บท 11 ดูแล

3835 Words
เช้าวันต่อมา @คอนโดของชาลิดา "ปวดตัวชะมัด" เป็นอีกวันที่ชาลิดาต้องขอลาป่วยเพราะฝืนตัวเองให้ลุกไปทำงานไม่ได้ จากตอนแรกที่เธอตั้งใจจะกลับคอนโดในวันนั้นหลังจากที่เธอกับราชันย์ได้เผลอไผลเพราะอารมณ์พาไป จนทำให้พวกเขาทั้งสองคนมีอะไรกันอย่างไม่ตั้งใจขึ้นมา เป็นเหตุให้ชาลิดาถึงกับไข้รับประทานไปตามระเบียบเพราะราชันย์เล่นรุกหนักเอากับหญิงสาวทั้งคืนแถมมาต่อตอนเช้าอีกวัน จากการทะเลาะกันเรื่องความรับผิดชอบ เมื่อราชันย์รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคาดคิดไว้ พอหญิงสาวเกิดป่วยขึ้นมาจนไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้ราชันย์จึงต้องดูแลเธออย่างจำใจและทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากซุปตาร์หนุ่มไม่เคยดูแลใครเลยในชีวิตตั้งแต่เกิดมา ปกติมักจะเป็นคนที่ถูกดูแล แต่พอต้องมาดูแลผู้อื่น แถมคนที่ต้องดูแลยังดื้ออีกต่างหาก จึงเป็นงานหนักสำหรับเขาพอสมควรในวันนั้น หนึ่งวันก่อน @ห้องพักราชันย์ โรงแรมชาลิดา "ตัวเธอร้อนนะ ลุกขึ้นไหวมั้ย" ราชันย์สัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างบางที่เขากกกอดอยู่อย่างแนบชิดทั้งคืนจนถึงบ่ายวันต่อมา สาเหตุที่พวกเขาทั้งสองตื่นนอนในตอนบ่าย สาเหตุมาจากพวกเขาสองคนได้ทำการรุกล้ำดินแดนกันและกัน จากการทะเลาะกันต่อในเช้าในวันใหม่ ทำให้พวกเขาหมดแรงหลับต่อจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายนั่นเอง แล้วสาเหตุของการตื่นขึ้นมาของซุปตาร์หนุ่ม ก็เพราะไอร้อนจากคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอด จนทำให้เขาเกิดเป็นห่วงขึ้นมาเมื่อเขาเอาหลังมือวางลงที่หน้าผากของคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่ตอนนี้ร้อนพอจะย่างอะไรสักอย่างให้สุกได้ "อื้อ ปวดหัว" เสียงร้องออกมาอย่างรำคาญของคนตัวเล็กเมื่อมีอะไรบางอย่างมาสัมผัสที่ตัว จนต้องเอาใบหน้าไปซุกที่อกแกร่งเพื่อหลบสัมผัสสดังกล่าว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเป็นแบบนี้ซุปตาร์หนุ่มจึงลุกขึ้นไปหายาในห้องให้เธอ พร้อมกับเดินไปเอาอาหารที่ลูกน้องตนสนิทเตรียมเอาไว้ให้ในห้องอาหาร แล้วนำมาให้คนที่นอนร่วมเตียงรับประทานก่อนจะให้ทานยาเป็นลำดับต่อไปก่อนที่จะให้นอนต่อ ซึ่งตามที่ซุปตาร์หนุ่มเคยเห็นจากในสื่อต่างๆ ว่าหากมีอาการแบบนี้ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เขาจึงเริ่มต้นด้วยการเดินไปที่เตียงอีกครั้งเพื่อปลุกคนที่นอนบนเตียงไม่ยอมตื่น ให้ลุกขึ้นมารับประทานอาหารและยาลดไข้ "ลุกขึ้นมากินข้าว กินยาก่อนคุณ" ราชันย์บอกกับคนที่นอนไม่ยอมลุกจากเตียงด้วยสีหน้าห่วงใยอย่างบอกไม่ถูก "ไม่เอา ปวดหัว" ชาลิดาที่ยังหลับตาไม่ยอมลุกจากเตียงนอนพร้อมกับร้องออกมาเบาๆอย่างหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อถูกรบกวน "อย่าดื้อสิ ผมไม่เคยดูแลใครนะ" ซุปตาร์หนุ่มเอ่ยขึ้นมาอย่างหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่ยอมทำตามที่เขาบอก "ก็บอกว่าปวดหัวไง" คนตัวเล็กบนเตียงยังคงหลับตาแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจและไม่ยอมทำตามที่ซุปตาร์หนุ่มบอกให้ทำ "งั้นลุกมากินยาก่อนแล้วค่อยนอนต่อ" ซุปตาร์หนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างใจเย็นขึ้นจากที่หงุดหงิดในตอนแรก "ม่าย บอกว่าปวดหัวไง" "เฮ้ย ดื้อจังเลยวะ" "อย่ามายุ่ง" "งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน" ราชันย์ที่เห็นว่าคนตัวเล็กบนเตียงยังคงนอนนิ่งหลับตาและไม่ทำอะไรเลย ซุปตาร์หนุ่มเอายาแก้ไข้เข้าปากตัวเองแล้วจับหญิงสาวบนเตียงให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมโน้มใบหน้าลงไปเอาริมฝีปากของตนประกบลงที่ริมฝีปากบาง "อึก!..อื้อ" เขาทำการดันยาในปากของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของหญิงสาว จนอีกฝ่ายตกใจจนเกือบสำลักยา "ดื่มน้ำ" ซุปตาร์หนุ่มหยิบแก้วน้ำเข้ามาใกล้ใบหน้าให้หญิงสาวได้ดื่มเพื่อให้ยาลงไปในท้องก่อนที่จะประคองร่างของเธอลงนอนบนเตียงเหมือนเดิม "เฮ้อ แล้วทำยับไงต่อดีวะเนี๊ย" ซุปตาร์หนุ่มมองร่างคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงอย่างคิดหนัก ก่อนจะเอื้อมมือมาสัมผัสบริเวณใบหน้าที่แดงก่ำของเธออย่างเป็นห่วง จากที่ไม่เคยดูแลใครมาก่อน และเป็นคนที่ถูกคนอื่นดูแลอยู่เสมอ ทำให้สิ่งตรงหน้าเขาตอนนี้จึงเป็นเหมือนปัญหาชิ้นใหญ่เลยทีเดียว "ตัวร้อน ปกติแล้วต้องเช็ดตัว ใช่ เช็ดตัว เช็ดตัวก็ต้องมีผ้า แล้วผ้าแบบไหนหละวะเนี๊ย" ราชันย์พูดขึ้นมากับตัวเองพร้อมเดินไปเดินมาอย่างใช้ความคิด เมื่อนึกได้ว่าสิ่งที่ต้องทำมันมีอะไรบ้าง ซุปตาร์หนุ่มจึงเดินเข้าไปอีกห้องที่เป็นห้องใช้สำหรับแต่งตัวเพื่อหาผ้าสักผืนมาเช็ดตัวให้กับปัญหาชิ้นใหญ่ที่อยู่บนเตียงนอนของเขา แถมเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ที่เอาแต่ใจเอาเรื่องเลยทีเดียว งานนี้ไม่รู้ว่าเขาจะผ่านมันไปได้ไหม "อื้อ..อย่ากวน" เสียงร้องของคนตัวเล็กบนเตียงพร้อมกับมือที่ปัดไปมาเมื่อโดนรบกวน "เช็ดตัวหน่อยนะ คุณตัวร้อนมากเลย" คนที่กำลังเช็ดตัวให้กับที่นอนอยู่บนเตียงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยพูดกับใครแบบนี้มาก่อน แต่คนที่ได้ยินกลับไม่รับรู้อะไรเลย มีแต่เอามือปัดไปมาเมื่อผ้าเช็ดหน้าที่ชุบน้ำเปียกหมาดสัมผัสตามเนื้อตัว "อื้อ..คนจะนอน..ปวดหัว" ชาลิดาพลิกศีรษะไปมาเพื่อหลบผ้าเช็ดหน้าที่ลงมาสัมผัสใบหน้าของตน สุดท้ายก็เลี่ยงไม่ได้เมื่อโดนจับเช็ดตัวเพื่อบรรเทาความร้อนในร่างกาย จนถูกล็อกใบหน้าให้อยู่นิ่งพร้อมกับสัมผัสที่ค่อยๆบรรจงเช็ดอย่างเบามือจากอีกฝ่าย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาแปลกๆในใจของราชันย์ที่มีต่อคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากับตัวเองว่า ทำไมต้องห่วงเมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ ทำไมต้องแคร์กับท่าทีและคำพูดที่เธอเอ่ยออกมาอย่างไร้เยื่อใย ทำไมถึงรู้สึกหน่วงๆในใจเมื่อเจอคำพูดที่บ่งบอกถึงความไม่ต้องการเขา ซึ่งคำถามที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้ เขาไม่สามารถอธิบายให้กับตัวเองได้ว่ามันเป็นเพราะอะไร จนสุดท้ายจึงให้คำตอบกับตัวเองเหมือนกำลังหลอกตัวเอง นั่นก็คือ เพราะเขาเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ดัง สาวๆหลายคนมีแต่วิ่งเข้าหา และต้องการเขา แต่เมื่อเจอการถูกปฏิเสธจากผู้หญิงคนหนึ่งมันจึงทำให้เขารู้สึก เจ็บใจ ใช่ มันคือ ความเจ็บใจ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนตรงหน้าไปมากกว่านี้ วันนั้นทั้งวันซุปตาร์หนุ่มก็ทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นดูแลชาลิดาตลอดทั้งวันจนถึงเกือบตลอดทั้งเธอ จนหญิงสาวไม่มีอาการตัวร้อนในเวลาเกือบตีสาม เล่นเอาซุปตาร์หนุ่มแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะต้องคอยจับตัวของหญิงสาวว่ามีอาการตัวร้อนขึ้นมาอีกไหม ความกังวลทำให้เขานอนไม่ได้เลย แล้วพออาการตัวร้อนของเธอหายไป ซุปตาร์หนุ่มจึงทำการโทรตามให้ลูกน้องคนสนิทมาพาเธอออกไปจากห้องพักของเขาเพื่อไปส่งยังคอนโดที่พักของเธอในเช้าวันต่อมา กลับมาที่ปัจจุบัน @ห้องพักคอนโดชาลิดา "สวัสดีค่ะพี่เอิง วันนี้น้ำชาขอลาป่วยอีกวันนะคะ" (เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะคุณน้ำชา ให้พี่ตามหมอให้ไปดูมั้ยคะ) "น้ำชาไม่เป็นอะไรมากค่ะ อาการใกล้จะหายแล้ว แต่ยังมีอาการปวดเมื่อยอยู่ค่ะเลยไม่อยากไปเป็นภาระพี่ๆที่แผนก ยังไงวันนี้น้ำชาขออนุญาตลาอีกวันนะคะ แล้วจะชดเชยในวันที่หยุดให้" (โอ๊ย ไม่เป็นไรค่ะคุณน้ำชา คนเราก็ต้องมีป่วยกันได้ คุณน้ำชาพักผ่อนให้หายเถอะนะคะอย่าคิดอะไรมาก แล้วถ้าหากว่าอาการไม่ดีขึ้นยังไงโทรบอกพี่ได้ตลอดนะคะ พี่จะได้ให้หมอเข้าไปดู) "ขอบคุณค่ะ" เมื่อวางสายจากผู้จัดการโรงแรมที่ตัวเองฝึกงานอยู่หรือเรียกว่าอนาคตโรงแรมของตัวเองนั่นเอง ชาลิดาก็หลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับหลับไปอย่างหมดแรง จนเวลาล่วงเลยไปนานแค่ไหนเธอก็ไม่อาจรู้ได้ จนเมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งที่หน้าห้อง ทำให้ชาลิดาลืมตาตื่นและพยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นเพื่อไปดูว่าใครมาหาเธอในเวลานี้ "นาย!" ชาลิดามีสีหน้าตกใจเมื่อเปิดประตูมาเห็นคนที่ยืนตรงหน้าประตู "หน้ายังซีดอยู่เลย โชคดีตัวไม่ร้อนแล้ว" คนตรงหน้าที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ได้สนใจสีหน้าของอีกฝ่าย เขาเอาหลังมือมาวางบนหน้าผากของหญิงสาวก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก็เดินผ่านเจ้าของห้องเข้าไปในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต สร้างความงงงวยให้กับเจ้าของห้องเป็นอย่างมากก่อนที่เธอจะปิดประตูห้องของตัวเองอย่างงงๆ "นายมาได้ยังไง" ชาลิดาเอ่ยถามอีกฝ่ายขณะที่เดินตามหลังเขาที่เหมือนมองหาอะไรบางอย่าง "ห้องครัวมีมั้ย" "มี" "อยู่ตรงไหน" "ทางนั้น" คำสนทนาที่พูดคุยออกไปของชาลิดาที่ตอบอีกฝ่ายไปอย่างไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะอาการงงงวยยังค้างอยู่รวมถึงอาการป่วยที่ยังไม่หายดี ทำให้เธอเกิดอาการเบลอๆ ใครถามอะไรมาก็ตอบออกไปอย่างนั้น "คุณกินอะไรหรือยัง" "ยัง เพิ่งตื่น" "งั้นมากินข้าวต้มแล้วค่อยกินยา ผมให้ลูกน้องไปต่อคิวซื้อมาให้เลยนะ ร้านนี้เขาขายทั้งวันเป็นร้านโปรดของผม นี่ก็เที่ยงแล้ว มากินข้าวเร็ว" ซุปตาร์หนุ่มเอาข้าวต้มใส่ถ้วยแล้วมาวางที่โต๊ะอาหารในห้องครัว จากนั้นเขาก็ลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเพื่อให้หญิงสาวที่ยืนอยู่อีกฟากโต๊ะนั่ง โดยที่ชาลิดายังยืนงงอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ ยังไม่ได้เดินเข้ามายังเก้าอี้ที่อีกฝ่ายเลื่อนให้ตัวเอง "อ้าวคุณ มานั่งสิ" ราชันย์เอ่ยเรียกหญิงสาวอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนนิ่งแล้วมีสีหน้างงอยู่พอสมควร จนซุปตาร์หนุ่มต้องเดินไปลากแขนหญิงสาวให้มานั่งที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารพร้อมกับน้ำที่เขาเตรียมไว้ให้ "นายมาได้ยัง" คำถามที่ยังต้องการคำตอบเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ตรงหน้า "ยกเลิกการกักบริเวณแล้ว วันนี้มีงานตอนบ่ายเลยได้ออกมา" คำตอบที่พูดออกมาเหมือนไม่ได้เจาะจงบอกเธอ ทำเสมอเป็นคำบอกเล่ามากกว่าเป็นคำตอบ "แล้วนายมาหาฉันทำไม" คำถามต่อไปที่ไม่เข้าใจในการปรากฏตัวของซุปตาร์หนุ่มที่อยู่ตรงนี้ "ก็.." ซุปตาร์หนุ่มพูดได้เพียงเท่านั้นเพราะไม่คาดคิดว่าจะต้องมาตอบคำถามพวกนี้จากเจ้าของห้อง "ก็อะไร" ชาลิดาหันหลังมาถามขณะที่ซุปตาร์หนุ่มกำลังเดินมานั่งที่เก้าอี้ "ผมทำคุณเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องผิดชอบปะ" "ใครต้องการความรับผิดชอบจากนาย" "ยัย!..." "ว่าไง ฉันว่าวันนั้นฉันก็บอกไปชัดแล้วนะว่าไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรฉันทั้งนั้นจากนาย" "กินข้าว" ซุปตาร์หนุ่มไม่พูดอะไรต่อ เขานั่งลงฝั่งตรงข้ามมองคนตรงหน้าที่ยังมองหน้าเขานิ่งอย่างเอาเรื่องเหมือนกัน "แล้วนายหละ ไม่ทานเหรอ" คำถามที่เอ่ยออกมาอย่างลืมตัวของชาลิดาทำให้เกิดสีหน้าเขินอายออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนซุปตาร์หนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามเห็นอาการเหล่านั้นถึงกับอมยิ้มออกมา "ฉันไม่ได้ห่วงนายนะ อย่าเข้าใจผิด แค่รู้สึกแปลกๆที่ถูกคนมองตอนทานข้าวเท่านั้น" "ผมทานมาแล้ว ไม่ต้องห่วงผมหรอก" "ก็ฉันบอกว่าไม่ได้ห่วงไง แค่ถามเป็นมารยาทเท่านั้น" "โอเค ผมก็ตอบตามมารยาท" หลังจากนั้นชาลิดาก็รับประทานข้าวต้มที่ซุปตาร์หนุ่มเอามาให้จนหมด แล้วก็ถูกอีกฝ่ายบังคับให้ทานยาต่อ ซึ่งเธอเกลียดการทานยาเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดสงครามขึ้นมาเล็กๆจากคนทั้งสองเมื่อถึงเวลาต้องทานยาลดไข้ "ไม่ทานไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ" ชาลิดาวิ่งหนีมาตรงฟากหนึ่งของโซฟาเมื่อรู้ชะตากรรมว่าต้องทานยาที่อยู่ในมือของซุปตาร์หนุ่ม "คุณก็ฟังไม่รู้เรื่องเหรอว่า คุณต้องกินยา" ราชันย์เดินออกมาจากห้องครัวแล้วยืนอยู่อีกฟากของโซฟาในห้องนั่งเล่น "ก็ไม่ทานไง จะอะไรนักเนี๊ย" หญิงสาวที่ยืนอยู่หลังโซฟาเหมือนคิดว่ามันจะสามารถจะช่วยให้เธอปลอดภัยจากคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งได้ "ยังไม่หายดี ยังไงก็ต้องกินยา" ราชันย์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยังทำตัวขู่ฟ่อใส่เขาทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่สามารถสู้แรงเขาได้ แต่ก็ยังคิดที่จะสู้เขาอีก "ไม่! นายมาทางไหน กลับไปทางนั้นเลย" "จะกลับแล้ว แต่คุณต้องกินยาก่อน ผมถึงจะกลับได้" "บอกว่าไม่ต้องมายุ่งไง" ในขณะที่ถกเถียงกัน ชาลิดาก็ค่อยๆถอยห่างจากอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาหา จนไม่รู้ตัวเองว่าตอนนี้เธอได้พาเขาเดินเข้ามายังห้องนอนของตัวเองจนเมื่อเท้าที่เดินถอยหลังไปเรื่อยๆชนเข้าไปกับขอบเตียงตรงปลายเท้า "หนีไม่ได้แล้ว กินยาซะดีๆ" "ไม่กิน!" หลังจากที่พูดจบ ชาลิดาก็หยิบหมอนที่วางอยู่บนเตียงเขวี้ยงใส่หน้าอีกฝ่ายเพื่อให้เขาถอยห่างออกไปจากตัวเธอ แต่ดูเหมือนว่าแรงที่ส่งมานั้นไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ ซุปตาร์หนุ่มก้าวเดินเข้ามาเรื่อยๆ จนหญิงสาวที่เห็นท่าไม่ดีรีบกระโดดขึ้นไปบนเตียงทันที "สงสัยพูดดีๆไม่ชอบแฮะ" "นายจะทำอะไร" "อยู่ห้องนอน ชวนทำกับข้าวมั้ง คุณว่าห้องนี้มันทำอะไรได้บ้าง" สีหน้ากวนๆของอีกฝ่าย ทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนเขวี้ยงหมอนอีกใบใส่หน้าเขาอย่างแรงจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าชาทันที "เล่นแบบนี้ใช่มั้ยยัยตัวแสบ" ราชันย์กระโจนขึ้นไปบนเตียงที่มีคนป่วยที่เอาหมอนกันตัวเองจากเขาอยู่ "อื้อ..ปล่อยนะ..ไอ้หน้าหื่น" ชาลิดาร้องบอกคนที่คร่อมร่างเธออยู่พร้อมกับดิ้นไปพร้อมกันเพื่อให้หลุดออกจากวงแขนของซุปตาร์หนุ่ม ราชันย์เมื่อเห็นอาการดิ้นรนของหญิงสาวในอ้อมกอดที่ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เขาจึงเอายาเข้าปากของตัวเองแล้วจับใบหน้าของหญิงสาวให้หยุดนิ่งไว้ในเวลาต่อมาจนแน่ใจแล้ว เขาจึงโน้มใบหน้าลงมาพร้อมกับประกบริมฝีปากของตัวเองลงที่ริมฝีปากบาง เขาใช้ลิ้นดันยาเข้าไปในโพรงปากบางเมื่อทำให้อีกฝ่ายเปิดปากออกมายอมให้เขายัดเม็ดยาเข้าไปในปากได้ "กินน้ำ" ราชันย์หยิบแก้วน้ำที่วางตรงหัวเตียงยื่นให้หญิงสาวหลังจากที่ยาเข้าไปในปากของเธอแล้ว "ขม" ชาลิดาพูดออกมาได้เพียงคำเดียวสั้นๆหลังจากที่กลืนยาลงท้องไปเรียบร้อย โดยมีซุปตาร์หนุ่มมองการกระทำของเธอโดยตลอดไม่ให้คลาดสายตาเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะแอบคายยาทิ้ง "ไหนๆก็มาห้องนอนแล้ว นอนเลยแล้วกัน" ราชันย์หยิบผ้าห่มหมายจะห่มให้หญิงสาว โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เข้าใจในคำพูดของซุปตาร์หนุ่มไปในทางเดียวกันอย่างที่เขาคิด เธอรีบถอยร่นไปจนชิดหัวเตียงด้วยสีหน้าหวาดกลัว จนเขาอดขำกับท่าทีของเธอไม่ได้ "อย่าเข้ามานะ ใครจะนอนกับนาย" "เอ๋า เคยๆกันแล้วไม่ต้องเขินหรอก" "อร๊าย อย่าเข้ามา" "ผมไม่ทำอะไรคนป่วยหรอก คุณนอนเถอะ เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว" "นายจะไปไหน" ชาลิดาอดที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายไม่ได้เมื่อเห็นเขากำลังลุกออกไปจากที่นอน "บ่ายนี้มีถ่ายงาน" "ดึกมั้ย" อยู่ๆหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นมาอย่าลืมตัว "หืมม" ราชันย์เลิกคิ้วถามอย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อจากคำนั้นที่เอ่ยออกไป "....." "ถ้าอีกฝ่ายเป็นมืออาชีพก็แป๊บเดียวไม่น่าจะดึก" "ไปได้แล้ว คนจะนอน" ชาลิดาเอ่ยไล่ซุปตาร์หนุ่มทันทีเมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอแสดงอาการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว "ถ้าไม่ดึก ผมขอแวะมาดูอาการคุณนะ อยากทานอะไรมั้ย เดี๋ยวซื้อเข้ามาให้" "ไม่ต้องมา ฉันดูแลตัวเองได้" "โอเค ตามนั้น" จากนั้นซุปตาร์หนุ่มก็เดินออกไปห้องนอนของหญิงสาว จนได้ยินเสียงล็อกประตูห้องของคอนโด "บ้า อย่าคิดน้ำชา หมอนั่นตัวอันตราย" ชาลิดาก่นด่าตัวเองในใจจนเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาในเวลาต่อมา เวลาต่อมา @Aria Studio "คิงมาแล้ว" เสียงของรสาเอ่ยบอกกับทีมงานเพื่อให้ทีมงานเริ่มเตรียมพร้อม "พาคิงไปแต่งตัว" ผู้จัดการวงเอ่ยบอกทีมงานฝ่ายเสื้อผ้าพาคิงเข้าไปยังแต่งตัว พร้อมกับเดินตามไปเพื่อบรีฟงานให้กับซุปตาร์หนุ่ม "ตรีมที่จะถ่ายวันนี้ชื่อตรีมว่า Nature in Love" พอซุปตาร์หนุ่มได้ยินชื่อตรีมที่จะถ่ายวันนี้ถึงกับหันมามองหน้าผู้จัดการวงอย่างไม่เข้าใจทันที ก่อนหน้านี้ที่ได้รับสายโทรศัพท์จากผู้จัดการวงสาวบอกว่ามีงานนั้น เขาก็ไม่ได้ถามรายละเอียดเพราะมัวแต่ดีใจที่จะได้ออกไปจากห้องแคบๆนี้สักที พอได้ยินว่าต้องถ่ายแนวไหนเท่านั้นเขาถึงกับไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเขา "ไม่มีคนอื่นแล้ว?" ราชันย์เอ่ยถามเชิงปฏิเสธไม่อยากทำงานนี้ "ลูกค้าเค้าเลือกนาย" คำตอบสั้นๆที่ออกมาจากปากของผู้จัดการวงยิ่งทำให้ซุปตาร์หนุ่มไม่เข้าใจหนักเข้าไปอีก "เซตนี้นายไม่ได้ถ่ายคนเดียวนะ มีน้องฮานะถ่ายด้วยนะ" "ใคร?" "ลืมบอก ทางบริษัทเปิดตัวนักร้องหญิงคนใหม่ของค่ายไปเมื่อสามวันก่อน นายคงไม่ได้ตามข่าว" "แล้วเกี่ยวอะไรกับผม ทำไมผมต้องถ่ายกับเธอ" "ความต้องการของลูกค้า" "เฮอะ!" "แต่งตัวแล้วเจอกันที่สตู" รสาบอกกับซุปตาร์หนุ่มที่นั่งฟังเธอพูดในขณะที่ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้เบาๆ ก่อนที่ผู้จัดการวงสาวเดินออกไปจากห้อง เวลาต่อมา @ห้องสตูดิโอถ่ายภาพ "สวัสดีค่ะ พี่คิง" หญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายราชันย์ที่เดินเข้ามายังห้องสตูดิโอ ราชันย์มองอีกฝ่ายด้วยแววตาเฉยชาพร้อมกับมองเหมือนสำรวจว่าเธอมีดีอะไรถึงได้เข้ามาร่วมสังกัดเดียวกับเขาทั้งที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดประกวดอะไรของบริษัทเลย ซึ่งแน่นอนว่าการที่เธอเข้ามาเป็นนักร้องของค่ายได้ในครั้งนี้คือเส้นล้วนๆ "คิง นี่น้องฮานะ นักร้องใหม่ของค่าย รู้จักกันไว้สิ" "สวัสดีค่ะพี่คิง" แต่อีกฝ่ายยังเมินใส่พร้อมกับเดินไปยังจุดถ่ายภาพทันที "อย่าไปสนใจเลย คิงเป็นแบบนี้แหละ" "แต่ที่เคยได้ยินข่าวมาพี่คิงค่อนข้างจะเป็นมิตร เอ่อ.." "เจ้าชู้หนะเหรอ ข่าวลือหนะ ตัวจริงเค้าเป็นแบบนี้แหละ ทำงานเถอะ" "ค่ะ" "พี่คิงคะ ฝากตัวด้วยนะคะ ถ้าผิดพลาดอะไร ขออภัยและแนะนำได้นะคะ" "อืมม" "เอาหละครับ เตรียมถ่ายเซ็ตที่หนึ่งได้" "คิงกอดน้องฮานะ เอาแขนโอบไปจนถึงด้านหลังน้องเลย ส่วนน้องฮานะก็เอามือขึ้นมาวางที่หน้าอกคิงนะครับ แบบนั้นหละ นิ่งๆนะ" ช่างภาพถ่ายแล้วบอกให้ซุปตาร์หนุ่มและนักร้องสาวเปลี่ยนอริยบทตามที่ได้บรีฟกันไว้ก่อนทำการถ่ายแบบ ด้วยความเป็นมืออาชีพของซุปตาร์หนุ่มจึงทำให้งานไม่ค่อยได้แก้ไขและถ่ายใหม่เท่าไหร่นัก ในส่วนที่ต้องแก้ไขส่วนใหญ่จะมาจากทางฝั่งนักร้องสาวหน้าใหม่เสียมากกว่า ที่ยังมีอาการเคอะเขินนายแบบที่ถ่ายด้วย แล้วทำให้อารมณ์ไม่ได้ตามที่ช่างภาพต้องการเท่าไรนัก "พักกันดีกว่า" ผู้จัดการวงสาวเอ่ยขึ้นมาเมื่อถ่ายไปได้ครึ่งทางแล้ว "ไหวมั้ย" รสาเดินเข้าไปถามราชันย์ที่นั่งลงแล้วหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม โดยมีช่างแต่งหน้าเข้ามาเติมแป้ง เช็ดเหงื่อให้ "ก็พอไหว จบถ่ายนี้ผมกลับได้เลยใช่มั้ย" "อืมม กลับได้เลย" "พี่โรส" "ว่าไง" "ลูกค้าที่ว่าพ่อของเด็กนั่นหรือเปล่า" ราชันย์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับสายตาของรสาที่มองตามสายตาซุปตาร์หนุ่มที่มองไปยังนักร้องสาวหน้าใหม่ของวงการ พร้อมกับพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเหมือนจำใจเช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้ที่โดนทางฝ่ายเจ้าของบริษัทสั่งมาให้ทำแบบนี้ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD