เช้าวันทำงานที่แสนสดใสของใครหลายคน แต่ไม่ใช่เธอ นีรนาราเดินสะบัดตูดไปมาตามทางเดินระหว่างตึกภายในโรงพยาบาล มือข้างขวาของแพทย์หญิงคนสวยถือแก้วกาแฟ ส่วนข้างซ้ายถือเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่คนสมัยตั้งชื่อให้มันว่าไอแพด
ดวงตากลมโตมองตรงไปข้างหน้า แต่ทว่าก็ยังคอยมองซ้ายแลขวาราวกับกวางป่ากำลังระวังตัวจากพญาราชสีห์หนุ่ม
“จ๊ะเอ๋!”
ให้ตายเถอะ! ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ อะไรที่เธอคิดไว้ ไม่ผิดเลยสักนิด
“กรี๊ด! คุณมาได้ไง เอาไอแพดฉันคืนมานะหมออธิวรรธน์”
นีรนาราผู้มีหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม แต่ยามนี้กลับบูดบึ้งราวกับ..
“ทำหน้าบูดเป็นตูดหมูไปได้ คนอุตส่าห์มีน้ำใจจะช่วยถือ แทนที่จะขอบคุณ”
“ใครใช้ให้ช่วย สะเหล่อ!”
ดวงตาหวานตวัดมองคนที่กำลังยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
“ขอโทษนะ เผอิญว่าพี่หน้าด้านน่ะ ไม่สะทกสะท้าน”
“กรี๊ด! ไอ้หน้ากาวตราช้างผสมคอนกรีต เอาไอแพดฉันคืนมานะ”
“เอ๊ะ! พี่บอกแล้วไงว่าจะถือไปส่ง เดี๋ยวนี้พูดไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะเรา”
นีรนารากำลังจะอ้าปากด่าผู้ชายตรงหน้า ทว่าอธิวรรธน์กลับทำปากบุ้ยใบ้ให้หันไปมองรอบข้าง แล้วนั่นก็ทำให้เธอรีบงับปากตัวเองเอากลับมาไว้อย่างเดิมทันที แหม.. สายตาเป็นสิบคู่ที่กำลังจ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ขืนพูดอะไรออกไป มีหวังคนได้เอาไปเม้าท์มอยซอยเก้ายาวเป็นหางว่าวแน่ๆ ถ้าอยู่ในชุดธรรมดาก็จะไม่คิดมากเท่าไหร่หรอก แต่นี่ทั้งเธอและอธิวรรธน์ ดันใส่ชุดกาวน์สีขาวซึ่งปักชื่อบริเวณหน้าอกว่านายแพทย์และแพทย์หญิงนี่สิ
“อยากไปก็ไป”
อธิวรรธน์มองตามเจ้าของร่างบางซึ่งเดินนำหน้าเขาไปได้ประมาณสามก้าว เรียวปากหยักลึกที่สาวๆ ต่างกล่าวขานว่ามีเสน่ห์นักหนา ยิ้มกว้างจนกลัวว่าจะฉีกถึงรูหู
“เปลี่ยนไปมากจริงๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง
นีรนาราไม่ใช่คนเดิมที่เขารู้จัก ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวานเหมือนอย่างวันวาน แต่นั่นกลับทำให้เขาอยากค้นหาว่าจริงๆ แล้วเจ้าหล่อนเป็นอย่างไรกันแน่ อ่อนหวานเหมือนกับตุ๊กตากระเบื้อง หรือ..
สวย เด็ด เผ็ด ดุ!
นีรนาราส่งรอยยิ้มให้ทุกคนที่กำลังมองมาด้วยแววตาฉงน แน่ละสิ! ไม่สงสัยใคร่รู้ก็บ้าแล้ว ก็ไอ้คนข้างๆ ที่ยืนฉีกยิ้มแฉ่งแข่งกับดวงตะวันมันประวัติดีซะที่ไหน นี่หวังว่าป้าๆ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายที่อยู่ในห้องนี้ คงจะไม่คิดว่า..
“หมอจี๊ปกับหมอเบลล์.. รู้จักกันเหรอ”
นั่นไง! คำถามจุกๆ จากคุณป้าพยาบาล
“ใช่ครับ ผมกับเบลล์..”
“ฉันกับคุณหมอเคยรู้จักกันน่ะค่ะ แต่ไม่สนิท”
อธิวรรธน์หันมามองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจนิดๆ แหม! พ่อคุณ แต่ก่อนตอนที่มีสัมพันธ์สวาทแสนลึกซึ้งกับชะนีหัวใจใสซื่อ พยายามปิดบังแทบตาย ขนาดเพื่อนสนิทมิตรสหายยังไม่มีใครรู้ วันนี้ทำมาเป็นอยากเปิดเผย
“ไม่สนิท?”
เธอใช้เพียงแค่หางตามองเจ้าของคำถาม ก่อนจะยื่นมือไปดึง ไอแพดที่ชายหนุ่มอุตส่าห์อาสาถือมาส่งถึงห้องทำงาน
“ขอบคุณนะคะ แต่วันหลังไม่ต้องลำบากถือมาส่งหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ”
“แค่นี้เอง ไม่ทำให้พี่เสียเวลาหรือลำบากอะไรมากมายหรอก”
นีรนาราแสยะยิ้ม ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้อธิวรรธน์แทบทรุด
“ฉันหมายถึงฉันต่างหากที่ลำบากและเสียเวลา การคบค้าสมาคมกับคุณนี่มันเสียทั้งเวลาชีวิตและสุขภาพจิตสุดๆ”
เขาไม่ได้หัวใจด้านชาขนาดที่ว่าจะไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของ เจ้าหล่อน แต่กระนั้นก็พยายามท่องไว้ว่าสิ่งที่นีรนารากำลังเป็นหรือแสดงออกมา นั่นเป็นเพราะเรื่องราวในอดีตที่เขาเองก็ยอมรับว่าทำผิดเอาไว้มาก เพราะฉะนั้นวันนี้.. เธอจะเปลี่ยนไปก็คงไม่แปลก
“ขอคุยด้วยแป๊บหนึ่งได้ไหม”
“ถ้าตอบว่าไม่?”
“ขอร้อง”
นีรนาราใช้เวลาตัดสินใจเพียงครู่ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะพยักหน้าตอบตกลง ไม่ใช่ว่าใจอ่อนอะไร แค่อยากรู้ว่าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเลวไม่มีที่ติ จะสรรหาคำโกหกหรือถ้อยคำหวานๆ อะไรมาหว่านล้อมเธออีก
“เก็บของแป๊บ คุณไปรอที่สวนหย่อมตรงนู้นก็ได้ เดี๋ยวฉันตามไป”
อธิวรรธน์พยักหน้า ก่อนจะหันหลังแล้วพาตัวเองเดินไปนั่งรอตามที่สาวเจ้าบอก
ดวงตาคมปนหวานที่ยามปกติมันจะฉายแววขี้เล่นและวิบวับอยู่เป็นนิจ หากแต่ว่าตอนนี้กลับนิ่ง ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย ชายหนุ่มทอดมองไปข้างหน้า เวลาปีกว่าที่นีรนาราหายไปจากชีวิต เป็นช่วงที่ชีวิตเจอกับคำว่ามรสุมและบทเรียน หัวใจที่คิดว่าจะไม่มีทางรักใครได้ และชีวิตของผู้ชายคนนี้ที่เคยคิดว่าผู้หญิงคือบ่วงรัดคอ แต่ความคิดทั้งหลายมันเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงที่เป็นความสดใสและหัวใจของเขา.. จากไป
“คุณมีอะไรจะคุยกับฉัน” เสียงหวานเอ่ยถาม ก่อนที่เธอจะหย่อนสะโพกงามลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามอธิวรรธน์