เขาผ่อนแรงมือที่เค้นอยู่ที่เต้าเบา ๆ ลูบคลึงหัวถันสีชมพูไปมา ทิ้งร่างแนบชิดอัดตัวเองเข้าหาร่างบางที่หายใจหอบเหนื่อย เม็ดเหงื่อพราวโทรมกาย เธอยังคงหลับตาพริ้ม หัวสมองขาวโพลน ร่างกายเหมือนถูกโยนให้ลอยขึ้น และถูกดึงแล้วทุ่มลงกับพื้น ความรู้สึกเป็นแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้ง
"พี่รักแก้มนะ" กั้งกระซิบบอกรักข้างหู และจูบลงบนซอกคอของเธออย่างสิเน่หา โซเฟียปล่อยตัวเองให้เขาก่ายกอดอยู่แบบนั้น ในหัวสมองไม่มีความคิดใด ๆ หลงเหลืออยู่เลย
ตอนนี้ขอให้สติเธอกลับคืนมาก่อน เธอจึงไม่ได้เอ่ย ไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง พร่ำบอกตัวเองในใจ
"ขอฉันนอนอีกสักตื่นนะ"
ณ งานแต่งงานของเก๋ เพื่อนของแก้ม
"อ้าวมาแล้วจ้าเก๋ นี่ช่อบูเก้ที่แกต้องใช้โยนจ้า" แก้มบอกเพื่อน พร้อมกับยกช่อดอกไม้ขึ้นโชว์ให้ทุกคนดู ก่อนจะใส่ในแจกันที่ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยบนโต๊ะกลางห้องแต่งตัวของเจ้าสาว
กริ๊ง... เสียงมือถือของแก้มดังขึ้น เธอรีบกดรับสาย
"สวัสดีค่ะ"
"พี่ครับ พี่ยังไม่ได้จ่ายส่วนที่เหลือเลยครับ" เสียงปลายสายดังขึ้น แจ้งเรื่องที่โทรเข้ามาหาเธอ
"ตายแล้ว พี่ลืมสนิทเลย ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนจ๊ะ" แก้มตอบไป และเพิ่งได้สติ รู้สึกตกใจมาก เพราะดันลืมจริง ๆ ตื่นเต้นที่เห็นช่อดอกไม้ที่ทั้งใหญ่และสวย เหมือนที่เธอเคยจินตนาการไว้ว่าอยากจะมีช่วงเวลาแบบนี้ และดอกไม้ช่อแบบนี้
"อยู่หน้าล็อบบี้ ที่เดิมเลยน่ะครับ"
"รอแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวพี่เดินลงไป" เธอรีบวางสาย ก่อนจะหันมาบอกเพื่อนที่นั่งรวมกันอยู่ในห้อง ต่างคนก็จัดชุดของตัวเอง บางคนแต่งหน้าตา เกลี่ยแป้ง ทาลิปสติก ดูว่าตัวเองโอเค ดูดีแล้วหรือยัง
เธอรีบสาวเท้าเข้าลิฟต์ไป กดลงไปที่ล็อบบี้ ชุดที่เธอใส่ แก้มคิดว่าดูดีกว่าของเพื่อน ๆ แล้ว เธอเลือกเป็นกระโปรงสุ่มสั้นสีชมพูอ่อนหวาน สายเดี่ยวแบบเส้นหนา เสื้อรัดแนบตามรูปร่าง มีโบคาดไว้ข้างหลังเป็นสีเดียวกันทั้งชุด ตามสีที่ทุกคนลงคะแนนโหวต การตัดแบบแล้วแต่หุ่นของแต่ละคนที่จะสวมใส่ แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหนที่ใส่แล้วดูสวยงามและแจ่มที่สุด
"ขอโทษจริงๆ นะ ความขี้ลืมของพี่ พลอยทำให้เราเสียเวลาไปเลย" เธอพูด และยกยิ้มให้ ก่อนจะยื่นส่งเงินส่วนที่เหลือให้กับน้องคนส่งดอกไม้ไป
"ไม่เป็นไรครับ" เสียงหนุ่มน้อยบอก ก่อนจะเดินออกประตูไป
เธอรีบหันหลังกลับ เดินเร็วมุ่งตรงไปที่ลิฟต์ เพื่อน ๆ เตรียมตัวกันเสร็จหมดแล้ว มีแต่ตัวเธอเองที่สาละวนจัดหาข้าวของให้เจ้าสาวจนง่วนไปหมด
เธอแทบเซล้มลงไปเมื่อปะทะกับร่างสูงใหญ่ไซซ์ฝรั่ง เขาจงใจเดินเข้ามาชนเธออย่างจัง แมคเวลช่วยรั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม ปากก็พ่นภาษาอังกฤษใส่เธอแบบไฟแลบ
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ทำหน้าตางงสุดชีวิต อ้าปากหวอขยับขาเดินตามแรงฉุดของเขา แมคเวลพาเธอไปที่รถที่จอดรออยู่ที่หน้าประตูทางออก แก้มก้าวตามเขาไปที่รถแบบไม่มีโอกาสปฏิเสธ
เขาดันหลังเธอขึ้นไปนั่งก่อนจะขึ้นตามไป และหันมาสไลด์ประตูรถตู้ปิดเองโดยไม่รอคนขับรถ ซึ่งต้องรีบวิ่งขึ้นประจำที่นั่งคนขับแบบสุดตัว เพราะกลัวไม่ทันเวลาเช็กอินที่สนามบินของลูกค้าสองท่านนี้แล้ว
"โซเฟีย ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าเธอต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ในเรื่องการตรงต่อเวลา นี่ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนาทีเดียว ฉันปล่อยตัวเธอไว้ที่เมืองไทยแน่ ๆ" หน้าตาที่หล่อเหลา พ่นคำร้าย ๆ ใส่ผู้หญิงตรงหน้ามาเป็นชุด
เธอได้แต่ยกมือส่ายโบกปฏิเสธไปมา ว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาพูดถึง เขาต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ แก้มยังมึนงง และหาทางคิดคำพูดปฏิเสธ แต่เหมือนทุกอย่างจะสายไปแล้ว รถขับออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
"Shut up! เงียบไปเลย"
ถึงจะโง่ เรียนภาษาอังกฤษมาน้อย แต่คำนี้เธอเข้าใจความหมายของมันดีว่าเธอต้องหุบปาก แก้มได้แต่นั่งตัวสั่น ห่อไหล่ แทรกเบียดหลังไปกับพนักเก้าอี้
ฝรั่งตัวสูงใหญ่ แต่งตัวเนี้ยบมาก กลิ่นน้ำหอมที่เขาฉีดบนเรือนกายกรุ่นไปทั้งคันรถ จนเธอเผลอสูดดม ตาสีหม่นที่จ้องมองมาช่างก้าวร้าว จนเธอต้องขยับกายถอยหนี
"ดูซิเอาชุดอะไรมาใส่ หา โลว์คลาสมาก ๆ อย่าให้นักข่าวเห็นเธอในสภาพนี้นะ น่าอายเป็นที่สุดเลย" ปากว่าอะไรไม่รู้กับเธอเสียงดัง และยกมือขึ้นมากำชายกระโปรงเธอสะบัดไปมา แต่แก้มพอจะคาดเดาได้ว่า เขาว่าชุดที่เธอใส่มันห่วยมันดูไม่ดีดูไม่สวยเป็นแน่
รถที่ขับอย่างเร็ว เพราะใกล้เลยกำหนดเวลาเช็กอินเต็มที ทั้ง ๆ ที่สนามบินไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก รถโคลงเคลงและฉวัดเฉวียนทำให้ร่างของเธอเหมือนจะถูกเหวี่ยงไปตามแรงกระชาก บางจังหวะเซถลาไปซบที่ไหล่หรือปะทะกับร่างของเขาเสียดื้อ ๆ
ใคร ๆ ก็รู้ว่า อาการขี้เมารถของเธอไม่เป็นสองรองใคร จะนั่งได้เฉพาะรถที่คุณพ่อกับพี่กั้งขับเท่านั้น นอกนั้นอ้วกพุ่ง เธอหัวหมุนเห็นดาวลอยอยู่เต็มหัว
เมื่อถึงสนามบิน ตัวเธอเหมือนถูกลากลงจากรถตามแรงกระชากของฝรั่งตัวใหญ่ ดีนะเธอเลือกสวมใส่รองเท้าส้นเตี้ย สีเดียวกันกับชุด เพราะเธอมีรูปร่างสูงเพรียวกว่าคนอื่น ๆ หากใส่รองเท้าส้นสูงไปจะแย่งซีนคนอื่นเขาหมด
ตอนนี้แก้มได้แต่เอามือที่ว่างอุดปากของตัวเองเอาไว้ เพราะมันเหมือนจะมีอะไรบางอย่างพวยพุ่งออกมาอย่างแน่นอน เธอปล่อยให้เขาลากจูงไปทางไหนได้ตามใจ จำใจเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้ เขาพาเธอมาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน ซึ่งดูแล้วเขาและเธอน่าจะเป็นสองคนสุดท้าย
พนักงานที่รอรับรีบลุกขึ้น เพราะได้รับการประสานมาจากเบื้องบนแล้ว เธอรีบพาทั้งสองคนเข้าสู่ทางออกพิเศษที่จะนำทั้งสองขึ้นไปสู่ตัวเครื่องบินที่พร้อมจะเคลื่อนตัวออกไปในทันทีที่สองคนนี้ขึ้นไปนั่ง
เธอปิดปากตัวเองสนิท กลืนเอาสิ่งที่จะสำรอกลงไปในลำคอให้หมด เดินตามเขาอย่างไม่มีทางปฏิเสธ เขาเอ่ยขอโทษ และขอบคุณพนักงานหญิงคนนั้นอย่างจริงใจ และส่งสายตาตำหนิมาที่เธอตลอดเวลา
“กลับไปถึงที่ลอนดอน ต้องอบรมเรื่องนี้กันอีกยกใหญ่ ถ้าเธอยังอยากจะเป็นอันดับหนึ่ง อย่าได้ทำนิสัยแบบนี้อีก” เสียงเขากล่าวสำทับ บ่งบอกอารมณ์ว่าโกรธมาก
พนักงานต้อนรับในเครื่องบิน นำสองคนไปยังที่นั่งในส่วนบิซิเนสส์คลาสที่มีเพียงผู้โดยสารเพียงไม่กี่คนในเครื่องบินลำนี้
พนักงานหญิงแนะนำการใช้อุปกรณ์และให้สาวสวยคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
เธอยังไม่ยอมเอามือที่อุดปากออก เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยมือความอัดอั้นที่จุกแน่นอยู่ในนั้นคงพุ่งออกมาให้เธอได้อายคน
แมคเวลหันมามองก่อนจะยื่นมือมาคาดเข็มขัดให้ ก่อนจะใช้นิ้วชี้หน้าปรามาสเธอเอาไว้
เครื่องบินเริ่มเคลื่อนตัว แก้มได้แต่ลืมตาเบิกกว้าง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แล้วไม่กี่นาทีต่อมา เครื่องก็เหินขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร
เมื่อเครื่องอยู่ในระดับที่ปลอดภัย มีเสียงพนักงานประกาศแจ้ง แก้มสุดจะทน เธอรีบเอาเข็มขัดนิรภัยที่คาดตรงเอวออก ก่อนจะลุกขึ้นตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ให้เร็วที่สุด ไม่ทันได้ปิดประตู เธอโก่งคอลงไปในโถส้วม เพื่อเอาทุกอย่างออกมาจากกระเพาะอาหาร
แมคเวลที่สังเกตเธอมาตลอดเวลา ลุกเดินตามไปดู และยืนนิ่งมองสภาพเธอที่กำลังไร้เรี่ยวแรง หญิงสาวแทบทรุดนั่งลงไปกับพื้น เขารีบขอความช่วยเหลือจากพนักงานสาวที่กำลังเดินตรงมา ให้ช่วยเขาประคองร่างบางให้กลับมานั่งที่เก้าอี้
แก้มสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ รู้สึกดีขึ้น ที่ได้เอาสิ่งที่ทำให้เธอมวนท้องออกไปจนหมด หญิงสาวนั่งพิงพนักเก้าอี้ ที่ตอนนี้พนักงานปรับให้เอนลงนิดหนึ่ง และมีพนักงานอีกคนคอยเช็ดหน้าและให้เธอทานยา
“ขอยาแก้เมาอีกสักเม็ดได้ไหมคะ” เธอเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นภาษาไทยแผ่วเบา
แมคเวลหันมาจ้องเธอเขม็ง ก่อนจะพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษกระแนะกระแหนเธออีกว่า
“อ๋อ อยู่เมืองไทยอาทิตย์เดียว พูดได้คล่องขนาดนี้เลยเหรอ” ก่อนจะเอนเบาะที่ตัวเขานั่ง ไม่สนใจตัวเธออีกต่อไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสาวเหล่านั้นไป แมคเวลหลับตาลงเพราะเพลียมากอยู่เช่นกัน เมื่อคืนตัวเขายังไประเริงราตรีแบบโต้รุ่ง แต่ความสามารถที่สูงและความรับผิดชอบที่เต็มร้อย ทำให้เขาตื่นมาทำภารกิจอะไรได้ตรงเวลา
เสียงประกาศให้ทุกคนคาดเข็มขัด เครื่องกำลังจะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ แมคเวลขยับเปลือกตา ก่อนที่จะเรียกเขย่าคนข้าง ๆ ที่ยังคงหลับตานิ่ง
แก้มขอยาจากพนักงานตั้งสองเม็ด และสิ่งที่พวกเธอไม่รู้ คือแก้มอัดมันเข้าไปในปากเธอทั้งหมดก่อนจะกลืนลงท้อง
“โซเฟีย” เธอปรือตาขึ้นมองเขา เห็นเขาเขย่าเธออย่างแรง ก่อนจะดึงมือเธอให้ลุกขึ้นจากที่นั่ง
“เธอนี่มันน่าตีจริง ๆ เลย” เสียงเขายังดังต่อว่าเธอตลอดที่เดินลงมา
สภาพของแก้มเหมือนคนเมายา ตัวเธอล่องลอย เดินลากขา แต่เธอก็พยายามเดินตามฝรั่งตาน้ำข้าวระยะประชิด สองมือจับแขนเขาไว้เพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มหน้าคะมำเอาไว้ด้วย