พ่อปลาไหลตัวพ่อ (100%)

1884 Words
“โน่นครับ คนที่ผมนัดเอาไว้” แอรอนพยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ ก่อนจะพยักพเยิดไปยังสาวสวยนางหนึ่งที่อยู่ในชุดแซกสีม่วงชวนมอง “วาเนสซ่า ปิเอโร่” คำตอบที่ได้รับทำให้แม่สาวสวยถึงกับทำหน้าเซ็ง ผู้ชายที่หล่อนหมายตาเอาไว้ส่วนมากก็จะกำลังให้ความสนใจวาเนสซ่า ปิเอโร่ กันทั้งนั้น “คุณรู้จักเธอด้วยเหรอครับ” แอรอนเลิกคิ้วหนาได้รูปด้วยความสงสัย สุ้มเสียงที่ถามไถ่ก็ยังเต็มไปด้วยความขี้เล่นดังเดิม “ทั่วทั้งสวีเดนจะมีสักกี่คนกันที่ไม่รู้จักแม่สาวน้อยร้อยเตียง” พูดพร้อมเบ้ปากด้วยความสมเพชกับความร่านของผู้ที่ตกเป็นประเด็นสนทนา “ถ้าคุณยังไม่รู้จักเธอดีพอ ก็อย่ากล่าวหาเธอส่งเดช เพราะอาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้” พ่อเทพบุตรขี้เล่นกลายร่างเป็นซาตานร้ายในชั่วพริบตา เล่นเอาแม่สาวลัลล้าถึงกับทำหน้าเหวอ สะอึกจนพูดไม่ออก และคนอย่างแอรอน มอร์แกน ก็ไม่นึกสน เขาเบนปลายเท้าก้าวฉับๆ ออกมาจากบริเวณนั้นทันที ระหว่างที่เจ้าของร่างทรงพลังเยื้องย่างไปยังเป้าหมายที่นั่งอยู่เพียงลำพังในโซนวีไอพี พ่อเพลย์บอยสุดหล่อมาดขี้เล่นก็โดนเสียดสีจากสาวสวยมากหน้าหลายตาที่อยู่ในชุดราตรีอันแทบจะปิดอะไรไม่มิด หรือพวกหล่อนจงใจที่จะไม่ปกปิดของสวยๆ งามๆ ยั่วน้ำลายหนุ่มน้อยใหญ่ก็ไม่อาจทราบได้ สาวๆ เหล่านั้นต่างพากันทักทายพ่อยอดชายด้วยท่าทางเริงร่ามาตลอดทาง เขาได้แต่ขยิบตา ยักคิ้วทะเล้น บ้างก็โปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ละลายใจ ให้พวกแมงเม่าแทบอ่อนระทวยลงไปกองอยู่แทบเท้า “รอพี่นานไหม วาเนสซ่า” ถามพลางพาเรือนกายทรงพลังนั่งลงที่โซฟา ด้วยมาดของพญาราชสีห์ ทั้งสง่างามและทระนงองอาจ ก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย วาเนสซ่าโบกมือเรียกเด็กเสิร์ฟเพื่อสั่งเครื่องดื่มให้ชายหนุ่ม ก่อนจะหันมายิ้มหวานหยด “สำหรับพี่แอรอน นานกว่านี้ว่านก็รอได้ค่ะ” วาเนสซ่ามาสนิทสนมกับแอรอนในช่วงสามปีหลังจากที่โดนมาร์โบโลหักอกจนต้องกลายมาป็นสาวหม้ายขันหมาก “ปากหวานและขี้อ้อนแบบนี้หรือเปล่า ถึงได้ฉายาว่าแม่สาวน้อยร้อยเตียง” ก้มลงมองใบหน้าสวยปนเซ็กซี่ แล้วยีศีรษะน้อยเบาๆ พร้อมเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างกระเซ้าเย้าแหย่ ทว่าท้ายประโยคที่เล็ดลอดออกมาจากปากหยักกลับทำให้วาเนสซ่าหุบยิ้มฉับ ฉายานี้ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงหยำฉ่า บ้างก็โดนมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม หรือไม่ก็โดนพูดจาเสียดสีจากผู้หญิงด้วยกัน  “เอ่อ…พี่แอรอนรู้ด้วยเหรอคะ” สาวสวยเซ็กซี่สะอึกจนแทบจะพูดไม่ออก ก่อนจะเค้นเสียงสั่นสะท้านถามด้วยใบหน้าจืดเจื่อน “พี่ขอโทษ ว่าน พี่ไม่ได้ตั้งใจ” เห็นตาแดงๆ ประกอบกับท่าทางกระอักกระอ่วน แอรอนก็รู้สึกได้ว่าตนคิดผิดถนัดที่หยอกเย้าหญิงสาวด้วยวาจาแบบนั้น มันคงไปสะกิดใจเธอเข้าอย่างจัง ไม่งั้นวาเนสซ่าคงไม่นิ่งงันอยู่อย่างนี้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ว่านก็แค่อยากจะบอกว่าว่านไม่ได้เป็นอย่างที่คนเขาลือกัน” ที่เธอต้องออกเที่ยวกลางคืนทุกวันก็เพื่อให้ลืมเรื่องเครียดๆ ไปบ้าง และไม่อยากจะอยู่ที่บ้าน เพราะไม่สามารถเข้าหน้าใครติด ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือว่าพี่สาว ส่วนการหักอกชายหนุ่มไม่ซ้ำหน้าก็แค่เห็นธาตุแท้ของพวกผู้ชายที่หวังจะฟันเธอ เพียงแค่เธอเปิดโอกาสให้ วาเนสซ่าไม่ได้ใจร้าย แต่เลือกตอบแทนคนพวกนั้นอย่างสาสมก็เท่านั้นเอง “อืม…พี่ก็รู้อยู่แล้ว เมื่อกี้ก็แค่แซวเล่นๆ อย่าคิดมากน่า” แอนรอนเอื้อมมือไปบีบมือน้อยที่กำกันไว้บนตักแน่น คล้ายจะให้กำลังใจแกมปลุกปลอบในที “ขอบคุณนะคะ ที่เชื่อมั่นในตัวว่าน ทั้งที่คนในครอบครัวว่านยังไม่เป็นแบบนี้เลย” พฤติกรรมเที่ยวกลางคืนของวาเนสซ่า ทำให้ประมุขของตระกูลปิเอโร่ไม่พอใจในตัวลูกสาวบุญธรรมอย่างหนัก  หลังจากป้าของเธอซึ่งก็คือแม่บุญธรรมได้สิ้นบุญไป พ่อบุญธรรมก็ยิ่งแสดงท่าทีรังเกียจวาเนสซ่าอย่างเปิดเผยพยายามหาลูกชายเศรษฐีมาจับคู่ดูตัวให้เธอไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เป็นโล้เป็นพายและใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายกันทั้งนั้น เพียงเพราะหวังว่าวันหนึ่งวาเนสซ่าจะแต่งงานและย้ายออกจากคฤหาสน์ปิเอโร่ แต่ก็ยกเว้นมหาเศรษฐีหนุ่มอย่างปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี ที่สาวๆ ลือกันให้แซดถึงกิตติศัพท์ความหล่อเหลาและลีลาขั้นเทพของเขา ซึ่งพ่อบุญธรรมไม่คิดจะจับคู่ให้กับเธอ เพราะนายนาธาน ปิเอโร่ ตั้งปณิธานไว้ว่าคนที่จะได้แต่งงานกับเจ้าพ่อค้าเพชรรายใหญ่ของโลกอย่างปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี คือแวนดี้ ปิเอโร่ ลูกสาวแท้ๆ ของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น สามปีที่แล้วเมื่อความจริงถูกเปิดเผย พร้อมความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต วาเนสซ่าได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของคนที่เธอเรียกว่าพ่อและแม่มาโดยตลอด ทำให้เธอเสียใจมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และที่น่าเศร้าใจไปกว่านั้นคือ พี่สาวที่รักเธอยิ่งกลับเมินหน้าหนี ทำท่าทีรังเกียจเพียงเพราะได้รู้กำพืดที่แท้จริงว่าเธอเกิดมาจากแม่สาวโสเภณีใจแตกกับฝรั่งขี้นกจนๆ คนหนึ่ง แต่ที่วาเนสซ่ายังอาศัยอยู่ในชายคาของตระกูลปิเอโร่ได้ ก็เพราะเธอยังสามารถทำประโยชน์ให้แก่บริษัทด้วยมันสมองและสองมือ เธอทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อหวังให้สภาวะทางการเงินกระเตื้องขึ้น และไม่ต้องตกอยู่ในสถานะล้มละลาย แต่พ่อบุญธรรมกลับเอารายได้จากน้ำพักน้ำแรงของเธอไปละลายในบ่อนการพนัน หนำซ้ำพี่สาวก็เอาเงินเหล่านั้นไปช็อปปิ้งไม่เว้นแต่ละวัน “ว่าน น้องว่าน วาเนสซ่า” แอรอนเรียกอยู่หลายครั้ง เจ้าของร่างเซ็กซี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะขานรับ วาเนสซ่ายังคงทำท่าเหม่อลอยเมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดอันหมกมุ่นเมื่อเห็นว่าผิดปกติเจ้าพ่อค้าบิ๊กไบค์ก็โบกมือไปมาตรงใบหน้าสวยสะพรั่ง “คะ?” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะผงกหัวขึ้นแล้วมองหน้าหล่อกระชากอารมณ์ พลางย่นคิ้วด้วยความฉงนว่าเมื่อสักครู่คุยกันไปถึงไหนแล้ว “ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง เชื่อพี่” น้ำเสียงทุ้มปลอบใจอีกฝ่ายให้คลายเศร้า เพราะเขาค่อนข้างสนิทสนมกับตระกูลปิเอโร่ จึงรู้ถึงความร้าวฉานภายในครอบครัวของผู้ที่ตัวเองรักประดุจดั่งน้องสาว “ว่านก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” วาเนสซ่าพยักหน้าหงึกหงัก แล้วกระแทกลมหายใจออกมาคล้ายจะให้มันช่วยบรรเทาอาการเครียดเขม็ง “แล้วตอนนี้ธุรกิจของครอบครัวว่านเป็นยังไงบ้าง พี่ได้ยินมาว่าพี่สาวของเราจะหมั้นกับเจ้าพ่อค้าเพชรรายใหญ่ของโลกนี่นา” แอรอนยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นแล้วสาดลงคอรวดเดียว ก่อนที่พ่อหนุ่มคอทองแดงจะเปรยกับหญิงสาวด้วยท่าทางสบายๆ คล้ายกับว่าหากเธอไม่ประสงค์จะตอบเขาเองก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ “พี่แวนดี้กำลังแข็งข้อกับแด๊ดดี้อยู่ค่ะ แต่คงอีกไม่นาน เพราะทางนั้นเขาเร่งรัดมาแล้ว” ตอบตามความเป็นจริง เพราะไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องปกปิด “พี่ว่าถ้าแวนดี้แต่งงานกับเขาก็ดีเหมือนกันนะ ตระกูลเจย์ลาสโคนี ทั้งมีอิทธิพลและรวยที่สุดในเวเนซุเอลา บางทีเขาอาจจะช่วยให้กิจการของปิเอโร่กลับมาผงาดได้อีกครั้ง” เจ้าพ่อมหาเสน่ห์ใช้ปลายนิ้วกระด้างคลึงแก้วเหล้าไปมาเบาๆ ราวกับใช้ความคิด ก่อนจะพูดออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย “นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่แด๊ดดี้หวัง” วาเนสซ่าบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายกระซิบ เพียงเพราะคิดถึงผู้ชายที่บิดาเฟ้นหามายัดเยียดให้เธอตลอดสามปีที่ผ่านมา มันช่างต่างจากสิ่งดีๆ ที่แวนดี้ได้รับราวฟ้ากับเหว “ตอนนี้บริษัทของครอบครัวว่านเป็นยังไงบ้าง” ดึงแผ่นหลังกว้างที่แนบอยู่กับพนักโซฟาสุดหรูออกมา แล้วนั่งตัวตรงเพื่อรอฟังคำตอบจากปากของหญิงสาวอย่างตั้งใจ “บอกได้คำเดียวว่า ‘แย่’ ค่ะ” กล่าวเสียงเครียด แววตามัวหม่น กระดกเหล้าลงคอจนหมดแก้ว แล้วหยีหน้ากับรสชาติบาดคอ ทีแอรอนกระดกรวดเดียวหมดแก้วไม่เห็นจะแสดงอาการแบบเธอเลยสักนิด “มีอะไรจะให้พี่ช่วยก็บอกได้นะ” แอรอนวางแก้วเหล้าในมือลง แล้วบอกอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ไม่ว่าเธอจะเอ่ยขอร้องอะไรเขาก็เต็มใจและพร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย “ว่านอยากให้พี่ช่วยกว้านซื้อหุ้นในรายย่อยๆ ให้หน่อยได้ไหมคะ ก่อนที่หุ้นส่วนใหญ่อีกรายจะฮุบเอาบริษัทไป แล้วเงินในส่วนนั้นก็ให้ถือเสียว่าว่านยืมพี่ก็ได้ค่ะ” วาเนสซ่าคิดว่าวิธีนี้คงจะดีที่สุด สำหรับบริษัทที่เธอเฝ้าประคับประคองไม่ให้ล้มครืนในช่วงสามปีที่ผ่านมา  “ได้สิ งั้นพี่จะให้คนกว้านซื้อหุ้นมาไว้ในมือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องเงินก็ไม่ต้องคิดมาก มีเมื่อไรค่อยเอามาคืนพี่ก็ได้” การซื้อขายหุ้นถือเป็นงานที่ถนัดสำหรับแอรอน มอร์แกน เพียงแค่เขายกหูโทรศัพท์ลูกน้องก็สามารถจัดการให้ได้อย่างใจภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ “แต่พี่แอรอนอาจจะต้องเอาทุนมาจมเฉยๆ นะคะ” หญิงสาวบอกอย่างไม่สบายใจ ถึงแม้อยากจะให้คนที่เก่งในเรื่องบริหารธุรกิจอย่างแอรอน มอร์แกน ยื่นมือเข้ามาอุ้มชูบริษัทของตนใจจะขาด หากแต่ก็ไม่อยากให้เขาต้องมาคาดหวังถึงผลกำไรที่จะได้รับ “ไม่เป็นไร พี่เต็มใจที่จะช่วย และพี่ก็มั่นใจว่าน้องสาวของพี่จะทำให้บริษัทกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง” ว่าพลางตบลงบนหลังมือบอบบางเบาๆ อย่างให้กำลังใจ “ขอบคุณนะคะ พี่แอรอน ขอบคุณจริงๆ ที่เชื่อใจว่าน” ร่างเพรียวระหงโผเข้าซบอกกว้าง แล้วร่ำไห้น้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจอดกลั้น “ว้า…แม่หญิงเหล็กของพี่ ขี้แยซะแล้ว” แซวด้วยฉายาที่เขาชอบเรียกขานเป็นประจำจนติดปาก ด้วยความที่หญิงสาวกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้แอรอนเรียกเธอว่า ‘แม่หญิงเหล็ก’ มาโดยตลอด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD