ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจยื่นซองจดหมายในมือให้คาร์ลอส เขามองมันด้วยประกายตาบอกความสงสัยแต่ก็รับไปทว่าก่อนจะเปิดซองจดหมายก็ถูกมือเรียวบางจับข้อมือเขาไว้เสียก่อน
“คาร์ล...เอ้อ...สัญญาได้ไหมคะว่า...เมื่อคุณอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว...คุณจะต้อง...ใจเย็น”
เขาจ้องหญิงสาวและรับรู้ถึงแรงบีบจากมือเรียวที่จับข้อมือของเขาไว้แน่น
“นีนี่...ผมยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร คุณยังไม่ได้บอกผมด้วยซ้ำว่าใครให้จดหมายฉบับนี้มา ฉะนั้นแล้วผมก็จะขออ่านมันก่อน”
เสียงนั้นมั่นคงมากเกินกว่าคำร้องขอของหญิงสาวจะช่วยหน่วงความรู้สึกของเขา คาร์ลอสเปิดซองจดหมายและดึงกระดาษข้างในออกมาขณะที่รชนิชลจ้องมองด้วยแววตาที่ไม่อาจซ่อนเร้นความตื่นเต้นของตัวเองไว้ได้ และขณะที่เขาคลี่กระดาษแผ่นเล็กนั่นออกก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วและแรงขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอเย็น นี่เธอกำลังตื่นเต้นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของจดหมายเสียเองทั้งที่ไม่รู้เลยว่าในจดหมายฉบับนั้นเขียนอะไรไว้บ้าง
แต่ที่แน่ ๆ มันจะต้องเป็นเรื่องที่แย่สำหรับคาร์ลอสเพราะชายหนุ่มอ่านมันสักครู่แล้วแววตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เรียกได้ว่าแทบจะในฉับพลันทันใดที่รชนิชลเห็นความเคร่งเครียดกระจายอยู่เต็มนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้น เธอได้ยินเสียงเขาขบกรามเข้ากันก่อนเขาจะเหลือบกลับมามองหญิงสาว เขาเหยียดมุมปากออกแต่ปื้นคิ้วหนาสีน้ำตาลกลับขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นเงื่อนได้
“นี่ใช่มั้ยธุระสำคัญของคุณ...เอาจดหมายบอกลาของผู้หญิงที่จะเป็นเจ้าสาวในงานคืนนี้มาให้ผม มันยังมีข่าวอะไรที่มันเลวร้ายมากกว่านี้อีกมั้ย”
เสียงนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเข้มเครียดและใบหน้าของเขาก็ดุดันมากขึ้นกว่าเก่า รชนิชลกลืนน้ำลายแทบไม่ลงเพราะทั้งจุกทั้งตีบตัน แต่แล้วโดยไม่ทันตั้งตัวไหล่บางก็ถูกมือหนากระชากเข้าไปหาร่างสูงใหญ่
“นี่พวกคุณเล่นอะไรกัน!”
เขาคำรามและสบถออกมาเสียงดังขณะขย้ำจดหมายไว้ในมือแน่น รชนิชลเย็นเยือกตั้งแต่ลำคอลงไปถึงปลายเท้า ดวงตาดุดันของเขาราวกับมีอำนาจทำให้เธอสั่นไปหมดทั้งตัว
“คาร์ล...ฉันไม่รู้เรื่องนี้นะคะ นี่เป็นจดหมายที่พี่วีฝากไว้ให้คุณ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในนั้นเขียนไว้ว่ายังไง”
“อ่านมันซะสิ!”
เขาออกคำสั่งพร้อมทั้งผลักหญิงสาวออกห่างและโยนแผ่นกระดาษนั้นให้ รชนิชลก้มลงเก็บแผ่นกระดาษยับยู่ยี่บนพื้นขึ้นมาอ่าน เธออยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออกเมื่อได้เห็นข้อความในจดหมาย
คาร์ลอสที่รัก
อย่าพึ่งโกรธหลังจากได้อ่านจดหมายฉบับนี้ นี่จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากบอกคุณ ในขณะที่คุณได้อ่านความในใจของฉัน ฉันก็คงไม่อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้าสาวสำหรับงานแต่งที่คุณจัดมันขึ้นเพื่อเรา ฉันพึ่งรู้สึกตัวในวินาทีสุดท้ายว่าหัวใจของฉันไม่ได้เป็นของคุณ อยากขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาและขอบคุณที่คุณรักฉัน ฉันไม่สามารถฝืนใจให้แต่งชุดเจ้าสาวสำหรับผู้ชายที่ฉันไม่ได้ซื่อตรงต่อเขาได้ และมันอาจทำให้คุณสบายใจในภายหลังหากคุณจะไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น ฉันรักคุณเสมอแต่ฉันก็จำเป็นต้องไป ไม่ว่าจะอย่างไรระหว่างเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
รักคุณเสมอค่ะ
วี
“วีไปไหน...บอกผมมาเดี๋ยวนี้!”
คาร์ลอสกระชากร่างบางเข้าไปหาอกกว้าง รชนิชลซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวแทบจะกรีดร้องออกมาในวินาทีนั้น จดหมายของวรรษมลหล่นจากมือหญิงสาวที่ปากสั่นระริกด้วยความกลัว นัยน์ตาของเขาเข้มเหมือนบ่อโคลนสีหมองจัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นความโกรธแค้นระเบิดออกมาจากตัวเขา
“ฉะ...ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้ค่ะ”
“ทำไมคุณไม่รู้ในเมื่อคุณเป็นน้องสาวของวี หรือว่าที่วีไปครั้งนี้คุณก็มีส่วนรู้เห็นด้วย”
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”
รชนิชลกรีดเสียงแหลมพร้อมทั้งออกแรงผลักหน้าอกกว้างสุดชีวิตแต่ไม่เป็นผล ยิ่งเธอผลักไสก็เหมือนยิ่งยั่วยุโทสะของคาร์ลอสที่โหมแรงเหมือนไฟลามไหม้ ชายหนุ่มบีบไหล่หญิงสาวไว้แน่น มือหนาหนักยิ่งกว่าคีมเหล็กทำร่างเล็กเจ็บร้าวเหมือนกระดูกจะแตกหัก
“นี่มันเรื่องบ้าชัด ๆ!”
คาร์ลอสเสียงดังและสบถสาบานออกมาอย่างไม่เกรงใจหญิงสาว ถึงเวลานี้เขาจะยังเห็นใจใครได้อีกในเมื่อการหนีไปของวรรษมลเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา
“บอกมานีนี่ว่าพี่สาวคุณหนีไปไหน”
รชนิชลส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ฉันไม่รู้...อย่า...คาร์ล...ฉันเจ็บ!”
ร่างบางร้องไห้อย่างน่าสงสาร เธอไม่เคยเห็นวิญญาณซาตานในตัวเขาที่มันสำแดงฤทธิ์เดชออกมาอย่างน่าสะพรึงเหมือนอย่างวันนี้ ยิ่งรชนิชลร้องไห้ก็ดูเหมือนคาร์ลอสไม่ได้ใส่ใจต่อท่าทีหวั่นกลัวของเธอเลยด้วยซ้ำ
“คุณไม่รู้แต่ก็กล้าที่จะเข้ามาบอกผมเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ...คุณคงเตรียมตัวมาอย่างดีแล้วสินะก่อนจะเข้ามาพบผม”
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง “คาร์ล...สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคือฉันไม่รู้ว่าทำไมพี่วีถึงทำแบบนี้ ฉันแค่อยากให้คุณใจเย็น...”
“เรื่องแบบนี้ใครใจเย็นอยู่ได้ก็คงบ้าแล้ว! บอกผมมาว่าตอนนี้แม่ของวีอยู่ที่ไหน”
“ฉันอยู่นี่...คาร์ล”