“ไม่สบายหรือเปล่านี่ อย่าบอกนะว่าไปอัพยาที่เชียงใหม่ กลับไปเนี่ย เรื่องนี้ถึงหูป้ามากาเร็ตแน่ ๆ ระวังตัวเอาไว้ให้ดี” เขาชี้หน้าปรามาสเธอเป็นหนที่ร้อย แสดงอารมณ์เสียและหงุดหงิด ยิ่งตอนนี้เธอหมดสภาพที่จะตอบโต้เขา ยิ่งอารมณ์ขุ่นเคืองไปใหญ่ เขาเดินมารับกระเป๋าที่ฝากเอาไว้ก่อนไปเชียงใหม่ แล้วรีบดำเนินการเช็กอินไฟลต์ที่จะบินไปลอนดอนทันที
แมคเวลขอรับบริการรถไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย เพราะดูสภาพของโซเฟียตอนนี้ เธอคงจะพาสังขารตัวเองเดินไปยังประตูทางขึ้นเครื่องไม่ไหวแน่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็คอยอำนวยความสะดวก และสอบถามถึงอาการป่วยของเธอ เขาได้แต่บอกว่าเธอมีอาการอ่อนเพลีย เพิ่งฟื้นจากอาการป่วย และร่างกายเดี้ยงจากการโหมงานหนักไปหน่อย
เธอได้รับการบริการจากเจ้าหน้าที่สนามบินเป็นอย่างดี และได้ถูกนำขึ้นเครื่องเป็นอันดับแรก ๆ เมื่อพนักงานพาร่างเธอหย่อนลงบนเก้าอี้บนเครื่องบิน เธอก็หลับอย่างเอาเป็นเอาตาย แทบไม่แตะต้องอาหารตลอดการเดินทาง แต่ขอรับน้ำอุ่นบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น
เมื่อล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ที่ลอนดอน สีหน้าของแก้มเริ่มดีขึ้น มีสีเลือดฝาดขึ้นมาบ้าง เธอเดินตามฝรั่งตัวสูงคนนั้นที่คอยมองมาที่เธอเป็นระยะ ปากของเขาก็พ่นคำพูดที่แก้มฟังไม่เข้าใจออกมาตลอดเวลา เขายืนรอรับกระเป๋าทั้งหมด ก่อนจะยกมันขึ้นบนรถเข็น เดินลิ่ว ๆ นำหน้าไม่รอแก้ม เธอต้องรีบวิ่งตามเขาไปในทันที
‘บ้าเหรอ ฉันไม่รู้จักใครสักคนที่นี่ ฟังใครพูดก็ไม่ออกสักคำ แล้วยังจะมาทิ้งกันอีก อย่าเดินเร็วนักซิ’
เธอคิดอยู่ในใจ รีบยกมือหยิกแขนและตบหน้าตัวเองแรง ๆ เฝ้าถามตัวเองตลอดเวลาว่า ‘นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม’
แมคเวลใช้บริการของรถแท็กซี่ที่คิวกำลังลื่นไหล ยกกระเป๋าเดินทางของเขาและเธอขึ้นท้ายรถ ก่อนจะดึงเธอส่งให้เข้าไปนั่ง
“ไปคอนโดฉันก่อนก็แล้วกัน ถ้าเธอกลับบ้านไปในสภาพนี้ ป้ากับลุงเอาฉันตายแน่ ๆ” ปากของเขาพูด จ้องตาเธอเขม็ง อยากจะขย้ำตัวเธอระบายอารมณ์โกรธยิ่งนัก
เขาไม่ใช่ว่าไม่ชอบเธอ แต่พวกญาติ ๆ ของเขาต่างหาก ที่พากันรังเกียจโซเฟีย ไม่อยากนับรวมญาติกับคนเอเชีย แต่ปฏิเสธหรือต่อว่าอะไรคุณโจน์และคุณมากาเร็ตไม่ได้ เขาจึงต้องทำเฉยเมยกับเธอแบบนี้
แต่จริง ๆ ตัวเธอก็จัดอยู่ในสเปกที่เขาวางเอาไว้เช่นกัน แมคเวลชอบผู้หญิงเอเชีย ผิวเข้มนิด ๆ สีเหลืองทองของผิวแบบนี้ ถ้าพาไปอาบแดดคงเป็นสีทองเข้มสวยไปทั้งตัว
เขาพาเธอเดินขึ้นมาที่ห้อง และให้เธอเข็นลากกระเป๋าของตัวเธอเองมาด้วย ปากก็สั่งให้เข้าไปอาบน้ำ แล้วตัวเขาจะออกไปข้างนอก
แก้มไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรอก รู้แต่ว่าเหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด ใจอยากจะอาบน้ำ เธอเดินเข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของคอนโด สรุปเธอใช่อุปกรณ์อะไรในบ้านและในห้องน้ำของเขาไม่เป็นเลย นอกจากก๊อกน้ำในอ่างล้างหน้า และโถชักโครกเท่านั้น เธอจึงเปิดน้ำไว้เต็มอ่างล้างหน้า และหาอุปกรณ์ที่คล้ายขันมาใช้ตักน้ำราดรดตัวเองในห้องอาบน้ำ
‘เป็นเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย’ เธอได้แต่คิด แต่ก็รีบชำระล้างร่างกาย เห็นผ้าเช็ดตัวที่ถูกพับไว้บนชั้นในห้องน้ำ จึงหยิบเอามาใช้ผืนหนึ่ง
เธอพยายามจะเปิดกระเป๋าที่เขาบอกว่าเป็นของเธอ แต่มันมีรหัสล็อกเอาไว้อยู่ เธอพยายามลองเดาใส่หมายเลขแต่ก็ไม่ถูกสักที แก้มจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขา แล้วหยิบเอาเสื้อเชิ้ตออกมาจากตู้หนึ่งตัว รีบสวมเข้าไปทันที เธอพับแขนที่ยาวขึ้น ก่อนจะหาหวีมาหวีผม ส่องกระจกคุยกับตัวเองอยู่แสนนาน
ด้วยการเดินทางไกลที่แสนนาน และเพิ่งเป็นครั้งแรก เธอจึงเกิดอาการ เจ็ตแล็กคือการนั่งเครื่องบินข้ามประเทศ ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดี จึงเอนตัวลงไปบนที่นอนของเขาอย่างวิสาสะ และผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
กิ๊ก… เสียงคีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้องของคอนโด และตามมาด้วยเสียงผู้หญิงที่เดินเรียกชื่อฝรั่งตัวสูงไปด้วย
“แมคเวลคะ ที่รักคุณอยู่ที่ไหน ฉันมาแล้วค่ะ”
“Surprise” เธอเอ่ยขึ้นตอนเดินเข้ามาในห้องนอน ยิงพลุมือแบบสามเหลี่ยมมายังบนเตียง แต่ภาพตรงหน้าที่เห็น มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตของแฟนตัวเองนอนโชว์ขาขาว ๆ หลับแบบสบายอยู่บนเตียง มองอย่างไรก็เห็นว่า เธอคนนั้นไม่ได้สวมใส่ทั้งอันเดอร์แวร์และบราเซีย
หญิงสาวผู้มาใหม่ตรงเข้ามากระชากแก้มที่นอนหลับไม่รู้ตัวอยู่บนเตียงให้ลุกขึ้นตามแรงเหวี่ยง
“เธอเป็นใคร บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ แล้วเธอเป็นอะไรกับแมคเวล และเธอมานอนในห้องนอนของเขาได้ยังไง” เสียงถามพ่นออกมาเป็นภาษาอังกฤษรัวลั่นอีกแล้ว แก้มได้แต่จ้องหน้าผู้หญิงผมทองคนนั้นแบบงง ๆ ผู้หญิงที่กำลังแผดเสียงมีผิวสีและรูปร่างคล้ายคลึงคนเอเชียอยู่มาก
แก้ม ตอบไปแบบไม่รู้ตัว ทั้ง Yes Yes No No ไป โดยไม่รู้ว่า คำถามของเธอคนนั้น คืออะไร
สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นกระทืบเท้าออกไปจากห้อง เหวี่ยงช่อดอกไม้ที่เธอพาติดตัวมาลงบนโต๊ะหน้าประตูคอนโดสี่ห้าครั้ง กลีบดอกไม้ ทั้งก้านใบตกกระจัดกระจาย และทิ้งมันลงกับพื้น เดินกระแทกส้นเท้าออกไปจากห้องทันที
แก้มถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังตกใจไม่หาย แก้มเดินเข้าไปเก็บกวาดดอกไม้ที่ตกกระจายเต็มทางเดิน แล้วกลับมาหย่อนตัวนั่งที่โซฟา
ความเพลียทำให้เธอผล็อยหลับลงไปตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง
ผลัวะ... เสียงเปิดประตูเข้ามา สีหน้าของคนที่เดินเข้ามาดูโกรธขึ้งเป็นอย่างมาก เขาจ้องมองร่างบางที่ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับเขาด้วยความตกใจ แมคเวลเห็นเธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวโปรดราคาแพงของเขาอยู่บนเรือนร่าง ความโมโหพุ่งปรี๊ด หากวัดได้คงทะลุเพดานไปแล้ว เขาทิ้งข้าวของที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตลงบนพื้น ก่อนจะตรงดิ่งเข้าหาแก้มที่ยังยืนงงตัวนิ่งชา
“เธอบอกอะไรกับเจน” เสียงที่คาดคั้นทำให้แก้มถึงกับหน้าเสีย และยิ่งเขาตวาดเสียงดัง เธอยิ่งห่อไหล่ ขนหัวลุกเกรียว
“เธอไปบอกว่าเธอเป็นแฟน เธอเป็นเมียฉันหรือ ดูนี่” แล้วใช้นิ้วจิ้มลงไปที่ใบหน้าของตัวเองที่ตอนนี้มีรอยแดงฝ่ามือแดงเป็นปื้นประทับไว้
แก้มได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ เขาจับไหล่สองข้างเขย่าอย่างรุนแรง เขากระชากสาวสวยเข้าห้องนอน ก่อนจะโยนร่างเธอขึ้นไปบนเตียง
“โอเค รู้ไหม ฉันกำลังจะขอหมั้นกับเจน แล้วทุกอย่างก็พังลงหมดเพราะเธอ มันผิดแผนไปหมด เหอะ ๆ มันคงเปลี่ยนไปแล้ว โซเฟีย เธอทำมันพัง เธอทำมันพัง เธอต้องรับผิดชอบ รู้ไหม”
เขาเหมือนคนบ้า กระโจนร่างขึ้นไปบนเตียง ตะครุบเธอเอาไว้ใต้ร่าง ฉกริมฝีปากปิดประกบลงมาแบบทันควัน
แก้มมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอพยายามจะใช้สองมือยันหน้าอกที่กดทับลงมาทั้งตัว จงใจผลักแบบสุดแรงแต่ร่างของแมคเวลก็ไม่ขยับเขยื้อน สองมือที่พยายามยันค้ำร่างใหญ่เอาไว้แต่เธอก็สู้แรงของเขาไม่ได้
แมคเวลแสดงความโกรธ ความก้าวร้าว ส่งผ่านริมฝีปากมายังตัวเธอทั้งหมด เธอใช้สองมือขยุ้มกำเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ครางอืออ้าอยู่ในลำคอ
“ฉันเกลียดเธอ” เขาเงยหน้าขึ้น จ้องสบตาก่อนจะตะโกนใส่หน้า
แก้มตัวสั่นงันงก ในใจเกิดความประหวั่นพรั่นพรึง เธอเข้าใจความหมายของคำนี้ รู้ว่า เขาเกลียดเธอ แต่ทำไมเขาถึงทำแบบนี้
“อย่านะ คุณเกลียดฉัน แล้วทำไม คุณต้องทำแบบนี้ล่ะ” เธอเอ่ยปากร้องห้าม
แมคเวลโกรธจนหน้ามืด เขาไม่ได้ยินเสียงอะไร ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในกายด้วย เขาซุกหน้าไปกลางร่องอกสวยคู่นั้น ก่อนจะกระชากเสื้อจนกระดุมหน้าหลุดออกไปทั้งแผง แล้วก้มลงอ้างับกัดหัวนมเธอจนเจ็บระบมไปหมด
“Please don’t touch me, no... Please… โอ้ย...” แก้มพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ พยายามนึกถึงคำพูดอะไรก็ได้ ที่จะสื่อบอกเขาว่าอย่าทำอะไรเธอ แต่ตอนนี้สมองมันมึนตื้อไปหมด ความเจ็บปนเสียวที่เขากระหน่ำทำกับเรือนร่างของเธอจนเผลอร้องครางออกมากับสัมผัสแรกจากผู้ชาย
“อื้อ...โอ้ย...” แก้มบิดตัวหนีการรุกราน และน้ำหนักฟันของเขาที่กระหน่ำลงมาตามเนื้อตัวที่มากเกินไป แก้มยกมือขึ้นผลักใบหน้าของเขาอย่างสุดแรง
แมคเวลเหมือนได้สติ แต่เขาก็ไม่หยุด เขากลับเปลี่ยนจากการลงโทษรุนแรงเป็นความอ่อนโยน สองมือประคองจับฐานเต้าให้เบียดชิดกัน แล้วก้มละเลงปลายลิ้นลงหาความหวานเร้าใจกับสองเต้าที่โดดเด้งเต็มกำมือ มือที่เคล้นคลึงขยับสองถันเบียดชิดกัน แมคเวลก้มลงคลุกใบหน้าอย่างสำราญ
เขาไม่เอะใจสักนิดว่าทำไมเธอถึงไม่เอ่ยปากห้าม หรือร้องเถียงเหมือนทุกครั้ง ที่เธอก็วีนเหวี่ยงกับเขา ตอนที่เขาเทรน หรือจัดตารางฝึกซ้อมของเธอแบบแน่นเอี๊ยด
แมคเวลได้แต่คิดว่า โซเฟียน่าจะอัพยาหนัก และท่าทางที่ยังดูสะลึมสะลือและดูไม่สดชื่นเหมือนเป็นเธอเอาเสียเลย ชายหนุ่มไม่คิดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ช่างมัน เขาสนใจแต่ความสำราญตรงหน้ากับเรือนร่างที่ตอนนี้เลิกดิ้นไปเสียเฉย ๆ
ร่างบางโอบรัดท้ายทอยของเขาเข้าประชิดเรือนร่างเธอ และส่งเสียงกระเส่าหวานเร้าใจเขายิ่งนัก