ดูจากภายนอกคาร์ลอสเป็นสุภาพบุรุษมาก เขาไม่ได้มีแค่ความหล่อเหลาและทรัพย์สมบัติมหาศาลเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิงซึ่งข้อนี้เธอเห็นจากการที่เขาแวะเวียนมาหาวรรษมลแทบทุกวันโดยไม่แสดงท่าทีรุ่มร่ามแต่อย่างใด เขาให้เกียรติแม้กระทั่งกับเธอซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกน้องของวรรษมล แต่สิ่งหนึ่งที่คาร์ลอสไม่เคยล่วงรู้นั่นคือลูกพี่ของเธอเคยมีแฟนก่อนจะมาคบกับมหาเศรษฐีหนุ่มผู้นี้
และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ อัครพล แฟนเก่าของรชนิชลที่เคยคบกันในระยะเวลาไม่นานก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจไปชอบลูกพี่ของเธอ รชนิชลยอมหลีกทางให้คนทั้งสองเพราะเธอรักวรรษมลเหมือนพี่สาวแท้ ๆ เธออยากตอบแทนบุญคุณของแวววลี ป้าแท้ ๆ ที่เลี้ยงดูเธอมา ฉะนั้นแล้วหากลูกสาวของแวววลีต้องการอะไรเธอก็จะไม่ขัดใจและยอมสละให้ทุกอย่าง
รวมถึงความรักครั้งที่สองของเธอที่เกิดขึ้นในวันนั้น วันที่มีหนุ่มอเมริกันคนหนึ่งแวะเข้าไปซื้อดอกไม้ในร้านขายดอกไม้ย่านดาวทาวน์ซึ่งแวววลีเป็นเจ้าของ เขาเป็นหนุ่มอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามซึ่งรชนิชลรู้จักเขาในภายหลัง เขาชื่อ คาร์ลอส อเล็กซานเดอร์ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยมหาศาล แต่เขาจะมีผู้ติดตามมาด้วยทุกครั้ง หญิงสาวแอบมองคาร์ลอสที่เริ่มแวะเวียนมาที่ร้านเกือบทุกวัน เธอเริ่มรู้ใจตัวเองว่าชอบผู้ชายคนนี้เข้าแล้วก็เมื่อเขาได้พบกับวรรษมลซึ่งเพิ่งเลิกกับอัครพลก่อนหน้านั้นไม่ถึงอาทิตย์
แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็ไม่ต่างไปจากเดิม วรรษมลแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบคาร์ลอส ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของบริษัทปิโตรลี่ยมที่มีมูลค่าการลงทุนมหาศาลจัดได้ว่าเข้าขั้นเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของสหรัฐก็ยิ่งทำให้ลูกพี่ของรชนิชลจับเขาไว้มั่นไม่ยอมปล่อย สุดท้ายรชนิชลก็ยินดีถอยห่างจากความรักของตัวเองอีกครั้ง แม้ครั้งนี้เธอจะนึกเสียใจแต่ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีสำหรับครอบครัวของแวววลีเพราะคาร์ลอสเป็นผู้ชายที่จริงใจและจริงจังมาก เขาไม่ต้องการแค่คบหรือควงกับวรรษมลเฉย ๆ แต่ยังตั้งใจมาขอหมั้นและจัดงานแต่งให้อย่างสมฐานะ ถึงตอนนี้รชนิชลกลับต้องย้อนมองสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอนึกไม่ถึงเลยว่าวรรษมลจะกลับไปคืนดีกับอัครพล ผู้ชายที่ไม่มีความจริงใจคนนั้นแถมทั้งคู่ยังสร้างปัญหาใหญ่ให้คนที่อยู่ข้างหลังอีกด้วย
“นินี...คาร์ลอยู่ในห้องนี้”
แวววลีหันไปบอกหลานสาวเมื่อเดินมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสนามที่ใช้จัดงานแต่งส่วนหน้าของคฤหาสน์ ที่นั่นเงียบสงบและได้ยินเสียงเพลงบรรเลงแว่วเข้ามาเพียงเบา ๆ เท่านั้น แต่บรรยากาศรอบตัวคนทั้งสองก็ดูเหมือนอึมครึมโดยเฉพาะแวววลีที่น้ำกบนัยน์ตาแดงก่ำตลอดเวลา
“นินีช่วยป้าด้วยนะ...คาร์ลเป็นคนที่มีอิทธิพล ถ้าเกิดเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วจับพวกเราไปขังล่ะก็...”
“ป้าอย่าคิดอย่างนั้นสิคะ”
รชนิชลปลอบใจด้วยการดึงมือของอีกฝ่ายมากุมไว้ทั้งที่ตอนนี้เธอเองก็อยากร้องไห้ไม่ต่างกัน
“นินีจะเข้าไปพบคาร์ลนะคะ...ป้ารออยู่ข้างนอก นินีเข้าใจค่ะว่าป้าไม่สบายใจมาก ไม่เป็นไรหรอกนะคะ ถ้าเขาโกรธขึ้นมาจริง ๆ นินีก็จะขอรับโทษทุกอย่างแทนพี่วีเองค่ะ”
“ป้าจะรอนะ...นินี”
แวววลีมองตามหลานสาวที่ค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องกว้างพอ ๆ กับห้องโถงขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว ภายในนั้นเงียบเชียบขณะที่รชนิชลกำซองจดหมายไว้แน่น เธอปั่นป่วนไปหมดในช่องท้องและกำลังเรียบเรียงคำพูดของตัวเองกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ใคร...บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่อนุญาตให้เข้ามาตอนนี้”
ร่างบอบบางหันกลับไปตามเสียงทุ้มห้าวในช่วงจังหวะที่เจ้าของเสียงนั้นเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอพอดี หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยแต่แล้วก็พยายามเก็บซ่อนอาการตื่นเต้นที่ดูแล้วไม่ค่อยมิดชิดเท่าไหร่ รชนิชลช้อนตามองเจ้าของร่างสูงสง่าซึ่งอยู่ในชุดสูทสีงาช้าง ใบหน้าคร้ามเข้มเอียงมองหญิงสาวพลางย่นคิ้ว
“นีนี่”
ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวตามความเคยชินของเขา น้ำเสียงนั้นก็ยังเป็นปกติขณะที่ร่างเล็กพยายามเก็บซ่อนความประหม่ายามอยู่ต่อหน้าเขาทุกครั้ง มันเป็นเช่นนี้มานานแล้วเวลาที่เธอต้องเผชิญหน้ากับ คาร์ลอส อเล็กซานเดอร์ หนุ่มหล่ออายุสามสิบห้าที่ความหล่อเหลาของเขาราวเทพบุตรในเทพนิยายปกรณัม เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่กำยำและเรือนผมสีบรูเน็ต ใบหน้าของคาร์ลอสคมเข้ม จมูกโด่งยาวเป็นสันรับกับริมฝีปากเป็นกระจับหยักหนาได้รูป ทว่านัยน์ตาสีอำพันเจิดจรัสคู่นั้นช่วยลดทอนความดุดันของเขาลงได้กว่าครึ่ง
“คาร์ล...เอ้อ...ฉัน...”
“มีอะไรหรือเปล่าถึงได้เข้ามาที่นี่...ผมกำลังจะออกไปข้างนอกอีกห้านาทีนี่แล้ว วีคงแต่งตัวรอผมอยู่ที่ห้องแล้วสินะ”
“พี่วี...”
เสียงหวานแต่แผ่วเหลือเกินนั้นหลุดออกจากปากของหญิงสาวที่เผยอออกอย่างไม่แน่ใจ ถึงตอนนี้แล้วเธอจะทำยังไงต่อ เธอควรจะบอกเขาว่ายังไง
“คาร์ล...คือว่า...เอ้อ...ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณค่ะ”
“เรื่องอะไร สำคัญมากมั้ย”
“ฉันอยากให้คุณอ่านจดหมายฉบับนี้ก่อนค่ะ”