บทที่ 7 วันเดียวกัน

1429 Words
แบงค์ยิ้มน้อยๆ “ฉันไปพบป๊ากับม๊าลิลี่มาแล้ว แกสบายใจได้” ผักกาดหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา เธอยิ้มด้วยความยินดีกับเพื่อนรัก “แกทำหน้าแบบนี้แสดงว่าบ้านลิลี่ยินดีรับแกเป็นเขย” “ทีแรกก็ไม่อยากยอมรับหรอก แต่พอรู้ว่าบ้านฉันเป็นค่ายมวย ป๊าก็ชอบใจ ฉันก็เพิ่งรู้ว่าป๊าลิลี่ชอบดูมวย สุดท้ายเขาบอกว่าเขาทำใจแล้ว ขอแค่ฉันดูแลลูกสาวเขาให้ดีก็พอ” ผักกาดคว้ามือของคนทั้งสองมากุมรวมกันไว้ “ดีใจด้วยนะ” “เออ เรื่องฉันกับลิลี่ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ว่าแต่แกเถอะในเมื่อคิดจะเก็บเด็กเอาไว้ก็ทำใจให้เข้มแข็งล่ะกัน พวกฉันสองคนช่วยแกเต็มที่” “อืม” ผักกาดพยักหน้า “แล้วนี่แกคิดจะบอกแม่เมื่อไหร่?” “เอาไว้ให้คลอดก่อน ถ้าได้เห็นหน้าหลาน แม่ฉันก็คงใจอ่อนล่ะ แต่จะบอกความจริงกับแม่ฉันไม่ได้ เราต้องโกหกเรื่องพ่อของเด็ก” ลิลี่ยิ้มน้อยๆ “เอาแบบนี้ดีไหมคะ? พี่ผักก็บอกทุกคนว่ามีแฟนตอนใกล้จะเรียนจบแต่ผู้ชายถูกทางบ้านบังคับให้ไปเรียนต่อเมืองนอกก็เลยเลิกกัน แล้วพี่ผักมารู้ทีหลังว่าตัวเองท้อง” ผักกาดพยักหน้า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เวลาคนอื่นถามก็ตอบตามนี้ พี่ไม่อยากให้แม่พี่คิดมาก ถ้าแม่รู้ว่าเกิดเรื่องร้ายแบบนั้น แม่พี่คงรับไม่ได้” “ตกลง เราสามคนพูดให้ตรงกันก็พอ” แบงค์ยิ้มน้อยๆ พร้อมยกมือขึ้นลูบต้นแขนผักกาด “แกทำใจให้สบายนะ สภาพจิตใจของแกส่งผลต่อเด็กในท้อง” “ลี่เคยได้ยินว่าถ้าเรามองภาพผู้ชายหน้าตาดีบ่อยๆ ลูกของเราก็จะหน้าตาดีด้วย ถ้างั้นเรามาเลือกรูปพ่อให้ลูกพี่ผักกันก่อนเถอะค่ะ” ลิลี่รีบเปิดรูปดาราในโทรศัพท์มือถือยื่นให้ผักกาด “คนไหนดีคะพี่ผัก?” “ลิลี่ พี่ว่าเราเลือกเอาดาราจีนที่ไม่ค่อยดังแต่หล่อๆ หน่อยดีไหม? เผื่อว่าวันหน้าบอกเขาเป็นพ่อ คนจะได้ไม่ทัก” ผักกาดยิ้มน้อยๆ หน้าตาของธนาก็หล่อเหลาพอๆ กับดาราหนุ่มที่ลิลี่เปิดภาพให้เธอดู หากว่าลูกของเธอได้พ่อต้องน่ารักมากเลยทีเดียว พอใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ ผักกาดก็พลันชะงัก “พี่ผักชอบคนนี้เหรอคะ? หล่อดีเหมือนกันนะ เพิ่งเล่นเป็นตัวประกอบไม่กี่เรื่อง ซีรีย์เรื่องนี้ลี่เคยดู” “อืม...คนนี้ล่ะ” ผักกาดตกใจแต่ก็รีบพยักหน้า ดาราชายในรูปละม้ายกับธนาพอสมควร เก้าเดือนผ่านไป.... ผักกาดนอนหลับใหลอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลรัฐ ในห้วงฝันปรากฎควันขาวฟุ้ง มีมือของผู้ชายยื่นออกมาหา มือข้างนั้นมีเลือดอาบจนชวนหวาดหวั่น หญิงสาวตกใจจนถอยหนีแต่กลับได้ยินเสียงเรียก “กชอร ช่วยฉันด้วย....” พลันใบหน้าของธนาก็โผล่ออกมา ใบหน้าเสี้ยวข้างของเขาที่เธอเคยเห็นบนเตียง มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณขมับลงมาอาบใบหน้าดูน่ากลัว เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาสวมเป็นตัวเดียวกับที่เขาโยนไว้ข้างเตียงในคืนนั้น ซีกหนึ่งของมันมีเลือดเปรอะเต็มไปหมด “คุณ...คุณเป็นอะไร?” เธอถามด้วยเสียงแหบโหย “ช่วยด้วย....” ร่างของเขาล้มฟุบลงไป “คุณ....” เธอร้องถามคิดจะเดินเข้าไปดู รถยนต์แบรนด์ยุโรปสีดำมันปลาบวิ่งมาด้วยความเร็วไม่มากนักกำลังจะผ่านสี่แยกหลังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐในตอนเที่ยงคืน ธนานั่งพิงพนักด้านหลังแหงนหน้าขึ้นเพื่อผ่อนคลายความปวดเมื่อย หลังจากเริ่มทดลองเปิดร้านกาแฟคั่วบดร้านแรก เขาก็ต้องออกมาดูงานด้วยตนเองอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งมักจะออกมาพร้อมกับณัฐวุฒิแต่วันนี้ณัฐวุฒิขอตัวกลับก่อน ส่วนเขาต้องเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในวงธุรกิจ การคุยกันเลยเถิดจนมาถึงเวลานี้ “สายนี้ เราไม่เคยผ่านมาเลยนะ ใช่ไหม?” “ครับ คนขับรถของคุณสายน้ำบอกว่าเป็นทางลัดครับ ผมเห็นว่าดึกแล้วก็เลยลองมาเส้นทางนี้ดู” สายน้ำที่คนขับรถของเขาเอ่ยถึงก็คือญาติของน้ำเพชร ตระกูลของน้ำเพชรเข้ามาถือหุ้นในบริษัทเครื่องดื่มของตระกูลศราวุฒิกุลก่อนที่น้ำเพชรจะแต่งงานกับบิดาของธนาหลายปี สายน้ำมักจะเป็นตัวแทนในการประชุมผู้ถือหุ้นอยู่เสมอ “อ้อ” ธนาผงกศีรษะขึ้นมอง เส้นทางนี้ดูแล้วน่าจะเพิ่งถูกปรับปรุงใหม่ ด้านซ้ายเป็นคลองขนาดกลาง ส่วนด้านขวาเป็นรั้วสูงสีขาวของโรงพยาบาล สองข้างทางมีแสงไฟส่องสว่าง ขณะกำลังจะผ่านสี่แยก เขามองเห็นรถบรรทุกกำลังลงจากสะพานด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มรีบตะโกนบอกคนขับรถ “พันธ์ ระวังสิบล้อ!” พันธ์หันหน้าไปมองด้านข้าง รถบรรทุกคันนั้นวิ่งตรงเข้ามาที่รถของเขาอย่างรวดเร็วโดยฝ่าไฟแดง โครม! เสียงชนดังสนั่นหวั่นไหว รถสิบล้อคันนั้นวิ่งชนเข้าด้านท้ายรถของธนาอย่างจัง รถสีดำครูดไปตามพื้นตามแรงกระแทกของรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่กว่า กระทั่งไปอัดกระแทกกับกำแพงโรงพยาบาล ญาติผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บนตึกในโรงพยาบาลได้ยินเสียงดังลั่น รถกู้ภัยและรถพยาบาลวิ่งไปคู่กันถึงสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ทว่าสภาพการชนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องร้องเตือนกันให้ระวัง “อย่าเพิ่งเข้าใกล้ครับ อันตราย! ถอยออกไปก่อน”​ คนขับรถบรรทุกบาดเจ็บเล็กน้อย คนขับรถของธนาถูกหามขึ้นเปล แต่คนที่นั่งอยู่เบาะท้ายรถอย่างธนาถูกหน้ารถบรรทุกอัดเข้ากับกำแพง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าตัวถังรถไม่มีน้ำมันรั่วไหล พวกเขาร้องเรียกกันให้นำเครื่องมือตัดถ่างมาช่วยงัดร่างที่ไร้สติของชายหนุ่มออกจากเบาะท้าย เลือดที่ขมับของเขาออกจนเปรอะหน้าไปซีกหนึ่ง ที่แขนก็มีเลือดไหลเลอะเสื้อเชิ้ตสีขาวจนชุ่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้มือคลำชีพจรที่คอของธนา “ยังอยู่ แค่สลบ เร็วเข้า!” เสียงโหวกเหวกของเจ้าหน้าที่กับเสียงไซเรนบนรถพยาบาลที่พาคนเจ็บไปรักษา รวมทั้งเสียงประกาศจากรถตำรวจที่เข้ามาบันทึกภาพและตรวจสถานที่เกิดเหตุทำให้แบงค์ออกไปยืนมองที่ระเบียงด้วยความสนใจ “โห! อัดใส่กำแพงแบบนั้น คนในรถไม่ตายไปแล้วเหรอ?” ลิลี่ทำหน้าสยดสยอง “ถ้านั่งข้างหลังคงรอดยากแล้วล่ะ” “รถพยาบาลวิ่งอ้อมไปโน้นสองคันแล้ว กู้ภัยยังงัดรถอยู่เลย สงสัยจะมีคนติดอยู่เบาะท้ายจริงๆ” ไม่นานนักร่างของผู้เคราะห์ร้ายคนสุดท้ายก็ถูกหามออกมาใส่เปลแล้วนำขึ้นรถพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกอยู่จนกระทั่งมีรถมาลากเอารถทั้งสองคันกลับไปยังสถานที่ตำรวจเจ้าของท้องที่ ลิลี่กลับเข้าไปนั่งเฝ้าข้างเตียงมองดูผักกาดที่นอนหลับใหล แบงค์ดูจนจบก็เดินเข้ามานั่งใกล้ๆ แฟนสาว “ลี่ไปดูเจ้าตัวเล็กอีกรอบหรือยัง?” แบงค์นั่งอมยิ้มเมื่อนึกถึงเจ้าตัวเล็กที่ยังอยู่ในห้องทารกแรกเกิด “พี่แบงค์ พวกเราเพิ่งดูเมื่อชั่วโมงก่อนเองนะ นี่เห่อหนักไปไหม?” “ก็เห่อน่ะสิ หน้าตาหล่อคม คิ้วสวย จมูกโด่ง เหมือนพี่เลยว่าไหม?” ลิลี่หัวเราะเบาๆ “อืม...หล่อเหมือนพ่อแบงค์เลยเนาะ” “พรุ่งนี้เช้าพี่จะรีบไปแจ้งเกิดเลย ดีนะที่เราย้ายทะเบียนบ้านมารวมกันแล้ว ต่อไปพวกเราสี่คนพ่อแม่ลูกก็จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์” “ใช่ๆ ตื่นเต้นจังเลย พี่แบงค์ว่าของใช้เด็กอ่อนที่เราซื้อไว้พอหรือยังคะ? ลิลี่อยากไปเลือกซื้อเพิ่ม” “ล่ะก็ว่าพี่เห่อ ดูเธอเถอะ กดสั่งออนไลน์จนของใช้กับของเล่นลูกเต็มห้องแล้ว ใช้ไปก่อน ถ้าไม่พอเราค่อยสั่งเพิ่ม” “พี่แบงค์เราไม่แจ้งชื่อพ่อเด็ก ไม่เป็นปัญหาใช่ไหม?” **********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD