ตอน 6

1808 Words
สมิธใช้แววตาคมสำรวจทรวดทรงงดงาม จนแทบไม่มีผ้าปิด เรือนร่างเกือบเปลือยใกล้ๆ ทำทีไม่ใส่ใจพวกทีมงานด้านนอก สายตาเร่าร้อนไม่ต่างกับเปลวเพลิงที่ลุกช่วง มายก๊อต ! เธอน่ากินเป็นบ้า ถ้าเขาจะกินเธอตอนนี้ จะผิดไหม แต่ก็กลัวกระต่ายนิ้ยตกใจกระโดดหนี ยิ่งมองยิ่งชอบแววตาหวาดวิตก กำลังมองเขาอย่างกับกระต่ายน้อยกลัวเสือขย้ำ           ท่านประธานก้าวออกไปจากห้องน้ำหญิงหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่รุกไล่จนกระต่ายน้อยขวัญกระเจิง ทิ้งความไม่เข้าใจ มาพร้อมกับอาการหวาดกลัว ซ้ำยังแอบสยิวหวิวอยู่ในอก ลลิดาสะท้านจนเข่าอ่อน ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ผู้ชายบ้าอะไรอันตรายมากๆ เกินคาดกว่าที่คิดไว้ มิน่าสตีฟถึงได้ให้เงินก้อนโตกับเธอง่ายๆ คงเพราะเขาอันตรายนี่เอง            นางแบบสาวรวบรวมกำลังอันอ่อนแรง เปลี่ยนบิกินีชุดใหม่ กางเกงตัวจิ๋วผ้าเนื้อนุ่มลื่น ส่วนล่างสีดำ ผูกโบว์เล็กๆ สองข้างบนสะโพก ด้านบนสีทองเล็กจิ๋ว เพียงแค่ปิดความอวบอิ่มเอาไว้ ลลิดาเป็นผู้หญิงที่รูปร่างดีไม่พึ่งมีดหมอ อาศัยควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาผิวพรรณดี ผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อเลือกเธอ เป็นพรีเซนเตอร์เพราะความเป็นธรรมชาติ โครงหน้าธรรมชาติ ไม่ใช่เกร่อเป็นแบบเดียวกันทุกโมเดลลิ่ง           ช่างเป็นการถ่ายแบบครั้งแรก ทำให้นางแบบมืออาชีพอย่างเธอ ตัวเกร็งที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะบิดไปทางไหน ปลายสายตาเธอมักเห็นสมิธจับจ้องไม่วางตา กว่าจะถ่ายเสร็จต้องเกร็งหน้า ก้อนเนื้อในทรวงอกเต้นระส่ำ ผ่อนลมหายใจอยู่เป็นนาน เสียเวลาหลายนาที พานจะทำให้แสงสวยของวันหมด            ขาสั่นของลลิดาก้าวพ้นทางออกได้นิดเดียว ฉับพลันข้อมือของเธอก็ถูกฉวย ดึงไปยังรถยนต์คันหรูสีดำจอด อยู่บริเวณลานจอดบริการของทางสระว่ายน้ำระดับสูง สำหรับสมาชิกกระเป๋าหนัก           “ว้าย !!” ตกใจแทบสิ้นสติ กำลังอ้าปากตะโกนกรีดร้อง ร่างของเธอถูกยัดเข้าไปนั่งในรถคันหรู ตั้งสติได้จะเปิดประตูออก ก็ถูกเจ้าของรถตัวใหญ่ชี้หน้าห้ามก้าวออกมาเด็ดขาด           “ผมไม่ชอบที่คุณแต่งตัวแบบนั้น” เขาขบกรามแน่นพูดกับนางแบบสาว สายตาเย็นยะเยือกดุดัน สำรวจรางกายหญิงสาว ราวกับต้องการตำหนิ           “เอ่อ...” ลลิดาไม่เข้าใจทำไมเขาต้องทำตัววุ่นวายกับชีวิตเธอ สิ่งที่เธอทำคืองาน นำมาซึ่งรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว           “ผมเข้าใจว่ามันเป็นงาน แต่ผมไม่ชอบเข้าใจนะ” เขาชี้หน้าออกคำสั่งแก่หญิงสาว           “นี่คืองาน ฉันทำงานของฉัน ที่สำคัญคุณไม่มีสิทธิ์มาเที่ยวออกคำสั่งกับคนที่คุณไม่ได้เกี่ยวข้อง งานของฉันทำให้ฉันมีเงินเลี้ยงครอบครัว”           “งั้นผมจ้างคุณมาเป็นผู้หญิงของผม จะเอาค่าจ้างเดือนละกี่บาทว่ามา” ในเมื่อเธอต้องการเงิน เขาก็จะจ้างเธอ           “เอ่อ...” ลลิดาชะงัก พูดไม่ออกขึ้นมาทันใด ผู้ชายคนนี้จู่โจมเร็วเหลือเกิน ไม่น่ารอดถ้าเธอทำงานให้กับสตีฟต่อ สู้อุตส่าห์เล่นตัวไม่โทร.หาเขา ต้องการให้เขากระวนกระวาย เจอกันครั้งที่สาม คนตัวใหญ่ถึงกับจู่โจม เสนอราคาซื้อตัวด้วยวงเงินไม่จำกัด           “ท่าจะบ้า คุณแทบไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ จะจ้างฉันนี่นะ สติดีอยู่หรือเปล่า” กล้าเถียงเขา ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเขาไม่น่าล้อเล่นด้วย           “ทำไมจะไม่ได้ ผมมีเงิน ในเมื่อคุณต้องการเงิน ผมก็ทำตัวเป็นคนจ้างงาน ไม่ถูกหรือไง คุณต้องการเท่าไรว่ามา คนพวกนั้นจ้างคุณเท่าไร ผมให้สองเท่า”           “ถ้าฉันมองโลกในแง่ดีหน่อย ก็คือ...คุณกำลังจีบฉัน” หลอกตัวเองสิ้นดีลลิดา เธอต่อว่าตัวเอง ผู้ชายแบบนี้นะจะจีบผู้หญิง นอกจากใช้เงินฟาดเท่านั้นเอง แล้วที่เขาจะใช้เงินก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่เว้นแม้แต่เธอด้วยเช่นกัน           “ไม่นี่ ผมไม่ได้จีบ ผมว่าเอ่อ...” เขาไม่เคยจีบผู้หญิง ไม่รู้ด้วยซ้ำการจีบคืออะไร “ถ้าคุณสบายใจที่คิดแบบนั้น ผมก็คงต้องอนุญาต ให้คุณคิดเอาตามสบาย” เขาแบมือข้างตัว ก็แค่ต้องการซื้อเธอมาเป็นผู้หญิงของเขา จนกว่าเขาจะเบื่อก็เท่านั้นเอง ผู้ชายมีเงินส่วนใหญ่ก็ซื้อผู้หญิงไปเป็นเพื่อนเที่ยวเยอะแยะ เขาจะลองทำบ้างสักครั้งไม่ผิดนี่           “จีบในแบบคนรวย จอดรถค่ะฉันจะลง” ในหัวของเธอมีแต่เสียงบอสของพิมพ์ฐาเลื่อนลั่น เล่นตัวนิดหน่อย อย่าให้เขาเข้าใจว่าง่ายเกินไป เพราะนั่นจะทำให้เขาอยาก เป็นฝ่ายไล่ตามเอง            “เสียใจผมไม่ให้คุณลง” เขาดื้อถ้าไม่ได้ตามที่เสนอ เขาจะไม่ลดละความดื้อ ไม่ต่างกับการบริหารงานของเขา ถ้างานไม่สำเร็จเขาจะไม่มีวันวางมือจากงานนั้น           “เอ๊ะ...คุณทำเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวแหวใส่เสือ เธอเป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ นะ           “จนกว่าคุณจะตกลง รับเงื่อนไขของผมซะเถอะ” เขายืนยันความต้องการอยากซื้อตัวเธอ ซื้อเวลาของเธอเพื่อมีเวลาร่วมกัน           “ไม่” เสียงแข็งไม่ยอมเขาง่ายเกินไป ยั่วให้คลั่งจนทนไม่ไหว งานเธอจะได้ลุล่วง เขาต้องอยากได้เธอจนตัวสั่นและทรมานมากที่สุด            “งั้นเราก็มาบรรเลงกันในรถเลยดีไหม” ยากเย็นนักปล้ำซะก็สิ้นเรื่อง เขาทำท่าขึงขัง           “อีตาบ้า คุณหมายความว่ายังไง” คราวนี้ลลิดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ท่าทีเขาดูคุกคามมาก แถมเธออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาซะด้วย           “คุณโตแล้วแอนนี่ คุณรู้ว่าผมหมายความว่ายังไง” ถ้าให้สอนทุกท่าก็สอนได้นะ แต่จะทนสอนได้ไม่นาน อยากปฏิบัติซะก่อน           สมองลลิดามึนงงในท่าทางรุกไล่ จังหวะเฮฟวี่ฮาร์ดร็อกเถื่อนสุดดิ้นตาย ค่อนไปทางกักขฬะหยาบคาย ตรงข้ามกับบุคลิกหล่อบาดจิตบาดใจ บาดไปถึงตับไตไส้พุง นับได้ว่างานจ้างนี้หินเอาการ ซ้ำยังวอนเสียตัวทุกที่ทุกเวลาที่เขาเจอกับเธอ กล้าบุกเข้าไปในห้องน้ำหญิง คนอย่างสมิธไม่น่าจะกลัวอะไรในโลก ถ้าทำได้อย่างนี้           “ฉันว่าเราควรมาทำความรู้จักกันก่อนดีไหมคะ แบบค่อยเป็นค่อยไปทำนองนี้”            “คุณรู้ว่าผมชื่อสมิธ พอล ภควัต ส่วนคุณแอนนี่ ชลวี” รู้จักกันแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเขา ไม่จำเป็นต้องถามว่าชอบอะไร มีงานอดิเรกยังไง ไปตลาดเวลาไหน ไร้สาระเสียเวลามากเกินไป            “คือ ฉันไม่...ได้หมายความยังงั้น” โอ้ยยย คนบ้าพูดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว           “แบบไหน แบบที่เราต้อง...” เขาโน้มใบหน้าเข้มหล่อดุ ไม่อ่อนโยนเข้าใกล้ชิดหญิงสาว ลีลาท่าทีเต็มไปด้วยการคุกคาม กลิ่นเข้มแข็งจากเขา ระบายความเป็นบุรุษไว้เต็มเปี่ยม ก่อกวนหัวใจผู้หญิงได้ไม่ยาก           มือสั่นเทานิ้วเรียวสลักเสลายกขึ้นยันปลายคางสาก จงใจรุกเร้าป่วนจิตใจ หัวใจดวงเล็กในช่องอกวูบไหวสั่นสะท้าน พองเป็นลูกโป่งเป่าลม เอียงหน้าหนีใบหน้าคมสันขึ้นตอหนวดเคราเข้ม ด้วยความมีชั้นเชิงไร้เดียงสา ความเสียวสยิวแล่นป่วนร่างกาย ขนกายลุกชันเมื่อถูกตอหนวดเคราสากระคาย ถูไถตามซอกคอ ใบหูที่ไวต่อการสัมผัส ผู้ชายคนนี้ค้นหาความอ่อนโยนจากดวงหน้า และการกระทำช่างยากลำบาก เป็นความเสียวที่ปนมากับอาการจั๊กจี้ เพียงแค่เขาครูดตอเครา ตามซอกคอขาวสวย เท่ากับเป็นการปลุกความรู้สึกธรรมชาติชายหญิง ไม่สิ ไม่นะเธอจะต้องไม่ทำตัวง่ายเกินไป ห้ามหลงความเถื่อนแบดบอยของเขาเป็นอันขาด                “ได้นะถ้าคุณอยากรู้จักผม ให้มากอีกหน่อย” ร่างหนาที่เดือดระอุอยู่ในอก เด้งตัวกลับไปนั่งที่คนขับ ทะยานรถยนต์คันหรู มุ่งสู่เส้นทางเบื้องหน้า โดยไม่คิดจะบอกกล่าวแก่หญิงสาว เธอทำให้เขาคลั่งอย่างที่ไม่เคยคลั่งทุรนทุรายอย่างนี้มาก่อน เธอใส่อะไรไว้ในน้ำหอมที่ฉีดประพรมบนตัว มันหอมกระตุ้นหัวใจชายไม่คิดจะทนห่างเธออีกต่อไป            “คุณจะพาฉันไปไหน” ลลิดาชักวิตกกังวล ถ้าเขาพาเข้าม่านรูด เธอจะเอาตัวรอดไหม พ่อแก้วแม่แก้วเขาน่ากลัวกว่าที่เธอประเมินไว้            “คุณอยากรู้จักผม เรากำลังจะไปทำความรู้จักกัน” เขาอยากรู้จักเธอให้เร็วที่สุด เพื่อเธอจะได้ไม่เรียกร้องอยากรู้จักเขาอีกหน่อย            ทำไม ทำไม สตีฟไม่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับอีตาท่านประธาน คนนี้ ให้มากกว่านี้หน่อย โอ้ย โคตรเอาแต่ใจ อยากทำก็ทำ อยากเข้าไปห้องน้ำหญิงก็เข้า โดยไม่สนใจผู้คน ดูสิไม่เคยถามความสมัครใจ ลลิดางอนไม่อยากพูดอะไรกับเขาแม้สักประโยค ต่อให้ถามคำตอบของเขาคงบ่ายเบี่ยง เข้าข้างตัวเองตลอด เพื่อครอบครัวเธอต้องเปลืองตัวมากขนาดนี้เลยนี่นะ           บ้านหลังหนึ่งอยู่ริมทะเลสวยมาก วัดขนาดความใหญ่เอาบ้านเธอมารวมกันสามหลัง คงจะเท่าบ้านหลังนี้ นี่มันบ้านในฝันลลิดากับพ่อชัดๆ ฝันก็คือฝันนั่นแหละ ไม่มีวันกลายเป็นจริงขึ้นมาได้           “ตามมาสิ” คนตัวใหญ่อย่างกับคิงคอง ผสมไดโนเสาร์ อีตาคิงคองตัวใหญ่จอดรถ แล้วเรียกเธอให้เดินตามเข้าบ้านหลังสวย จนเธอหลงใหลนึกว่าเดินอยู่ในดินแดนความฝัน             ลลิดานั่งมองบ้านอยู่ในรถนิ่งเงียบ ไม่แม้แต่จะเปิดประตูลงจากรถเพื่อก้าวไปตามคำสั่ง ทันใดนั้นเองแค่เขาหันมาดูคนที่นั่งนิ่ง ประตูรถถูกเปิดผลั้ว มือใหญ่ปลดเข็มเข็มนิรภัยออกจากตัวหญิงสาว ใช้ความไวใจร้อน รวมถึงความเอาแต่ใจ ไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง สมิธอุ้มร่างบอบบางออกจากรถมุ่งตรงเข้าบ้าน น้ำหนักของเธอราวกับหมอนหนึ่งใบ เบาหวิวสำหรับตาคิงคอง  สมิธสั่งทุกอย่างด้วยเสียง แม้กระทั่งเปิดประตู ไฮน์เทคโนโลยีไปอีก แม่เจ้า...คนรวย ทำอะไรได้ทุกอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD