ตอนที่ 2

1535 Words
เวลาผ่านไปถึงช่วงเย็นส้มตื่นจากอาการเหนื่อยล้าที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดเพราะพึ่งจะได้พักจริงๆก็คงเป็นวันนี้ เธอแต่งตัวในชุดสบายที่สุดแต่ก็มิดชิดพอสมควรเพราะว่าที่นี่มีแต่ผู้ชายอยู่ถึงจะไว้ใจทุกคนเลยก็ตามแต่ใจคนยากแท้หยั่งถึงใครจะไปรู้ว่าคนที่เรารู้จักจะคิดอะไรผิดแปลกวันไหน ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูถี่ๆอย่างไร้มารยาทดังขึ้นเรียกความสนใจให้หันไปมองพร้อมกันถอนหายใจแล้วลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่ไม่คิดว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ "กินอะไรรึยังน้องส้ม?" "พึ่งตื่นค่ะพี่ทีเร็กซ์มีอะไรรึเปล่า?" "เปล่า! พี่แค่จะมาชวนไปกินข้าวเย็นน่ะพอดีพ่อกับไดโนน่าจะกลับค่ำ" "กินที่นี่ใช่ไหมคะ?" "กินข้างนอกแต่งตัวดีๆด้วยละ" "ขอเวลาสิบนาทีค่ะ" "ให้เร็วเลยพี่หิวแล้วเข้าไปนั่งรอได้ไหม?" "คงดูไม่ดีค่ะ พี่ทีเร็กซ์รอแค่สิบนาทีเอง" ทีเร็กซ์เดินลงมารอชั้นล่างพอเข้าใจว่าผู้หญิงต้องใช้เวลาแต่งตัวแต่ถือเป็นโชคดีเพราะตอนนี้พ่อกับพี่ชายเดินเข้ามาพร้อมกันดูท่าทางแล้วโคตรอารมณ์ดีซึ่งน้องส้มยังไม่รู้เรื่องนี้ เขารีบเดินตรงไปดึงแขนพี่ชายรั้งเอาไว้เพื่อจะคุยธุระสำคัญมาก "ไดโนพาพ่อไปที่อื่นก่อนดิ" "อะไรของมึง?" "เออน่า! กูมีธุระต้องจัดการมึงช่วยพาพ่อไปที่อีกสักยี่สิบนาทีดิ" "ก็ได้" ไดโนตอบรับน้องชายด้วยท่าทีงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมช่วยแต่โดยดีเพราะทีเร็กซ์ดูร้อนรนแปลกๆ เขาเดินไปจับแขนพ่อไม่ได้พูดอะไรมากมายแล้วพาเดินไปห้องทำงานเนื่องจากว่ายังไงเราก็ต้องคุยเรื่องงานกันต่ออยู่ดี น้องชายมีแผนจะทำอะไรนะ? มังกรเดินตามลูกชายด้วยความแปลกใจแต่แอบเห็นสองพี่น้องคุยกันคงจะมีอะไรที่พยายามปิดบังอยู่แน่ เขายอมเดินตามเกมง่ายๆแล้วเดี๋ยวคำตอบทุกอย่างก็คงจะแล่นเข้ามาหาเองและอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้หนักใจมากแน่ หรือทีเร็กซ์พาสาวมาซ่อนอยู่บ้านรึไงกัน! ไอ้ลูกคนนี้มันดื้อจริง!! ส้มสวมเสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่สีดำแขนสั้นกับกางเกงขากระบองเล็กสีดำเข้ารูปเดินลงมาถือกระเป๋าเงินทรงยาวที่สามารถใส่โทรศัพท์เข้าไปได้ เมื่อกี้ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาแต่กลับไม่เห็นมาใครแล้วคนที่มาชวนไปกินข้าวก็ยืนกอดอกทำหน้าบูดบึ้งอยู่นั่นคงจะหงุดหงิดที่ต้องรอแต่ทำไงได้ละในเมื่อชวนกะทันหันเอง "ไปงานศพใครเหรอ?" "ศพพี่ทีเร็กซ์มั้ง!" "ปากดีเดี๋ยวจะโดน!" แทนที่จะกลัวแต่ริมฝีปากเล็กกลับเบะคว้ำก่อนจะยิ้มกว้างทำหน้าทะเล้นแล้วเดินนำออกไปที่หน้าบ้านมองดูรถที่ไม่แน่ใจว่าต้องขึ้นคันไหน เธอไม่ได้หยิบกุญแจรถของตัวเองมาด้วยสิเพราะคิดว่าเขาจะขับรถตัวเองพาออกไปแน่นอน ส้มหันกลับจะไปถามแต่ใบหน้าหล่อทะเล้นปนดุอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกเพราะเขาก้มลงมาใกล้พร้อมรอยยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันครบทุกซี่ ข้อมือเล็กถูกคว้าแล้วดึงให้เดินตามไปอย่างถือสิทธิ์ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์อะไรแล้วด้วยนะ พี่ทีเร็กซ์มือไวแบบนี้ไว้ใจไม่ได้หรอก ...แบดบอยชัวร์! "นี่รถของพี่จำเอาไว้ด้วย" "ทำไมต้องจำ?" "เออน่า! จะดื้อทำไมเนี่ยขึ้นรถเลยแล้วเรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะน้องส้ม!" "จะคุยอะไรอีก?" "คิดว่าเรื่องอะไรทำให้เราต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันละ!" น้ำเสียงเข้มถามอย่างหงุดหงิดและบอกคำตอบในเวลาเดียวกันด้วยความไม่พอใจเท่าไรนัก ทีเร็กซ์หันไปมองน้องส้มรอจนอีกฝ่ายคาดเข็มขัดเรียบร้อยและน่าจะพร้อมคุยระหว่างทางไปร้านอาหารไม่ไกลจากที่นี่ ความจริงแล้วเขาเคยเจอเธอมาก่อนแต่นั่นมันก็ผ่านมานานหลายปีมากแล้วนะจนแทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงส่วนเธอเองก็น่าจะลืมคนนิสัยเสียอย่างเขาไปแล้วแหละเพราะดูมองก็รู้ว่าไม่ไว้ใจ "ต่างคนต่างอยู่นะน้องส้มพอดีว่าพี่ยังไม่อยากผูกมัดตัวเองกับใคร ถ้าเราหมั้นกันพี่คงจะนอกใจรายวันแล้วเกลียดกันเปล่าๆ" นี่คือสิ่งที่ต้องการและเธอก็คงต้องการไม่ต่างกันถึงได้ฉีกยิ้มกว้างให้จนรู้สึกสยองหน่อยๆ "ตกลงค่ะพี่ทีเร็กซ์ ระหว่างเราจะเป็นแค่คนร่วมชายคาเดียวกันแค่นั้นแหละแล้วอีกประมาณสามเดือนหรือเร็วกว่านั้นส้มจะย้ายออกไปทันทีค่ะ พี่ทีเร็กซ์ไม่ต้องห่วงนะเพราะส้มก็ไม่พร้อมจะมีใครเหมือนกันหรือถ้าเป็นไปได้ให้โสดตลอดชีวิตเลยก็ดี" เราใจตรงกันในเรื่องนี้มันก็ดีเพราะว่าเธอไม่ต้องการความรักจากใครทั้งสิ้น สิ่งเดียวที่ต้องการคือความสงบของชีวิตแล้วปลีกหนีออกจากสังคมอันน่าวุ่นวาย การที่เลือกมาเรียนไกลขนาดนี้มีเหตุผลง่ายๆคือเธอแค่อยากจะอยู่คนเดียวเท่านั้นเองและไม่รู้ว่าจะอธิบายสิ่งที่เป็นอยู่ให้ใครเข้าใจได้ยังไงเพราะคนทั่วไปไม่ค่อยยอมรับแล้วพยายามผลักดันเธอให้ออกสู่สังคมโลกกว้างทั้งที่ไม่เคยเป็นความต้องการ หลายคนว่าเธอแปลกและน่าเบื่อมาก! บทสนทนาอันแสนสั้นของเราจบลงอย่างรวดเร็วเมื่อความต้องการตรงกันทุกอย่าง ทีเร็กซ์แอบมองคนตัวเล็กที่เล่นโทรศัพท์เงียบมากแล้วเห็นพ่อบอกว่าเป็นหวัดเลยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาคงเพราะกลัวว่าจะแพร่เชื้อให้เขามั้ง แต่มุมข้างแบบนี้น้องส้มก็น่ารักดีนะ ...เดี๋ยวนะ!!! มือกำพวงมาลัยแน่นหัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุและไม่สามารถละสายตาจากน้องส้มได้เลยจนเริ่มหวั่นใจ เขากระแอมเบาๆเรียกร้องความสนใจแต่ว่าเธอไม่แม้แต่จะหันมองเอาหรือถามไถ่ด้วยซ้ำแต่จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์เลื่อนช้าๆไม่มั่นใจว่ากำลังอ่านอะไรหรือคุยกับใครอยู่กันแน่ โทรศัพท์มีอะไรดีกว่าเขานะ? "พ่อบอกว่าน้องส้มไม่มีแฟนเหรอ?" "อื้อ! ทำไมอะ?" "แค่สงสัยเฉยๆพี่ว่าอย่างน้องส้มไม่น่าโสด" "วันๆก็มีแค่เรียนดูหนังอ่านหนังสือดูหนังดูการ์ตูนแล้วมีเที่ยวกับเพื่อนอีกนิดหน่อยแต่แค่นี้ก็แทบไม่มีเวลาอยู่แล้ว" เธอดองหนังสือไว้ค่อนข้างเยอะทั้งในแบบ *****คและรูปเล่มจริงจนสามารถจัดเป็นห้องสมุดได้เลยเพราะอ่านมาตั้งแต่เป็นเด็กจนโต ส่วนพวกการ์ตูนอนิเมะและหนังซีรี่ส์ต่างๆก็จ่อรอคิวให้เปิดดูซึ่งรายชื่อก็ยาวเป็นหางว่าวนี่ยังไม่นับเวลาเรียนและไปเที่ยวกับเพื่อนเปิดหูเปิดตาบ้าง "ช่วงนี้ทำธีสิสเหรอ?" "ใช่ค่ะแต่ใกล้เสร็จแล้วละ อาทิตย์หน้าก็ไปส่งถ้าผ่านส้มก็เตรียมตัวจบอย่างเป็นทางการ ทีนี้จะได้มีเวลาไปจัดการคอนโดใหม่สักทีจะได้ย้ายออกจากที่นี่ไปอยู่คนเดียวเร็วๆ" "แล้วคิดว่าจะทำงานอะไรต่อเหรอ?" "ไม่รู้สิ! ถามทำไมละ?" "ก็เห็นว่าใกล้เรียนจบเลยอยากรู้เฉยๆ" "อย่างแรกที่จะทำคือจัดการกองดอง จัดห้องหามุมสวยๆไว้อ่านหนังสือ" ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่เธอก็รู้นะว่าต้องเตรียมตัวเข้าไปทำงานที่โรงแรมตามที่พ่อแม่บอกเพียงแต่ว่าจะให้โอกาสไปเที่ยวตามใจสักปีสองปีก่อนเผื่อว่าอยากจะเรียนต่อซึ่งเธอก็วางแผนแล้วเหมือนกันนะว่าจะต่อปริญญาโทที่เมืองนอกจะได้ยืดเวลาทำงานให้นานออกไปแต่จุดประสงค์แท้จริงคืออยากจะนอนตีพุงอ่านหนังสือดูหนังทำเรื่องไร้สาระเพี้ยนๆอยู่คนเดียวในโลกที่ไม่มีใครเข้าถึงของเธอ "กองดอง?" "อ๋อ หนังสือที่ซื้อมาแต่ไม่ว่างอ่านน่ะ" "ปรกติอ่านแนวไหนเหรอ?" "นวนิยายสยองขวัญไม่ก็แฟนตาซีไปเลยหรือโรมานซ์แล้วแต่อารมณ์ตอนนั้น" "คงอ่านจนไม่สนใจใครเลยสินะ!" "แล้วทำไมต้องสนด้วยละ?" คำตอบง่ายๆของน้องส้มทำเอาเขาแทบเหยียบเบรกให้หัวทิ่มจะได้เงยหน้าจากโทรศัพท์มองอดีตว่าที่คู่หมั้นกันสักหน่อยแต่ก็ช่างมันเถอะเพราะนี่คือสิ่งที่ต้องการอยู่แล้วไม่ใช่รึไงเล่าจะเสียเวลาหงุดหงิดทำไมกัน ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุดแล้ว...มั้ง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD