เพียงแสนลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของอีกวัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เฮยหลงน่าจะออกกำลังกายอยู่แต่ละวันเธอคงเสนอหน้าไปออกกำลังกายพร้อมกับเขา คงไม่กล้าหลับเพราะกลัวพลาดโอกาสเจอหน้าเขาไป เฮยหลงเติบโตในตระกูลเจ้าพ่อของทางฮ่องกง ธุรกิจล้วนเป็นสีเทา ยิ่งคู้ค้าเยอะเท่าไหร่ศัตรูก็มีเยอะมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นบ้านก็ต้องมีคนเฝ้า ต้องมีมือขวาและมือซ้ายไว้คอยเรียกใช้งาน ไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกัน ไม่รู้ว่าศัตรูแค้นจะโผล่ออกมาจัดการตอนไหน
เธอแต่งงานกับลูกชายเจ้าพ่อย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการถูกตั้งค่าหัว เมื่อก่อนเป็นยาจกร่อนเร่ตามถนนในเมืองบนเกาะฮ่องกงก็ย่อมรู้ว่าวงการสีเทาเป็นแบบไหน ถ้าเธอเป็นคนดีคงไม่รับงานไปวางยาผู้ชายเพื่อแบล็กเมล์หรอก แต่สวรรค์ดันเข้าข้างเฮยหลงเกินไปเพราะหน้าตาหล่อกินคน หรือหุ่นล่ำสัน ผิวขาวถอดเสื้อมาสว่างจ้ากว่าเธออีก อาจเพราะหลงมัวเมาในรูปกายภายนอกทำให้เธอกล้าหักหลังนายจ้าง สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกทำงานให้นายหรือมาเป็นเมียเขาก็ล้วนอยู่ในนรกไม่ต่างกัน
แต่มันต่างตรงที่ว่านรกในการเป็นเมียของเฮยหลงช่างสุขสบาย มีเงินให้ใช้ มีหน้ามีตา มีคนเคารพนับถือ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีคือ...เขา คนที่เป็นสามีของเธอเอง ไม่มีความรัก ไม่มีความห่วงใย ไม่มีความคะนึงหาใด ๆ ทั้งสิ้น
ทำไมถึงกล้าพูดว่าไม่มี เพราะไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยเข้าตาเขาเลยสักครั้ง เป็นเมียที่รอวันหย่า ถ้าเขาฆ่าเธอหมกป่าไปได้เขาคงทำไปโดยไม่ลังเลด้วยซ้ำ
สุขสบายงั้นหรือ...
เพียงแสนตวัดเรียวขาลงจากเตียงเดินไปเปิดผ้าม่านออกจึงเห็นแสงสีส้มสุกสกราวอยู่ด้านหน้า ในเมื่อสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะหย่าลองมาถามตัวเองดูอีกสักครั้งว่าชีวิตเธอหลังจากนี้ยังต้องการความสุขสบายอยู่หรือไม่ ยังอยากมีชีวิตบนความหรูหราหรือเปล่า คำตอบคือ อยาก!
เธอไม่ควรวิ่งตามผู้ชายจนประมาทชีวิตตัวเองขนาดนี้ เพียงแสนตั้งสติหน่อย หย่าไปไม่มีใครเหลียวแลแล้วนายเก่าที่เธอหักหลังมามีหรือจะไม่ตามมาแก้แค้นเธอ เพราะเช่นนั้นเอาความมั่งมีและอำนาจจากเฮยหลงมาดีกว่า มีเงินต่อให้ล้มเข่าแตกก็เหมือนล้มลงบนฟูกนุ่ม ๆ
ตั้งสติ โง่มานานแล้วค่ะสาว!
“วันนี้ไม่ไปที่ยิมเหรอครับ?”
เพียงแสนหลุดจากภวังค์หันไปมองตามเสียงจึงเห็นว่าเป็นจาร์กัวมือขวาแสนเย็นชาเหมือนกับเจ้านายอย่างเฮยหลง จาร์กัวดุ โหด ของจริง ต่างจากจังก้าเพราะรายนั้นคนน้อง ขี้เล่น เจ้าชู้ เหมือนไม่จริงจังกับอะไร แต่ทุกครั้งที่เอาจริงก็โหดไม่ต่างจากพี่เลย
“แสนไม่ได้คิดว่าตัวเองอ้วนแล้วค่ะ ออกจะหุ่นดีคุณจาร์กัวว่าไหมคะ?” เธอลงมาจากบันไดจนถึงขั้นสุดท้ายก็จะหมุนตัวไปมาให้มือขวาสามีดู
จาร์กัวเพียงแค่ปลายหางตามองก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เพราะเขายังมีงานที่นายมอบหมายให้อยู่
“ไปไหน?” เฮยหลงเหลือบตาไปมองร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากบ้าน ตารางงานวันนี้หล่อนว่างนี่น่า “ส่งคนไปจับตาดูให้ดี” คนที่เคยหักหลังนายตัวเองได้คงไม่ภักดีต่อเขาง่าย ๆ หรอก เขาไม่มีทางเชื่อยายจิ้งจอกนั่น
“ผมส่งคนตามไปแล้วครับ” จาร์กัวมองตามก่อนจะหันมาสบตากับเจ้านายตัวเองจึงต้องหลบสายตา
“เก็บอาการหน่อย” เฮยหลงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาดุดันหันไปมองไอแพดในมือของตัวเอง
“ขอโทษครับนาย ผมจะไม่ทำอีก”
เฮยหลงรู้ว่าจาร์กัวมันอยากได้คนนี้เป็นเจ้านายมัน แต่เขาไม่ชอบเสียอย่าง ให้มันพับเก็บความคิดนั้นไป
“อาวุธที่มันปล้นไปเป็นของปลอมที่เป็นตัวหลอก ถ้ามันรู้คงหัวเสียไม่เบา มึงรู้ใช่ไหมต้องทำยังไง?” เฮยหลงเหลือบตาไปมองมือขวาตัวเองอีกครั้ง
“ทราบครับ ผมจะไปจัดการโดยด่วน”
“เดี๋ยว! มึงอยู่ห่างยายจิ้งจอกนั่นไว้ดีกว่า”
“ครับนาย”
เฮยหลงมองลูกน้องตัวเองเดินออกไปเขาจะไม่รู้เหรอว่ามันคิดอะไรอยู่ ความสงสารในจิตใจมนุษย์มักก่อตัวด้วยความรู้สึกอ่อนแอ เขาไม่ชอบให้คนที่กำลังการใหญ่กับเขาอ่อนแอ เพราะเช่นนั้นเขาจะรีบตัดตัวปัญหาออกไปให้เร็วที่สุด เพียงแสน!
ไม่คิดว่าช่วงหนึ่งที่งอนผัวเธอจะยักยอกเงินของเขามาซื้อคอนโดที่นี่ และแน่นอนว่าเขารู้แต่ก็ไม่ทำอะไรไม่พอยังสั่งทุบห้องข้าง ๆ แล้วซื้อห้องเพิ่มให้เธออีก นั่นหมายความว่าเขาดีใจมากที่เธอคิดออกห่างจากเขา ตอนนั้นเธอโมโหจัดคิดว่าเฮยหลงไม่ไว้หน้าตัวเอง แต่พอตอนนี้กำลังอยากหัวเราะตัวเองในอดีตให้ฟันร่วง บุญกีบารมีหอยแล้วไหมที่เขายอมสิ้นเปลืองขนาดนี้เพื่อเธอ สมองมีแต่ขี้เรื่อยสินะเพียงแสน!
เธอมาถึงคอนโดในช่วงสองทุ่มและเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ใช้วันว่างอยู่กับตัวเองไม่ใช่วอแวจนเขาสั่งลูกน้องจับลากไปขัง นั่นแหละเฮยหลงที่เธอรู้จัก เขาไม่รู้จักรักหยกถนอมบุบผางามสักนิด ไอ้ผัวบ้า
“ทำไมแอร์เปิด?” พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ต้องขมวดคิ้วห้องที่ไม่มีคนอยู่แต่ทำไมแอร์ถึงเปิดไว้ หรือเธอสะเพร่าลืมไป เช็กสมองหน่อยไหมยายบ้านี่!
เดินเข้ามาด้วยความระมัดระวังก่อนจะตกใจหัวคิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างหนึ่งนอนคุดคู้อยู่บนพรหมในห้องนั่งเล่น เธอค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลงแสงจากด้านนอกทำให้เห็นว่าคนที่นอนอยู่คือผู้ช่วยของเธอเอง ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนเพื่อไปหาผ้าห่มดี ๆ ก็อดแปลกใจไม่ได้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงโวยวายบ้านแตกไปแล้ว เพราะเราต่างก็เป็นหญิงสาวที่น่าสมเพชหรือเปล่าหนอ
ห่มผ้าห่มลงบนร่างนอนคดเหมือนดักแด้ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องเดินออกไปที่ระเบียง เธอเหมือนคนกำลังสับสน รู้ดีว่ารับไม่ได้แน่ถ้าถอยออกมาในตอนนี้ต้องทุรนทุราย อยู่ไม่ได้ และมันคงต้องเจ็บมากแน่ ๆ ถ้าต้องถอยออกมาจากคนที่ตัวเองรัก แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อไม่เป็นที่ต้องการของผู้ชายคนนั้นเลย
ต้องย้ำยีตัวเองไปเพื่ออะไร?
“คะ...คุณเพียงแสน ดิฉันขอโทษค่ะ ดิฉันเข้ามานอนที่นี่โดยไม่ขออนุญาต ดิฉันขอโทษค่ะ”
เพียงแสนปรายหางตาไปมองคนที่กำลังนั่งพับขาโขกหัวตัวเองลงกับพื้นด้วยท่าทีร้อนลน ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้ในอนาคตคงไม่ต่างจากผู้ช่วยคนนี้แน่ เอาว่ะเพียงแสน มีผัวหล่อมีผัวรวยแล้วยังไง ในเมื่อเขาอยากหย่ากับเธอทุกวินาทีอย่างแน่วแน่ขนาดนั้นมิสู้ทำให้ตัวเองไม่ลำบากในอนาคตไม่ดีกว่าหรือ
“พอเถอะ ถ้าอยากขอโทษก็ลุกขึ้นมานั่งกับฉัน”
“ฮรือ ๆ คุณเพียงแสนลงโทษมาเลยค่ะ อย่าประชดประชนหนูเลย”
“สายรุ้งลุกขึ้นมา” เธอเอือมละอาไม่แปลกใจเพราะถ้าหวนนึกไปว่าตัวเป็นแบบไหนก็ไม่แปลกที่ผู้ช่วยคนนี้หวาดกลัวเธอ “หรืออยากโดนไล่ออก” หันไปมองเงาตะคุ่มอยู่มุมหนึ่งของระเบียง เฮยหลงให้คนตามติดเธทุกฝีเก้า
“ยะ...อย่าไล่หนูออกเลยค่ะ หนูจะไปนั่ง” เด็กสาวลุกขึ้นยืนก็แทบขาพับลงกับพื้นอีกครั้ง คุณเพียงแสนในตอนที่ทำหน้านิ่งแบบนี้น่ากลัวกว่าตอนอาละวาดอีก เพราะไม่สามารถเดาได้เลยว่าคุณเพียงแสนกำลังคิดอะไรอยู่
“นั่นเบียร์ บรรลุนิติภาวะแล้วนี่”
“กินได้ค่ะ ๆ”
เพียงแสนส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นผู้ช่วยมือสั่นจนเปิดฝากระป๋องเบียร์ไม่ได้ เธอจึงแย่งออกจากมือเพื่อจะเปิดให้ แต่ไม่คิดว่าเด็กสาวจะถลาลงไปนั่งกับพื้นหมอบต่ำเหมือนตัวเองไปทำความผิดอะไรมา
ให้มันได้แบบนี้สิ!