ตอนกำลังไปตักน้ำที่แม่น้ำมาใส่โอ่งที่บ้านเพื่อใช้อาบน้ำก็เจอกับเมิ่งจื่อ บุตรสาวของเมิ่งหานลุงใหญ่ของเมิ่งหย่งชวน นางเห็นปิ่นเงินที่เสิ่นเยี่ยนฟางปักอยู่ก็ตาโต เข้าตรงมาแย่งชิงทันที ว่ากันว่าเสิ่นเยี่ยนฟางยั่วยวนอาเขย เป็นสตรีแพศยาที่แต่งงานกับไอ้คนใกล้ตายเมิ่งหย่งชวนนั่น อัปลักณษ์แบบนี้ที่ได้สามีก็เพราะอาเล็กของนางอยากถีบหัวส่งนางนี่ไปพ้นๆสามีตัวเอง เรื่องอะไรนางแพศยาชอบยั่วยวนคนอื่นถึงมีปิ่นเงินได้ แต่นางไม่มีกันปิ่นเงินนี้นางวต้องการ พี่ชายขี้โรคนั่นไม่กล้าทำอะไรนางหรอก ถูกไล่ไปแล้วกล้ามีปากเสียงหรือ
"ปิ่นเงินบนหัวเจ้านั่น มันเป็นของข้า เมิ่งหย่งชวนคงขโมยไปให้นางแพศยาที่ชอบยั่วยวนสามีคนอื่นสินะ เอาคืนมานะนังตัวดีเสิ่นเยี่ยนฟาง"
"ไม่ใช่นะ ปิ่นเงินนี่เป็นของมารดาข้าที่นางทิ้งไว้ให้ข้ามันเป็นสินเดิมของข้า อ่ะอย่านะเจ้าห้ามดึงนะ เมิ่งจื่อข้าเป็นพี่สะใภ้เจ้านะ โอ๊ยเจ้าตีข้าหรือ เอาคืนมานะ"
ผวัะ ผ๊ะๆ ทั้งคู่ยื้อแย้งกันจนในที่สุด เมิ่งจื่อที่ตัวโตกว่าก็แย่งปิ่นมาได้ อีกทั้งยังเอาปิ่นเงินปักที่แขนของเสิ่นเยี่ยนฟางจนเลือดไหล จากนั้นก็ใช้เท้าถีบนางลงน้ำ ก่อนจะหัวเราะสะใจ แล้วจากไปพร้อมกับเพื่อนๆของนาง
เมิ่งหย่งชวนเห็นว่านางยังไม่กลับสักทีก็ให้น้องชายไปตามที่ลำธาร แต่กลับได้ยินว่านางพลัดตกน้ำที่แม่น้ำ จากนั้นก็มีชาวบ้านนำร่างนางที่ไม่ได้สติของนางมาที่บ้านของเขา ท่านป้าในหมู่บ้านช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ตกค่ำนางเป็นไข้แต่บ้านใหญ่กลับไม่ยอมตามหมอให้ นี่ยามอู่แล้วบาดแผลที่ถูกปิ่นแทงเริ่มเป็นสีม่วง แต่นางก็ยังไม่ฟื้น
ตอนนี้น่าจะสิบเอ็ดโมงแล้วมั้ง เวลายุคนี้คงเรียกว่ายามอู่กระมัง หลิวเยี่ยนฟางยอมรับแล้วว่าตัวเองตายไปแล้ว และตอนนี้เธอคือเสิ่นเยี่ยนฟางหรือเสิ่นซื่อภรรยาบัณฑิตขี้โรคเมิ่งหย่งชวน
นางลุกขึ้นแล้วนั่งถอนหายใจพักใหญ่ก็เดินออกมาจากห้อง เสิ่นเยี่ยนฟางออกไปนอกบ้าน มองดูบริเวณรอบๆ มีรั้วไม้ไผ่ที่โย้เย้ เถาไม้เลื้อยขึ้นพันเต็มไปหมด บริเวณบ้านน่าจะประมาณสามร้อยตารางวาได้
มีแต่หญ้ากับพืชล้มลุก เอ๊ะมีลูกแดงๆขาวๆอยู่หลายต้นจึงเดินไปดู สตอเบอรี่นี่ จ๊อก จ๊อก จ๊อก เสียงท้องของนางร้องดัง และยังมีอีกคนที่ท้องร้องเช่นกัน หันไปก็เห็นเด้กผู้ชายคนนึง เขาคือน้องชายสามีของร่างเดิม เมิ่งลู่เจินอายุสิบสามแล้วแต่ตัวเล็กเหลือเกิน เทือบกับบุตรชายลุงใหญ่เมิ่งหานที่อายุเพียงแปดขวบกลับตัวโตยิ่งนัก
"พะ พี่ พี่สะใภ้ท่านฟื้นแล้วหรือขอรับ ข้าจะไปบอกพี่ใหญ่นะขอรับ"
"อืม มาช่วยข้าก่อน หิวจะตายอยู่แล้วในบ้านมีของกินหรือไม่"
"มีแค่แผ่นแป้งข้าวโพดที่ท่านปู่หลงเอามาให้ขอรับ แข็งไปสักนิดเดี๋ยวข้าไปต้มน้ำอุ่นให้ท่านนะขอรับ"
"ไม่ต้องหรอก มาช่วยข้าเก็บสิ่งนี้หน่อย ดินที่นี่น่าจะปลูกพืชได้ดีนะ เป็นที่ดินของท่านพ่อของเจ้าใช่หรือไม่"
"ขอรับพี่สะใภ้ เป็นบ้านเดิมท่านพ่อท่านแม่แต่ที่ดินนี้เป็นสินเดิมท่านแม่ ท่านย่ากับท่านลุงไม่กล้ายึดขอรับ อีกอย่างอยู่ใกล้ตีนเขา พวกเขากลัวสัตว์ป่าจะลงมานะขอรับ"
ทั้งสองคนช่วยกันเก็บเฉาเหมยได้มากแล้วจึงหยุด เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังยืนเงยหน้าด่าฟ้าฝน ด่าเทวดา ด่าเวรกรรมทั้งหลายอยู่ ผมที่หลุดรุ่ยลงมาเคลียใบหน้าก็ถูกนางเป่าออกอย่างขัดใจ
เมิ่งหย่งชงนมองออกมาจากในบ้าน นางดูไม่ได้จริงๆ สารรูปคือมอมแมมเหลือทน แต่กิริยาท่าทางที่แสดงออกมามันดูน่ารักดี นางเท้าเอวยืนบ่นชี้มือชี้ไม้ขึ้นด่าเทพเซียน สงสัยเขาต้องจับอาบน้ำเองแล้วมั้งยายเด็กนี่ ก่อนจะไออีกรอบ แค่กๆๆๆ แล้วล้มตังลงนอนแสร้งหลับต่อไป
"เอ้อ ได้เกิดใหม่ทั้งทีก็โคตรจน ฉันควรดีใจไหมวะคือนี่บ้านเหรอเนี่ย แล้วยังมีญาติผัวประสาทเห็นแก่ตัวชอบเอาเปรียบ อีกเวรของกรรมจริงๆ"
หลิวเยี่ยนฟางที่ตอนนี้อยู่ในร่างของเสิ่นเยี่ยนฟางสาวน้อยวัยสิบเจ็ดกำลังด่าทอชะตาชีวิตที่ได้เกิดใหม่
จากนั้นก็เข้าไปดูสามีหมาดๆ ที่เพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อวาน ก่อนที่จะถูกเมิ่งจื่อบุตรสาวลุงใหญ่ของเขาจะผลักร่างเดิมตกน้ำจนเป็นไข้แล้วจากไป เขานอนหลับอยู่อกกว้างผึ่งผายลมหายใจสม่ำเสมอมาก ดูแล้วไม่เหมือนคนป่วยสักนิด เซ้นเธอผิดพลาดหรือ
ไม่น่าใช่นอนกลางดินกินกลางหิมะมาเจ็ดปีกว่าจะได้เป็นนาวิกและเรียนหลักสูตรเพื่อต้องมาเป็นครูฝึกอีกหลายปีตอนมาเป็นครูฝึกก็ต้องอบรมหลักสูตรแพทย์ เพื่อมีความรู้เอาไว้ประเมินอาการเผื่อนักเรียนมีปัญหาสุขภาพแล้วไม่สามารฝึกต่อได้
แต่ผู้ชายคนนี้ดูไม่เหมือนคนป่วย อีกทั้งน่าจะออกกำลังกายประจำด้วย ช่างเถอะเดี๋ยวค่อยหาคำตอบทีหลังแล้วกัน ตอนนี้เอาเรื่องสำคัญก่อนนั่นคือไปเอาของคืนจากบ้านญาติผีอดอยากเหล่านั้น
แต่ต้องยอมรับเขาหล่อเหลาจริงๆ นี่มันดาราซีรีย์ย้อนยุคท่านนึงเลยนะ อืมหล่อมากหล่อจริงๆหล่อมากพ่อ คิ้วคอปากคางตาหล่อละมุนละไม เขาคือเมิ่งหย่งชวนสามีของเธอในชาตินี้เหรอ ตื่นมาก็มีผัวหล่อๆมากพ่อเอ๊ยเสียดายขี้โรคไปหน่อยเฮ้อเวรกรรม ก่อนจะเอ่ยเบาๆกลัวคนขี้โรคที่นอนอยู่ได้ยิน
"หล่อขนาดนี้มันน่าจับขย่มแล้วน่าควงให้เอวหักเลย มันเขี้ยวจริงๆ"
จากนั้นก็เขย่าตัวเมิ่งหย่งชวน ปลุกเขาให้ตื่นมาคุยกับนาง
"นี่เมิ่งหย่งชวน มาคุยกันหน่อยข้ามีเรื่องต้องคุยกับท่าน"
เมิ่งหย่งชวนตื่นนานแล้วตั้งแต่เห็นนางยืนเท้าเอวเป่าปอยผมตนเองทำท่าเหมือนลูกแมวน้อยขู่ฟ่อๆ ชี้ท้องฟ้าด่าสายลมอยู่หน้าบ้านก็อมยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าจริงจัง และล้วลุกชึ้นนั่ง
"อืม ภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ"
คำว่าภรรยาทำเอาหลิวเยี่ยนฟางถึงกับหน้าแดงจนถึงใบหู ก่อนจะปรับสีหน้า
"น้องสาวเจ้าเมิ่งจื่อเจ้าอยากเก็บไว้ไหม ปิ่นปักผมนั่นของมารดาข้า นางหน้าด้านยื้อแย่งเอาไป เจ้าตอบมาคำเดียวยังต้องการนางไหม"
เมิ่งหย่งชวนไม่เข้าใจที่นางพูดจึงส่ายหน้า แต่คนตัวเล็กเข้าใจผิดคิดว่าเขาบอกว่าไม่ต้องการจึงพยักหน้าให้เขาสามที จากนั้นก็เรียกหาน้องชายสามีหมาดๆ ทันที
"อืมดีมาก เมิ่งลู่เจินเจ้ามาดูพี่ชายเจ้าหน่อยเข้าจะไปทวงของๆ ข้าคืน เฉาเหมยนี่กินรองท้องไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข้ามา"
พูดจบก็ตรงไปบ้านใหญ่ของสกุลเมิ่งทันที กล้าเล่นกับเจ๊เหรอ ไหนๆก็มาแล้วซ้อมไม้ซ้อมมือหน่อยแล้วกัน