เสียงสบถด่าและถอนหายใจแรง ดังขึ้นในความเงียบ เหตุเกิดจากความเป็นชายที่แม้จะผงาดกล้า ทว่าก็ยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะสอดใส่เข้าสู่ช่องทางแห่งความสุขของภรรยาที่อ้ารอ… สุดท้ายมะลิก็เคว้งคว้าง ด้วยเสี่ยพจน์ล่มลงอย่างไม่เป็นท่า
“โธ่โว้ย… แม่งเป็นแบบนี้บ่อยๆ ต่อไปคงมีไว้เยี่ยวอย่างเดียว”
เสี่ยพจน์ตำหนิตัวเองอย่างเหลืออด มะลิทรุดร่างราบลงกับเตียง หล่อนเคว้งคว้าง ค้างเติ่ง จึงได้แต่หลับตา… เม้มปากแน่น สะกดกลั้นความอยากที่ยังพลุ่งพล่านอยู่ในอารมณ์
มะลิพยายามบังคับความต้องการที่พลุ่งพล่านอยู่ในอารมณ์ให้สงบลงเหมือนเช่นทุกครั้งที่เสี่ยพจน์ทำให้หล่อนอารมณ์ค้าง… ครั้งแล้วครั้งเล่า สะสมความอยากเอาไว้เช่นเคย ความ ‘อยาก’ ที่เหมือนกับหนี้สินทางความรู้สึกที่หล่อนเฝ้ารอการชำระสะสาง แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้ง… ที่สามีจะชดใช้ให้หล่อนได้อย่างที่ต้องการ
ในเวลาต่อมา
ตอนใกล้ค่ำของอีกวัน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายความเงียบภายในบ้านหลังใหญ่ มะลิรีบคว้ามากดรับ เมื่อเห็นว่าเสี่ยพจน์สามีของหล่อนโทรมา
“คะเสี่ย… ”
มะลิกรอกเสียงไปสู่ปลายสาย ตอนนี้เสี่ยพจน์อยู่ไกลถึงเชียงใหม่ เพราะว่ามางานแต่งลูกชายเพื่อนสนิทในอำเภอสันทราย กว่าจะกลับก็มะรืน
“มะลิจ๋า… เสี่ยลืมโอนเงินค่าแรงให้คนงาน… ฝากเอาเงินให้คนงานที”
จากนั้นเสี่ยพจน์ก็แจงรายละเอียดบอกภรรยา เขาแบ่งจ่ายค่าแรงออกเป็นสี่งวด ตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ว่างานจะเสร็จภายในหนึ่งเดือน
เรื่องโอนเงิน มะลิเคยบอกให้เสี่ยพจน์เรียนรู้การทำธุรกรรมออนไลน์ ทว่าเสี่ยพจน์ก็ยังเป็นคนยุคเก่าที่ปรับตัวช้า ก้าวตามเทคโนโลยีไม่ทัน ทุกครั้งที่จะต้องโอนเงินจึงต้องเดินเข้าไปในธนาคารทุกครั้ง
“โอเคค่ะเสี่ย… เดี๋ยวมะลิจัดการให้”
คุยกับต่อมาอีกครู่สั้นๆ มะลิก็ตัดสาย ด้วยเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาใกล้ค่ำ ชักช้าเดี๋ยวมืดเสียก่อน
หล่อนรีบเดินออกมาคว้าจักรยานขึ้นขี่ ปั่นออกไปตามถนนดินเส้นเล็กๆ ทอดยาวไปสู่แปลงที่ดินบริเวณท้ายบ้านที่แลเห็นไซต์งานก่อสร้างตั้งอยู่ไกลๆ ไม่กี่วันก็มีเสาและคานปรากฏขึ้นเป็นรูปเป็นร่างให้เห็น
ใช้เวลาไม่นาน จักรยานของมะลิก็แล่นมาถึงไซต์งานก่อสร้าง แต่หล่อนมองไม่เห็นใครสักคน มันดูเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ แต่วันนี้เป็นวันศุกร์ ปกตินายเดชซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานจะอนุญาตให้คนงานกลับบ้าน จะกลับมาทำงานอีกทีก็เย็นวันอาทิตย์
“นายเดช… มีใครอยู่ไหมจ๊ะ”
มะลิเรียก หากมีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมาหล่อนจอดรถจักรยานพิงไว้กับต้นไม้ใหญ่ใกล้ที่พักคนงาน จากนั้นก็เดินอ้อมมาทางด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นใคร
มะลิตัดสินใจเดินกลับมาเคาะประตูตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงสภาพเป็นห้องพัก แต่ก็ไม่มีใครอยู่
ทว่าในระหว่างที่ยืนรั้งรออยู่ครู่สั้นๆ กำลังตัดสินใจว่าจะกลับ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผิวปาก ดังแว่วออกมาจากแผ่นสังกะสีที่ถูกตีโอบเป็นห้องน้ำ
มะลิตัดสินใจก้าวไปตามทิศทางที่มาของเสียงผิวปาก เท้าเล็กๆ ก้าวย่างออกไปตามถนนโรยกรวดเส้นเล็กๆ ตรงหน้า รู้สึกได้ถึงเม็ดกรวดทรายจากการก่อสร้างที่เสียดสีอยู่ใต้พื้นรองเท้า กระทั่งถึงที่หมาย
มะลิหยุดฟังเสียงซึ่งคล้ายกับว่ามีใครสักคนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังแผ่นสังกะสี
และด้วยความอยากรู้ มะลิตัดสินใจชะโงกใบหน้าเข้ามาระหว่างรอยห่างของแผ่นสังกะสีเก่าคร่ำ
ครั้นแล้วก็ต้องตกใจแทบช็อก กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อพบว่ามีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สีผิวน้ำตาลเข้มอาบเลื่อมไปด้วยฟองสบู่ เนื้อตัวของเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
‘โอ้ว… นายเดช’
มะลิรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ภาพเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้ามของนายเดช สะดุดตาหล่อนอย่างแรง ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่นัก ที่แผงอกของนายเดชปกคลุมไปด้วยเสียขนสีดำเป็นแพกว้าง เลื้อยลามเป็นแนวลงมาที่กล้ามท้องเป็นลูกลอนซิกแพ็ค และตอนที่เขาเอี้ยวกายเอาขันตักน้ำในแกลอนมาราดศีรษะ ทำให้มะลิเห็นอวัยวะเพศยาวใหญ่ เหวี่ยงไหวลงมาถึงต้นขา
‘โอ้แม่เจ้า… ’
‘ใหญ่มาก’ มะลิอุทานอยู่ในความคิด ความเป็นชายของนายเดช ทำเอาหล่อนตกใจแทบช็อก สิ่งที่เคยคิดว่าจะมีอยู่แค่ในบรรดาพระเอกหนังโป๊เท่านั้น วันนี้ได้มาเห็นของจริงเต็มตา… ใหญ่ยังกับแขนเด็ก
‘คุณพระ… ’
สิ่งที่เห็นทำเอามะลิยกมือขึ้นทาบอก นายเดชกำลังเอาสบู่มาลูบไล้ขัดถูจรวดดุ้นใหญ่ หงายอุ้งมือ ลูบล้วงเข้ามาที่หว่างขา ตะล่อมพวงเพศอลังการของตัวเอง เอามาขัดถูด้วยสบู่
มะลิตกใจ ใจเต้นแรง เหงื่อซึมออกมาจากมือที่กำแน่น หากก็มองตาไม่กะพริบ เห็นแก่นกายสีน้ำตาลคล้ำ ดุจเดียวกับสีผิวของนายเดช กำลังเหวี่ยงไหว ส่าย สั่น ตามจังหวะเอี้ยวตัวเพื่อตักน้ำในแกลอนสีดำใบใหญ่ รดราดลงบนเรือนกายกำยำไปด้วยมัดกล้าม
นายเดชผิวปากหวือ ยังคงอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่ง… กำลังจับจ้องดูเขาอาบน้ำด้วยหัวใจเต้นระทึก
มะลิรู้สึกได้ว่าใบหน้าของหล่อนจู่ๆ ก็เกิดอาการร้อนวูบวาบ แก้มร้อนผะผ่าวกับภาพที่เห็น
ครั้นแล้วในนาทีที่ตัดสินใจว่าจะวิ่งกลับออกมาตามทางเดินเล็กๆ ด้วยความรู้สึกอับอายที่เผลอมองจนนายเดชอาบน้ำเสร็จ
ทว่าจู่ๆ เสียงเรียกที่ดังลั่นมาพร้อมกับประตูสังกะสีที่ถูกผลักออกมา
“คุณมะลิ…”
เจ้าของเรือนกายที่เกือบเปลือยเปล่า เพราะมีเพียงผ้าขาวม้าปิดบังส่วนที่ต่ำลงไปจากสะดือเอาไว้ นายเดชตกใจเช่นกัน ที่เห็นว่าเป็นหล่อน
“ฉัน… เอ่อ… ”
มะลิอ้ำอึ้ง หล่อนพูดอะไรไม่ออก ตกใจจนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ไม่อาจซ่อนอาการใบหน้าแดงซ่านจากสายตาของไอ้เดช มันหรี่ตามองหล่อนด้วยความสงสัย เดาว่ามะลิน่าจะเห็นของดีเข้าแล้ว
“คุณมะลิมาทำอะไรแถวนี้ครับ”