ค่ายมวยอรุณรุ่ง
นักมวยของค่ายมารวมตัวกันในวันนี้ไม่ใช่เพราะมีการแข่งขันหรือการฝึกซ้อมชกมวยแต่อย่างใด แต่มาเพื่อช่วยกันจัดสถานที่ ในการจัดงานวันคล้ายวันเกิดครบรอบยี่สิบปีให้กับทายาทของเจ้าของค่าย หรืออีกในสถานะหนึ่งคือ นักมวยสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้ ฉายา ‘ต้า นางฟ้ามวยไทย’ ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะนอกจากความสวยแล้วการออกอาวุธบนเวทีของเธอนั้นยังทำให้คู่แข่งจดจำเธอไปอีกนาน
“พี่ต้า ทำอะไรอยู่คะ” เสียงหวานของไข่หวานนักมวยสาวรุ่นน้องวัยสิบเจ็ดปีเอ่ยถามขึ้น
“กำลังดูซีรีส์จีน เนี่ยเรื่องนี้กำลังสนุกเลย พระนางฉลาดทันกัน ชิงไหวชิงพริบกันสุดๆ” ต้า หรืออมิตาบอกนักมวยสาวรุ่นน้องที่วันนี้มาช่วยจัดสถานที่ในงานวันคล้ายวันเกิดของเธอในวันรุ่งขึ้น
“หือ…. พี่ต้าชอบดูซีรีส์จีนเหรอคะ” ไข่หวานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อืม… ชอบมาก ดูตลอดเวลาที่ว่าง คิกๆๆ” นางฟ้ามวยไทยตอบพร้อมทั้งหัวเราะออกมา
“อือ…. เรื่องนี้ไข่หวานก็ชอบ เรื่องก่อนนั้นดูไม่ไหว นางเอกอ่อนแอ เป็นลูกอนุด้วย” เด็กสาวชะโงกหน้าไปมองก่อนที่จะแสดงความเห็นออกมา
“อืม…. พี่ก็ไม่ชอบเรื่องนั้น พี่บ่นกับพ่ออยู่ว่านางเอกอ่อนแอ ถ้าพี่เป็นนางเอกของเรื่องนั้นนะ จะอัดคนพวกนั้นให้เละเลย” อมิตาเอ่ยออกมาอย่างออกรสออกชาติ
“แต่นางเอกเรื่องนั้นนางเก่งทีหลังนะคะ สงสัยพี่ต้าเทเสียก่อนคิกๆๆ”
คอซีรีส์จีนนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ส่วนผู้ชายก็จัดสถานที่ไปมองสองสาวไป บอสที่เห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเมื่อหลายวันก่อนก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงรุ่นพี่นักมวยสาวไม่ได้ เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่ทว่ามีความเชื่อเรื่องลี้ลับหรือความเชื่อตามแบบโบราณ การเห็นนักมวยสาวรุ่นพี่ไม่มีศีรษะทำให้เขารู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย
“มึงเป็นอะไรไอ้บอส กูเห็นมึงมองไอ้ต้ามันมาหลายวันละนะ” รุ่นพี่นักมวยหนุ่มเอ่ยถามนักมวยรุ่นน้องในค่าย
“เห้อ…. ไม่รู้สิ ผมรู้สึกเป็นห่วงพี่ต้าแปลกๆ รู้สึกใจคอไม่ดียังไงก็ไม่รู้” บอสตอบพร้อมถอนหายใจออกมา
“อย่าห่วงเลย ไอ้ต้ามันเก่งกว่ามึงอีกฮ่าๆๆๆ” รุ่นพี่นักมวยอีกคนพูดกลั้วหัวเราะออกมา สามหนุ่มจึงเลิกสนใจสองสาวที่เอาแต่นั่งดูซีรีส์จีนในแอปพลิเคชันดัง
ช่วงเย็นอมิตาและเด็กในค่ายอีกสองคนได้พากันออกไปซื้อของแห้งและของสดเพื่อจะมาเตรียมอาหารในวันรุ่งขึ้น ตลาดสดแห่งนี้นั้นมีผู้คนพลุกพล่าน สินค้าทั้งอาหารสดและอาหารแห้งมีให้เลือกหลากหลาย ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงกีฬาขายาวสีดำสวมรองเท้าแตะเดินไปกับรุ่นน้องนักมวยภายในค่ายยืนเลือกผักสำหรับทำอาหารในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเธอในวันพรุ่งนี้
“เอาไปเยอะไหมอะ” อมิตาเอ่ยถามรุ่นน้องในค่ายมวยที่มาช่วยกันเลือกซื้อของ
“นักมวยในค่ายเรากินเก่งนะพี่ต้า เอาไปเยอะๆ หน่อย” ไข่หวานที่มาด้วยกันแสดงความเห็นออกมา
“คิกๆๆ นั่นน่ะสินะ พวกผู้ชายนี่กินเก่งกันจริงๆ” อมิตาหัวเราะออกมาก่อนที่จะเอ่ยถึงนักมวยชายในค่ายมวยของบิดาที่กินเก่งกินเร็วราวกับพายุพัดพาในพริบตาเดียว
ในระหว่างที่สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มเลือกซื้อผักกันอยู่ที่แผงผัก จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้นักมวยสาวหันกลับไปมอง
“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยจ้า!!! ขโมย!!! ขโมยกระเป๋าฉันไปแล้ว…. ใครก็ได้ช่วยจับขโมยหน่อย!!!” เสียงของหญิงวัยกลางคนแต่งตัวดีร้องโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นมา อมิตาเห็นขโมยวิ่งผ่านไปเธอจึงรีบวิ่งตามไปทันที
“เห้ย!!! พี่ต้า อย่าไป!!! พี่ต้า!!!”
รุ่นน้องในค่ายที่เป็นผู้ชายร้องเรียกรุ่นพี่นักมวยสาวที่กำลังวิ่งตามขโมยไปติดๆ เธอไม่หันกลับมามอง ร่างบางแต่ทว่าแข็งแรงวิ่งตามขโมยไปด้วยใจมุ่งมั่น เธอจะต้องนำกระเป๋ากลับไปคืนป้าคนนั้นให้ได้
“เห้ย!!!หยุดนะเว้ย คืนกระเป๋ามาเดี๋ยวนี้ ช่วยด้วย!!! ช่วยกันจับขโมยหน่อย”
เธอตะโกนดังขึ้นตลอดทาง แต่ไม่มีใครสนใจที่จะช่วยเธอจับขโมยเลยสักคน ขโมยวิ่งเข้าไปในซอยที่คนไม่พลุกพล่าน ร่างบางของนักมวยสาววิ่งตามไปแบบไม่ลดละ มือที่ถือถุงผักที่ซื้อมาก่อนหน้าถูกปาไปโดนศีรษะของขโมยจนอีกฝ่ายล้มลง ก่อนที่เธอจะวิ่งตามไปถึงตัวแล้วใช้เท้าหนักๆ ถีบเข้าไปที่หน้าท้องของขโมย จนมันลุกไม่ขึ้น อมิตาจึงเดินไปหยิบกระเป๋าหิ้วที่ถูกขโมยขึ้นมาแล้วทำท่าจะหันหลังกลับไป
“คิดจะมาเอาไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอวะ!!!”
ขโมยตะโกนเสียงดังออกมาขณะที่เข้าประชิดตัวของฮีโร่สาว อมิตาหันหลังกลับมาแต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว มีดพกขนาดเล็กก็ถูกมือหนาของอีกฝ่ายจับจ้วงแทงเข้าที่หน้าท้องของเธอ
“โอ๊ย!!!” อมิตาตาเบิกโพลงร้องอุทานออกมาได้เพียงเท่านั้น
คนที่วิ่งตามมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงรีบวิ่งมาช่วย พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยถีบไปยังร่างหนาของขโมย มันล้มลงกับพื้นก่อนที่จะถูกรุมกระทืบจนสะบักสะบอม ร่างบางของนักมวยสาวล้มลงไปกองกับพื้น ตรงหน้าท้องถูกแทงด้วยมีดพกที่ยังคาอยู่ เลือดสีแดงฉานไหลแปดเปื้อนกับเสื้อสีขาว เธอหมดสติไปในทันที คนที่พบเห็นต่างตกใจกันอยู่ไม่น้อย
“พี่ต้า!!!”
เสียงสองนักมวยรุ่นน้องที่วิ่งตามมาตะโกนร้องเรียกชื่อนักมวยสาวพร้อมกับวิ่งเข้ามาดู
“ไม่นะ!!! พี่ต้า… พี่อย่าเป็นอะไรนะ พี่จะวิ่งตามมันมาทำไม ฮือๆๆๆ” ไข่หวานร้องไห้ฟูมฟาย
คนที่เห็นเหตุการณ์รีบโทรแจ้งตำรวจและเรียกกู้ภัยอย่างเร่งด่วน เจ้าของกระเป๋ารีบวิ่งตามมาเช่นกันพอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้ เป็นเพราะเธอเด็กสาวพลเมืองดีถึงต้องบาดเจ็บ
“นั่นมันน้องต้า นางฟ้ามวยไทยนี่หว่า เป็นไปได้ยังไงวะเนี่ย ขออย่าให้เธอเป็นอะไรเลย” ไทยมุงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างโชกเลือดของนักมวยสาวบนเตียงที่กู้ภัยลากผ่านหน้าไปขึ้นรถ
“ขอให้พระคุ้มครองเธอ อนาคตกำลังสดใส ไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลย” ไทยมุงอีกคนยกมือพนมไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เสียงสัญญาณไซเรนของรถกู้ภัยดังขึ้นร่างบางที่ชุ่มเลือดนอนหายใจโรยริน เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลนั้นแดงฉาน เสื้อสีขาวที่นักมวยสาวใส่มานั้นกลายเป็นสีแดงจนมองไม่ได้ ขโมยถูกตำรวจจับเพราะถูกพลเมืองดีรุมซ้อม อรุณที่ได้รับข่าวร้ายจากเด็กในค่ายที่ไปซื้อของด้วยกันกับบุตรสาวรีบตรงไปยังโรงพยาบาลทันที
“ไข่หวาน!!! พี่ต้าเป็นยังไงบ้าง” อรุณเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ครู… พี่ต้า…. พี่ต้าเสียแล้วจ้ะ หมอบอกว่าพี่ต้าทนพิษบาดแผลไม่ไหว เธอเสียเลือดมากก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาล ฮือๆๆ ครูจ๋า พี่ต้าไม่อยู่แล้ว ฮือๆๆๆ”
ไข่หวานบอกครูมวยของเธอออกมาทั้งน้ำตา อรุณเกิดอาการช็อกจนเป็นลมล้มลงไป ดีที่นักมวยหนุ่มๆ รีบเข้าประคองร่างของเจ้าของค่ายมวยได้ทันควัน เขาจึงไม่ได้ล้มลงไปบนพื้นของโรงพยาบาล เมื่อได้สติอรุณจึงเข้าไปดูร่างของบุตรสาว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาอาบแก้ม เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบุตรสาวของเขาจะมีอายุสั้นถึงเพียงนี้ เจ้าของกระเป๋าเมื่อรู้ข่าวเธอจึงเดินทางมาขอบคุณและขอโทษอรุณที่ทำให้เขาต้องสูญเสียบุตรสาวเพียงคนเดียวไป อรุณไม่ได้โกรธใคร เขาภูมิใจด้วยซ้ำที่บุตรสาวของเขาจากไปเพราะทำความดี
ข่าวการเสียชีวิตของนักมวยสาวดาวรุ่งวัยสิบเก้าปี ที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัยยี่สิบปีในวันถัดมาถูกตีแผ่ออกไปอย่างรวดเร็ว ข่าวนี้นับเป็นข่าวที่หดหู่ สร้างความเสียใจให้กับแฟนมวยทั้งประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากเธอจะเป็นนักมวยที่มีฝีมือและชื่อเสียงแล้ว เธอยังเป็นฮีโร่ของประชาชนอีกด้วย หากวันนั้นเธอไม่เข้าไปช่วยจับขโมย เธอก็คงจะไม่ต้องพบกับความสูญเสียถึงชีวิตเช่นนี้
“ฮือๆๆๆ ไข่หวานจะตั้งใจฝึกซ้อม จะเป็นแชมป์ให้พี่ต้าได้ภูมิใจให้ได้นะ”
ไข่หวานเอ่ยขึ้นขณะที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพของไอดอลของเธอ งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดในวันนี้ แทนที่จะมีเสียงหัวเราะสนุกสนาน กลับกลายเป็นเสียงร้องไห้เพราะความโศกเศร้า ไข่หวานรู้สึกทำใจไม่ได้ คนดีๆ ทำไมถึงจากไปเร็วนัก ทีคนชั่วทำไมอายุยาวนานเหลือเกิน ไข่หวานไม่เข้าใจ
“ผมว่าแล้ว ฮือๆๆๆ ก่อนหน้านี้ผมเห็นพี่ต้าไม่มีหัว แต่ผมไม่กล้าพูดออกมา ถ้าผมรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ผมจะบอกครูอรุณ ให้ครูอรุณพาพี่ต้าไปสะเดาะเคราะห์แล้ว ฮือๆๆๆ”
บอสเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา โทษแต่ว่าเป็นความผิดของเขาที่เห็นมีสัญญาณเตือนว่านักมวยรุ่นพี่สาวกำลังจะมีอันเป็นไป แต่เขาก็ไม่ยอมเอ่ยออกมา
“พวกเอ็งอย่าร้องไห้ให้ต้ามันจากไปแบบไม่สงบเลย ครูรู้ว่าต้าทำดีที่สุดแล้ว”
อรุณเอ่ยออกมา ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับการสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไป แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า อมิตานั้นไม่อยากให้ทุกคนจมอยู่กับความโศกเศร้า
งานศพของฮีโร่สาวถูกจัดขึ้นสามวันสามคืน เธอได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพระราชทานเพลิงศพเพราะวาระสุดท้ายของนักมวยสาวนั้นได้กระทำความดี ตัวจากไปแต่ความดียังเป็นที่พูดถึง อรุณแม้จะเสียใจแต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองต่อไป แฟนๆ มวยต่างพากันไว้อาลัยและรำลึกถึงความดีของเธอ แม้จะเสียดายแค่ไหนแต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องจากไปเช่นกันเมื่อถึงเวลา วิญญาณของอมิตาลอยล่องผ่านภพไปยังภพอื่น เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังกลับชาติไปเกิดใหม่ในเมืองที่เธอไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง
เมืองหนานอัน แคว้นต้าตง
ร่างบางที่นอนแน่นิ่งมาถึงสามวันเริ่มขยับตัวบนฟูกนอน เสี่ยวเอ๋อที่นอนกุมมือคุณหนูของนางอยู่พลอยรู้สึกตัวไปด้วย นางเด้งตัวขึ้นก่อนที่จะร้องเรียกทั้งคุณหนูห้าและนายหญิงของนาง
“คุณหนู…ฮือๆๆ คุณหนูฟื้นแล้ว นายหญิง…คุณหนู คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ” เสียงของเสี่ยวเอ๋อที่ดังขึ้นทำให้อนุซูฉีรีบวิ่งเข้ามาดูบุตรสาวด้วยความดีใจ
ร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรงกระแอมไอขึ้นมา เธอค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่จะพบว่าภาพที่เธอเห็นยามนี้นั้นเป็นภาพเช่นเดียวกับซีรีส์ที่เธอชอบดูอยู่เป็นประจำ มองไปยังบุคคลเบื้องหน้าที่ร้องเรียกเธอเป็นภาษาจีนเช่นเดียวกับในซีรีส์ออกมา หญิงวัยกลางคนที่เอาแต่ร้องเรียกชื่อที่เธอไม่เคยได้ยิน ส่วนหญิงสาวที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอีกคนก็ร้องไห้ออกมาราวกับว่าดีใจกับการได้พบเธอ
อมิตารู้สึกงุนงงปนตกใจก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง เธอเข้าใจว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน ทั้งนายหญิงและเด็กรับใช้มองหน้ากันอย่างงุนงง อมิตาพยายามทบทวนเหตุการณ์ก่อนที่เธอจะฟื้นคืนสติในครั้งนี้ ก่อนหน้านั้นเธอวิ่งตามขโมยจากนั้นจึงถูกแทงเข้าที่หน้าท้อง
‘นี่เธอ!! เสียชีวิตแล้วหรือนี่ แล้วบิดาของเธอล่ะ เขาจะอยู่ได้อย่างไร’
อมิตาแทบสิ้นสติ เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาแต่ทว่าไม่ได้ส่งเสียงร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ควรจะเป็น ร่างบางที่ผ่ายผอมค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เสี่ยวเอ๋อรีบเข้าช่วยประคองคุณหนูห้าให้ลุกขึ้นนั่งตามที่นางต้องการ
มือบางยกขึ้นมากุมขมับก่อนที่ภาพหลากหลายซึ่งเป็นอดีตของเด็กสาวไหลวนกลับเข้ามาในห้วงของความทรงจำ ภาพของเด็กสาวที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกมาตั้งแต่วัยเยาว์ เรื่องราวต่างๆ ไหลเวียนมาราวกับภาพในซีรีส์ อมิตาจึงรับรู้ได้ว่าตอนนี้เธอได้มาอยู่ในร่างของเด็กสาวที่มีนามว่า ‘หลินซูเหมย’ บุตรีของเจ้ากรมการกลาโหมกับอนุซูฉี แห่งเมืองหนานอัน และแน่นอนว่าเด็กสาวคือลูกอนุ
‘นี่เธอตายแล้วกลับชาติมาเกิดในร่างของเด็กสาวผู้นี้หรือนี่’
“โอ๊ย!!! ปวดหัว”
เธออุทานออกมา อนุซูฉีมารดาของหลินซูเหมยจึงรีบให้เด็กรับใช้ไปเรียกหมอหวงที่มีโรงหมออยู่ไม่ไกลจากจวนแห่งนี้ ไม่กี่เค่อต่อมา หมอหวงก็เดินทางมาถึงเรือนสี่ของอนุซูฉี หลินหยางมาดูอาการบุตรีพร้อมกับหลินฮูหยิน ท่านหมอหวงตรวจดูอาการอยู่สักพักก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมา
“นายท่านหลิน หลินฮูหยิน อนุซูฉี คุณหนูห้าปลอดภัยแล้วขอรับ เพียงแต่ให้นางนอนพักอีกสักหน่อย ยานี่นำไปต้มเพื่อฟื้นกำลังของนาง อีกไม่เกินสองสามวัน ข้าคิดว่านางคงจะแข็งแรงขึ้นแล้วล่ะขอรับ”
หมอหวงบอกอาการที่เขาตรวจได้จากการจับชีพจรของคุณหนูห้า เขารู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อาการป่วยของคุณหนูห้าดูจะมีอาการดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมร่างกายของนางยังแข็งแรงมากขึ้นกว่าเก่าอีกด้วย
เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับดีใจ ส่วนคนที่เพิ่งให้ท่านหมอตรวจมองหน้าผู้คนที่อยู่รอบๆ ด้วยความงุนงง เธอต้องการที่จะรับรู้เรื่องราวของเด็กสาวที่เธอมาอยู่ในร่างนี้ให้มากกว่านี้ เปลือกตาบางจึงค่อยๆ ปิดลง ท่านหมอจึงบอกกับทุกคนว่าคุณหนูห้าต้องการพักผ่อน หลินหยางกับหลินฮูหยินจึงพากันกลับเรือนใหญ่ไป ส่วนคนที่เพิ่งรู้ข่าวว่าหลินซูเหมยยังไม่ตายก็เกิดอาการร้อนใจ หากนางจำได้ว่านางไม่ได้ตกน้ำไปด้วยตนเอง แต่ทว่ามีคนผลักนาง เรื่องนี้คงไม่จบเพียงเท่านี้แน่ๆ ร่างบางรีบสาวเท้าเดินกลับเรือนสามไปอย่างเร่งรีบเพื่อรายงานให้นายหญิงกับคุณหนูสี่ได้รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น