หญิงสาวเงยหน้ามอง “ข้าวต้มใส่แครอทกับตับและฟักทองจ้ะ สวีตตี้” เธอตอบพร้อมกับยิ้มน้อย
“น่ากินเนอะ!! ” สาวอวบมองสิ่งที่เพื่อนร่วมงานทำตามันวับ “ฉันไปเฝ้าคุณหนูดีกว่า...ว่าแต่...รู้ยังมาดามกลับมาแล้ว!! ” สวีตตี้ลดเสียงลง เมื่อพูดถึงประมุขเฒ่า
ทิพยอาภาพยักใบหน้าหงึกหงัก
“เห้อ!! ไม่รู้ว่าคุณหนูจะโดนหางเลขบ้างหรือเปล่า ข่าวว่ากำลังฉุนจัดจากข่าวคุณแมทธิว”
สาวใช้ตัวอวบบ่น เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ในเวลานี้ ทุกคนในบ้านต้องพูดถึง หลังจากเห็นข่าวเจ้านายหนุ่มขึ้นหราที่หน้าหนึ่งของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่
ทิพยอาภากะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอยังไม่รู้ข่าวนั้น เมื่อเวลานี้สิ่งที่หญิงสาวสนใจ คือเรื่องของบุตรสาวเท่านั้น
“ฉันไปล่ะ ทำเผื่อด้วยนะ”
แม้จะเป็นอาหารเด็กอ่อน แต่ครั้งที่แล้วที่ได้ชิมรสมือของอริส...สวีตตี้คิดว่าเมนูวันนี้คงทำให้ตัวเองอิ่มท้องอีกครั้ง
หญิงสาวปรุงต่อ มีแม่ครัวรูปร่างอวบชะโงกหน้ามามองพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร
กลิ่นหอมฟุ้งของข้าวต้มผสมผักสีสันชวนชิมและรสชาติคงดีไม่น้อย
ทิพยอาภาตักอาหารที่ปรุงสุกใหม่ใส่ลงในโถปั่น และเมื่อปั่นจะเนื้อละเอียดดีจึงเทใส่ถ้วยใบเล็ก กะปริมาณที่บุตรสาวกินจนอิ่ม แล้วจึงถือถ้วยนั้นกลับมายังห้องนอนแองเจลิน่า...
ทิพยอาภาเดินเอื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อน เธอกลัวจะเกิดเหตุวุ่นวายเหมือนเมื่อวันก่อน จึงระวังตัวตอนที่จะเลี้ยวผ่านมุมตึก ไม่มีเหตุการณ์น่าวิตก เธอเดินผ่านมุมตึกมาแบบโปร่งสบาย รอยยิ้มนิดๆ แต้มมุมปากอิ่ม นึกถึงคำเตือนของไทรีสแล้วอดขำไม่ได้
‘ฉันสั่งห้ามแกเด็ดขาดนะทิพ...ถ้าเจอแมทธิว สิ่งที่แกควรทำคือก้มหน้า!! เพราะหากแกมองสบตาเขา ไอ้หมอนั่นจับผิดแกได้แน่!!’
หญิงสาวเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน เธอจึงระวังตัวอย่างดี...
เรียวคิ้วขมวดแน่น เธอสาวเท้าให้เร็วขึ้น เมื่อตรงบริเวณห้องนอนของแองเจลิน่า มีกลุ่มคนหน้าแปลกๆ ที่เธอไม่เคยเห็นยืนขวางอยู่หน้าประตูเต็มไปหมด
“พวกคุณเป็นใครคะ? มาทำอะไรที่นี่”
หญิงสาวยิงคำถาม เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายแปลกหน้าแบบไม่นึกกริ่งเกรง
การ์ดหน้าดุก้มลงมองผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้า ดวงตาหลังแว่นตาขุ่นขวางและพร้อมที่จะมีเรื่องหากเขาพูดอะไรผิดหู
“เธอล่ะเป็นใคร?”
ชายคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบ มีเสียงเย็นเยียบเอ่ยถามจากทางด้านหลังเธอ พร้อมกับการปรากฏตัวของมาดามจูเลีย!!
ทิพยอาภามือสั่น มือที่จับถ้วยข้าวสั่นระริก เธอหมุนตัวช้าๆ หันไปเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจสูงสุดของ ‘ดีแลน’
ประมุขเฒ่ามองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเหยียดๆ มุมปากที่มีรอยจีบเพราะกาลเวลายกยิ้มสมเพช...
‘สาวใช้’
“ดิฉันเป็นพี่เลี้ยงคุณหนูค่ะ” หญิงสาวกลั้นใจตอบ เธอก้มหน้าลง หลบสายตาและกำลังปรับความรู้สึกตื่นกลัว
“ออ...คนของลูกสะใภ้ฉัน...หลบไปสิ ฉันจะเข้าไปดู ‘เด็กนั่น’ !! ”
มาดามครางรับ นางโบกมือไล่ เชิดหน้าขึ้น พร้อมกับเดินเฉียดหน้าทิพยอาภาไป
หญิงสาวถลาตามติด เธอกลัวความอำมหิตของคนในตระกูลนี้ โดยเฉพาะ มาดามจูเลีย...
“คุณหนูหลับค่ะ”
หญิงสาวกล่าวแทรก เธอเดินเลี่ยงไปวางถ้วยข้าวก่อนที่มันจะหลุดร่วงไปจากมือ...
“ฉันมีตาย่ะ ฉันมองเห็น เด็กนั่นหลับแล้วยังไงล่ะ? ฉันจะดู หรือเธอจะห้ามฉันล่ะ”
นางหันมาตวาดพี่เลี้ยงเด็กที่ออกจะจุ้นจ้านเกินไปหน่อย หล่อนไม่รู้หรือไงว่านางเป็นใคร
สวีตตี้หมอบลงกับพื้น มีเพียงทิพยอาภาคนเดียวที่ยืนต่อตากับมาดามจูเลีย
“ดิฉันไม่กล้าห้ามคุณท่านหรอกค่ะ แต่คุณหนูกำลังหลับ หากกวนตอนนี้ ตื่นขึ้นมาจะโยเย”
เธอตอบกลับแบบสั่นๆ ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะเกรงจะเผยพิรุธให้อีกฝ่ายรู้
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะยะ...ฉันรู้แล้วกัน...”
เด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำที่เห็นนอนนิ่งบนเตียง ทำให้ความโกรธที่กระพือเหมือนไฟลามทุ่งลดลง...มาดามจูเลียก็เหมือนคนแก่ๆ ทั่วไป นางปรารถนาจะได้อุ้มชูทายาท...และที่สำคัญนางอยู่ยืนยาวจนมีโอกาสได้อุ้ม ‘เหลน’ มันไม่ใช่ใครก็ทำได้ ถึงที่มาที่ไปของเด็กจะยังไม่แจ่มชัด แต่เท่าที่ฟังมา...ค่อนไปทางชัดเจน นางอยากเห็น ‘ปานรูปหยดน้ำ’ ด้วยตาตัวเอง
“หลบไป!! ”
นางตวาด เดินผ่านหน้าทิพยอาภาไป หญิงสาวรีบถลาวิ่งตาม แม้จะกลัว แต่ห่วงลูกมากกว่า
มาดามจูเลียแสยะยิ้มเย็นชา นางใช้ปลายนิ้วเขี่ยผ้าห่มที่คลุมช่วงขาของเด็กน้อยออก ดวงตาฝ้าฟางตามกาลเวลาเบิกโพลง นางจ้อง ‘ปาน’ สีเนื้ออมชมพูด้วยความตื่นตกใจ!!
หญิงสาวขมวดคิ้วจนหน้าย่น เธอตามติดมาก็จริงแต่ก็ไม่กล้าทักท้วง ได้แต่ยืนละล้าละลังอยู่ด้านหลัง จนกระทั่งร่างอวบท้วมของมาดามจูเลียทำท่าจะล้มพับ...จึงรีบกระโจนเข้าไปรับไว้ทันท่วงที
“เอ็ดมันด์!! ”
มาดามผู้เฒ่าร้องเรียกการ์ดคู่ใจ นางสูดลมหายใจลึกๆ ดวงตาฝ้าฟางเออคลอไปด้วยน้ำใสๆ หัวใจเต้นระรัวเหมือนจะเป็นลม
เอ็ดมันด์วิ่งเข้ามาด้านใน การ์ดหนุ่มใหญ่ฉวยเก้าอี้ติดมือมาด้วย เขาประคองร่างอ่อนยวบของนายสาวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นพร้อมกับส่งยาดมหลอดใหญ่ให้มาดามจูเลีย
“ไม่จริงๆ”
เสียงสั่นพร่ากับใบหน้าที่ส่ายไปมา...ทิพยอาภามองแบบไม่ใคร่เข้าใจ เธอเดินไปฉวยผ้าห่มตัวให้บุตรสาวเหมือนเดิม...ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งใกล้ๆ สวีตตี้เมื่อมาดามจูเลียยังปักหลักไม่ไปไหน
“แมทธิว...” นางครางเสียงระโหย ครั้งแรกนางคิดว่าเป็นการแอบอ้าง...เมื่อตลอดระยะเวลาที่หลานชายมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง แมทธิวไม่เคยพลาด...นางไม่เคยเห็นข่าวเรื่อง ‘ลูกนอกสมรส’ ของหลานชายมาก่อน แต่ที่เห็นเต็มตานี่...ปานอันเป็นสัญญาลักษณ์ของ ‘ดีแลน’ มีบนตัวเด็กน้อยนั่น...เหลนของเธอ...
“กลับห้องไหมครับคุณท่าน”
เอ็ดมันด์ถาม เขาบีบนวดเนื้อตัวมาดามจูเลียเพื่อให้นางดีขึ้น
“ไม่...เอ็ดมันด์ ฉันๆ”
เสียงตอบกลับอ่อนแรงก็จริง แต่ยังแฝงความทะนงไว้...นางสูดลมหายใจลึกๆ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ พยายามควบคุมลมหายใจจนอาการวิงเวียนเริ่มดีขึ้น
“ขอฉันไปดู ‘เด็กนั่น’ อีกที”
นางลืมตาขึ้น บอกการ์ดหนุ่มใหญ่ด้วยเสียงที่หนักแน่นขึ้น
เอ็ดมันด์ประคองประมุขเฒ่าของดีแลนไปที่เตียงนอนอีกครั้ง...ทิพยอาภาขยับตัว เธอคลานเข้าไปใกล้ๆ หากมาดามจะทำอันตรายแองเจลิน่าเธอจะได้ขวางไว้ทัน
ปลายนิ้วสั่นๆ ยื่นแตะผิวเนื้อนุ่มนิ่มของเหลน...นางมองพินิจใบหน้าเล็กๆ นั่น ก่อนจะเผลอตัวยิ้มตาม เมื่อเด็กน้อยกำลังฝันหวาน จนเผลอยิ้มออกมา มาดามจูเลียส่ายใบหน้า ในนาทีนี้นางปฏิเสธไม่ลงแล้วว่าที่นอนอยู่นี่ไม่ใช่สายเลือดของแมทธิว
“ฉันจะทำยังไงดี?” เป็นคำถามที่มาดามผู้เฒ่าไม่ได้ต้องการคำตอบ นางแค่ระบายความสับสนของตัวเอง
“พาฉันกลับเถอะเอ็ดมันด์...ฉันมีเรื่องต้องคิด...” มาดามจูเลียยอมถอย นางคงต้องไปหาวิธีตั้งรับ นาทีนี้นางอยากเจอแมทธิวที่สุด นางเองก็อยากรู้ว่าหลานชายจะจัดการปัญหานี่แบบไหน
ทิพยอาภาถอนใจยาวเหยียด เมื่อกลุ่มคนถอยกลับไปจนหมด...
“แปลก!! ” เสียงเพื่อนร่วมงานเปรย “ไม่อาละวาด ไม่โวย...บ๊ะ!! แบบนี้คุณหนูของเรารอดชัวร์อริส”
สวีตตี้วิเคราะห์จากที่มองเห็น มาดามจูเลียถอยกลับแบบเสียรูปกระบวน นางถูกหิ้วปีกกลับ ทำท่าทางเหมือนคนกำลังตรองไม่ตก...
แคลิฟอร์เนีย...อเมริกา...
ไทรีสเหยียดยิ้ม เขาเบิกตาโต แสร้งทำท่าตื่นเต้น ทั้งที่ในใจหัวเราะร่า...เมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ คือคนของแมทธิว...เขาคนนี้...มาเพื่อตามหาทิพยอาภา...
“ไม่ทราบว่าคุณพอจะให้ข่าวคุณทิพยอาภาเพื่อนของคุณ กับทางเราได้บ้างไหมครับ”
จาคอปพยายามพูดแบบสุภาพที่สุด เมื่อเขารู้สึกเอง...ผู้ชายตรงหน้าตั้งใจยวน
“ไม่ทราบว่าคุณอยากรู้ข่าวแบบไหนล่ะฮ้า!! ฉันตอบไม่ถูกหรอก...เมื่อเพื่อนของฉันนะมีเรื่องให้ฉันต้องปวดหัวเยอะแยะไปหมด” ชายหนุ่มตอบเสียงกลั้วหัวเราะ กรีดนิ้วจับหูแก้วกาแฟ และยกขึ้นจิบด้วยมาดนางพญา!!