เป็นเอกชนแก้วกับเพื่อนฝูงและน้องๆ ที่ทยอยกันเข้ามาในปาร์ตี้ไม่ขาดสาย ในเมื่อเงินและบารมีของครอบครัวชายหนุ่มแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา งานสังสรรค์นี้จึงเต็มไปด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย
“เฮียเอก วันนี้มีดารามาด้วยนะ เฮียสนใจไหมครับ? วนิษาเป็นเด็กของเฮียวัน วันนี้เธอพาเพียงขวัญมาด้วย” เทวาบุ้ยบ้ายไปทางดาราดาวรุ่งหญิงสองคนที่แต่งกายด้วยชุดราตรีสั้นแหวกข้างขึ้นมาเกือบสุดต้นขา
ชายหนุ่มที่นั่งโซฟารอบๆ มองตามไป เป็นเอกส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิด เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนในสื่อเพราะกลัวว่าจะตกเป็นเหยื่อ
“ไม่ดีกว่า พี่ไม่ชอบให้คนมาวุ่นวาย”
เนติยิ้มน้อยๆ หันไปอธิบายกับเพื่อนเพิ่มเติม “ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจะกลายเป็นเหยื่อของพวกสื่อไปเปล่าๆ พวกเราไม่อยากยุ่งกับคนนอก”
เทวาชะงัก เขาลืมประเด็นนี้ไปเสียสนิท
“อืม...ก็จริงครับ เกิดวันหน้าแฉเราขึ้นมา เสียชื่อกันแย่”
หญิงสาวที่เคยแวะเวียนเกี่ยวพันกับเป็นเอกและเนติเดินโฉบเข้ามาทักทาย เรื่องของดาราสาวทั้งสองจึงถูกปัดตกไป
ชายหนุ่มโต๊ะอื่นๆ รายรอบต่างให้ความสนใจกับเพียงขวัญดาราสาวคนสวยที่เพิ่งจะโด่งดังจากซีรีย์วัยรุ่น เธอนับเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงที่ได้รับการจับตามอง เสี่ยหนุ่มทั้งหลายล้วนใคร่จะได้ลิ้มลองดาราสาวคนงามสักครั้ง พวกเขาจึงได้ถือแก้วไวน์แวะเวียนมานั่งทักทายปราศรัยกับดาราสาวทั้งสอง
“น้องขวัญสวยจังครับ พี่เคยเห็นแต่ในคลิป ไม่คิดว่าตัวจริงจะสวยน่ารักขนาดนี้”
เพียงขวัญยิ้มแย้มตอบคำถามชายหนุ่มที่มารุมล้อมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่กลับคอยชำเลืองลอบมองเป็นเอกกับเนติที่อยู่โต๊ะเยื้องไปด้านหน้า ในหัวของเธอคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองได้เข้าไปนั่งในโต๊ะของเป็นเอกได้อย่างแนบเนียน
ผ่านไปเกือบชั่วโมง ข้างกายของเป็นเอกมีหญิงสาวสวยมานั่งอยู่ข้างๆ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ชายหนุ่มที่มาเกาะแกะเพียงขวัญเห็นสายตาของดาราสาวมองไปโต๊ะเยื้องกันบ่อยครั้งก็พอจะรู้ว่าเธอกำลังมีเป้าหมาย
“เราไปทางโน้นด้วยกันดีไหมครับ? พี่จะพาไปทักทายคนสำคัญในงานนี้สักหน่อย”
“ไปได้เหรอคะ? ดูเหมือนจะมีแต่คนสำคัญๆ ขวัญกลัวว่าจะเป็นการรบกวนซะมากกว่า” หญิงสาวแอบกระหยิ่มในใจ แต่ยังแสร้งตอบอย่างมีมารยาท
“ไปเถอะครับ พี่สนิทกับพวกเฮียๆ ไม่เป็นไรหรอก”
เพียงขวัญรีบลุกอย่างไม่อิดออด โอกาสเช่นนี้คงหาอีกไม่ได้ เธอเดินตามชายหนุ่มผู้นั้นจนถึงโต๊ะที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“เฮียเอกครับ ผมพาน้องเพียงขวัญมาแนะนำให้รู้จัก”
“อืม...นั่งก่อนสิ”
เทวาในฐานะเจ้าภาพรีบขยับไปชิดกับเนติเพื่อให้ผู้มาใหม่ทั้งสองได้มีที่นั่ง คนทั้งโต๊ะยิ้มและทักทายตามมารยาท เพียงขวัญรู้สึกเหมือนอย่างที่วนิษาบอก ดูเหมือนเธอจะเป็นส่วนเกินของคนในโต๊ะนี้
การแนะนำตัวเป็นไปอย่างผิวเผิน สายตาของคนในโต๊ะไม่ได้ชื่นชมยินดีในตัวเพียงขวัญอย่างที่เธอเคยเห็นจากคนทั่วไป หญิงสาวรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มชาเพราะหลังจากพวกเขาทักทายเธอพอเป็นพิธีแล้วก็หันกลับไปคุยกันเช่นเดิม
“เฮียเอกคะ วันนี้ไม่กลับใช่ไหมคะ?” หญิงสาวในชุดแบรนด์เนมหรูหันหน้าไปฉอเลาะ
เป็นเอกยิ้มน้อยๆ แขนของเขาโอบคนพูดเอาไว้ ยื่นหน้าไปกระซิบตอบ “ขึ้นอยู่กับน้องมิ้งค์แล้วล่ะครับ”
เพียงขวัญเห็นอาการของคนทั้งสองก็รู้สึกขัดเคืองแต่เธอยังแสร้งยิ้มแย้มแจ่มใสไปกับผู้ชายที่นั่งข้างๆ
“พี่นัท มาหลบอยู่โต๊ะเฮียเอกนี่เอง ผมกำลังตามหาพี่อยู่พอดี ครั้งก่อนเรื่องเรือเรายังพูดกันไม่จบเลยนะครับ”
“ขอโทษนะ พี่รีบไปหน่อย มาๆ ไหนๆ ก็เจอกันแล้วไปคุยให้จบดีกว่า”
“เฮียเอกครับ ผมรบกวนฝากน้องขวัญไว้แป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวผมไปคุยธระแล้วจะกลับมารับ” เสี่ยนัทพูดเช่นนี้ก็เหมือนกับการตีตราจองแล้วว่าคืนนี้เขาจะต้องหาทางตะล่อมให้เพียงขวัญยอมขึ้นห้องกับเขาให้ได้
ผู้ชายในโต๊ะยิ้มรับ นัยในคำพูดเป็นที่รู้กัน
“ไปเถอะๆ ฝากโต๊ะนี้คนไม่หายหรอกน่า” เนติกระเซ้าหนุ่มรุ่นน้อง
“ฝากน้องด้วยนะครับเฮีย”
เสี่ยนัทไปนานเกือบค่อนชั่วโมง ไม่นานนักเทวาก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งจูงออกไปทางประตู ส่วนเนติก็คลอเคลียคู่ขาเก่าออกไปจากโต๊ะ เหลือเพียงเป็นเอกที่ยังนั่งดื่มอยู่ที่โซฟา ส่วนหญิงสาวที่คลอเคลียอยู่เมื่อครู่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
แม้จะเหลือกันเพียงสองคนแต่เป็นเอกกลับไม่พูดไม่จากับเพียงขวัญแม้สักคำ หญิงสาวนึกเคืองเขาอยู่ในใจ เธอนึกถึงสิ่งที่เตรียมมาด้วยแล้วอดยิ้มมุมปากไม่ได้
“เฮียเอก มิ้งค์มาแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มประจบ สัญชาตญาณของผู้หญิงทำให้เธออดจะระแวงดาราสาวคนสวยไม่ได้
“รอเฮียแป๊บนะ เฮียไปเข้าห้องน้ำก่อน”
มิ้งค์รู้สึกผิดหวัง เธอคิดว่ากลับมาแล้วเฮียเอกจะรีบพาเธอไปขึ้นห้อง เป็นเอกเหลือบไปเห็นทายาทสนามกอล์ฟเพิ่งเข้ามาในปาร์ตี้จึงคิดจะเข้าไปสอบถามเรื่องลงทุนร่วมสักหน่อย
“ค่ะ”
เธอหน้าตึงนั่งลงที่โซฟา ก่อนจะเหลือบมองเพียงขวัญเล็กน้อย ฐานะครอบครัวของมิ้งค์ก็นับได้ว่าร่ำรวยไม่น้อย เธอเคยอ่านข่าวซุบซิบที่พูดถึงครอบครัวของเพียงขวัญว่าเป็นเพียงสาวต่างจังหวัดที่เดินสายประกวดตามเวทีเล็กๆ จากนั้นก็มาทำงานเป็นพริตตี้ก่อนจะมีโชคได้เป็นดาราโดยบังเอิญ
“มิ้งค์ไปดูกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่สิ น้องชีสเพิ่งซื้อมา”
คนถูกเรียกทำตาโต “ใบละล้านนั่นน่ะเหรอ?”
“เออนั่นล่ะ เร็วเข้า”
มิ้งค์รีบลุกตามคนมาเรียกไปที่โต๊ะห่างออกไป เธอไม่สนใจหันมาบอกกล่าวใดๆ กับเพียงขวัญ
‘ชิ! ก็แค่กระเป๋าใบละล้าน คอยดูเถอะต่อไปฉันจะซื้อใบแพงกว่านี้ให้ดู’
เมื่อไม่มีใครอยู่ที่โต๊ะ เพียงขวัญรีบหยิบขวดแก้วใบน้อยในกระเป๋าสะพายเล็กๆ ของเธอออกมา เคาะผงสีขาวลงไปในแก้วไวน์ของเป็นเอกที่วางไว้ เธอก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเอกกลับมาแล้วจะดื่มต่อไหม? แต่...นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้วางยาทายาทมหาเศรษฐี
ระหว่างที่รอ เพียงขวัญก็คิดหาวิธีที่จะกีดกันมิ้งค์ออกไปจากเป็นเอก เธอเห็นเสี่ยนัทที่คุยเสร็จกำลังจะเดินกลับมา จึงแสร้งก้มหน้าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา
“น้องขวัญเป็นอะไรครับ?”
************************