"ทำอาหารเป็นไหม" เขาถามขึ้นมาลอย ๆ
"คะ?" ลีนหันหลังกลับมามองหน้าของชัชวาลทันควัน
"อื้อ...ผมถามคุณน่ะแหละ ทำอาหารเป็นไหม" เขาถอดแว่นตาออก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเท้าแขนไปกับโต๊ะ สายตาจ้องหน้าลลนาที่ยืนต่อหน้าตาไม่กะพริบ
"ทำเป็นค่ะ คุณชัชจะรับอะไรเป็นอาหารค่ำหรือคะ” เธอก็ตอบออกไปแบบฉะฉาน
"เธอทำอะไรอร่อย ก็ทำเลย ฉันกินได้ทั้งนั้น แต่รสชาติไม่ต้องจัดจ้านมาก" เขาส่งยิ้มให้เธอทิ้งท้าย
ลลนาถึงกับฉีกยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิดด้วยความยินดี อย่างน้อยก็โล่งใจที่เขาแสดงความเป็นมิตรออกมาในตอนสุดท้าย ลลนารับข้อมูลจากทนายกิตติว่าต้องไปอยู่คอนโดกับคุณชัชวาล ดูแลเขาทุก ๆ เรื่องเหมือนแม่บ้าน
"ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับคุณชัช ดูแลเรื่องเสื้อผ้าและอาหารการกิน ตลอดที่เธออยู่ที่นี่ ถ้าเธอทำงานถูกใจคุณชัชวาล คุณชัชวาลคงให้เงินน้ำใจกับหนูลีนอีกก็ได้ คุณชัชใจดี"
"ค่ะ" หญิงสาวได้แต่พยักหน้า
ณ ห้างสรรพสินค้ากลางกรุง
"ทำไมต้องให้ลีนเลือกเสื้อผ้าเยอะขนาดนี้คะ" เธอถามวทัญญูอย่างสงสัย
"พี่ชัชไม่ชอบผู้หญิงธรรมดาน่ะครับ อีกอย่างคุณลีนอย่าขัดใจพี่ชัชเด็ดขาดนะครับ"
"ทำไมคะ" ลีนถามขึ้นมาทันทีแววตามีความสงสัย
เก่งยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู ในใจรู้ว่าคืนนี้ลลนาคงไม่พ้นเงื้อมมือชัชวาล แต่เขาจะบอกเธอได้อย่างไร
"ปีนี้อายุเท่าไหร่ครับ" เขาเปลี่ยนเรื่องคุย
"ยี่สิบสองค่ะ" เก่งหันมามองใบหน้าเธอ ใบหน้าที่บางมุมดูเคร่งขรึมจริงจัง ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ แต่ก็จัดว่าลลนาเป็นผู้หญิงที่สวยและมองไม่เบื่อ
"งั้นต้องเรียกพี่เก่งแล้วนะครับต่อไป เพราะผมย่างยี่สิบห้า" ลลนาหัวเราะออกมาก่อนจะพูดขึ้น
"อย่าย่างนานนะคะพี่เก่ง เดี๋ยวจะไหม้หมด" วทัญญูได้ยินมุกของลีนถึงกับหัวเราะลั่น
"ลีนเป็นคนตลกเหมือนกันนะ แบบนี้พี่ชัชจะได้ไม่เหงา พี่เก่งฝากลีนอีกเรื่องเปลี่ยนหน้ายักษ์ของพี่ชัชให้เป็นหน้าหวาน ๆ ได้ไหม"
"อุ้ย...จะให้เปลี่ยนได้ยังไงคะ ขนาดพี่เก่งอยู่กับคุณชัชมาตั้งนาน เคยมีใครทำได้ไหมคะ"
วทัญญูส่ายหน้าระรัว
"อึ... ไม่มี ลีนครับ...พี่มีความลับจะบอก พี่ชัชเคยมีปมในเรื่องของหัวใจ ยังไม่เคยมีใครแกะออกมาได้"
"เกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ"
"ผู้หญิง..."
"หื้อ หล่อ ๆ รวย ๆ แบบนี้มีผู้หญิงทิ้งด้วยหรือคะ" ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเข้าหากัน
"ตอนนั้นพี่ชัชยังไม่รวยนี่ครับ" เขาบอกเธอ
"ลีนเชื่อเรื่องความรักและพรหมลิขิตค่ะ บางทีผู้หญิงคนนั้นกับคุณชัชอาจไม่ใช่เนื้อคู่กัน"
"แหม...ลีนมองโลกในแง่ดีจัง" เก่งเอ่ยชม
"ค่ะ ลีนเจออะไรมาเยอะค่ะพี่เก่ง ลีนต้องอยู่ให้ได้บนโลกใบนี้ คนเรามันมีมุมมืดนะคะพี่เก่ง แต่เราต้องหามุมสว่าง มุมดี ๆ ในการมอง"
"อั้ยยะ... ลีนพูดเหมือนอายุสักสี่สิบ" คำพูดของเก่งทำให้เธอหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
"พี่เก่งจะว่าลีนแก่กว่าวัยใช่ไหมคะ” เธอหัวเราะ
"เปล่าพี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่หมายถึงมีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ น้องลีนสวยออก หน้าไม่แก่หรอก แบบนี้แหละสเปกของพี่ชัชเขา"
"หื้อ... อะไรนะคะ" เธอฟังไม่ถนัด
วทัญญูเมื่อได้เห็นหญิงสาว เขาไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมชัชวาลถึงยื่นข้อเสนอนี้ให้กับดวงแขและสมภพ
“เปล่า ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ ว่าแต่ตอนนี้ลีนเอาของในมือของลีนมาให้พี่ พี่เอาไปเก็บที่รถ แล้วลีนก็ไปเลือกซื้อของสด ผัก ผลไม้ไปใส่ตู้เย็นไว้นะ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ลีนต้องทำอาหารให้พี่ชัชทุกวัน เขาไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน"
"ค่ะ" เธอพยักหน้า มองตามหลังของเก่งที่เดินแกมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
"อ้าว... ลืมไป เลยไม่ได้ถามว่าคุณชัชชอบทานอะไร" เธอพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนจะรีบเดินหายไปในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำนั้น
ณ คอนโดของชัชวาล
"เสื้อผ้าข้าวของของลีน พี่เอาไปเก็บไว้ในห้องให้แล้วนะ" เธอหันไปยิ้มให้กับเขา เก่งชี้มือไปยังประตูไม้บานใหญ่
"เป็นไงใช้เป็นไหม อุปกรณ์ต่าง ๆ” เขาถาม แต่พอเห็นท่าทางที่คล่องแคล่วในครัวของลลนาก็เบาใจ
"ลีนเรียนจบ กศน. มาก็จริงค่ะ ไม่ได้จบคหกรรม แต่ลีนเคยไปทำงานในครัวของร้านอาหารเบญจรงค์น่ะค่ะ ที่สีลม ทำอยู่เกือบสามปีค่ะ แต่พอเรียนจบ ลีนเลยอยากหางานใหม่ใกล้ ๆ บ้านทำ” ลลนาเล่า
"แล้วหลังจากนั้นลีนทำอะไร แล้วมาที่นี่ ลีนไม่ต้องลาออกจากงานเหรอ” เก่งถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ... ลีนทำงานร้านดอกไม้ใกล้ ๆ บ้านนะคะ ทำร้านของคนรู้จักกันนี่แหละค่ะ ลีนรับเงินเป็นรายวัน แต่พอจะมีงานพิเศษ รับจ๊อบนอก รับงานแต่งงานตามโรงแรมบ้าง อะไรแบบนี้ละคะ มันเหนื่อยน้อยกว่าทำร้านอาหารเยอะเลยค่ะพี่เก่ง แต่เงินได้มากกว่า" ลลนาสาธยาย
"เก่งจริง ๆ ตัวแค่นี้" วทัญญูยิ้มให้เธอ ก่อนจะยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู
"ได้เวลาแล้ว พี่คงต้องกลับ"
"อ้าว...ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันหรือคะ"
"พี่มีนัดแล้วน่ะสิ" เขาบอกปฏิเสธ
"เออ...พี่เก่งแล้วคุณชัชจะกลับมาตอนไหนคะ"
"เร่งมือเหอะน่ะ เวลาคุณชัชโมโหหิว น่ากลัวมาก..." เขาแกล้งขู่เธอ ลลนารีบเร่งมือ เก่งจึงหัวเราะขึ้น เธอแกล้งง่ายจริง ๆ
"แลกไลน์กันไหม" เขายื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้า
ลลนารีบบอกเบอร์โทรศัพท์ของเธอให้เขาทันที
"ไว้คุยกันทางนี้นะ"
"ค่ะ" ลีนยกมือไหว้ลาเขา แล้วพูดขอบคุณ โบกมือลา พอวทัญญูพ้นประตูไป เธอก็หันมาทำงานตรงหน้าทันที
"ฉันหิวแล้วนะ ตั้งโต๊ะได้หรือยัง" ชัชวาลส่งเสียงดัง จนลลนาที่ทำงานเพลิน ๆ ถึงกับตกใจ รีบวางมือแล้วหันมามองเขา
"อุ้ย...ตกใจหมดเลยค่ะ คุณชัชหิวแล้วเหรอคะ เสร็จพอดีเลยค่ะ" เธอหันมายิ้มกลับให้เขาเต็มใบหน้า
ชัชวาลหัวใจกระตุกกับรอยยิ้มที่อ่อนหวานนั้น เขาแทบเผลอยิ้มให้ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลลนากริ่งเกรง
"อื้อ..." เขาทำสีหน้าเรียบเฉย หันหลังกลับไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร
ชายหนุ่มยกมือถือขึ้นมาไล่เช็กดูข้อความ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีงานด่วนอะไร สายตาก็เหลือบมองใบหน้าของลีนขณะที่เธอลำเลียงกับข้าวมาวางบนโต๊ะ จานสุดท้ายข้าวสวยร้อน ๆ ที่หอมกรุ่นส่งกลิ่นไปทั้งบริเวณนั้น ท้องของชัชวาลร้องจ๊อก ๆ
"ตักข้าวของตัวเองมานั่งกินด้วยกัน" เขาออกคำสั่ง ลลนายิ้มออกมาทันที ดีใจอย่างน้อยเขาก็ให้ความเป็นกันเอง
หญิงสาวเดินไปตักข้าวแล้วรีบลงมานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เพราะก็รู้สึกหิวมาก ๆ เธอยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว ลลนานั่งรอจนชัชวาลตักคำแรก เธอถึงได้ตักอาหารใส่จาน
"อร่อยนะ..." เขาเอ่ยชมเธอ หญิงสาวถึงกับยิ้มแก้มปริ
"อนาคตลีนอยากมีร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเองน่ะค่ะ"
เธอเผลอเล่าความฝัน
"แต่ก็ยังยาก" เธอพูดพลางยิ้มแบบไม่ยี่หระกับชีวิต
"ทำไมถึงว่ายาก ในโลกนี้ มีคนทำอะไรได้ เราก็ทำได้" ชัชวาลยกหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวย ๆ ที่ไร้เครื่องสำอาง
"ค่ะ คนที่จะทำได้ ก็คือ คนคนนั้นต้องมีเงิน จริงไหมคะ" ลีนพูดต่อจากเขา คำโต้ตอบของเธอทำให้ชัชวาลอมยิ้ม
"แต่ลีนนึก ๆ ไปนะคะ ถ้าทำร้านอาหารมันยุ่งยากมาก และก็เหนื่อยมากด้วย ลีนว่าลีนน่าจะทำร้านขายดอกไม้ รับจัดดอกไม้น่าจะง่ายกว่ากันเยอะเลยค่ะ" เธอเหมือนเล่าให้เขาฟัง ในใจของลีนก็คิดไปเรื่อยเปื่อย นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่เธอพูดความฝันออกไป
ชัชวาลชักถูกใจลลนามากขึ้น เธอช่างเป็นคนมีความคิด เขาเห็นความสดใสในแววตา และสีหน้าเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่พูด ไม่ได้พูดเล่น ๆ
'ใบหน้าสดใส ผิวขาวกระจ่าง ริมฝีปากกลีบอวบอิ่มน่ารัก น่าสัมผัส’ ชายหนุ่มคิดเพ้อในใจ สายตาจ้องมองใบหน้าของลลนาแบบถูกอกถูกใจ
เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ชัชวาลวิ่งรถไปจนถึงบ้านของดวงแข
'หลังสีขาวหลังนี้แน่ ๆ ปลูกท่ามกลางตึกสูงระฟ้า ราคาคงมากกว่าสามล้าน'
เขามองภาพบ้านไม้หลังสีขาวที่ดูอบอุ่น และอวลไปด้วยความสุข เขานึกชอบตั้งแต่เห็นรูปที่ดวงแขและสมภพส่งไปให้ดู ชัชวาลผลักประตูรั้วที่เป็นไม้เข้าไป
ดวงแขและสมภพรีบวิ่งมารับอย่างรวดเร็วเพราะได้รับข้อความว่าเขาถึงแล้ว
"อุ้ยตาย...เพิ่งโทรเข้ามาไม่นึกว่าคุณชัชจะมาถึงเร็วขนาดนี้" ดวงแขใช้น้ำเสียงมีมารยาจริต
"เข้าไปนั่งในบ้านก่อนดีไหมครับ" สมภพเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม
"น่าอยู่นะ ใครเป็นคนปลูกต้นไม้ ดอกไม้พวกนี้"
"อ๋อ...ลูกสาวคนโตของดวงแขเองค่ะ"
"ยายลีนทำบ้าอะไรอยู่ ไปในบ้านเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กับแขกหน่อยสิ" สมภพหันหน้าไปเอ็ดลลนาที่นั่งเห็นแต่หมวกสานปีกกว้างกันแสงแดด
เธอลุกขึ้นยืนเม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า ลีนไม่มีเวลาจะสบตากับแขกหนุ่ม เธอรีบจ้ำ ๆ เดินเข้าไปในบ้านตามคำสั่งของคุณสมภพ
"นั่งตรงหน้านี้ก็ได้ครับ ร่มรื่นดี ไม่มีแสงแดดแล้วด้วย" ชัชวาลพูดไป แต่สายตาก็สำรวจไปรอบ ๆ
"ก็ได้ยายลีนนี่แหละที่ดูแล ว่าง ๆ ก็ไม่ไปไหน ทำ ๆ แต่อยู่ในสวนนี่แหละ คุณชัชคะมีละครและหนังหลายเรื่องแล้วนะคะที่มาถ่ายทำที่บ้านหลังนี้"
"เหรอครับ"
"จริง ๆ ครับ ว่าแต่วันนี้..." สมภพเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ผมผ่านมาแถวนี้พอดี เลยแวะเข้ามาดู" เขาแหงนหน้ามองไม้เลื้อยดอกสีม่วงสดสวยตรงหน้า 'พวงคราม'
ก๊อก... เสียงแก้วที่กระทบกับโต๊ะไม้ตอนที่ลลนานำน้ำมาเสิร์ฟ
ชัชวาลหันหน้าไปมองเธอทันที ใบหน้าที่หมดจด และสีปากชมพูอ่อนที่ไม่ได้แต่งแต้ม เขาชอบผู้หญิงสไตล์นี้ที่สุด แล้วความคิดเขาก็เตลิดไปไกล
"คุณชัชคะ ลองทานตัวนี้ดูค่ะ" เธอตักปลาชิ้นเล็กที่ทอดกรอบแล้วราดด้วยน้ำเปรี้ยวหวานสูตรที่ลลนาคิดค้นเอง
เขาตื่นจากภวังค์ สบตากับลลนาที่ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ ชัชวาลรีบตักข้าวกับปลาชิ้นนั้นเข้าปากทันที เนื้อปลาทอดจนกรอบนอก หอมและนุ่มใน ผสมกับรสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี
"อื้อ..." เขามองสบตา แววตาถูกใจจนคนทำยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงสวย
'โอ๊ย...เด็กคนนี้ ต่างจากวันที่เห็นวันแรกมาก วันนี้ทำไมน่ารักขึ้นกว่าเดิม สวยขึ้นกว่าเดิม' ชัชวาลคิด
"อร่อยไหมคะ" ลีนถามและตั้งใจรอคำตอบ
"น่ากิน..." ชัชวาลพูดความคิดในใจที่อยากจะจับลลนาปล้ำเสียตรงนี้
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวดีใจจริงที่เธอทำอาหารถูกใจเจ้านาย
จริง ๆ เธอก็อยากชวนเขาคุยมากกว่า ถึงอย่างไรเธอก็ต้องอยู่กับเขาที่นี่จนกว่าคุณดวงแขและคุณสมภพจะหาเงินมาไถ่บ้านคืนได้
กริ๊ง... มือถือของชัชวาลดังขึ้น หลังจากที่เขากินอิ่ม เขาพาตัวเองไปนั่งรีแลกซ์ที่โซฟาหน้าทีวี กำลังดูรายการข่าวอยู่
"ว่าไง" เขาถามเสียงเข้มกับคนปลายสาย
"ก็...คือ..." สมภพทำน้ำเสียงอ้ำอึ้ง
"จะมาถามเรื่องลูกสาวของคุณหรือว่าอยู่ที่นี่เป็นยังไง"
ชัชวาลถามไปในทันที
"อะ...เปล่า ๆ ครับ คือ..."
"คุณสมภพ ผมไม่ชอบคนที่อ้อมค้อม มีอะไรพูดมา เพราะตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนของผม"
"ครับ ถ้าหากผมจะขายบ้านหลังนี้ ราคามันมากกว่าสามล้าน คือ... เอ่อ..."
"เท่าไหร่?" ชัชวาลสวนกลับทันที
"ผมขอเพิ่มอีกสิบเอ็ดล้าน พร้อมค่าโอนครับ" ชัชวาลหันไปมองใบหน้าของคนที่ตั้งใจล้างทำความสะอาดอยู่ในครัว
"ตกลง" เขารับปากดื้อ ๆ
คนปลายสายหันไปยิ้มกับภรรยา
“แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผมต้องคิดดอกเบี้ยจากเงินสามล้านก่อน แล้ววันไหนที่ผมพอใจ ผมจะเขียนเช็คให้คุณอีกแปดล้าน ตกลงไหม”
“หา...!” สมภพตกใจ
“ก็แล้วแต่นะ” เขาทำไม่สนใจ
“เอ่อ...”
“ผมจะวางสาย”
“ดะ...เดี๋ยวครับ ตกลงครับ” สมภพยอมรับ
“ระหว่างนี้เตรียมหาที่อยู่ใหม่ไว้ได้เลย” ชัชวาลวางสาย ใบหน้ายกยิ้ม ชัชวาลดื่มน้ำสีอำพัน ยิ้มกริ่มไปกับความพึงใจที่เขาจะได้รับในคืนนี้
'การลงทุน ผลตอบแทนมักคุ้มค่าเสมอ' เขาบอกกับตัวเอง
"พี่เก่งบอกว่าคุณชัชดื่มกาแฟดำสองช้อน หลังอาหารทุกมื้อ" ลลนายกกาแฟดำมาวางให้
"ขอบใจ" เขายังวางหน้าเหมือนเดิม
"ไปพักได้แล้วไป อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย"
ลลนาได้ฟังคำสั่งของเขาก็ยังแปลกใจ แต่ไม่ได้ถาม เธอเดินเข้าไปในห้องนอนที่พี่เก่งชี้ว่า เขาเอาเสื้อผ้าของเธอไปเก็บไว้ให้ในห้องนี้
ทุกอย่างถูกวางไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าที่เปิดออกกว้าง ลลนารีบเอาทุกอย่างออกจากระเป๋าและเก็บมันไว้อย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเอากระเป๋าใบนั้นวางไว้บนหลังตู้เสื้อผ้าที่ด้านบน
ลีนปีนลงมาจากเก้าอี้ ก่อนจะนั่งลงบนนั้น มองไปรอบ ๆ ห้อง ทุกอย่างดูหรูหราและเป็นระเบียบ
เธอนึกชมรสนิยมที่ทันสมัยของเจ้านายที่ตกแต่งมันเรียบหรูแต่ดูดีมาก ๆ
'เตียงโคตรกว้าง คืนนี้แกได้นอนกลิ้งไปมาไม่น่าจะตกเตียงแน่ ๆ ยายลีน' แค่คิดเธอก็หัวเราะขึ้นมา
'พ่อจ๋า แม่จ๋า ว่าไปในความโชคร้ายก็มีความโชคดีนะคะ ลีนชอบห้องนี้จัง'
เธอนึกไปถึงพ่อกับแม่พลางหยิบรูปท่านไปวางบนหัวเตียง ก่อนจะฉวยผ้าเช็ดตัวที่เตรียมมา และเดินเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวกลับเข้ามาพร้อมกับเปลี่ยนชุดนอนเป็นรูปการ์ตูนตัวโปรด
ลลนายกมือขึ้นปิดปากหาวหวอด ๆ เมื่อคืนก่อนกว่าจะช่วยพี่ที่ร้านดอกไม้จัดเตรียมงานแต่งงานกว่าจะเสร็จถึงบ้านก็เกือบตีสาม
'นอนแล้วนะคะ' เธอบอกกับรูปของพ่อกับแม่แล้วก็กราบพระก่อนจะล้มตัวลงนอน แสงไฟจากห้องน้ำที่เธอเจตนาเปิดเอาไว้ เพราะกลัวกลางคืนตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วจะมองไม่เห็นทาง
“นอนหลับฝันดีนะลลนา” เธอบอกตัวเองก่อนนอนเสมอ