“ช่วงนี้แกดูสนิทสนมกับน้องอิฐปะแป้ง”
“อือ ก็น้องน่ารักดี”
“เฮ้ย หรือว่าแกกับน้องอิฐจะ...”
“เงียบไปเลย ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นล่ะ”
“โธ่ คิดหน่อยเหอะ น้องอิฐเป็นน้องหมาโบ้ให้แกเลยนะเนี่ย ต่างจากฉลาม” พูดถึงฉลามตั้งแต่เขากระชากฉันที่ห้างวันนั้นและพูดเหมือนรู้ว่าฉันคิดยังไงกับซัน เขาก็หายไปเลย ต้องบอกก่อนนะปกติของฉลามจะหายไปแบบนี้และกลับมาอีกทีคือพร้อมจะเชือดฉันเลยล่ะ ต้องตั้งรับให้ได้ไม่รู้เขาจะมาไม้ไหน “ว่าแต่ซันหายไปไหนอะ?”
“เรียนหนักมั้ง ปีห้าต้องหาที่ฝึกงานด้วย” ฉันตอบเพนนีแบบขอไปที ก้มหน้าทำรายงานต่อในช่วงสายของวันเพราะมีเรียนเที่ยงแต่ลูกกวาดก็ยังไม่มาเลย
“ทะเลาะกันคราวนั้นคือยังไม่ดีกันอีกเหรอ แปลกอะ ปกติซันมันง้อแกเร็วจะตายไป” ถ้าไม่ทำเรื่องอย่างว่ากับซัน เขาก็คงจะมาง้อฉันเร็วนั่นแหละ แต่พอเกิดเรื่องนั้นปุ๊บซันก็โกรธฉันนานเลย “ทะเลาะรอบนี้คือร้ายแรง”
“เปล่า”
“แกไปด่าพ่อแม่ซันปะเนี่ย”
“จะบ้าหรือไงเล่า! ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย” ตีไหล่เพนนีที่หัวเราะคิกคักชอบใจ
“ไง สาวๆ” แขกไม่ได้รับเชิญและไม่ได้เรียนที่มหาลัยนี่เอ่ยทักทายฉันกับเพนนีจนต้องขมวดคิ้วด้วยสีหน้าสงสัย
“ไผ่ มาทำอะไรที่นี่”
“มาจีบลูกวาดไง” ไผ่ตอบตรงพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เพนนี “ไหนอะลูกกวาด”
“ยังไม่มา”
“เอาจริงนะ นายไม่เหมาะกับลูกกวาดเลยนะ อีกอย่างลูกกวาดไม่ชอบผู้ชายแบบนายด้วย” ฉันบอกไผ่ที่เบ้ปากพลางโนสนโนแคร์ หมอนี่คิดจะเล่นๆ กับลูกกวาดเหรอ ไม่มีทางซะหรอก! ฉันจะปกป้องเพื่อนของฉันให้ถึงที่สุดเลย ลูกกวาดไม่เหมาะกับผู้ชายเจ้าชู้อย่างไผ่เลยสักนิด
“นั่นรถซันนี่นา สงสัยมาง้อแกปะแป้ง” เพนนีชี้นิ้วไปยังรถจากัวร์คุ้นตาที่จอดหน้าคณะต่อท้ายรถของไผ่ หากแต่ว่ามันไม่ได้มีแค่ซันที่มาคนเดียว ประตูด้านข้างคนขับเปิดขึ้นและเป็นร่างบอบบางที่ทำให้ฉัน เพนนีและไผ่ต่างพากันมองหน้าอย่างไม่ได้นัดหมาย “ลูกกวาด!”
“มากับไอ้ซันได้ไงวะ?” ไผ่ตั้งคำถามและฉันเองก็แอบตั้งคำถามเช่นเดียวกัน ซันไม่ได้สนิทกับลูกกวาดขนาดนั้นและจะสนิทก็แค่กับเพนนี ขนาดกับเพนนีฉันยังแอบหึง พอมาเป็นลูกกวาดมันกลับทำให้ฉันสับสนว่าซันกำลังคิดทำอะไรกันแน่ ทั้งที่ปากก็บอกว่าไม่มีทางสนใจเพื่อนของเพื่อนนั่นก็คือเพื่อนของฉัน หากแต่ว่าการกระทำมันไม่ได้บ่งบอกเช่นเดียวกับคำพูดเขาเลย นั่นทำให้พอทั้งสองคนเดินมาหยุดตรงโต๊ะหินอ่อน ฉันสบตากับซันที่ไม่ได้เจอหน้ากันนาน เขาหุบยิ้มทันทีที่เห็นหน้าฉัน “เดี๋ยวนะไอ้ซัน คือยังไง...”
“ไม่มีอะไร แค่เห็นลูกกวาดเดินอยู่ริมฟุตบาทเลยรับมาส่งที่มหาลัย”
“ทำไมอะ แล้วพ่อเธอไม่มาส่งเหรอลูกกวาด”
“รถเสียน่ะ เราก็เลยมาเองพอดีเจอกับซันโดยบังเอิญ ซันก็เลยอาสามาส่ง”
“อ๋อ แบบนี้เองกูนึกว่ามึงจะจีบลูกกวาด”
“จีบเหี้ยอะไร! มึงจีบลูกกวาดอยู่ กูไม่จีบใครมั่วแบบมึงนะ ยิ่งคนใกล้ตัวกูชอบใครจะให้กูไปจีบคนนั้นได้ไงกัน” ซันตวาดใส่ไผ่ หากแต่ว่าฉันกลับโฟกัสที่ลูกกวาด เพื่อนสาวหุบยิ้มลงทันทีจนฉันขมวดคิ้ว... ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม รู้สึกเหมือนกับว่าลูกกวาดกำลังตกใจกับคำตอบของซัน “มาเสนอหน้าทำหอกอะไร มีเรียนบ่ายสามปะ”
“ก็ว่างๆ มานั่งเล่นที่นี่ไม่ได้หรือไง?”
“ไอ้จอมรอรากงอกแล้วมั้ง” ราวกับฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะซันมองหน้าฉันแค่แปบเดียวก็ไม่คิดจะมองกลับมาเลยสักนิด ฉันได้แต่หลุบสายตามองชีทรายงานที่ทำใกล้จะเสร็จพร้อมส่งตอนเข้าคลาส
“พี่แป้งครับ”
“อิฐ” ทว่ากลับมีเสียงสวรรค์เรียกรั้งฉันให้หันไปฉีกยิ้มกว้างให้กับเขา “เลิกคลาสแล้วเหรอ”
“ครับ มีเรียนต่ออีกเลิกบ่ายสองครับ” อิฐส่งยิ้มให้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ซันที่จ้องหน้าอิฐนิ่งๆ ราวกับไม่ได้แยแส “ชามะนาวครับ ผมคิดว่าพี่แป้งกำลังต้องการ”
“ขอบใจนะ”
“เอ่อ พี่แป้งเลิกเรียนกี่โมงเหรอครับ”
“บ่ายโมง มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรครับ กำลังคิดว่าจะชวนพี่แป้งไปดูหนังด้วยกัน แต่ผมเลิกเรียนบ่ายสองไม่อยากให้พี่แป้งรอ”
“ไม่เป็นไร พี่รอได้ ไปดูหนังกัน”
“จริงเหรอครับ?”
“อืม เราไปดูหนัง แล้วเดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวนายด้วย ตกลงไหม” อิฐพยักหน้ารับอย่างดีใจเหมือนกับลูกหมาน้อยอย่างที่เพนนีบอกเลย “ขอบใจนายที่เมื่อวานรีบไปช่วยพี่ตอนรถเสีย”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องขอบคุณ ผมเต็มใจ” เราสองคนส่งยิ้มให้กันและกัน “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
ฉันโบกมือให้กับอิฐที่ค้อมศีรษะให้กับทุกคน จากนั้นก็หันกลับมาสบตากับเพนนี ลูกกวาดและไผ่ แน่นอนว่าสามคนนี้จ้องหน้าแบบกำลังตั้งคำถามระหว่างฉันกับอิฐ ไม่เว้นแม้แต่ร่างสูงที่ยืนล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงจ้องฉันตาเขม็ง
“นี่กำลังคิดหาผัวอยู่ใช่ปะแป้ง”
“บ้าหรือไง แค่น้องเขาน่ารักดี คุยด้วยไม่เห็นจะต้องคิดไปถึงขั้นนั้นเลย” ตอบไผ่ที่เบ้ปากใส่ฉัน
“สายตาที่มันมองน่ะแทบจะกลืนกินเธอเลยนะ มันไม่คิดอะไรฉันไม่เชื่อหรอก”
“หึงหรือไง?”
“ฉันจะหึงเธอทำไมวะ ควรหึงลูกกวาดกับไอ้ซันปะ! แม่ง”
“ก็เห็นถามซอกแซกเหมือนหึงฉันไง” เบ้ปากใส่ไผ่บ้าง เขาก็หันไปจ้องหน้าลูกกวาดที่แทบจะไม่มองไผ่เลย ต่างจากสายตาที่ลูกกวาดมองซันมันต่างกันลิบลับ
“เอาจริงแป้งกับน้องอิฐก็เหมาะกันดีนะ” เพนนีพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่โคตรจะมาคุ “น้องอิฐดูเป็นหมาน้อยน่ารักตัวโต ดูน่ารักไปหมดเลย จริงปะแป้ง”
“อือ น้องน่ะน่ารักดี”
“กูไปก่อนนะ รำคาญ” ซันพูดขึ้นขัดจังหวะฉันกับเพนนี หรี่สายตามองฉันราวกับไม่พอใจสุดๆ
“รำคาญอะไรของมึง หงุดหงิดเหี้ยไรก่อน ทำหน้ายังกับตูดลิง”
“เหอะ”
“เอ๊า เหี้ยไรของไอ้ซันวะแป้ง”
“จะไปรู้เหรอ”
“แต่เธอก็น่าจะรู้ทุกเรื่องของมันปะ เพื่อนกันนี่นา”
“บางเรื่อง... ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ใช่ว่าฉันจะรู้ไปหมดซะทุกอย่างนะไผ่”
ฉันลอบมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างไปไกลเรื่อยๆ ราวกับไม่เคยได้เข้าใกล้เขาเลย ทั้งที่เราสองคนอยู่ใกล้กันมาตลอด ความห่างเหินระหว่างฉันกับซันมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ กระทั่งวันนี้มันก็มาถึงจนได้
*------------------------------------------*