขาแรงขนาดไหน ไอผู้ชายหน้าดุตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะปริปากร้องเลย นี่เขาเป็นคนเหล็กรึไงกัน
“เอ่อ ผมว่าคุณหมอเช็ดแผลแรงไปรึเปล่าครับ”
“หรอ ไม่เห็นเจ้านายพวกนายจะร้องเลยหนิ ไม่แรงหรอก”
คงมีแต่ลูกน้องเขานี่แหละที่เจ็บแทนเจ้านายตัวเองเพราะเจ้านายเขานอกจากจะไม่ร้องแล้วยังยกยิ้มมุมปากใส่ฉันอีกต่างหาก หมั้นไส้โว้ย
ท่องไว้รรรดาแกเป็นหมอ จรรยาบรรณหมอคือต้องรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด แกห้ามเผลอไปฆ่าเขาเด็ดขาด ฮึม ฮึม
“ซ้าย ขวา พวกมึงจะยืนทำหน้าปวดขี้กันทำไม”
“ผมเสียวแทนคุณแดนครับ”
“เฮ้อ ออกไปก่อนไป เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันเรียก”
ระหว่างทำแผลให้เขา ฉันต้องคอยหลบสายตาดุแกมเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้า
คนบ้าอะไรเอาแต่จ้องหน้าอยู่ได้แล้วฉันเป็นอะไรเนี่ย ทำไมต้องใจเต้นแรงแบบนี้ด้วย บ้าจริง
“หมอกินอะไรทำไมถึงสวย”
“ห๊ะ??”
ฉันเผลอทำสำลีหลุดมือด้วยความตกใจ รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง หน้าฉันต้องกำลังแดงมากแน่ๆ
คนตรงหน้าหัวเราะออกมาเบาๆ เอ๊ะ สวยอย่างนั้นหรอ ฉันควรจะใช้ความสวยตัวเองให้เป็นประโยชน์สินะ
เมื่อปิดแผลเรียบร้อย ฉันเลยค่อยๆขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง ใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าทองกำยำเบาๆ
“หมอทำคนไข้เจ็บรึเปล่า”
เขาเหมือนจะตกใจในการกระทำฉันอยู่ไม่น้อยถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ปล่อยให้เขาตกใจนานหรอก
ฉันค่อยๆหยิบเข็มฉีดยาสลบออกจากกระเป๋าแต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะแขนแกร่งของคนตรงหน้าดันดึงเอวฉันให้เข้าหาตัวเขา
เราทั้งคู่จ้องหน้ากันสักพักก่อนที่มือหน้าจะรั้งหน้าฉันเข้าไปใกล้ เขาประกบริมฝีปากร้อนของตัวเองเข้ากับปากฉันแผ่วเบาและค่อยๆเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น
น่าแปลกที่ร่างกายฉันไม่ขัดขืนเขาเลยแถมยังเคลิ้มไปกับรสจูบเขาอีก
สติ รรรดาเธอต้องมีสตินะ
ปั๊ก
ถึงจูบเขาจะดีขนาดไหนแต่การกระทำเถื่อนๆของเขาไม่ทำให้ฉันไว้วางใจหรอก ฉันอาศัยจังหวะที่เขาเผลอฉีดยาเข้าที่ต้นแขนแกร่งเบาๆ
“หมอฉีดอะไร”
“ยาแก้อักเสบ ปล่อยหมอได้แล้ว”
ฉันพยายามแกะมือเขาออกจากเอวแต่เขากลับกระชับแขนไว้แน่นพลางพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“หมอคิดว่าอ่อยผมแล้ว ผมจะยอมปล่อยหมอไปง่ายๆหรอ”
คำพูดเขาทำให้ฉันถึงกับยกยิ้มมุมปาก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเขา
“ถ้ามีแรง หมอก็จะรอ”
“หมายความวะ...”
โธ่ว นึกว่าจะแน่ ไม่รู้จักหมอรันคนสวยซะแล้ว ฉันลุกออกจากตักเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกน้องเขาเข้ามาพอดี
“คุณแดนเป็นอะไรครับหมอ”
“อ๋อ เขาง่วงหนะ เขาฝากบอกว่า ถ้าพวกนายเข้ามาให้พาเขากลับไปส่งบ้านได้เลย”
“อ๋อ ครับ พวกผมต้องขอบคุณหมอมากนะครับ”
“นี่ครับค่ารักษา”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ รีบเอาเจ้านายพวกนายกลับไปนอนเถอะ”
“ครับ”
ฉันยืนมองรถตู้สีดำขับออกไปพลางถอนหายใจ
หวังว่าฉันจะไม่ต้องพบเจอกับพวกเขาอีกนะ เฮ้อ ไปอาบน้ำให้สบายตัวดีกว่ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวยังไงก็ไม่รู้
———
ดุขนาดไหนก็แพ้ทางหมออะเนอะ เขตแดน
อยากอ่านสองตอน
อย่าลืมคอมเมนท์นะคะ >