เนติรีบรับคำ คุณหมอบอกให้ทั้งสองออกไปจ่ายเงินและรอรับยาที่ด้านนอก ชายหนุ่มเข็นรถให้แจ่มใสออกมารอที่หน้าห้องยา หญิงสาวรู้สึกเกรงใจที่ทำให้เขาต้องเสียเงิน
“พี่ไม่ได้จ่ายหรอกเพราะ พรบ. จ่ายให้อยู่แล้ว เดี๋ยวก็ได้เงินคืนแค่เราเอาหลักฐานมายื่นให้โรงพยาบาล”
เขาหมายถึงการประกันรถยนต์ตามกฎหมายที่ผู้ใช้รถต้องจ่ายพร้อมการต่อทะเบียนรถเพื่อคุ้มครองผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
“หนูแจ่มกลับบ้านไปพักดีไหม? พี่ว่าสภาพนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจนะ”
แจ่มใสนิ่วหน้า เธอขอใบรับรองแพทย์และขอร้องให้เนติพาเธอไปมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นหลักฐานให้อาจารย์ดูว่าเธอประสบอุบัติเหตุจริงๆ ชายหนุ่มจึงพาเธอไปตามที่ร้องขอ อาจารย์ที่ปรึกษาเห็นอย่างนั้นก็บอกกับเธออย่างใจดีว่าจะให้เธอส่งงานมาทางอีเมล์และจะส่งคืนกลับไปให้
“ไม่ต้องมาแล้วจนกว่าจะขึ้นสอบปากเปล่านะ”
หลังจากที่การตรวจปริญญานิพนธ์ผ่าน อาจารย์ก็จะเรียกพูดคุยสอบถามความเข้าใจอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงจะเซ็นชื่อรับรองให้เธอจบการศึกษา ระหว่างนี้สามารถส่งงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
แจ่มใสเพิ่งนึกออกตอนนั่งรถกลับใกล้จะถึงคฤหาสน์สกุลเจียงว่าตัวเธอเองได้รับการกระแทกจนมึนหัวแล้วตัวเนติล่ะ?
“เฮียเน ไม่เป็นไรเลยเหรอคะ?”
“ไม่นะ พี่ก็ปกติดี” เนติรู้สึกว่าชาที่ท้ายทอยเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือปวด
“อ้อ ดีค่ะที่เฮียไม่เจ็บ”
เนติไม่ได้กังวลเรื่องนี้เพราะใจของเขาคิดถึงงานรื่นเริงในยามค่ำคืนที่จะเกิดขึ้นมากกว่า เมื่อส่งแจ่มใสแล้ว เขาก็ให้คนรถที่บ้านถือเอกสารแจ้งซ่อมรถไปยังศูนย์รถยนต์ ส่วนตนเองก็ให้คนขับรถที่บ้านนำรถคันใหญ่ออกไปส่งที่บริษัท
เป็นเอกได้ยินเรื่องอุบัติเหตุและรู้ว่าแจ่มใสไม่เป็นอะไรมากก็พยักหน้า
“ดีแล้วที่คนไม่เจ็บ ว่าแต่เรื่องเย็นนี้ของเราเรียบร้อยใช่ไหม?”
“เฮียไปแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดได้เลยครับ ผมให้คนเตรียมชุดใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว”
เนติมีคอนโดหรูหราอยู่นอกคฤหาสน์ มีเสื้อผ้าและของใช้ของเขากับเป็นเอกเก็บไว้ใช้ ยามใดที่อยากจะท่องราตรีหรือไปที่อื่นแบบฉุกเฉินก็สามารถแวะที่นี่ได้ คอนโดมิเนียมแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากตึกบริษัทนัก นั่งรถไปไม่ถึงสิบนาที
“ดีๆ เดี๋ยวเลิกงานแล้วเฮียจะไปอาบน้ำที่คอนโด”
สองหนุ่มไม่ได้สนใจเรื่องอุบัติเหตุอีก วันนี้เป็นเอกเอารถสปอร์ตของตนเองออกมาขับ เนติวนเวียนเดินไปมาหลายแผนกในบริษัท เขาเตร็ดเตร่ไปคุยกับพนักงานและผู้จัดการแต่ละแผนก ดูผิวเผินเหมือนเขาหลักลอยไม่ได้ทำงาน ทำการ ที่แท้เนติคือหูตาของเป็นเอกที่ส่งไปคอยสอดส่องในบริษัทต่างหาก
ตกเย็นทายาทจรัสไพศาลสกุลทั้งสองก็ตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่หล่อเหลาหอมฟุ้งที่คอนโดแล้วตรงไปยังร้านหรูที่นัดหมาย
เทวา จงพิพัฒน์ทรัพย์หรือเสี่ยท็อปมีหุ้นส่วนในร้านหรูหราใจกลางเมืองแห่งนี้ ด้านล่างเป็นผับดัง ชั้นสองเป็นเล้าจน์ชั้นดี ทว่าชั้นสามถูกตกแต่งเป็นเล้าจน์งดงามสำหรับให้คนกระเป๋าหนักได้เหมาใช้ส่วนตัว
สาวงามในชุดกระต่ายน้อยรัดรูปเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มขวักไขว่ หญิงสาวที่มาร่วมปาร์ตี้แต่งตัวงดงาม เครื่องประดับจัดเต็มกันทุกคน พวกเธอล้วนคาดหวังว่าจะมีหนุ่มเศรษฐีโสดหล่อพ่อรวยสักคนสะดุดตาและเข้ามาเป็นเหยื่อ
‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ คือ สิ่งที่พวกเธอต้องรู้ก่อนเข้าในปาร์ตี้ หญิงสาวเหล่านี้เองก็คิดเช่นเดียวกันกับพวกหนุ่มๆ
“งานนี้มีแต่คนรวยจริงๆ ใช่ไหม?”
“เออ...คงมีแต่พวกเรานี่ล่ะ ที่หวังเงิน ถ้าเราสองคนไม่มีชื่อเสียงล่ะก็ อย่าหวังว่าจะได้เหยียบเข้ามาปาร์ตี้นี้เลย” วนิษาดาราหญิงดาวรุ่งที่เพิ่งจะโด่งดังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เธอหันไปมองด้านหลังชายหนุ่มที่เชิญเธอมางานเลี้ยง แม้เขาจะไม่ออกหน้าเลี้ยงดู แต่ทุกครั้งที่เจอกันก็ควักเงินให้เธอมากกว่าค่าตัวที่ได้จากการทำงานครึ่งเดือนอีก
หญิงสาวอีกคนพยักหน้า แม้เธอจะโด่งดังได้สักพักแล้วแต่ฐานะการเงินก็ยังคลอนแคลน วนิษาจึงแนะนำให้เธอมาหาเงินจากที่นี่
“นั่นๆ ทายาทจงพิพัฒน์ทรัพย์ เจ้าของกิจการโทรศัพท์ไงล่ะ?” นิ้วของ วนิษาแอบชี้อยู่ใต้แขนให้เพื่อนดูเจ้าของสถานที่จัดปาร์ตี้
“ส่วนนั่นสองพี่น้องจรัสไพศาลสกุล เจ้าของบริษัทค้าเหล็กระดับหมื่นล้าน แต่ว่าสองคนนั้นไว้ตัวนะ ระดับเราเข้าไม่ถึงหรอก เขาคุยแต่กับคนระดับใกล้เคียงกัน”
เพียงขวัญหัวเราะหึๆ เธอไต่เต้ามาจากพริตตี้ข้างถนนจนกลายเป็นดาราดัง นอกจากจะพัฒนาความสามารถทั้งการพูดและการแสดงแล้ว ยังต้องผจญกับมารร้ายในสังคมมานับไม่ถ้วน เธอเองก็ดิ้นรนมาทุกรูปแบบ วิธีชั่วช้าแบบไหนบ้างที่เธอไม่เคยเจอ?
“รวยมากเลยล่ะสิ! หล่อมากซะด้วย ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้คงจะหยิ่งชะมัด”
“หยิ่งที่สุดเลยล่ะ ฉันเคยเข้าไปคุยด้วยแล้ว ถึงจะพูดจาสุภาพแต่ก็พอดูออกว่ารังเกียจ”
เมื่อเห็นวนิษาทำหน้าเจ็บใจอย่างนั้น เพียงขวัญจึงยิ้มเย็นๆ ยกมือตบบ่าคนที่พาเธอมา “เอาน่าๆ ษา เอาไว้ฉันจะแก้แค้นแทนเธอเอง”
ปาร์ตี้หรูหรานี้แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของกามารมณ์เข้มข้น หากว่าคู่ใดตกลงปลงใจกันก็สามารถขึ้นไปเริงรักที่ห้องชั้นสี่ได้เลย
“ผู้ชายแต่ละคนจะมีรหัสเข้าห้องพักข้างบน ถ้าพอใจใครแล้วตกลงกันได้ก็พาขึ้นไปได้เลย” คู่นอนของเศรษฐีหนุ่มบอกกล่าวเพื่อนให้เตรียมตัว เผื่อว่าเพียงขวัญตกลงกับชายที่พึงใจได้ จะได้รู้ว่าจะลงเอยเช่นไร
“อืม...”
เพียงขวัญปรายตามองเป็นเอก จรัสไพศาลสกุลตาเป็นมัน เพื่อนดาราของเธอยืนยันว่าเขาคือทายาทคนโตผู้กุมบังเ**ยนกิจการทั้งตระกูลเอาไว้ในมือ เพียงขวัญยกยิ้มมุมปาก...หากว่าเธอคว้าผู้ชายคนนี้เอาไว้ได้ ก็คงไม่ต้องไปตากแดดตากลมทำงานหามรุ่งหามค่ำ แม้จะเลี้ยงดูออกหน้าไม่ได้ ขอเพียงเขาเจือจุนเธอเหมือนที่เพื่อนเธอได้ก็สบายแล้ว
ดาราดาวรุ่งหญิงที่ภาพพจน์ของเธอในสายตาแฟนคลับคือหญิงสาวใสๆ อ่อนต่อโลก แต่แท้จริงเธอเป็นสายปาร์ตี้ตัวยงที่วนเวียนอยู่ในโลกคนกลางคืนมาโดยตลอด เพียงขวัญยกแก้วไวน์ขึ้นจรดริมฝีปาก ลอบมองไปยังผู้ชายรูปหล่อแต่งตัวเนี้ยบสองคนที่นั่งโซฟาห่างออกไป
‘หยิ่งนักใช่ไหม? มาลองเป็นผัวเพียงขวัญคนนี้ดูหน่อยเป็นไร?’
....โอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตไปเป็นสะใภ้มหาเศรษฐีมาถึงแล้ว....
***********************