เธอก็นึกเสียว่าตอบแทนบุญคุณของพ่อและฉันก็แล้วกันที่ชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่พ่อกับแม่ของเธอตายและพาแม่ของฉันไปตายด้วย เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพ่อฉันเป็นโรคหัวใจ ถ้าเกิดรู้ว่าฉันติดหนี้ที่คาสิโนแล้วอะไรจะเกิดขึ้น หรือเธออยากให้พ่อของฉันตาย”
เคนจิโร่พูดอย่างเห็นแก่ตัวสุดๆ เขานำทางาดะมาเป็นตัวแปรให้เธอต้องจำยอม เพราะรู้ดีว่ากัญติญาเคารพรักบิดาของเคนจิโร่มากแค่ไหน และยอมทำตามคำสั่งของทางาดะทุกอย่าง
กัญติญาเหมือนยืนอยู่ปากของหุบเหวลึกที่เคนจิโร่สร้างขึ้น เธอมีทางเลือกเพียงสองทาง ทางที่หนึ่งคือหันหลังกลับเพื่อที่จะไม่ต้องก้าวเดินไปในหุบเหวนั้น อีกทางเลือกหนึ่งคือก้มหน้าเดินลงไปในหุบเหวซึ่งความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานใจรอคอยอยู่ กัญติญาจะก้มหน้ารับโชคชะตาที่เคนจิโร่และรัฐศาสตร์เป็นผู้ขีดทางให้เดิน สุดท้ายทางเดินที่เธอเลือกก็คือยอมเดินลงสู่หุบเหวนั้นโดยเคนจิโร่เป็นคนผลักเธอลงไป
“ก็ได้...เอาอย่างนี้ก็ได้หากมันเป็นความต้องการของพี่เคนจิ”
น้ำใสๆ หยดลงมาจากดวงตาหวานปนเศร้าของเธอ น้ำตารินไหลลงมาเป็นทางตามแก้มนวล พร้อมกับคำพูดที่เด็ดเดี่ยวกับการตัดสินใจของเธอ
“มิโกะ เขาตกลงแล้ว ทีนี้หนี้ระหว่างเราก็หมดกันแล้วนะ”
เคนจิโร่พูดกับรัฐศาสตร์ที่ยังยืนโอบร่างของกัญติญาอยู่ คำพูดซึ่งไม่แสดงความรู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิดที่เขาเป็นคนผลักกัญติญาลงไปในหุบเหว กิริยาที่แสดงออกถึงความไม่แคร์ของเคนจิโร่ทำให้เธอเพิ่มความเสียใจมากยิ่งขึ้น เมื่อคนที่ตัวเองรักยกเธอให้ชายอื่นเชยชม กัญติญาเก็บความเสียใจไว้ภายในอย่างมิดชิด แต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจได้ เพราะเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คนภายนอกอาจมองว่าเธอเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวแต่ใครเล่าจะรู้ว่าภายในใจของเธอนั้นทั้งอ่อนไหวและอ่อนแอเพียงใด
“ผู้หญิงคนเดียวแลกกับเงินตั้งพันล้าน คิดๆ ดูฉันว่ามันไม่คุ้มนะ”
รัฐศาสตร์กวาดสายตาไปทั่วร่างของกัญติญาอย่างจาบจ้วง สายตาโลมเลียที่เธอสัมผัสได้สร้างความรู้สึกร้อนๆหนาวๆให้แก่เธออย่างบอกไม่ถูก
“ก็ถือว่าเป็นดอกเบี้ยล่วงหน้าก็แล้วกัน ฉันรู้ว่าแกชอบดอกเบี้ยที่ฉันให้”
เคนจิโร่พูดเหมือนรู้ใจรัฐศาสตร์ ซึ่งเขาก็ไม่เถียงคำพูดของเคนจิโร่ การที่เขาให้เคนจิโร่กู้เงินจำนวนมากขนาดนี้ เป็นเพราะว่าเขาต้องการบีบทุกวิถีทางให้ยากูซ่าหนุ่มต้องเป็นเบี้ยล่างยินยอมต่อเงื่อนไขทุกอย่างของเขา เพื่อชดใช้หนี้และหนึ่งในเงื่อนไขนั้นคือคู่หมั้นสาวซึ่งรัฐศาสตร์ต้องการตั้งแต่เห็นหน้า เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะง่ายขึ้นเพราะเขาไม่ต้องเอ่ยปากแต่เคนจิโร่กลับเป็นฝ่ายเสนอยกคู่หมั้นให้เขาเอง
“เอาเป็นว่าฉันขอดูดอกเบี้ยของแกก่อนแล้วกัน ว่ามันคุ้มอย่างที่แกพูดจริงๆ
หรือเปล่า ถ้าเผื่อมันคุ้มจริงๆ อย่างที่แกพูด เราค่อยมาคุยเรื่องหนี้กันอีกที”
รัฐศาสตร์พูดอย่างไม่ให้ตนเองเสียเปรียบ เคนจิโร่พอใจในคำตอบของรัฐศาสตร์จึงตอบตกลง
“ได้...ตกลงตามนี้” กัญติญาตัวชาดิกเมื่อได้ยินการสนทนาที่ทำร้ายจิตใจของเธออย่างหนัก เขาทั้งสองคนคงเห็นเธอเป็นแค่อาหารที่น่าลิ้มลองแต่ยังไม่รู้รสชาดของอาหารนั้น ต่อเมื่อได้ชิมและกินจนอิ่มเสียก่อนจึงจะบอกได้ว่าอาหารเอร็ดอร่อยมากแค่ไหน
“หมดธุระแล้วใช่ไหม...งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” เคนจิโร่ตัดบทและก้าวเดินออกไปจากห้องทำงานโดยไม่สนใจกัญติญาเลยสักนิดเดียว โคกิมองใบหน้าของกัญติญาก่อนจะเดินตามเจ้านายน้อยของเขาไปพร้อมกับสมาชิกของพรรค
รัฐศาสตร์ก้มมองใบหน้าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน ใบหน้าของเธออาบไปด้วยน้ำตา ชายหนุ่มใช้นิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาของเธอเบาๆพลางโน้มใบหน้าของเขาลงมาใกล้เธอก่อนจะจรดริมฝีปากที่ใบหูหอมกรุ่นของเธอและกระซิบคำพูดหนึ่งที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเจ็บช้ำ
“ไปล้างคราบของไอ้เคนจิออกจากตัวเธอให้หมดเสียก่อน แล้วไปนอนรอที่เตียงของฉัน” กัญติญาร้าวรานใจ เจ็บแสบที่หัวใจราวกับใครเอาพริกป่นมาราดแผลสด
“มานพพามิโกะไปที่ห้องของฉัน...ถ้าเธอขัดขืนก็ไปยิงทิ้งไอ้เคนจิกับพวกของมันได้เลย” รัฐศาสตร์ออกคำสั่งอย่างเด็ดเดี่ยว มานพปฏิบัติตามคำสั่งพากัญติญาไปที่ห้องพักส่วนตัวของเจ้านายหนุ่มที่อยู่ชั้นที่12 ชั้นบนสุดของเรือสำราญขนาดมหึมาของรัฐศาสตร์
“ที่คาสิโนเป็นไงบ้าง” รัฐศาสตร์เอ่ยถามธนาพลเมื่อร่างของกัญติญาพ้นจากห้องทำงานของเขาไปแล้ว ธนาพลมองเพื่อนรักและเจ้านายด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจในการกระทำของเขานัก เพราะรู้ดีว่าที่รัฐศาสตร์ทำไปทั้งหมดเพราะความปรารถนาในตัวของหญิงสาว เพื่อเอาชนะคำพูดของเคนจิโร่เมื่อห้าปีก่อนที่พูดกับรัฐศาสตร์ว่า
‘อย่ายุ่งกับของของกู ถ้ายังไม่อยากตาย’ ซึ่งเป็นคำพูดที่ฝังใจรัฐศาสตร์มาตลอดที่จะได้แก้แค้นคำพูดนี้
“เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างพร้อมเปิดทำการได้” ที่จริงแล้วคาสิโนของเขาไม่ได้เสียหายมากอย่างที่รัฐศาสตร์พูดกับเคนจิโร่ คาสิโนของเขามีลูกน้องฝีมือดีคอยดูแลอยู่ร่วมร้อยคน การที่เคนจิโร่ไปอาละวาดที่คาสิโนสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย เพราะคนของเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เสียก่อน เขาไม่ได้ปิดปรับปรุงสามวันตามที่บอกเคนจิโร่แต่แค่ครึ่งวันเท่านั้น
“ดีมาก...ฉันไปละจะไปดูดอกเบี้ยหน่อยสิว่าคุ้มหรือเปล่า” รัฐศาสตร์พูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“เล็ก...นายว่ามันคุ้มเหรอที่ทำอย่างนี้ นายทำทุกอย่างเพื่ออยากได้ผู้หญิงเพียงคนเดียวมากกกอดเนี่ยนะ” ธนาพลเอ่ยถามรัฐศาสตร์ที่กำลังก้าวเดินออกไปจากห้องทำงาน
“ฉันเสียเงินไปไม่กี่ร้อยล้าน แต่สามารถหักหน้าคนที่มันดูหมิ่นฉันได้มันก็คุ้มไม่ใช่เรอะ” เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที โดยมีสายตาของธนาพลมองตาม
“นิสัยเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ชอบเอาชนะคนอื่นระวังจะอกแตกตายเพราะผู้หญิง” ธนาพลรำพึงขึ้นมาดังๆ นิสัยของรัฐศาสตร์เหมือนกับผู้เป็นพี่คือรัฐกฤตญ์ ชอบเอาชนะอยากได้อะไรก็ต้องได้ โดยไม่นึกถึงจิตใจคนอื่น ดูเหมือนว่ารัฐศาสตร์จะยิ่งหนักกว่าผู้เป็นพี่เพราะรายนี้อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ว่าจะต้องทุ่มเงินมากมายแค่ไหน แถมยังมีดีกรีความโหดร้ายเลวรวมอยู่ในตัวเขามากกว่ารัฐกฤตญ์อีกด้วย