หลายวันต่อมา...
มหาวิทยาลัย T คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาดนตรี
“วันนี้มึงไปไหนเปล่าวะไอ้ธัน?” เสียงไอ้คาร์ฟถามผมขณะที่กำลังรอเรียนวิชาตอนบ่ายที่อาจารย์ยังไม่มาเลยปกติก็ไม่ได้สายขนาดนี้นะ แต่ช่างเถอะมาสายเรียนน้อยก็สบายดีเหมือนกัน
“ไม่” เพราะช่วงนี้เบื่อ ๆ เลยไปแค่ตรวจร้านและกลับคอนโดเพื่อไปเล่นเกมมากกว่า
“ช่วงนี้มึงไม่ค่อยไปไหนกับพวกกูเลยนะคอนโดมึงมีอะไรดีวะกูถามจริง?” ไอ้คาร์ฟมันมองผมอย่างสงสัยที่ผมไม่ค่อยออกไปไหนกับพวกมัน
“พวกมึงก็ไปแค่ร้านเหล้ากูเบื่อแค่นั้นเอง แค่งานกูก็เยอะฉิบหายอยู่แล้ว” ผมบอกไป
“เบื่อ? ไม่น่าเชื่อเลยวะ”
“งั้นวันนี้พวกกูไปห้องมึงดีกว่าอยากเล่นเกมด้วยวะ” อยู่ ๆ ไอ้ซิกก็พูดขึ้นมันเป็นห่าอะไรปกติไม่เคยอยากไปห้องผมนะ
“ไม่ได้” แน่นอนว่าผมตอบทันทีที่ห้องมียัยเทียนไขอยู่จะไปได้ยังไงวะ?
“ทำไม?” มันสองคนถามพร้อมกันและมองหน้าผมอย่างสงสัยเมื่อก่อนถ้าพวกมันขอไปผมให้ตลอดแหละแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนไง
“ห้องกู...รกอะยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย” ผมพยายามห้องเหตุผล
“ไม่เป็นไรพวกกูไม่ถือหรอก”
“แต่ว่าคนอย่างมึงไม่น่าปล่อยห้องสกปรกนะ” ไอ้สัสซิกทำไมมันขี้สงสัยจังวะ
“ไม่รกเท่าไหร่แต่ไม่ให้ไปเว้ย!!”
“มึงมีพิรุธ!!!” ไอ้คาร์ฟชี้หน้าของผมอย่างจับผิด
“มีอะไรกันเหรอทุกคน?” เสียงหวาน ๆ ของเพื่อนร่วมอย่างดารินเดินเข้ามาขัดจังหวะก่อนพอดีซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีมากกกก แต่ไม่ดีคือเธอมาหาผมนั่นเอง
“ไม่มีอะไรแค่สงสัยว่าไอ้ธันมันซ่อนใครไว้ที่ห้องหรือเปล่าเราเลยไปไม่ได้น่ะดาริน^^” ไอ้คาร์ฟไอ้ปากไม่มีหูรูด!
“ธันเดอร์มีแฟนเหรอ?” เธอมองหน้าของผมและยังทำหน้าเศร้าอีก เฮ้ออ!!
เธอชอบผมและตอนนี้ก็กำลังพยายามทำคะแนนเพื่อให้ผมตอบรับความรู้สึกของเธอ เธอเข้ามาสารภาพรักและบอกว่าจะพยายามทำให้ผมชอบเธอให้ได้แต่ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 ปีแล้วผมยังไม่มีความรู้สึกอะไรให้เธอทั้งนั้นแหละ ไม่ชอบและไม่คิดจะชอบด้วยเธออ่อนหวานเกินไป พูดเพราะเกินไป เรียบร้อยเกินไป เรียนเก่งเกินไป ขยันเกินไป สรุปแล้วเธอไม่ใช่แบบที่ผมชอบแค่นั้นเอง และแน่นอนว่าผมปฏิเสธไปแล้วแต่เธอก็ยังจะขอพยายามอีก
“...” ผมเงียบเลือกที่จะไม่พูดและให้เธอคิดไปเองเผื่อว่าเธอจะยอมตัดใจจากผมสักที ผู้หญิงดี ๆ อย่างเธอไม่เหมาะสมกับผมหรอกเธอไปเจอคนดี ๆ ที่ชอบเธอดีกว่า
“จะจริงเหรอทำไมเงียบ...”
“เด็ก ๆ นั่งที่หน่อย!!” ยังไม่ทันได้จบอาจารย์ก็เดินเข้ามาและบอกให้พวกเรานั่งที่
“เอาไว้ดามาถามใหม่นะ” เธอบอกแค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง เฮ้อออ!! อึดอัดใจเว้ย!
“วันนี้และจากนี้ไปเราจะมีเพื่อนร่วมห้องนะเพราะอาจารย์วาสนาที่สอนวิชาเดียวกับอาจารย์ลาออกอย่างกะทันหันเลยทำให้เพื่อนอีกคณะมาเรียนด้วยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นเพื่อน ๆ จากคณะนาฏศิลป์” กึก! คณะนาฏศิลป์คงไม่ใช่ห้องยัยเทียนไขหรอกมั้ง
“คณะนาฏศิลป์ผู้หญิงต้องสวย ๆ หวาน ๆ แน่เลยวะ อ่า!!มีกำลังใจเรียนนนน” ไอ้คาร์ฟมันดี๊ด๊าเพราะว่าได้เรียนกับผู้หญิงคณะนาฏศิลป์น่าจะมีผู้หญิงเป็นส่วนมากละมั้ง
“เข้ามาจ้ะแล้วเลือกที่นั่งได้เลยนะ” ในนั้นมียัยเทียนไขจริง ๆ ด้วย เธอมองผมเหมือนอากาศธาตุทั้งที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ยัยผู้หญิงใจร้าย
“น่ารักจริงด้วยมึงงงง!!!”
“โดยเฉพาะคนนั้น ๆ น่ารักอยากกอดดดด >.,<” ไอ้คาร์ฟมันชี้เทียนหอมที่กำลังเดินหาที่นั่งแต่ว่าที่ว่างนั่นก็อยู่ใกล้ ๆ ผม เธอกำลังเดินผ่านผมเลยคว้าแขนเธอมานั่งข้างผมซะเลย
หมับ!!พรึ่บ!!
“0[ ]0” หน้าไอ้คาร์ฟ
“-_-” หน้าไอ้ซิกมันไม่ตกใจและทำหน้าเหมือนมันรู้อะไรบางอย่างไอ้นี่เงียบแต่เสือกทุกเรื่องนะครับ
“ทำอะไรเนี่ย?” ยัยเทียนไขถามผม
“ก็ตรงนี้มันว่างจะเดินไปไหนไม่ทราบเดินไปนอกห้องหรือไง?” ผมถามเธอ
“ก็ตรงนู้นไงมันว่าง อ้าว! ไม่ว่างแล้วเพราะนายนั่นแหละ =_=” เธอทำหน้าเซง ๆ เมื่อต้องนั่งข้างผม
“นั่งตรงนี้แหละ”
“นักศึกษาคณะนาฏศิลป์ค่ะอาจารย์ถามอาจารย์วาสนามาแล้วเราเรียนถึงเรื่องเดียวกันงั้นอาจารย์จะสอนไปพร้อมกับเพื่อนดนตรีเลยนะคะ”
“ค่ะ” แล้วอาจารย์ก็เริ่มสอนไปเรื่อยผมก็นั่งมองยัยเทียนไขที่ตั้งใจเรียนเหมือนกันนะอาจารย์ถามอะไรก็ตอบได้หมดเลย เหมือนอย่างนี้ยัยนี้ก็ตัวท็อปเหมือนกันแหะ
“มองอะไรไม่ทราบ?” เทียนหอมหันมาถามผม
“มอง...เธอไม่น่าเป็นคนตั้งใจเรียนอะ”
“หาเรื่อง?”
“ช่ายยยย^^” ผมยิ้มเมื่อเห็นหน้ามุ่ย ๆ ของเธอที่กำลังไม่พอใจผม
“แล้วต้องหน้าแบบไหนถึงจะพอใจนาย?”
“หน้าแบบไหนก็ได้ที่ไม่ใช่แบบเธอ”
“กวนตีนสินะ -_-^^” ระหว่างเรียนผมก็แกล้งหยอกเธอไปเรื่อยแหละ เรื่องเรียนผมไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วเรียนไปงั้น ๆ แหละให้ดูมีความรู้บ้างเท่านั้นเอง
ป้าบ!!
“อ๊ากก!!” ผมร้องเมื่อยัยเทียนไขทุบกลางหลังของผมอย่างแรงสงสัยจะหงุดหงิด
“เป็นอะไรธันเดอร์?” อาจารย์หันมาถามผม
“มะไม่มีอะไรครับ” ผมหันไปมองหน้าของยัยเทียนไขที่กำลังแลบลิ้นใส่ผม ทำไมชอบทำหน้าแบบนั้นวะคิดว่าน่ารักหรือไงมันน่าจับตัดลิ้นจริง ๆ เลย!!
“วันนี้พอแค่นี้แหละ อ่อ เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามีจับคู่ทำงานย้ำว่าจับคู่สองเท่านั้นนะจับมาเลยก็ดีใครไม่มีเดี๋ยวค่อยว่ากัน” อาจารย์พูดจบก็เดินออกไปทันที ยัยเทียนไขก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋าไม่รู้ว่าพกอะไรมาเรียนบ้างทั้งกระเป๋าดินสออันใหญ่ หนังสืออีกจนผมทนไม่ได้ต้องช่วยเก็บไม่รู้จะเอาออกมาทำไมนักนาเต็มโต๊จนเลยมาโต๊ะผม
“ธันเดอร์ทำงานคู่กันนะ” ดารินเดินมาหาผมปกติผมตกลงเพราะขี้เกลียดทำงานเลยให้เธอทำดูเลวแต่แล้วไงใครแคร์??
“โทษนะรอบนี้ฉันคงไม่คู่กับเธออะ” ผมตอบและสายตาก็เห็นว่าเทียนหอมกำลังลุกหนีไป เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ
หมับ!!
“ทำไมเหรอ? 0.0” เธอถามและมองมือผมที่จับแขนของเทียนหอม
“ฉันคู่กับเทียนหอมแล้วน่ะ”
“ใครจะคู่กับนาย?” ดูคำถามโคตรหักหน้าเลย
“เธอไงเทียนหอม”
“ตลกละฉันจะ อุ๊บ!” ก่อนยัยตัวแสบจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ผมเลยเอามือปิดปากของเธอเอาไว้ก่อนเลย
“ดู...ธันเดอร์สนิทกับเธอจังนะพึ่งเจอไม่ใช่เหรอ?” ดารินถามเสียงสั่น ๆ ตอนนี้ผมควรจะสลัดเธอทิ้งไปได้แล้ว ผมถนอมน้ำใจเธอมากเกินไปแล้วจนอาจจะทำให้เธอคิดว่าตัวเองมีความหวังก็ได้
“ใครบอกว่าพึ่งเจอฉันเหรอ?”
“เอ่อ ก็...”
“ที่ไอ้คาร์ฟบอกว่าฉันมีคนที่คอนโดน่ะ มันไม่ได้พูดเล่นหรอกนะคนที่อยู่คอนโดฉันคือยัยนี่” หมับ!! ผมดึงเธอมายืนข้างตอนนี้ไม่ใช่แค่ดารินที่ตกใจเพื่อนผมเพื่อนเทียนต่างตาโตเป็นไข่ไดโนเสาร์หมดแล้ว รวมทั้งคนข้าง ๆ ผมด้วย
“0.0”
“หมายความว่าไงธันเดอร์อย่าโกหกเลยตั้งใจจะทำให้ดารินตัดใจใช่ไหม วะวิธีนี้ไม่ได้ผลหรอกมันไม่ใช่ละครนะธันเดอร์...” ฉลาดจริง ๆ นะแต่ว่า
“ฉันไม่ได้โกหกฉันอยู่กับยัยนี่จริง ๆ และที่สำคัญกว่านั้นคือ”
ปึก!
“อึก!” เทียนหอมเหยียบเท้าผมวะ!!
“อย่าพูดนะ!” เธอกัดฟันและพูดข้างหูผมแต่ว่าถ้าไม่ใช่โอกาสนี้ก็ยากแล้วละที่จะสลัดดารินหลุดต้องใช่ยัยเทียนไขเท่านั้น
“เทียนหอมเป็นคู่หมั้นของฉัน พ่อแม่เรารับรู้เรื่องทั้งหมดและเราเวลาแต่งงานเท่านั้น”
“ตะแต่งงาน 0.0!!”
“เพราะงั้นเธอเลิกชอบ เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ฉันไม่อยากให้คู่หมั้นของฉันเข้าใจผิด...ไปกันเถอะเทียนหอม” หมับ!! ผมคว้ามือของเธอออกมาจากตรงนั้นทันทีเดี๋ยวแม่งพูดอะไรที่ไม่ควรพูดอีก
“ไอ้ธันเดอร์...” มาละเสียงอาฆาต
“เดี๋ยวอธิบาย”
“พูดอะไรของนายฮะ?!” หมับ!! ยัยบ้าเอ๊ยย! เธอกระโดดกระชากหัวผมดีนะหลุดจากผู้คนมาแล้วอะ!!!
“โอ๊ยยยย!!!”