เสียงสูดลมหายใจแรงๆ “เราอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนนี้ครับ? คุณไทรีสน่าจะทราบ...เพราะเธอมาอยู่กับคุณเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป...” จาคอปเปรย เท่าที่เขาตามรอยมา...ทิพยอาภาเหมือนหายตัวได้ หลังจากเข้ามาอยู่กับผู้ชายที่ชื่อ ไทรีส มัวคนสุดท้าย
หนุ่มหล่อหัวใจสีชมพูไหวไหล่ เขาจิบกาแฟเหมือนกำลังดื่มด่ำกับรสชาติขมๆ ของกาแฟดำอย่างเหลือเกิน
“อะนะ...แล้วไงล่ะ เวลานี้ทิพไม่อยู่แล้วนี่”
“ครับ...ผมทราบแล้ว แต่ที่อยากรู้คือเธอไปไหน?” ไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศ ไม่มีสายการบินไหนมีชื่อทิพยอาภาร่วมโดยสารไปด้วย ดังนั้นเธอน่าจะยังอยู่ที่อเมริกา แต่จะอยู่ที่ไหนนั้น จาคอปคงต้องเค้นเอาจากผู้ชายตรงหน้า และดูเหมือนว่า เขาจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไร
“ไม่รู้สิ...เพื่อนฉันไม่ได้บอกไว้นี่ฮ้า” เรื่องกระบิดกระบวนกวนอวัยวะนี่ บอกมา...ไทรีสสามารถและจัดให้ได้ เมื่อชายหนุ่มมองอีกฝ่ายเป็นอริ...กึ่งๆ ศัตรู!! ความหล่อเหลาของจาคอปง้างปากให้เขาพูดไม่ได้ และเขาเองก็ไม่สามารถโปรยเสน่ห์ทำให้ตนเองใจอ่อนได้เช่นกัน เมื่อชายหนุ่มรักเพื่อนมากกว่าคนแปลกหน้า ไทรีสยอมไม่ได้หากใครจะทำให้ทิพยอาภาเสียใจอีกครั้ง... ศัตรูเบอร์หนึ่งของไทรีสคือแมทธิว สักวันเขาจะสั่งสอนแมทธิวให้รู้สำนึกเสียบาง การกดดันผู้หญิงไม่มีทางสู้คนหนึ่งให้จนทาง ก็ให้ระวังการตอบโต้จากเธอ ผู้ชายไร้หัวใจแบบแมทธิว พระเจ้าไม่เข้าข้างนานหรอก วันใดก็ตามที่เขาหลงรักใครสักคน...วันนั้นคือวันที่ แมทธิวถูกลงโทษ!! อย่างแท้จริง...
“พอจะมีเบาะแสของเธอบ้างไหมครับ” จาคอปไม่ละความพยายาม เขายังทำใจเย็นและซักถามเพื่อนชายของผู้หญิงที่เจ้านายต้องการเจอตัวที่สุดเรื่อยๆ
“ความจริงนะพ่อรูปหล่อ...ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทิพ อยู่ที่ไหน?”
ไทรีสตวัดตา ช้อนดวงตาเป็นประกายมองการ์ดหนุ่มตรงหน้า เขาแสร้งกระพือเปลือกตาถี่ๆ กระตุกยิ้มมุมปากเพื่อยั่วอารมณ์ฝ่ายตรงข้าม เพราะต่อให้จาคอปต้อนตนเองไปเรื่อยๆ เขาก็จะไม่มีวันได้อะไรจากตนเลย เมื่อสิ่งที่ไทรีสตั้งใจ คือทำทุกทางให้แมทธิวคลุ้มคลั่ง!!
เพราะชายผู้นั้นจะต้องผิดหวังไปเรื่อยๆ
จาคอปอึ้ง!! เขาถอนใจแรงๆ วันนี้คงไมได้อะไรจากผู้ชายตรงหน้า ชายหนุ่มทำเหมือนให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ความจริงแล้ว คือการถ่วงเวลาชัดๆ
“นี่นามบัตรผมครับ...หากมีข่าวของคุณทิพยอาภามาถึงคุณ ขอความกรุณาติดต่อกลับผม เพราะเจ้านายของผม มีเรื่องสำคัญต้องการตกลงกับเธอจริงๆ”
ไทรีสยิ้มมุมปาก เขาไม่ได้ยื่นมือออกมารับ แสร้งทำเป็นจับแก้วกาแฟ จนจาคอปต้องตัดสินใจวางนามบัตรของตัวเองลงตรงหน้าฝ่ายตรงข้ามแทน เขาค้อมศีรษะลง แล้วจึงตัดใจลุกขึ้นยืน “ขอบคุณสำหรับการสละเวลาอันมีค่าของคุณในการตอบคำถามของผมครับ”
หนุ่มหล่อหัวใจสีชมพูยิ้มกว้าง ปรายตามองกระดาษชิ้นเล็กๆ แบบเหยียดๆ ไทรีสไม่ได้แตะนามบัตรที่จาคอปทิ้งไว้ให้เลย หลังจากแช่ก้นดื่มกาแฟฟรีจนหมดแก้ว...ชายหนุ่มก็สะบัดก้นจากไป ปล่อยให้นามบัตรของจาคอปวางอยู่ที่เดิม แบบไร้การเหลียวแล
“หึ!! ทิพอยู่ใต้จมูกนายแท้ๆ แมทธิว...”
เสียงเปรยแบบเยาะหยันดังออกมาจากปากสีเข้ม ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกไป
วอชิงตันดี.ซี. อเมริกา...
ปัง!!
แมทธิวกระแทกฝ่ามือกับผิวโต๊ะ!! เขาใกล้จะคลุ้มคลั่งเหมือนที่ไทรีสต้องการ
ชายหนุ่มกำลังฉุนเฉียว ทุกอย่างที่เขาหวังผิดเพี้ยนไปหมด...การควานหาตัวทิพยอาภาที่แมทธิวคิดว่าง่ายเหมือนปอกกล้วย เวลานี้กล้วยสุกงอมอย่างทิพยอาภากลายเป็นทุเรียนเสียแล้ว หล่อนมีหนามแหลม ๆ รอบตัวไว้คอยป้องกันอันตราย การเข้าถึงหล่อนเป็นอะไรที่ทำได้ยากแสนยาก...
“ผมจะพยายามต่อครับ...” จาคอปเอ่ยเสียงนอบน้อม
“อืม...” ชายหนุ่มครางรับ เขาทิ้งตัวนั่งแรงๆ ...ยกมือขึ้นกดข้างขมับที่จู่ๆ ก็ปวดตุ๊บๆ ขึ้นมาเฉยๆ
“เอ่อ...คุณท่านกลับมาแล้วนะครับ” จาคอปรีบรายงาน เมื่อมาดามจูเลียเปลี่ยนแผนการกะทันหัน
“หือ...” แมทธิวผงกศีรษะขึ้นมอง เขากำลังมึนจนสติสตางค์ไม่ใคร่เต็มร้อย “คุณย่าฉันนะเหรอ?”
“ครับ... คุณท่านกลับมาถึง ‘ดีแลน’ เมื่อประมาณสามชั่วโมงก่อน”
สิ่งที่จาคอปบอก ทำให้เบาะรองนั่งของแมทธิวร้อนเป็นไฟ เขานั่งไม่ติดจนต้องตัดใจลุกขึ้นยืน...
“ย่าฉันรู้เรื่อง ‘เด็กนั่น’ หรือยัง? !! ” แมทธิวถามกลับ หัวใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ
ไม่มีคำตอบมีแต่ความเงียบ...และนั่นเท่ากับเป็นการตอบคำถามแบบไม่ต้องออกเสียง
“เอารถออก ฉันจะกลับดีแลน!! ”
ชายหนุ่มออกคำสั่ง...เขาอยู่เฉยไม่ได้เสียแล้ว แมทธิวอยากรู้ว่ามาดามจูเลียจะว่ายังไง กับเรื่องร้ายๆ ที่เขาก่อขึ้น
การเดินทางแสนยาวนานในความรู้สึกของคนใจร้อนที่นั่งนิ่งๆ อยู่ด้านหลังสารถีคนขับ สิ้นสุดลง!!
เมื่อรถยนต์สุดหรู ตีวงเลี้ยวไปจอดหน้าโถงประตูคฤหาสน์ดีแลน ท่ามกลางความโล่งใจของผู้คนที่ร่วมเดินทาง โดยเฉพาะคนขับรถถึงกับเป่าปากพรวด!!
ชายหนุ่มกระโจนลงจากรถยนต์ ทันทีที่ประตูด้านข้างเปิดออกด้วยฝีมือหนึ่งในการ์ดที่คอยอารักขา
แมทธิวเดินหน้าตั้ง...เขามุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง เมื่อคาดเดาว่า มาดามจูเลียน่าจะรออยู่ที่นั่น
ทันทีที่แมทธิวดันประตูให้เปิดเข้าไป “มันเกิดขึ้นตอนไหน? แล้วทำไมแกไม่คิดจะบอกย่า?” คำถามจากผู้หญิงแก่ที่นั่งอยู่เบื้องหลังโต๊ะทำงานดังแทรกอากาศมา
แมทธิวเดินเข้าไปทรุดนั่งด้านหน้าของมาดามจูเลีย เขานั่งบนส้นเท้า ยกมือผอมบางของท่านมาแนบใบหน้า “ผมไม่คิดว่ามันจะบานปลายขนาดนี้ ผมคิดว่าตัวเองจัดการได้ครับ...คุณย่า” เสียงพูดสลดแบบคนสำนึกผิด
ผู้สูงวัยถอนใจยาวเหยียด...นางมองศีรษะทุยที่ก้มต่ำของแมทธิวด้วยความรักทั้งหมดที่มี
“ย่าจะไม่ว่าเรานะแมท...แต่ย่าอยากรู้...เราจะทำยังไงต่อกับ ‘เด็กคนนั้น’ ?”
เสียงของมาดามจูเลียฟังดูอ่อนล้าเต็มทน...หากถามตัวนางเองเวลานี้ นางก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน...ว่าจะจัดการอย่างไรกับ ‘ส่วนเกิน’ มีชีวิตอย่างแองเจลิน่า...
แมทธิวอึ้ง!! อย่าว่าแต่มาดามจูเลียเลย ในเวลานี้แมทธิวก็ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ...เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจัดการกับ ‘ลูก’ ที่ตัวเองยังไม่ยอมรับ...อย่างไรดี
“ผม...” ชายหนุ่มจึงเอ่ยออกไปแบบกระอึกกระอัก
“ไม่ต้องตอบย่าหรอกแมท...ย่าพอจะรู้คำตอบของเราแล้ว” นางถอนใจแรงๆ จะให้เสือกไสไล่ส่ง...มันก็กะไรอยู่ “ขอบอกไว้ก่อนนะแมท แค่ ‘เด็ก’ เท่านั้นนะที่ย่ารับ แต่แม่คนกำพืดต่ำนั่น ย่ารับไม่ลง!! ”
มาดามกล่าวเสียงเคร่ง...มันปัดความจริงไม่ได้เมื่อมีหลักฐานยืนยันฐานะทายาทดีแลนอยู่ทนโท่!! เพราะหากเฉดหัวส่ง...เด็กนั่น...ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าแมทธิวจะสามารถมีบุตรได้อีก เมื่อมันเหมือนอาถรรพ์ที่อยู่กับตระกูลของนางมาหลายชั่วอายุคน...ทายาทของดีแลน มีแค่หนึ่งเดียว
“ครับ...”
ชายหนุ่มตอบรับเสียงขึงขัง...เขาก็ไม่เคยคิดจะรับทิพยอาภาไว้ หล่อนเป็นได้แค่ ‘แม่’ ของแองเจลิน่า ไม่มีวันได้เป็นอย่างอื่นในชีวิตตนเอง
“เด็กนั่น...ชื่อแซ่อะไรล่ะ?”
เสียงมาดามจูเลียถาม แมทธิวจึงพยายามลืมเรื่องของทิพยอาภา
“หล่อนตั้งไว้ว่า ‘แองเจลิน่า’ ครับ”
แมทธิวตอบแบบสำรวม
“อืม...แมทแกเห็น ‘นั่น’ แล้วใช่ไหม?” มาดามถามต่อ บนตัวนางมีปานหยดน้ำที่หัวไหล่ อาเธอร์มีที่ท้องแขน ส่วนแมททิวมีที่แก้มก้น ทายาททุกคนของ ‘ดีแลน’ จะมีปานเป็นสัญญาลักษณ์ รวมถึง เหลนคนใหม่ของนางด้วย ปานหยดน้ำที่ต้นขาของแองเจลิน่า ทำให้นางพูดไม่ออก
แมทธิวหน้าซีด...เพราะต่อให้แองเจลิน่าไม่มีสัญญาลักษณ์นั่น!! เขาก็แน่ใจว่า เด็กน้อยเป็นสายเลือดของตัวเอง....เพราะเขาเป็นผู้ชายคนแรกของทิพยอาภา และหล่อนไม่เคยมีใครต่อจากเขาเลย...
“หล่อนว่ายังไงล่ะ หล่อนจะเอาเท่าไรสำหรับการ ‘ขาย’ ลูกของหล่อนให้เรา”
เสียงเข้มๆ แต่แล้งน้ำใจสิ้นดี ถามต่อ
“ผมกำลังตามหาหล่อนอยู่ครับคุณย่า”
แมทธิวตอบเสียงล้า...เขาคว้าได้แค่เงาของทิพยอาภา หล่อนหายไปเหมือนหมอกควัน
“หมายความว่าไง...”
“ผมกำลังจะเสนอให้หล่อน...แต่หล่อนหายไปเสียก่อน...”