ตายแล้วเกิดใหม่

1900 Words
Rrrr. Rrrr.Rrrr เสียงเรียกเข้าจากมือถือราคาแพงดังไม่หยุด หลิวเยี่ยนฟางกำลังขับรถอยู่ไม่อยากกดรับจึงปล่อยให้สายตัดไป Rrrrr.Rrrrr.Rrrrr. "อะไรนักหนา ก็ไม่รับสายตอนขับรถไงไม่รู้หรือ นี่มันเฮ้อเบอร์ผู้การนี่ ตาแก่หวังนี่มันช่วงพักร้อนฉันนะ" ก่อนจะเอื้อมมือกดรับสาย " ฮัลโหลคะผู้การ ฉันขับรถอยู่เดี๋ยวหาที่จอดก่อนจะโทรกลับนะคะ" หลิวเยี่ยนฟางกดวางสายทันที ไม่รอให้อีกฝั่งตอบกลับมา เธออยู่ในช่วงลาพักร้อนกำลังรอไฟท์บินไปมัลดีฟในอีกสามวัน อยากหาบรรยากาศชิวๆผ่อนคลายบ้าง หลิวเยี่ยนฟางเป็นครูฝึกหน่วยรบพิเศษมาเกือบสิบปีแล้ว ปีนี้อายุ35 ตั้งแต่คนรักนอกใจเมื่อ7ปีก่อนก็ไม่คบหาใครอีกเลย เสียงมือถือดังติดๆกันหลายรอบ สุดท้ายก็ตัดสินใจหาที่จอดเพื่อรับสาย ตอนนี้5ทุ่มแล้วต้องหาที่ปลอดภัยก่อนจะจอด จากนั้นก็ตบไฟเลี้ยว ขณะที่เธอกำลังจะเลี้ยวก็มีรถตู้ขับมาอย่างไว ประสานงากับรถของเธออย่างจัง หลิวเยี่ยนฟางรู้สึกว่ารถของเธอหมุนหลายตลบ จากนั้นสติที่มีอยู่ก็ค่อยๆดับไป แคว้นซ่ง ร่างบางในชุดสีซีดนอนอยู่บนเตียงที่ทำจากการเอากระดานไม้มาวางต่อๆกัน ห้องข้างๆมีเสียงทุ้มมีเสน่ห์บุรุษคนหนึ่งเอ่ยเรียกหาน้องชาย "อาเจิน ไปไปดูพี่สะใภ้เจ้าสักหน่อยเถอะไม่รู้ว่านางเป็นอย่างไรบ้าง แค่กๆ" เมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่อีกห้องเรียกหาน้องชายให้ไปดูภรรยาที่เพิ่งแต่งเข้ามาเมื่อวาน "ขอรับพี่ใหญ่" เมิ่งหย่งชวนไอออกมาจนตัวโยน เขาถูกบ้านใหญ่ไล่มาเพราะว่าอาการป่วยของเขาทำให้ไปสอบไม่ได้ เขาสอบได้ซิ่วไฉทางบ้านใหญ่จึงได้ละเว้นภาษีที่นา แต่พวกเขาไม่พอใจยังเหลืออีกสองสิทธิ์จึงอยากขายสิทธิ์นั้นให้แก่เศรษฐีที่ดินในหมู่บ้านอีกคน เมิ่งหย่งชวนไม่ยอม เขาเป็นบัณฑิตเรื่องเสื่อมเกียรติเช่นนั้นเขาไม่ทำ หลังจากนั้นไม่นานตอนกำลังจะสอบจี่เหรินสามวันก่อนสอบอยู่ๆเขาก็ป่วย อีกสองวันต่อมาเขาก็ได้ข่าวว่าเศรษฐีจูได้รับสิทธิ์ละเว้นภาษีที่นาเกือบสี่สิบหมู่ พร้อมกับที่บ้านใหญ่ส่งหนังสือแยกบ้านและหนังสือตัดสัมพันธ์มาให้เขา เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงคือเสิ่นเยี่ยนฟาง เมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านเห็นว่าการที่บ้านใหญ่ของเมิ่งหย่งชวนทำเช่นนี้เหมือนกับปล่อยให้เขากับน้องชายต้องตาย อย่างไรก็เป็นซิ่วไฉของหมู่บ้าน จึงปรึกษากับผู้อาวุโสทั้งหลายว่าจะแต่งงานให้เขา เพื่อแก้ชงและหาคนมาดูแลสองพี่น้อง แน่นอนไม่มีใครอยากยกบุตรสาวตนเองให้กับบัณฑิตยากจนที่ป่วยขี้โรคอย่างเขาสักคน แม้ว่าเขาจะหล่อเหล่าแต่อย่างไรเล่ามันไม่ได้ทำให้อิ่มท้องสักนิด อีกทั้งยังมีน้องชายที่เป็นภาระอีกหนึ่งคนพ่วงมาด้วย แต่ในที่สุดก็เจอคนที่ดวงสมพงษกันจนได้ คือเสิ่นเยี่ยนฟางจากหมู่บ้านห้าสิบลี้ ซินแสบอกว่าสตรีที่เหมาะสมที่สุดก็คือเด็กกำพร้าจากสกุลเสิ่นคนนี้ "เป็นอย่างไรบ้างอาเจิน นางดีขึ้นหรือไม่ นางเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เจ้าไปขอยืมเงินบ้านท่านปู่ผู้นำสักหน่อย แล้วไปเชิญท่านหมอมาดูนางเถอะ นางแต่งมาเมื่อวานจะมาตายที่นี่หรือไร นางแต่งงานมาแก้ชงให้ข้าหรือมาเพิ่มความอัปมงคลให้ข้ากันแน่ แค่กๆ" เมิ่งหย่งชวนเอ่ยถามน้องชายที่เขาสั่งให้เข้าไปดูคนป่วย วาจานั้นทำเอาคนที่เพิ่งฟื้นถึงกับสะดุ้ง ไอ้เด็กปากเสียนี่มันน่าจับทุ่มสักทีเหอะ "ตรรกะอะไรวะเนี่ย นังหนูนี่เวรกรรมอะไรต้องมาแต่งงานแก้ชงให้ไอ้เด็กบ้านนั่นคนเขาอุตส่าห์แต่งมา ดันมาหาว่านางมาทำให้อัปมงคลอีก ปากน่าตบสักที ขอไปดูหน้าหน่อยเถอะ" หลิวเยี่ยนฟางที่นอนอยู่ในบ้านตื่นมาสักพักแล้ว กำลังรวบรวมความทรงจำของร่างนี้อยู่ ได้ยินคำพูดสามีของร่างเดิมที่เพิ่งจะเป็นสามีแค่ข้ามคืนก็ยากจะลุกไปโบกสักที ป่วยใกล้จะตายยังปากดี แต่ทันทีที่ลืมตาก็แทบจะสำลักตาย ทั้งหยากไย่ทั้งฝุ่นหนาเตอะ เมื่อได้รับความทรงจำของร่างนี้มาแแล้วก็ทบทวนความทรงจำของตนเอง เธอขับรถกลับบ้านหลังจากไปฟิทเนตมา หวังเจี่ยผู้การภาคเจ้านายของหน่วยงานที่เธอสังกัดอยู่โทรหา เนื่องจากเขาโทรมามากกว่ายี่สิบสาย ในที่สุดหลิวเยี่ยนฟางจึงตัดสินใจหาที่จอดรถเพื่อจะรับสาย กำลังจะเลี้ยวก็มีรถตู้ที่ไม่รู้ว่าพุ่งมาจากไหน ประสานงากับรถเก๋งของเธออย่างจัง รู้สึกว่ารถกลิ้งหลายตลบมาก หน้าอกกระแทกกับถุงลมนิรภัย แต่ดูเหมือนจะชนแรงมากจึงทำให้เธอกระแทกแรงเกินไป จากการเป็นนาวิกโยธิมาหลายปีก่อนจะมาเป็นครูฝึก สันนิษฐานได้ว่ากระดูกซี่โครงเธอหักและน่าจะทิ่มปอด เพราะก่อนที่เธอจะหมดสิติเธอรู้สักเหมือนมีลมออก และหายใจไม่ทั่งท้องติดขัดๆ จนในที่สุดสติก็ดับไปเธอตายแล้วจริงๆ ตอนนี้อยู่ในร่างของเสิ่นเยี่ยนฟางเด็กสาวกำพร้าที่ถูกอาสาวขายมาด้วยเงินหนึงตำลึงกับข้าวหนึ่งถุง "ฉันตายแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในร่างเด็กอายุสิบเจ็ดหรือ ชื่อเสิ่นเยี่ยนฟางแต่งงานแก้ชงเมื่อวานอะไรกันเนี่ย ฉันไม่ชอบอ่านนิยายนะไอ้ทะลุมิติเนี่ย ทำไม่ไปโผล่โลกอนาคตย่ะ แล้วจะใช้ชีวิตต่อไปแบบไหนอ่ะมีผัวแล้วคลอดลูกเลี้ยงลูก นั่งเย็บผ้ารอผัวกลับบ้าน ผัวมีสามภรรยาสี่อนุเหรอ ยี้ แต่ยากจนขนาดนี้คงไม่มีปัญญาหาเมียเพิ่มหรอกแถมขี้โรคอีกด้วย ดูแล้วน่าจะปากดีอีกต่างหาก" เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าของร่างเดิมนั้นเนื่องจากบิดาแต่งงานใหม่ แล้วไปทำการค้าต่างถิ่นเป็นพ่อค้าเร่เขาจึงทิ้งนางไว้กับอาสาว หลังจากอาสาวแต่งงานก็พาเธอมาอยู่ด้วยเพราะพี่ชายมักจะส่งเงินค่าเลี้ยงดูมาให้เดือนละสองตำลึง รายได้ส่วนนี้เป็นสิ่งเดียวที่เสิ่นอ้ายยอมเลี้ยงหลานสาวกำพร้ามาสี่ปีจนกระทั่งเสิ่นเยี่ยนฟางอายุสิบเจ็ด แต่เมื่อสามเดือนก่อนอาเขยพยายามลวนลามนางแต่ร่างเดิมสู้กลับนางไม่ยอม จากนั้นก็ไปฟ้องอาเล็กของนางแต่ใครจะรู้กลายเป็นว่าอาเล็กเข้าข้างสามี ด่าทอทุบตีเสิ่นเยี่ยนฟาง หาว่านางไปยั่วยวนบุรุษของตน จากนั้นเมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านสี่ลิบลี้เป็นคนไปจัดการหมั้นหมายและขอนางมาเป็นภรรยาเมิ่งงงหย่งชวน ด้วยสินสอดหนึ่งตำลึง ข้าวสารหนึ่งถุง นางจึงได้มาอยู่ที่นี่เป็นภรรยาเมิ่งหย่งชวน ดูท่านเจ้าของร่างเดิมต่างหากที่เจอดาวอัปมงคลแต่งวันแรกก็ตาย เมิ่งหย่งชวนคนนี้เป็นหายนะที่แท้จริง "อยากรู้นักว่าซินแสคนไหนผูกดวง เจ๊จะไปเผาสำนักเสียเลย แก้ชงดวงสมพงษ์บ้านป้าแกสิ แต่งมาวันแรกก็ตาย เจ้าบ่าวแบบนี้ดวงอัปมงคลชัดๆ" ตอนนี้มาอยู่ในร่างนี้แล้ว ต้องรับสภาพให้ได้ก่อนอันดับแรก เด็กหนุ่มอายุยี่สิบที่นอนอยู่ห้องข้างๆชื่อเมิ่งหย่งชวน เป็นสามีหมาดๆเพิ่งแต่งงานกันกับร่างนี้เมื่อวาน ไอ้เด็กนั่นถูกบ้านใหญ่บังคับแยกบ้าน เพราะป่วยต้องใช้เงินรักษาตัว เงินที่พ่อแม่เขาทิ้งไว้ให้ท่านย่าเป็นคนฮุบเอาไปทั้งหมด และไม่ยอมนำมารักษาเขาทั้งที่เป็นเงินพ่อแม่ของเขา พอเขาไม่สารมารถไปสอบได้เพราะอาการป่วยและต้องรออีกสามปี ซึ่งถึงเวลานั้นคนบ้านเมิ่งมองว่าเขาอายุมากไปอีกทั้งไม่ได้ไปเรียนอาจไม่คุ้มที่ต้องทุ่มเทให้ จึงไม่รักษาและไล่ให้ไปอยู่บ้านเชิงเขา อ้างว่าเขาเป็นโรคร้ายอาจนำมาแพร่คนในบ้าน แต่กลับอาศัยตำแหน่งซิ่วไฉของเขาละเว้นภาษีที่นาตนเอง รวมถึงจะขายขายสิทธิ์ที่เหลืออีกสี่สิบแปลงเพราะเขาสอบได้อับดับหนึ่งของปีก่อน แต่เมิ่งหย่งชวนไม่ยอมจึงถูกปู่กับย่าขับไล่ออกมาพร้อมน้องชายอายุสิบสาม หลังจากนั้นก็ทำหนังสือแยกบ้านมาให้ ผู้นำหมู่บ้านสงสารเขาสองพี่น้อง เลยอยากหาภรรยาให้มาช่วยดูและพวกเขา จึงเอาดวงของเขาไปให้ซินแสดู ปรากฎว่าดวงของเด็กน้อยเสิ่นเยี่ยนฟางเป็นดวงสมพงษ์ที่สุด ขบวนเจ้าสาวก็แค่ส่งเกวียนกับผู้อาวุโสสี่คนไปรับนางไม่มีชุดแต่งงาน มีผ้าคลุมหน้าผืนเดียวคลุมมาเท่านั้นมาเท่านั้น หลังจากส่งตัวนางเรียบร้อยเมิ่งหย่งชวนนก็เปิดผ้าคลุมหน้าแล้ถอนหายใจ อายุสิบเจ็ดแล้ว แต่อัปลักษณ์เสียจริงๆ ผิวกะดำกระด่าง ผมเผ้าที่มวยไวว้ก็มันเยิ้ม อาเขยนางคิดยังไงถึงอยากจะลวนลามเด็กอัปลักษณ์แบบนี้กัน เขาอดไม่ได้จึงเอ่ยถามไป "เจ้าอาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน เสิ่นเยี่ยนฟาง" "ข้า เอ่อข้า ท่านพี่ข้าอาบน้ำครั้งสุดท้ายสิบวันที่แล้วเจ้าค่ะ คือๆว่าข้ามีเสื้อผ้าแค่สองชุด ฝนตกติดกันไม่หยุดข้าซักผ้าไม่ได้เจ้าค่ะ" "อืม ไปอาบน้ำเสียสระผมด้วย กลิ่นตัวเจ้าเหลือทนจริงๆ ข้าป่วยอยู่ยังต้องมาทนดมอีก เจ้าแต่งเข้ามาช่วยให้ข้าดีขึ้น หรือมาทำให้ข้าตายไวขึ้นกันแน่" จากนั้นก็ไล่นางไปอาบน้ำ นางได้ชุดใหม่ที่ใส่ไม่ได้แล้วของลูกสาวผู้นำหมู่บ้านเขาให้มาสองชุด นางไม่มีสินเดิมอีกทั้งถูกแต่งมาด้วยสินสอดตำลึงเดียวกับข้าวสารหนึ่งถุง นางมีเพียงปิ่นเงินผีเสื้อเท่านั้นที่เป็นสินเดิมของนาง เป็นของที่มารดานางทิ้งให้ไว้ก่อนตาย และยังมีกำไลอีกสองคู่ที่อาเล็กไม่รู้ว่ามีมันอยู่ เสิ่นเยี่ยนฟางปักเพียงปิ่นอันเดียว ไม่มีชุดแต่งงานมีเพียงชุดที่ใส่ทุกวัน ส่วนกำไลนางเย็บติดกับชายกระโปรงชุดของตนเองเพื่อไม่ให้ใครหาเจอจากนั้นก็ขึ้นเกวียนมาจากหมู่บ้านสี่สิบลี้เพื่อมาแต่งงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD