เขาต้องการคนมาสมอ้างเป็นเมีย ส่วนเธอก็ต้องการความคุ้มครองจากผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขา ดูเหมือนความต้องการของทั้งคู่จะลงล็อกกันพอดี หากเขาไม่เกิดเปลี่ยนใจอยากเอาเธอทำเมียขึ้นมาจริงๆ
ในห้วงเวลาที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอได้รับความช่วยเหลือจาก ‘มิเตอร์แบล็กแมน’ ชายปริศนาที่เปรียบเสมือนฮีโร่ในดวงใจมาตลอดระยะเวลาสามปี แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งคู่ได้พานพบกันอีกครา เขามาพร้อมกับข้อเสนอให้เธอแสดงละครเป็นเมียกำมะลอ การต้องตกอยู่ในสถานะเมียของผู้ชายร้ายกาจ แสนเจ้าเล่ห์ ขี้อ่อย และปากว่ามือถึง ไม่ใช่สิ่งที่มัลลิกาปรารถนา หากว่าสถานะเมียของเขานั้นจะไม่แลกมาด้วยความปลอดภัยของเธอและลูก
“คุณคิดจะทำอะไร! มิสเตอร์แอรอน!” นี่เป็นครั้งที่เท่าไรในรอบสามวันก็ไม่อาจนับได้ ที่เขาบุกมาฉุดเธอเข้าห้องทำงานของเพื่อนรัก เพื่อทำการเอารัดเอาเปรียบอย่างหน้าไม่อาย แถมเจ้าของห้องยังเต็มใจให้พ่อยอดชายใช้สถานที่ในการแทะโลมเธอได้อย่างน่าเจ็บใจ
“ชื่นใจเมีย” คนขี้ตู่ประกาศอย่างหน้าด้านๆ พลางเดินหน้าเข้าหาร่างอรชรอ้อนแอ้น ไล่ต้อนให้มัลลิกามาจนมุมที่ผนังห้องเย็นเยียบ
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ” ทั้งที่ตกเป็นรองในสถานการณ์เช่นนี้ แต่หญิงสาวก็ยังตะเบ็งเสียงทำปากกล้าอวดดี
“ก็กำลังจะทำให้เป็น ‘เมีย’ อยู่นี่ไงล่ะทูนหัว” คนตัวโตก้มลงกระซิบชิดกลีบปากสีชมพูระเรื่อที่กำลังเม้มสนิท ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากบนสลับล่างอย่างยั่วเย้า
มือบางรัวกำปั้นทุบตีไปทั่วไหล่กว้าง พร้อมเบี่ยงหน้าหลบจุมพิตที่คอยประชิด เมื่อปากสามารถเป็นอิสระก็ไม่รอช้าที่จะตวาดลั่นด้วยความเดือดจัด
“คนบ้า! อย่านะ!”
“อนุญาตให้ผมเป็นสามีคุณเถอะนะทูนหัว พ่อของลูกทนไม่ไหวแล้ว ต้องการคุณเหลือเกินหวานใจจ๋า” แอรอนหมดความอดทน ถึงกับต้องครางออดอ้อนชิดซอกคอขาวระหง ด้วยความทรมานที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วเรือนกายร้อนรุ่ม
“นี่ห้องทำงานเพื่อนคุณนะ อย่าทำอะไรบ้าๆ ที่นี่” มัลลิกาดันแผ่นอกผ่าวระอุให้ถอยห่าง พร้อมเอ่ยเตือนสติเขาด้วยโทนเสียงสูงลิ่ว
“แสดงว่าหากเป็นที่อื่น ฮันนี่ก็จะอนุญาตใช่ไหมจ๊ะ งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ”