“เออ...” หลายคนพยายามจะท้วง แต่ก็อย่างที่เห็น
เด็กน้อยนั่นหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงเฉิ่มเบอะ!! ที่มองหาความงดงามไม่เจอ เอาน่าหล่อนคงเหมาะกับการเลี้ยงเด็ก แต่ไม่ใช่คู่แข่งตัวฉกาจของตัวเอง เพราะสภาพของหล่อน คงไม่ทำให้ผู้ชายสุดหยิ่งอย่างแมทธิวเหลียวมอง...
คนที่ผิดหวังทยอยออกไปทีละคน เมื่อหมดประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ...
อีกอย่างแรงดึงดูดที่ทำให้พวกหล่อนมา...เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
“เอาละจ้ะ เธอชื่ออะไร?” มาดามแพชี่เริ่มถาม หลังจากทิพยอาภาค่อยๆ วางเด็กหญิงในอ้อมกอดลงบนเบาะนอนที่สาวใช้คนหนึ่งวิ่งไปหยิบมาให้
“คุณหนูนอนง่ายๆ เนอะคุณท่าน เธอมีมนต์บทไหนเหรอ? ทำไมถึงกล่อมเด็กนอนหลับได้ง่ายดายจัง?” สวีทตี้ไม่ได้ดูแลแองเจลิน่าโดยตรง เธอเป็นตัวสำรองที่รับมือกับแองเจลิน่าแทบไม่ไหว เห็นเงียบๆ น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ เวลาพยศขึ้นมา คุณหนูตัวน้อยก็แผดเสียงแบบไม่ยอมใครเช่นกัน...
ทิพยอาภาช้อนสายตามองไทรีส...
“อริสฮ่ะ...เธอเป็นสาวเวียดนามที่ภาษาอังกฤษใช้ได้เลย ว่าแต่... เงินเดือนของเธอได้ยังไงฮะ? กินนอนที่ไหนฮะ?” ชายหนุ่มหัวใจสีชมพูพยายามบีบเสียงและพูดจาอย่างสำรวม เขาต้องทำให้สมจริงเพราะหากมีใครสะกิดใจมันจะเป็นการเสียเปล่า ไทรีสตีหน้านิ่งๆ ทั้งๆ ที่นึกอยากจะร้องกรี๊ดๆ เมื่อส้มหล่นใส่เพื่อนแบบง่ายๆ
“เธอเป็นใครล่ะ?” มาดามแพชี่เอียงคอมอง “สามีหล่อนเหรอ?”
“ปะ เปล่าฮ่ะ...ฮั้นมีสำนักจัดหาคนงานส่งตามบ้าน และอริสเป็นหนึ่งในคนงานของฮั้น”
ไทรีสโบกมือปฏิเสธ เขาเตี๊ยมกับทิพอาภามาบ้างแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย
“อ๋อ...เรื่องเงินเดือนตามสัญญานี่เลยจ้ะ เรื่องที่พักก็ตามที่ระบุ...ในสัญญา...แต่หากเธอทำงานดีฉันจะเพิ่มให้อีกนะจ๊ะ”
เพราะทิพยอาภาไม่ได้สนใจสิ่งที่ตัวเองควรได้ เธอเฝ้ามองใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวที่นอนหลับสนิทในเบาะนอน
“โอ้!! เป็นเงินเดือนที่เยอะมากเลยครับ อริสคงดีใจ...บ้านเธอยากจนครับและต้องส่งเงินกลับไปเพื่อเลี้ยงน้องๆ”
เพื่อความสมจริงไทรีสจะพูดเป็นตุเป็นตะ...
“เริ่มงานเมื่อไรฮ้า?” ชายหนุ่มยิงตรงประเด็น!!
“สะดวกเริ่มตอนนี้เลยไหมล่ะจ้ะ เธอน่าจะเข้ากับหลานฉันเป็นอย่างดี...”
เป็นการตกลงเริ่มงานแบบไร้อุปสรรค ผู้ชายคนนั้นไม่เห็นแม้แต่เงา แต่ก็ทำให้ทิพอาภาพลอยโล่งใจ...
ไทรีสกลับไปหลังจากย้ำให้ทิพยอาภาอดทน...เมื่อหล่อนเลือกที่จะเป็นแบบนี้...
“สู้นะทิพ ฉันรู้ว่าแกทำได้...”
ก่อนกลับไทรีสย้ำ เขาจะเอาของใช้ส่วนตัวมาส่งให้เธออีกครั้ง พร้อมกับกำลังใจเต็มเปี่ยม
ดีแลนคอมเพล็กซ์...
เบื้องหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ บนชั้นสูงสุดของตึกดีแลน...มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหน้าตึงเปลี๊ยะ!! เขายกขาขึ้นพาดขอบโต๊ะ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตามองแชนเดอเรียกลางห้องแบบเลื่อนลอย...หัวคิ้วขมวดเป็นระยะๆ เพราะในขณะนี้สมองของแมทธิวกำลังทำงานหนัก...เขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...
“เจ้านายครับ?”
จาคอปค้อมตัวลง เขายกมือกุมอยู่ที่เป้ากางเกงหลังเอ่ยเรียกเจ้านายหนุ่ม
เปลือกตาเปิดฉับ!! เหมือนกับว่าแมทธิวกำลังรอการ์ดส่วนตัวอยู่แบบตั้งตารอ...
“ว่าไง? มาดามจัดการยังไงกับ ‘เด็กนั่น’ !!” ชายหนุ่มกระเด้งตัวนั่งตรงๆ เขาวาดปลายเท้าลงมาจากขอบโต๊ะ
“มาดามประกาศหาคนเลี้ยงเด็ก และเลี้ยง ‘เธอ’ ไว้ที่ดีแลนครับ”
จาคอปตอบตามที่สืบมา...
“หึ!!” แมทธิวกระแทกลมหายใจแรงๆ คำพูดของเขาไม่มีน้ำหนัก จนแม้แต่คนหัวอ่อนที่สุดอย่างมาดามแพชี่ยังลุกขึ้นมาต่อต้าน
“พอรู้ไหม ‘ใคร’ มาเป็นพี่เลี้ยง” ความอยากรู้ทำให้ชายหนุ่มหลุดคำถามออกมา เขาตีสีหน้านิ่งๆ และจาคอปก็ไม่ได้ทักท้วง
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยื่นให้แมทธิว มีภาพเปิดค้างไว้ และนั่นคือคำตอบ จาคอปทำงานดี ทำได้เกินคำสั่ง
ปลายนิ้วเรียวสวยไสด์หน้าจอเลื่อนดูภาพของ ‘คนเลี้ยงเด็ก’ เขาเบ้ปาก บ่มพึม
“มาดามนั่น...ไปขุดยัยนี่มาจากไหนวะ ทำไม...ช่างเป็นผู้หญิงที่ดูแล้วเสียสายตาจริงๆ ว่ะ”
ภาพลักษณ์ใหม่ของทิพยอาภา แม้แต่แมทธิวยังจำไม่ได้ เขายื่นโทรศัพท์คืนให้จาคอป เม้มปากแน่น เมื่อคิดจะถามคำถามต่อไป...
“ตามตัวยัยนั่น!! เจอหรือยัง?”
เขาเค้นเสียงถาม นึกเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงทิพยอาภา เพราะความผิดพลาด ‘เด็กนั่น’ จึงเกิดขึ้นมา หล่อนฉวยโอกาส และทำตัวน่ารังเกียจ เขาขยะแขยงหล่อน...ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ดูใสซื่อในฉากหน้า...จะซ่อนความร้ายกาจเอาไว้เบื้องหลัง
จาคอปส่ายใบหน้า ทิพยอาภาแทบไม่มีคนรู้จักเลยในอเมริกา ครอบครัวเดิมของหล่อนก็ปฏิเสธการรับรู้เมื่อครั้งที่จาคอปแวะไปถามข่าวหล่อน คนพวกนั้นแสดงอาการน่ารังเกียจมากๆ จนแม้แต่คนเย็นชาอย่างจาคอปที่ผ่านการฝึกมาอย่างหนัก ยังรู้สึกรันทดแทนหญิงสาว หล่อนช่างเป็นคนอาภัพอับโชค...และยิ่งเธอได้มาเจอกับแมทธิวเจ้านายเขา มันเหมือนหล่อนตกลงมาในขุมนรก เมื่อตลอดระยะเวลาที่ติดตามแมทธิว จาคอปเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มไม่มี ‘หัวใจ’
“ตามหล่อนให้เจอ ฉันอยากรู้ว่าหล่อนต้องการอะไรจากฉัน!!”
เสียงลอดไรฟันเย็นชาเหมือนเกล็ดหิมะกลางฤดูหนาว แมทธิวหยัดกายขึ้นยืน เขาติดกระดุมสูท ยกมือปัดรอยยับที่ชายเสื้อ สอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงาน...
ในความทรงจำของแมทธิว ทิพยอาภาคือสิ่งที่แสดงถึงความมีเมตตาของเขา หล่อนเป็นได้แค่นั้นสำหรับเขาจริงๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา เขาจึงโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใช่...แมทธิวเหมือนหนุ่มๆ ทั่วไปที่นิยม ชื่นชมกับความงามบนเรือนกายผู้หญิง...แต่เขาเลือก...ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้มานอนใต้ร่างกายเขา เพื่อเป็นเครื่องบันเทิงอารมณ์
เขาไม่อยากใส่ความหล่อน...ทิพยอาภาทำตัวเป็นนักตกทอง หล่อนหวังสบายทางลัด...
หล่อนเสนอสนองให้เขา ในตอนที่เขามีสติไม่เต็มร้อย...ถึงหล่อนจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง!!
แต่จะให้เขายอมรับหล่อน...ไม่มีวัน...
ผู้หญิงอย่างทิพยอาภาไม่ต่างอะไรกับตัวเหลือบ...ที่คอยเกาะดูดกินเลือด...เป็นกาฝากที่ไม่เคยคิดจะสร้างตัวเองอาศัยร่มไม้ใหญ่เพื่อดูดซึมอาหาร
เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม!! แมทธิวจึงสั่ง!! ให้หล่อน ‘ทำลาย’ สิ่งที่เกิดขึ้นทิ้ง...
ไม่คิดว่าหล่อนจะใจกล้า เก็บ ‘เด็ก’ ไว้ เขาตกใจแทบสิ้นสติ ตอนที่รู้ข่าวเข้า...
ทางเดียวที่จะรักษาหน้าตาตนเองเอาไว้ได้เหมือนเดิม เขาต้องตกลงกับหล่อนเสียใหม่ เขาไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างทิพยอาภาเป็นคนทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเขา ที่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เพราะความสำส่อนของหล่อนเอง...
ไม่มีวัน!!
กรามของแมทธิวบดกันไปมา เมื่อย้อนนึกถึงอดีต...เขาสะบัดหน้าแรงๆ พยายามทำเป็นลืมสายตาตัดพ้อของหล่อน...ทิพยอาภาไม่เคยเรียกร้อง...แต่จะให้เขาไว้ใจหล่อนอย่างนั้นเหรอ...ไม่มีทาง แมทธิว ดีแลนไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมาลูบคม ครั้งแรกหล่อนยังกล้า...คำสั่งเขาเหมือนลมปาก หาได้มีความศักดิ์สิทธิ์...ดังนั้นเขาไม่มีวันไว้ใจหล่อนเด็ดขาด
แมทธิวลืมไป...ทิพยอาภาแค่ทำตามสัญชาตญาณความเป็นแม่...
ชายหนุ่มถูกเลี้ยงมาท่ามกลางการแข่งขัน หัวใจแมทธิวจึงแห้งแร้ง...
เขาไม่รู้จัก ‘ความรัก’ ในสมองของแมทธิวบันทึกไว้แค่คำว่า ‘ผลประโยชน์’
Porsche Panameraสีขาวปรอท...รถยนต์คันล่าสุดที่หนุ่มไฮโซใช้เป็นยานพาหนะ รูปทรงโฉบเฉี่ยวสะกดสายตาคนมองได้ชะงัด เป็นรถยนต์รุ่นล่าที่คนมีสตางค์นิยมถอยออกมาวิ่งเล่นบนท้องถนน แมทธิวขับเคลื่อนรถยนต์ตรงกลับคฤหาสน์ดีแลน...ความคิดของเขาเลื่อนลอยเคว้งคว้าง...ชายหนุ่มสับสนในตัวเอง...ปากเขาบอกว่าเกลียดและขยะแขยงทิพยอาภา แต่ในความเป็นจริง...เงาอันรางเลือนของหล่อน ยังตามมาหลอกหล่อนเขาทุกค่ำคืน...จนอารมณ์สุนทรีย์ที่เคยมีหดหาย
เป็นความลับที่แมทธิวไม่เคยบอกใคร...
เขาไม่สามารถหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้เลย...เพราะทิพยอาภาจะเป็นตัวแทรกทำลายความรู้สึกกำหนัดที่เกิดขึ้น...
จนตัวเองคิดว่า...เขาน่าจะใกล้เคียงกับคนเป็นโรค ‘กามตายด้าน’ ลูกชายเขาไม่แข็งขัน มันหดหู่ หัวห้อย...ไม่เคลื่อนไหวใดเลย หากกลิ่นของบนตัวคู่นอน ไม่ใช่กลิ่นที่เขาเคยสูดดมจากเรือนกายอวบอุ่นของผู้หญิงที่ชื่อ ทิพยอาภา!!