กว่าครอบครัวหยางจะกลับถึงบ้านก็ปลายยามอู่แล้ว เจ้าก้อนซาลาเปาน้อยหยางอี้สลบตั้งแต่อยู่บนรถเข็นแล้ว เพราะเลยมื้อเที่ยงแล้ว นางกับหยางหยางจึงซื้อซาลาเปาในตลาดกินแทน
“ท่านพี่จะไปไหนหรือเจ้าคะ” หลังจากพาหยางอี้เข้านอนในห้อง นางก็ออกมาจะช่วยเขาขนของ แต่ปรากฏว่าเขาขนของเสร็จหมดแล้ว และตอนนี้เหมือนเขากำลังจะออกจากบ้าน นางจึงเอ่ยถาม
“พี่จะไปเก็บผักที่ปลูก และจะปรับหน้าดินเตรียมดินตามที่เจ้าบอก” หยางหยางตอบภรรยาตัวน้อย
“ให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ต้องหรอก พี่ทำคนเดียวได้ เจ้าอยู่กับลูกเถิด” เขาไม่อยากให้นางต้องออกไปตากแดด ตากลม
“เจ้าค่ะ แต่ถ้าท่านพี่อยากให้ข้าช่วยอันใดก็เรียกข้าได้นะเจ้าคะ”
“ได้”
หยางหยางออกจากบ้านไปจัดการกับผักที่เขาปลูก เป็นอย่างที่ภรรยาเขาบอก บางต้นก็ตาย บางต้นก็แคระแกร็น เห็นแล้วช่างไม่น่ามองจริงๆ ไม่รอช้าเขารีบลงมือเก็บผักต้นไหนที่กินได้ก็เก็บใส่กระบุงที่เตรียมมา ต้นไหนที่ตายก็แยกไว้ต่างหาก
ส่วนทางด้านอี้หลันนั้นนางเข้าครัวจัดการกับของที่ซื้อมามากมาย และหั่นเนื้อหมูเพื่อทำหมูแดดเดียวอีกด้วย เสร็จจากงานครัวก็เอาผ้าที่เพิ่งซื้อใหม่มาเย็บเบาะเพื่อใส่ในรถเข็นเด็กให้หยางอี้ นางเลือกผ้าสีเขียวอ่อนมาตัดให้เขา นอกจากซื้อผ้าสำหรับตัดใส่รถเข็นแล้ว นางยังซื้อมาเพื่อตัดชุดให้หยางหยาง หยางอี้ และตัวนางเองอีกด้วย
เสียงขยับตัวจากก้อนกลมๆ ด้านข้าง เรียกความสนใจจากอี้หลันได้ในทันที นางวางของในมือลงก่อนจะเอาไปตั้งไว้ไกลๆ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย ก่อนจะเดินกลับมาที่เดิม
“จ๊ะเอ๋ ตื่นแล้วหรือเจ้าซาลาเปาน้อยของแม่” อี้หลันเอามือปิดหน้าปิดตา ก่อนจะเอาออกเพื่อหยอกล้อบุตรชาย
ก้อนซาลาเปาน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากที่มารดาแกล้งตน เล่นอยู่ 2-3 รอบ มือน้อยๆ ก็ควานหาแหล่งอาหาร กินเก่งไม่เป็นสองรองใครจริงๆ ลูกของนาง
เมื่อหยางอี้กินเสร็จนางก็คิดว่าได้เวลาทำมื้อเย็นแล้ว จึงอุ้มลูกเดินเข้าไปในครัว เป็นจังหวะเดียวกับที่หยางหยางเดินเข้าบ้านมาพอดี พร้อมกระบุงที่เขาใช้ใส่ผักตั้งอยู่ในครัวถึง 3 กระบุง
“เสร็จแล้วหรือเจ้าคะท่านพี่ เหนื่อยหรือไม่”
“เสร็จแล้ว ไม่เหนื่อย” ทำแค่นี้เขาไม่เหนื่อยหรอก
“แอ้” หยางอี้ที่เห็นบิดาก็ยื่นมือไปด้านหน้า มือน้อยๆ กำแบๆ เพื่อให้บิดาอุ้มตน
“อยากให้พ่ออุ้มหรือ” เขาเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ลูกชายของเขาก็ยิ่งโน้มตัวมาข้างหน้ามากขึ้น
“แอ้!” หยางอี้เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เมื่อบิดาไม่อุ้มตนสักที คนเป็นพ่อกับแม่ก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดูลูกชาย
“ข้ากำลังจะทำมื้อเย็นเจ้าค่ะ คงต้องให้ท่านพี่ดูลูกให้ก่อนเจ้าค่ะ” อี้หลันเอ่ยบอกเมื่อหยางหยางยื่นมือมารับตัวบุตรชายไปอุ้มแล้ว
“ได้ เจ้าไปทำเถิด”
สองสามีภรรยาแบ่งหน้าที่กันเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตน หยางหยางพาลูกชายมาอาบน้ำ
“ไอหยา กินเก่งขึ้นใช่หรือไม่ ดูพุงเจ้าสิ” หยางหยางเอานิ้วจิ้มไปที่พุงน้อยๆ ของลูกชาย เด็กน้อยที่โดนพ่อหยอกก็หัวเราะลั่น
“อีกหน่อยเจ้าคงกลิ้งได้แล้ว ฮ่าฮ่า”
“แอ้” เด็กน้อยตีมือ ดีดขา อยู่ในถังอาบน้ำของตน จนน้ำกระจายไปทั่ว หยางหยางเห็นว่าไหนๆ ก็ตัวเปียกแล้ว เขาจึงอาบน้ำด้วยเสียเลย
สองพ่อลูกอาบน้ำกันไป เล่นกันไป ฝั่งผู้เป็นภรรยาก็หุงหาอาหาร อี้หลันหุงข้าวตั้งไว้อยู่เตาหนึ่ง อีกเตาก็ใช้ทำอาหาร กับข้าววันนี้นางจะทำปลาราดพริก แน่นอนว่าที่โลกนี้เครื่องปรุงไม่ได้หลากหลายเหมือนโลกก่อนนางจึงต้องปรับสูตรสักเล็กน้อย กับข้าวอีกอย่างก็คือต้มปลาซดน้ำร้อนๆ คล่องคอนัก ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จ อี้หลันจึงยกไปตั้งบนแคร่ นางกำลังจะไปตามสองพ่อลูก แต่ทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องพอดี
“แอ้ แอ้” เจ้าตัวเล็กทักทายมารดาเสียงใส
“เจ้าซาลาเปาน้อยของแม่ ท่านพ่อพาอาบน้ำ แต่งตัวแล้วหรือ” เห็นทั้งคู่อยู่ในชุดใหม่คงจะอาบน้ำกันแล้ว
“แอ้” เด็กน้อยยิ้มจนเห็นเหงือก
“ข้าทำอาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ไปกินกันเถิดเจ้าค่ะ”
“ไปกันเถิด”
เมื่อเดินมาถึงแคร่ที่ใช้นั่งกินข้าว หยางหยางก็วางเจ้าตัวเล็กลงบนเบาะนอนของเขา เด็กน้อยก็นอนเล่นยกขาดีดไปมาตามประสา บางครั้งก็จับขาของตนขึ้นมาเพื่อจะอมอีกด้วย
“ปลาเจ้าไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด” หยางหยางเอ่ยชม
“มันมีวิธีทำอยู่เจ้าค่ะ ก่อนอื่นเราต้องล้างตัวปลาให้สะอาด จากนั้นก็เอาเกล็ดมันออก ควักไส้มันออก และล้างด้วยเกลือ แค่นี้ปลาก็ไม่มีกลิ่นคาวแล้วเจ้าค่ะ” อี้หลันอธิบาย
“แปลว่าที่ชาวบ้านนำปลามาทำอาหารแล้วมีกลิ่นคาวทำให้กินแล้วไม่อร่อยเพราะสาเหตุนี้หรือไม่”
“อาจจะใช่เจ้าค่ะ ชาวบ้านอาจจับปลามา แล้วใช้ทำอาหารทั้งตัวไม่ได้ทำความสะอาดมันก่อนเจ้าค่ะ”
“วันพรุ่งพี่จะไปดูหลุมดักปลา เมื่อเช้าพี่ขุดเพิ่มอีก 5 หลุมด้วย”
“ดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าตัวมันเล็ก ท่านไม่ต้องจับมานะเจ้าคะ” ปล่อยลงลำธารเช่นเดิม ให้มันเติบโตก่อน
“ได้” หลังจากนั้นสองสามีภรรยาต่างก็กินข้าวของตนเอง มีพูดคุยบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนเจ้าตัวน้อยก็นอนเล่นตามประสา ส่งเสียงเล็กๆ มาให้พ่อกับแม่ได้ยิ้มด้วยในบางครั้ง
หยางหยางเจริญอาหารยิ่งนัก เขากินข้าวไปถึง 3 ถ้วยเลยทีเดียว
“เจ้าพาลูกเข้านอนเถิด เดี๋ยวพี่ล้างเอง” เมื่อกินเสร็จอี้หลันก็เตรียมจะเก็บถ้วยชามไปล้าง
“ได้อย่างไรเจ้าคะ เดี๋ยวข้าล้างเองเจ้าค่ะ”
“เสี่ยวอี้คงหิวแล้ว เจ้าไปให้ลูกกินนมเถิด” หยางหยางยกหยางอี้มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เขาได้เป็นคนล้างถ้วยชามเอง อี้หลันมองไปทางเจ้าซาลาเปาน้อยที่มองมาทางนางด้วยดวงตาใสแป๋ว นี่ก็ได้เวลาที่หยางอี้ต้องนอนแล้ว นางจึงอุ้มเขาเดินเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ผู้เป็นสามีรับหน้าที่ล้างจาน
ไม่ถึง 1 เค่อ หยางหยางที่ปิดประตู หน้าต่างเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามาในห้องนอน
“ฝากท่านพี่ดูเสี่ยวอี้ด้วยนะเจ้าคะ ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน” หยางอี้นอนแล้วก็ได้เวลาที่นางจะจัดการกับตัวเองเสียที
“เจ้าไปอาบเถิด” นี่ก็ดึกมากแล้ว น้ำเริ่มเย็นแล้ว ถ้านางอาบดึกกว่านี้คงจะไม่ดี
เมื่อได้รับคำตอบอี้หลันก็ยิ้มให้หยางหยาง ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าออกจากห้องไปยังห้องอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานนางก็อาบเสร็จแล้ว เมื่อเข้ามาในห้องก็เดินไปนั่งที่โต๊ะเล็กๆ หยิบสมุดบัญชีรายรับรายจ่าย มาลงรายการใช้จ่ายสำหรับวันนี้ เสร็จแล้วก็ขึ้นมานอนข้างหยางอี้ นางนอนลืมตามองหลังคาบ้านมามากว่า 2 เค่อแล้ว
“หลันเอ๋อร์เจ้านอนไม่หลับหรือ” เขาได้ยินเสียงนางพลิกตัวไปมาสักพักแล้ว ถึงแม้ว่านางจะพยายามขยับตัวให้น้อยที่สุดแล้วก็ตาม
อี้หลันตกใจที่ทำให้ผู้เป็นสามีที่นอนอีกฝั่งของบุตรชายตื่นจากการนอนหลับพักผ่อน “ข้าขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่ที่ทำให้ท่านตื่นข้าจะนอนเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” นางตอบเสียงเบา ด้วยเพราะบุตรชายนอนอยู่ตรงกลางกลัวว่าเสียงพูดระหว่างเขากับนางจะทำให้ลูกตื่น
“พี่ไม่ได้ว่าอันใด เพียงแต่เหตุใดเจ้ายังไม่นอน หรือเจ้ากำลังคิดอันใดอยู่”
เห้อ อี้หลันถอนหายใจหนึ่งทีก่อนจะตอบ “ข้าไม่รู้ว่าจะขายอันใด หรือทำอันใดดีเจ้าค่ะ เพื่อที่จะมีรายได้เข้าบ้าน”
หยางหยางเอื้อมมือมาวางบนศีรษะของภรรยาตัวน้อย ก่อนจะลูบเบาๆ ตัวก็เล็กแค่นี้ทำไมนางถึงคิดอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดนะ “ตอนนี้ยังคิดไม่ออกก็ไม่เป็นอันใด ค่อยๆ คิดเดี๋ยวก็คิดออก แต่พี่ก็สามารถเลี้ยงเจ้ากับลูกได้”
“ขอบคุณท่านพี่นะเจ้าคะ” ถึงแม้เขาจะบอกว่าเลี้ยงนางได้ แต่นางก็ยังอยากจะหาอะไรทำอยู่ดู ไว้ค่อยคิดแล้วกัน “นอนกันเถิดเจ้าค่ะ”
“อืม”
หยางหยางรู้สึกตัวตื่นขึ้นในยามอิ๋น (03:00-04:59 น.) ด้วยความเคยชิน ก่อนจะลุกขึ้นไปดูหลุมดักปลา ถ้ามีเยอะวันนี้เขาก็ว่าจะเอาไปขายให้เหลาอาหารเช่นเดิม วันนี้เขาจะยังไม่ขึ้นเขาเพราะจะทำแปลงปลูกผักให้ภรรยาเสียก่อน นางจะได้ปลูกผัก เมื่อวานเขาเห็นนางซื้อเมล็ดผักมาหลายห่อ
นางไม่เหมืออี้หลันคนเดิมเขารู้สึกได้ หลังจากที่นางตื่นขึ้นมาจากอาการป่วยนางมีบางอย่าง ไม่สิ นางมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ก่อนนางป่วยนางเป็นสตรีที่ร่างกายอ่อนแอ จึงเป็นสาเหตุให้หลังจากที่คลอดหยางอี้นางก็ป่วยบ่อยขึ้น จนเช้าวันหนึ่งที่เลยเวลาตื่นไปนานแล้ว แต่นางก็ไม่ตื่น ไม่ว่าเขาจะปลุกอย่างไร ลูกร้องเสียงดังอย่างไร นางก็ไม่ตื่น จนเขาคิดว่านางคงทิ้งเขากับลูกไปแล้ว แต่สุดท้ายนางก็กลับมาหาเขากับลูก
ถึงแม้นางจะเปลี่ยนไปแต่การที่นางได้กลับมาหาเขากับลูกอีกครั้งมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลหรือสาเหตุของการเปลี่ยนไปเลยสักนิด แค่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเขา