ตอนที่ 1

2187 Words
ณ หมู่บ้านกู่ แคว้นเทียนจี้ “หลันเอ๋อร์ เดี๋ยวพี่จะขึ้นเขาล่าสัตว์กับอาเหอนะ” บุรุษร่างกายสูง กำยำ ผิวคล้ำจากการทำงาน เข้าป่าล่าสัตว์ เอ่ยพูดกับภรรยาของตนที่นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่บนแคร่ในครัว “เจ้าค่ะท่านพี่ เดี๋ยวข้าจะห่อข้าวให้ท่านพี่ไปกินระหว่างทางนะเจ้าคะ” หญิงสาวร่างเล็กตอบรับสามีของตนพร้อมกับคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวให้เขา “ขอบใจเจ้า” ตั้งแต่ภรรยาของเขาฟื้นจากอาการป่วยนางก็เปลี่ยนไป เช่นการทำอาหารที่รสชาติอร่อยขึ้น ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนนางทำไม่อร่อยแต่แค่ตอนนี้อร่อยกว่า “ท่านพี่เจ้าคะ เมื่อเช้าตอนที่ข้าไปที่ลำธารหลังบ้าน ข้าเห็นปลาว่ายเต็มไปหมดเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่จับให้ข้ามาทำอาหารได้หรือไม่เจ้าคะ” ปลาเต็มลำธารไปหมดเลย แหวกว่ายกันอย่างสนุกเชียว แต่ละตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น “ปลา?” “เจ้าค่ะ มันแหวกว่ายเต็มลำธารหลังบ้านเลยเจ้าค่ะ ทำไมท่านพี่ไม่จับมาให้ข้าทำอาหารเจ้าคะ” “มันจับยากเพราะมันอยู่ไม่นิ่ง ที่สำคัญเคยมีชาวบ้านเอามาทำอาหารแล้ว แต่ก็กินไม่ได้เพราะมันคาว ไม่อร่อย” ไอหยา ช่างไม่รู้จักของอร่อยเสียจริง “ข้ารู้วิธีจับและวิธีทำมันเจ้าค่ะ ถ้าข้าบอกวิธีกับท่าน ท่านจับให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” ไม่บอกเปล่านางยังทำตาปริบๆ เพื่อออดอ้อนเขาด้วย “ได้ เดี๋ยวพี่จะจับให้เจ้า” เจอนางทำตาเช่นนั้น ใครเล่าจะขัดใจไหว จับให้นางนำมาทำอาหารดูสักตัว นางจะได้รู้ว่ามันคาวจนกินไม่ได้ “ขอบคุณเจ้าค่ะ” และมื้ออาหารก็ดำเนินต่อไปอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งจบมื้ออาหาร หญิงสาวก็เก็บถ้วยชามไปล้างโดยมีชายหนุ่มช่วย เสร็จจากนั้นก็ไปจัดเตรียมห่อข้าวให้สามี “เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านพี่” หญิงสาวยื่นห่อข้าวให้กับสามี แต่คนตรงหน้ายังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใด เสียงร้องของอีกคนในครอบครัวก็ดังขึ้น “แง แง” ได้ยินเสียงเด็กชายตัวน้อยร้อง หญิงสาวไม่สามารถนิ่งเฉยได้ รีบตรงไปยังห้องนอนที่มีเพียงห้องเดียวทันที เด็กชายตัวน้อยร้องไห้จ้า หญิงสาวรีบตรงไปอุ้มลูกน้อยขึ้นมา เด็กน้อยคงร้องไห้เพราะไม่สบายตัว เนื่องจากที่นอนเฉอะแฉะไปด้วยฉี่ของตนเอง หญิงสาวจึงรีบถอดผ้า เช็ดทำความสะอาด และเปลี่ยนผ้าใหม่ให้ลูกน้อย มีสามีเป็นผู้ช่วยอยู่ไม่ห่าง เด็กน้อยเมื่อสบายตัวแล้วก็หยุดร้องไห้ ซุกหน้าเข้ากับหน้าอกของมารดาอ้าปากงับผ่านเสื้อ “หิวแล้วใช่หรือมไม่” นางไม่ปล่อยให้ลูกรอนาน เปิดเสื้อให้ลูกเข้าเต้า แรกๆ ก็อายบุรุษที่ยังยืนอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้เริ่มชินเสียแล้ว ถ้ามัวแต่อายลูกของนางคงอดพอดี “คงจะหิวน่าดู” ลูกเขากินนมจนแก้มพองไปหมดแล้ว อีกมือก็ปัดป่ายไปคว้าหมับเข้ากับเต้าอีกข้างหนึ่ง “อาหยาง อาหยาง” เสียงเรียกที่ดังขึ้นหน้าบ้าน ทำให้เด็กน้อยสะดุ้งจนเกือบจะร้องไห้อีกครั้ง ผู้เป็นพ่อจึงต้องรีบออกไปเพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของสหาย “พี่ต้องไปก่อน” ไม่ลืมที่จะหันมาบอกภรรยาก่อนออกไป “เจ้าค่ะ” เมื่ออยู่กันเพียงลำพังนางก็หันมาสนใจลูกชายตัวน้อยต่อ ยื่นนิ้วไปเขี่ยแก้มเล่น นางขอแนะนำตัวสักเล็กน้อย ชื่อในโลกนี้ นางมีชื่อว่า ‘อี้หลัน’ อายุ 18 ปี มีสามีชื่อ ‘หยางหยาง’ อายุ 23 ปี พร้อมด้วย ‘หยางอี้’ ลูกชายตัวน้อยวัย 5 เดือน นางไม่รู้ว่าเหตุใดจึงมาอยู่ในโลกนี้ นางจำได้แค่ว่าในโลกก่อนนางเพียงเข้านอนตามปกติ แต่ตื่นอีกที่ก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ส่วนความทรงจำของร่างนี้ ไม่มีเลย... คราแรกนางก็ทำใจยอมรับไม่ได้ จนเมื่อผ่านไปหลายวันจนได้รู้ว่านางคงไม่มีทางกลับไปในที่ที่จากมาได้แล้ว จึงยอมรับชะตากรรม และเริ่มใช้ชีวิตใหม่ในร่างของคนอื่นต่อไป การมาที่นี่ก็มีเรื่องดีมากมาย ทั้งมีสามี และลูกที่น่ารัก ที่โลกก่อนนางไม่มีโอกาสได้มี เมื่อตายไปแล้ว สวรรค์ไม่ต้องการ นรกยังถีบหัวส่ง เช่นนั่นก็อยู่ที่นี่ใช้ชีวิตที่ได้ให้ดีก็เพียงพอแล้วสำหรับนาง เมื่อหยางอี้กินนมจนอิ่มแล้วนางก็จับเขาพาดบ่าลูบหลังเพื่อให้เขาเรอออกมา จนเขาเรอออกมาจึงวางเขาลง “แอ้” อิ่มแล้ว อยากเล่นแล้ว “ว่าอย่างไร หืม” “แอ้ แอ้” ปากส่งเสียงอ้อแอ้ มือก็ชูขึ้นปัดป่ายไปตามหน้าของแม่ “หยุมหน้าแม่แล้ว ฮ่าฮ่า” อี้หลันหัวเราะออกมาเสียงดัง ลูกชายนางร้ายจริงๆ หยุมหน้าแม่แล้วหนึ่ง เล่นด้วยกันสักพักหยางอี้ก็ตาปรือจนปิดสนิท ได้เวลาแล้ว! เวลาลูกนอนคือเวลาสวรรค์ของบรรดาแม่ๆ ทั้งหลาย ที่จะได้มีเวลาจัดการสิ่งต่างๆ รวมถึงนางด้วย ทั้งล้างถ้วย ล้างจาน เก็บบ้าน กวาดบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กมีเพียง 1 ห้องนอน 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงเล็กๆ เพื่อรับแขกหรือไว้ทำกิจกรรมต่างๆ ทำไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เมื่อเช้านางได้มีโอกาสสำรวจพื้นที่รอบๆ บ้านที่มีประมาณ 5 หมู่เท่านั้น มีผักปลูกอยู่เล็กน้อย ตายบ้าง โตบ้าง ต้นแคระแกร็นบ้าง คงเพราะดูแลได้ไม่เต็มที่ นางคงต้องจัดการถอน พรวนดิน ปลูกใหม่เสียแล้ว หลังบ้านยังมีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน ซึ่งถือว่าดีมากๆ เพราะไม่ต้องไปตักน้ำไกล ไม่ต้องไปซักผ้ารวมกับชาวบ้านคนอื่นๆ ที่จะไปซักรวมกันที่ลำธารของหมู่บ้าน ที่สำคัญน้ำใสมาก ใสจนเห็นตัวปลาแหวกว่ายอย่างสบายอก สบายใจ แต่อีกไม่นานพวกมันจะกลายเป็นอาหารของนางแล้ว หึหึ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็เข้าไปหาลูกชายตัวน้อย หยางอี้เหมือนรู้ว่าแม่ของตนทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลืมตาขึ้นพร้อมเสียงอันทรงพลัง “แว๊ แว๊” “ไม่คิดจะให้แม่ได้พักเลยเหรอเสี่ยวอี้” อี้หลันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ให้กับเจ้าก้อนซาลาเปาที่นอนร้องไห้ เอื้อมมือไปอุ้มลูกขึ้นมาแนบอก เด็กน้อยเมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคยอีกทั้งยังได้อยู่ในอ้อมกอดมารดาก็ทำให้รู้สึกปลอดภัยแล้วจึงหยุดร้องไห้ทันที “เดี๋ยวแม่จะพาเสี่ยวอี้ไปอาบน้ำ แต่งตัวหล่อๆ รอท่านพ่อกลับมา” อี้หลันอุ้มลูกน้อยไปทางหลังบ้าน โชคดีที่เมื่อกี้ก่อนจะเข้าไปหาลูกน้อย นางได้เอาน้ำร้อนมาใส่กะละมังไว้แล้ว เมื่อมาถึงเพียงแค่ตักน้ำจากในโอ่งผสมลงไป ใช้มือจุ่มลงไปเพื่อตรวจดูว่าน้ำอุ่นหรือยัง เมื่อได้แล้วก็จับเจ้าก้อนซาลาเปาถอดเสื้อผ้า ก่อนจะพาลงไปในกะละมัง “แอ้” เด็กน้อยดีดขาด้วยความสนุกตามประสาเด็ก ขย่มตัวขึ้นลงด้วยความสนุก “อย่าดิ้นสิเสี่ยวอี้ เห็นไหมน้ำกระเด็นแล้ว” แต่หยางอี้ไหนเล่าจะฟังเข้าใจ เด็กน้อยยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกแดงๆ ดีดขาในน้ำอย่างสุขใจ “แอ้ แอ้” “ไอหยา แม่เปียกหมดแล้ว” อี้หลันยิ้มหวานมอบให้ลูกน้อย กว่าจะอาบน้ำเสร็จคนเป็นแม่ก็ตัวเปียกเหมือนอาบน้ำไปด้วยเช่นกัน แต่ก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือ จับเจ้าลูกลายแต่งตัวหล่อๆ รอพ่อของเขาดีกว่า ยามซื่อ (09:00-10:59 น.) หยางหยางกับเหอหมิงก็เดินออกมากจากป่ามายังบ้านของหยางหยาง ทั้งสองยังแบกหมูป่ามาด้วย อี้หลันที่อุ้มหยางอี้ออกมาเดินเล่นนอกบ้านเมื่อเห็นหมูป่าตัวใหญ่ก็ตาโต อ้าปากค้าง “เดี๋ยวข้าไปเอารถเข็น” ไม่ต้องรอให้ใครตอบ เหอหมิงเดินไปข้างบ้านเพื่อเอารถเข็นมาใส่หมูป่าเข้าไปขายในเมือง “ท่านพี่ หมูป่า” อี้หลันที่เดินเข้ามาหาหยางหยางชี้ไปทางหมูป่าตัวโต ในหัวก็คิดรายการอาหารที่เกี่ยวกับหมูป่าอย่างเร็วจี๋ หมูแดดเดียว หมูทอด ผัดเผ็ดหมูป่า แค่คิดน้ำลายก็จะไหลแล้ว “ใช่ เดี๋ยวพี่จะเอาไปขายให้เหลาอาหารในเมือง” เพล้ง ได้ยินเสียงความฝันของนางแตกสลายหรือไม่ “เราเอาไว้ทำอาหารไม่ได้หรือเจ้าคะ” “อีกไม่กี่เดือนจะเข้าหน้าหนาว เราต้องหาเงินเข้าบ้าน เพื่อซื้อข้าวสาร อาหาร ไหนจะเสื้อผ้า พี่ไม่อยากให้เจ้ากับลูกต้องทนหนาว” ส่วนบ้านเขาเพิ่งจะซ่อมแซมเมื่อไม่นานมานี้ คาดว่าคงจะยังพอผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้ อี้หลันที่ได้ฟังเหตุผลก็เข้าใจได้ ไม่ได้ดื้อรั้น “เจ้าค่ะ” “แอ้” หยางอี้ที่อยู่ในอ้อมกอดมารดาชูมือไปทางบิดาเพื่อให้บิดาอุ้ม หยางหยางที่ถึงแม้จะอยากอุ้มลูกเพียงใดก็ต้องห้ามใจ ตอนนี้สภาพเขาดูไม่ได้เลย “ตอนนี้พ่อเลอะไปทั้งตัวคงอุ้มเจ้าไม่ได้” เด็กน้อยที่ชูมือจนเมื่อยแต่ท่านพ่อก็ยังไม่อุ้มเสียที ก็เริ่มเบะปากจะร้อง “เสี่ยวอี้ คนเก่งของแม่ ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” อี้หลันจำต้องปลอบโยนบุตรชาย “ตอนนี้ท่านพ่อของเจ้าตัวเปื้อนเจ้าที่อาบน้ำแต่งตัวหล่อเหลาแล้ว ถ้าชุดเปื้อนจะไม่หล่อนะ” ถึงแม้จะรู้ว่าหยางอี้ไม่เข้าใจในสิ่งที่พูด แต่นางก็อยากจะพูดกับลูก เด็กน้อยไม่เข้าใจในสิ่งที่มารดาพูด หันมามองหน้าเอียงคอสงสัย จนลืมร้องไห้ไปเสียแล้ว “รถเข็นมาแล้ว” เหอหมิงที่ไปเอารถเข็นข้างบ้าน เข็นรถมาถึงที่พวกนางยืนอยู่ “อืม มาช่วยกันยกเถิด” แล้วบุรุษสองคนก็ช่วยกันยกหมูป่าตัวใหญ่ใส่รถเข็น เอาเสื่อเก่าๆ มาคลุมตัวมันไว้ป้องกันสายตาชาวบ้าน “เดี๋ยวข้าขอไปอาบน้ำก่อน ไปเกิน 2 เค่อ เดี๋ยวข้ากลับมา” “ได้ ข้าก็จะอาบเช่นกัน” กล่าวจบบุรุษทั้งสองก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ อี้หลันก็อุ้มพาลูกชายมายืนดูหมูป่า เด็กน้อยสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว พยายามจะโน้มตัวไปเบื้องหน้าหาหมูป่าด้วย เพียงแค่นั้นเด็กน้อยก็ยิ้มมีความสุขแล้ว “อาบเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ” ยังไม่ถึง 1 เค่อเลยด้วยซ้ำ สามีของนางอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว แต่ก็เข้าไจได้เป็นบุรุษไม่จำเป็นต้องอาบแบบพิถีพิถันเช่นสตรี “อืม ต้องรีบไปขายหมูป่า” หยางหยางบอก “เจ้าค่ะ” “แอ้” ดูเหมือนลูกชายนางจะยังมีความพยายามให้พ่อของเขาอุ้ม “ส่งเสี่ยวอี้มาให้พี่เถิด” หยางหยางยื่นมือไปทางบุตรชาย “เจ้าค่ะ” อี้หลันจึงส่งบุตรชายให้เขาอุ้ม เพราะเขาอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกังวล หยางอี้เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของบิดา ก็จัดการสำรวจเสื้อผ้า หน้า ผม ทันที และ “โอ๊ย” โดนหยุมหน้าไป 1 กรุบ เด็กน้อยร้องดีใจเหมือนทำภารกิจสำคัญเสร็จแล้ว หยางหยางที่จะทำหน้าดุใส่สักหน่อยก็ต้องเปลี่ยนเป็นยิ้มให้แทน ตัวแค่นี้รู้จักแกล้งแล้ว ไม่อยากคิดถึงตอนโตเลย “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าขอไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ” นางอยากไปสำรวจตลาดในเมืองสักหน่อย อยากหาช่องทางทำเงิน “เป็นวันพรุ่งได้หรือไม่” ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นางไป แต่วันนี้เขาไปขายหมูป่าก็จะรีบกลับ วันพรุ่งเขาไม่ได้ขึ้นเขาจึงค่อยเข้าเมืองเช้าหน่อย “เจ้าค่ะ” อี้หลันยิ้มตอบหยางหยาง “เจ้าอยากได้สิ่งใดหรือไม่” บางทีที่นางขอเข้าไปในเมือง อาจจะมีบางสิ่งที่อยากได้ “ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่อยากเข้าไปเดินเล่นเท่านั้น” “อืม” เขาตอบรับในลำคอ และก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “จึงสิเจ้าบอกว่ารู้วิธีจับปลา เช่นนั้นหลังจากพี่กลับมา เราไปจับปลากันดีหรือไม่” อี้หลันได้ยินก็ดีใจที่จะได้กินปลาแล้ว ตอนนี้รายการอาหารที่เกี่ยวกับปลาก็เต็มสมองน้อยๆ ของนางเช่นกัน “ดีเจ้าค่ะ” ปลาเผาเอย ต้มปลาเอย ปลาราดพริกเอย ปลาทอดเอย ไม่รู้จะทำรายการไหนก่อนดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD