ปัง!!
เสียงประตูที่ปิดลงทำให้ม่อนไหมเบิกตากว้างโดยพลันก่อนจะตั้งสติได้อย่างรวดเร็วเธอรู้สึกตื่นเต้นจนไหล่เกร็งริมฝีปากสีพีชเม้มแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สายตาวาววับของรามสูรตรึงอยู่ที่นัยน์ตาคู่งามที่ตื่นกลัวและใสซื่อของม่อนไหมส่วนมือทั้งสองก็โอบเอวบางของเธออย่างซุกซน
“อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองในห้องน้ำแคบๆแบบนี้ก็ไม่บอกเฮียจะได้พาหนูม่อนมาที่นี่ด้วยตัวเอง หนูจะได้ไม่ต้องแอบหนีเฮียมาแบบนี้”
เสียงทุ้มต่ำที่ดังติดริมหูผสมผสานกับเสียงหอบหายใจของเขาทำให้ใบหน้างดงามของม่อนไหมแดงจัดหัวใจเต้นระรัวด้วยความเขินอายก่อนที่เธอจะแสร้งพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่
“คะ ใครเขาอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันเล่าม่อนก็แค่ออกมานั่งเล่นกับเพื่อนแค่นั้นเอง อีกอย่างม่อนไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อยเพราะม่อนรู้ตัวดีว่าม่อนไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”
ยามพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอกับเขาต้องมาพัวกันจนค่อยๆก่อเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างพวงแก้มเนียนที่แดงอยู่แล้วก็พลันแดงวาบขึ้นมาทันตาเห็น ซึ่งอันที่จริงแล้วม่อนไหมไม่ใช่สาวน้อยเรียบร้อยที่ขี้อายอะไรนักแต่พออยู่ต่อหน้าเขาแล้วสติของเธอกลับเตลิดเปิดเปิงทุกครั้งอยู่ร่ำไป
“ก็เพราะไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วเฮียถึงได้เป็นห่วง ห่วงทั้งแม่แล้วก็ลูกของเราถ้าเกิดว่าม่อนมาเที่ยวแล้วพลาดไปเจอกับพวกคู่อริที่มันไม่ชอบขี้หน้าของม่อนจนทำให้มีเรื่องแล้วม่อนกับลูกเป็นอะไรไปเฮียจะอยู่ยังไง”
น้ำเสียงของเขาแหบห้าวทุ้มต่ำอ่อนโยนดุจธารน้ำไหลระรินผ่านห้องหัวใจชวนให้อารมณ์ของม่อนไหมพลุ่งพล่านจวนเจียนจะพังทลายเมื่อลึกลงไปในกายของเธอสั่นสะท้านประหนึ่งกำลังรู้สึกกระหายอยากอะไรบางอย่าง ม่อนไหมแสร้งหลุบตาลงหลบเขาเพราะมองตาเขาแล้วเธอก็อดที่จะคิดถึงสายตาที่ร้อนแรงดุจไฟของเขาเมื่อวานไม่ได้เพราะตอนนี้สายตาของเขาที่กำลังมองเธออยู่นั้นเป็นสายตาแบบเดียวกับเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน
“ม่อนขอโทษค่ะที่ลืมคิดถึงข้อนี้ไป ม่อนมัวแต่คิดถึงความรู้สึกของตัวเองโดยที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเฮียเลย”
นานเกือบนาทีที่ม่อนไหมค่อยๆเอ่ยคำขอโทษรามสูรออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามาในใจเมื่อเธอเอาแต่คิดถึงความรู้สึกของตัวเองที่ไม่ได้ออกมาเที่ยวเป็นเวลานาน โดยที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของรามสูรเลยว่าเขาเป็นห่วงเธอกับลูกมากแค่ไหนถึงแม้ว่าเด็กในท้องจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเธอและเขาแต่ม่อนไหมก็ไม่อยากให้ลูกของเธอต้องเป็นอะไรไปเพียงเพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง
“หึ แค่คำขอโทษคงยังไม่พอเมียเฮียดื้อขนาดนี้ต้องถูกทำโทษหนักๆม่อนจะได้จำให้ขึ้นใจว่าถ้าคราวหน้าม่อนแอบหนีมาเที่ยวอีกเฮียจะได้สั่งปิดผับและพาม่อนทัวร์ทุกซอกทุกมุมของผับให้หนำใจไปเลย”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของรามสูรในใจของม่อนไหมพลันมีความคิดแผลงๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่จากประสบการณ์ที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับเขามาเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ทำให้ม่อนไหมรู้ว่าคนอย่างรามสูรพูดจริงทำจริงไม่เคยมีคำล้อเล่นแม้แต่คำเดียวสมกับที่เป็นหัวหน้าแก๊งของพวกไอ้วัตรคู่อริต่างมหา’ลัยของเธอ
แต่เขาจะกล้าสั่งปิดผับจริงๆเหรอในเมื่อเขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลยเพราะเท่าที่เธอรู้จักเขาดูเหมือนว่าเขาจะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว และตอนนี้ก็เปิดร้านจำหน่ายอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์จำพวกฮาร์ลีย์และบิ๊กไบค์ซึ่งเธอยังไม่เคยเห็น เธอรู้แค่เพียงว่าเขาจ้างพวกไอ้วัตรคู่อริของเธอให้ดูแลร้านให้แต่ถ้าวันไหนที่ร้านมีปัญหาเขาก็จะเข้าไปดูร้านด้วยตัวเองอย่างเช่นวันนี้ที่เขาบอกว่าที่ร้านมีปัญหาเขาจะเข้าไปเคลียร์และกลับเช้าเลยเธอไม่ต้องรอเขา
หึ ก็แค่ขู่ให้เธอกลัวสินะคนอย่างม่อนไหมไม่กลัวเขาจะพาเธอทัวร์ร้านจริงๆหรอก
เมื่อคิดไปเองคนเดียวอย่างสบายใจใบหน้าสวยก็พลันเผยรอยยิ้มที่ผุดแววดื้อดึงอยู่หลายส่วนทำให้มุมปากของคนที่รู้ทันความคิดของเธอกระตุกเล็กน้อย เมื่อแม่สาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขากำลังมีความคิดที่จะกระตุกหนวดเสือคนอย่างเขา หึ รอให้ถึงวันที่เธอกล้าลองดีกับเขาก่อนเถอะวันนั้นเขาจะพาเธอทัวร์ทุกซอกทุกมุมในร้านตามที่ได้ลั่นวาจาออกไปอย่างแน่นอน
“ไม่ทำโทษไม่ได้เหรอคะเมื่อคืนก็ เอ่อ ทั้งคืนแล้ว”
“เมื่อคืนก็ส่วนเรื่องของเมื่อคืน คืนนี้ก็ส่วนเรื่องของคืนนี้”
รามสูรโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธออย่างสุขใจก่อนที่เขาจะใช้ลิ้นอุ่นๆเลียใบหูแดงก่ำของเธอทำเอาม่อนไหมถึงกับขนลุกซู่อย่างห้ามไม่อยู่กว่าจะรู้ตัวริมฝีปากของเขาก็เลื่อนมาประกบปากเธออย่างรวดเร็วก่อนที่รามสูรจะกลืนกินเธออย่างบ้าคลั่ง
ปลายลิ้นของรามสูรหยอกเย้าความนุ่มละมุนของม่อนไหมอย่างร้อนแรงในขณะที่มือของม่อนไหมพลันยกขึ้นลูบอกแกร่งของรามสูรอย่างไร้เดียงสากลายเป็นการเติมเชื้อไฟที่ร้อนแรงที่สุด ริมฝีปากของม่อนไหมถูกรามสูรครอบครองอีกครั้งและอีกครั้งไม่สิ้นสุดในขณะที่ม่อนไหมสัมผัสได้รางๆว่ามือใหญ่ที่แสนซุกซนของเขาเลื่อนลงไปถึงเรียวขาเปลือยเปล่าของเธอจากนั้นก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่อุ่นจัด
“อืม หนูม่อนจ๋าตัวหอมเหลือเกินคนดี”
ยามนี้สมองของรามสูรพลันขาวโพลนเขารู้สึกเพียงกลิ่นหอมที่มอมเมาตนในอ้อมกอดยิ่งสัมผัสอ่อนโยนที่กำลังลูบไล้ไปทั่วอย่างสะเปะสะปะดุจดังคำเชื้อเชิญที่แสนอันตราย หน้าอกอวบอิ่มที่บดเบียดเข้าหาหน้าอกแกร่งของเขาอย่างลืมตัวแม้จะมีเสื้อผ้ากางกั้นแต่รามสูรก็ยังรู้สึกได้ถึงความนุ่มละไมอวบอิ่มสมบูรณ์ของร่างกายที่เตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆจูบขบเม้มซอกคอหอมกรุ่นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับละเลียดผิวขาวเนียนของม่อนไหมอย่างอ่อนโยนริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงแอ่งชีพจรอันบอบบางและประทับลงบนยอดอกนุ่มนิ่ม
“อ๊า เฮียราม อึก”
เสียงครางอย่างเย้ายวนที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มของม่อนไหมยิ่งปลุกเร้าความปรารถนาของรามสูรให้กระสันใคร่ในอารมณ์มากยิ่งขึ้น สัมผัสที่ร้อนผ่าวของรามสูรทำให้ม่อนไหมตัวอ่อนปวกเปียกราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิซบอกเขาแต่รามสูรกลับยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
มือใหญ่ยกสะโพกกลมกลึงของม่อนไหมดึงเข้ามาหาแท่งเหล็กร้อนที่ผะผ่าวแข็งคัดจนเจ็บของตัวเองทำเอาคนที่กำลังหลงมัวเมากับรสสัมผัสที่แสนหวานถึงกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าเธอกับรามสูรจะผ่านการมีเซ็กซ์มาหลายครั้งนับไม่ถ้วนแต่ม่อนไหมก็ยังไม่คุ้นชินสักครั้งกับขนาดที่ใหญ่โตของเขา
ริมฝีปากสีไวน์ดูดดุนยอดทรวงอกนุ่มของม่อนไหมไม่ยอมปล่อยก่อนจะขบเม้มอย่างช้าๆให้เธอรู้สึกทรมานส่วนมือใหญ่คู่นั้นก็ลูบไล้ไปทั่วร่างเปลือยเปล่า ทุกอณูที่สัมผัสจุดไฟปรารถนาของม่อนไหมให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วม่อนไหมยอมรับกับตัวเองอย่างแมนๆเลยว่ารามสูรคือผู้ชายที่มีเสน่ห์มากไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหล่อเหลาที่เธอกำลังจ้องมองเขาอย่างลุ่มหลงด้วยอารมณ์ปรารถนาหรือจะเป็นลีลารักที่เร่าร้อนจนทำให้เธอคล้อยตามอย่างง่ายดาย
“อ๊า เฮีย ตะ ตรงนั้นมัน อึก”
ในขณะที่กำลังมึนงงจนไม่มีปัญญาจะขบคิดสิ่งใดใบหน้าของรามสูรก็เลื่อนลงมาจนถึงเนินเนื้ออวบนูนเกลี้ยงเกลาพร้อมกับขมเม้มเบาๆอย่างต้องการหยอกล้อ ทำให้ม่อนไหมรู้สึกเบาโหวงสั่นระริกไปทั้งกายแม้แต่ลมหายใจก็ดูเหมือนจะขาดห้วงเมื่อจุดอันตรายถูกรุกล้ำด้วยปลายลิ้นร้อนที่ตอนนี้กำลังไล้เลียกลีบดอกกุหลาบของเธออย่างแผ่วเบา
มือใหญ่ยกสะโพกของม่อนไหมขึ้นและขยับลิ้นเข้าไปในร่องรักสีหวานให้ลึกมากกว่าเดิมการเสียดสีอย่างแผ่วเบาจุดความรู้สึกวาบวิวและจุดไอร้อนขึ้นมาจนม่อนไหมอดทนไม่ไหวอีกต่อไปเธอได้แต่ยกมือขึ้นขย้ำผมนุ่มของรามสูรและแอ่นกายเข้าหาลิ้นร้อนผ่าวด้วยความลืมตัว
“อึก เฮียรามขา หนูม่อน สะ เสียว อื้อ”
เสียงหวานครางไม่หยุดด้วยความรู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งร่างเธอรู้สึกเขินอายทุกครั้งยามที่รามสูรสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวของเธอแต่เธอกลับไม่เคยบอกให้เขาหยุด เพราะมากกว่าความเขินคือความร้อนแรงที่โถมซัดเข้ามาหาเธอประหนึ่งขุนเขาถล่มท้องทะเลพังทลาย เมื่อครั้นประสาทสัมผัสทั้งหมดพุ่งขึ้นถึงขีดสุดร่างบางของม่อนไหมก็เกร็งกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักออกมาสุขสม
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
เสียงดูดเลียน้ำหวานที่ดังขึ้นทำให้ดวงหน้างามของม่อนไหมแดงระเรื่อด้วยความเขินอายในใจพลันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นเมื่อคิดได้ว่าตอนนี้เธอกับรามสูรกำลังจะมีเซ็กซ์กันในห้องน้ำแล้วถ้าเกิดว่ามีใครมาเห็นเข้าล่ะ ในขณะที่ความคิดวิตกกังวลเริ่มเข้ามาแทนที่ความเสียวซ่านที่จบลงอย่างสุขสมเสียงร้องของม่อนไหมก็ดังขึ้นอีกครั้งด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของรามสูรที่กระแทกเข้ามาในความอ่อนนุ่มของเธอจนสุดลำ
“อ๊า หนูม่อนจ๋าแน่นเหลือเกินเด็กดี”
การโอบรัดอย่างแนบแน่นของกุหลาบดอกงามทำให้รามสูรพึมพำเสียงแหบพร่าก่อนที่เขาจะจูบลำคอเนียนสวยของม่อนไหมอย่างแผ่วเบา เมื่อถูกชักนำจนหลงใหลเผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่เร่าร้อนโดยไม่อาจห้ามใจม่อนไหมก็ยกมือขึ้นโอบคอเขาพร้อมกับลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของรามสูรอย่างอ่อนโยน
รามสูรใช้ริมฝีปากถูไถกลีบปากบางของม่อนไหมเบาๆเพื่อให้เธอเผยอริมฝีปากออกก่อนที่ริมฝีปากกับลิ้นของรามสูรและม่อนไหมจะเกี่ยวกระหวัดรัดกัน รามสูรพัวพันอยู่กับลิ้นเล็กของม่อนไหมดูดดื่มลิ้มชิมรสชาติอันหอมหวานราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าและลุ่มหลงมัวเมาไปกับมันอย่างล้ำลึก
ปึก ปึก ปึก
รามสูรเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังด้วยเกรงจะออกแรงมากจนเกินไปจนทำให้กระทบกระเทือนถึงเจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้คงกำลังถูกปลุกขึ้นมาเมื่อแรงกระแทกของเขาที่ส่งไปให้ม่อนไหมดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่บางจังหวะเขาก็เผลอกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรงจนสุดลำเรียกเสียงครางหวานหูที่พยายามกลั้นเอาไว้แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับความเสียวซ่านที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วร่าง
“อืม หนูม่อนกำลังตื่นเต้นอยู่เหรอคะถึงได้ตอดเฮียแรงขนาดนี้”
รามสูรอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเมียตัวน้อยที่ตอนนี้ใบหน้าเนียนสวยแดงก่ำไปด้วยพิษรักของเขาที่กำลังลามเลียไปทั่วร่างบอบบางที่ขาวราวกับหิมะ ส่วนม่อนไหมเมื่อถูกรามสูรจับได้ว่าเธอกำลังรู้สึกตื่นเต้นเธอก็รีบส่ายหน้าไปมาเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นจนเส้นผมกระจายส่งกลิ่นหอมเย้ายวนลอยไปแตะจมูกของรามสูร
ผู้หญิงคนนี้ตัวหอมผมหอมๆไปหมดทุกอย่างจนเขาอดกลั้นไม่ไหวทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเหงื่อที่เปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัวของม่อนไหมไม่ต่างกับสายฝนที่โปรยปรายลงมายามวสันต์ฤดูม่อนไหมกอดคอของรามสูรเอาไว้แน่นพลางพริ้มตาลง ลมหายใจอันอบอุ่นและหอมกรุ่นของสาวน้อยรินรดต้นคอของรามสูรเบาๆ
“อ๊า เฮียขา นะ หนูม่อนจะไม่ไหวแล้ว อื้อ”
เสียงหวานเอ่ยบอกรามสูรที่กำลังกระแทกความแข็งแกร่งเข้ามาบดขยี้จุดกระสันของเธอจนทำให้เรียวขาสวยของม่อนไหมสั่นระริกจนแทบยืนไม่อยู่หากไม่มีมือใหญ่ของรามสูรตระกองกอดเอวบางของเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขายามนี้กำลังซุกซบดูดเลียยอดอกอวบของเธออยู่ด้วยความรู้สึกกระหาย
“อ๊า หนูม่อนจ้าพร้อมกันค่ะ”
สะโพกแกร่งของรามสูรกระหน่ำรัวจนร่างเล็กของม่อนไหมเสียวซ่านไปทั้งตัวความสุขสมที่เคยสัมผัสมาครั้งแล้วครั้งเล่าถาโถมเข้าใส่ราวกับเกลียวคลื่นอันบ้าคลั่ง รามสูรรุกเร้าและบดขยี้ม่อนไหมจนในที่สุดร่างบอบบางของเธอก็เกร็งและกระตุกอย่างรุนแรง
“อ๊าย สะ เสร็จ เสร็จแล้ว อึก”
ม่อนไหมกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นด้วยความลืมตัวในขณะเดียวกันเธอก็ได้ยินเสียงร้องคำรามอย่างรุนแรงของรามสูรเช่นกันก่อนที่ร่างสูงจะเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงและปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้ามาในตัวเธอจนหมดทุกหยาดหยด เมื่อลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกลับมาเป็นปกติม่อนไหมก็เอนกายพิงหน้าอกแกร่งของรามสูรอย่างไร้เรี่ยวแรงก่อนที่เขาจะจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยและตะหวัดแขนอุ้มเธอเข้าสู่อ้อมกอด
“ดึกแล้วได้เวลานอนของคุณแม่แล้วค่ะ”
เสียงแผ่วเบาแต่ทว่ากลับอ่อนโยนในความรู้สึกของม่อนไหมทำให้เธอค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆก่อนที่ความอ่อนเพลียจะทำให้ม่อนไหมเข้าสู่ห้วงนิทราที่แสนหวานในที่สุด