เวลาต่อมา...
-Other-
“บอกว่าอย่ามาอีก...” เสียงทุ้มลึกดังขึ้นทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ใบหน้าสวยฉ่ำที่มองหน้าของเขาอยู่นั้นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เธอนิ่งกว่าทุกครั้ง
“แล้วพี่ก็ลงมารับ...เร็วมาก” เธอว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะคว้าข้อมือของเธอ เขาออกแรงกระตุกให้เธอเดินเข้ามาในลิฟต์ด้วย
“ก็เธอมา...”
“หึ พี่คิดถึงฉัน”
“เธอต่างหาก” เขาตอบกลับเธอด้วยความรวดเร็ว เตชินท์อยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำ แรงรัดของเสื้อทำให้เห็นแผ่นอกแน่นปึกใต้ผืนผ้าเนื้อนางนั้น
“ยังไม่นอนเหรอคะ...หรือว่ารอฉัน”
“ทำไมพี่ต้องรอเธอ”
“เพราะพี่คิดถึงฉัน”
“หึ แสดงว่าเธอเข้าใจผิด” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ พิ้งค์พลอยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เธอไม่เคยเปลี่ยนไป
“หึ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าฉันเข้าใจผิดจริงไหม” พิ้งค์พลอยใจเต้นระรัวยามพูดประโยคนี้ เธอทำใจนานเกือบสองชั่วโมงกว่าจะกล้าขับรถมาหาเขาถึงคอนโด ขณะเดียวกันการไม่เจอเธอทำให้ร่างหนาใจเต้นไม่ส่ำ ผลักไสเธอแทบตายทว่ากลับโหยหาแทบตายยามไม่เจอเธอ
“เธอมาทำไม”
“คิดถึงพี่ค่ะ ฉันไม่ได้ออกจากบ้านเลย เรื่องข่าวทำให้ฉันต้องเก็บตัว”
“แล้ว?”
“แล้วฉันก็คิดถึงพี่มากไงคะ” เตชินท์เดินออกจากลิฟต์ ไม่รอช้าที่พิ้งค์พลอยจะเดินตามไป เขาชะงักฝ่าเท้าเมื่อเธอพูดขึ้น ก่อนที่พิ้งค์พลอยจะเดินอ้อมตัวเขาไปหยุดอยู่ตรงหน้า ใบหน้าจริงจังของเธอทำให้ชายหนุ่มนิ่งไป
“แล้วฉันก็รู้ว่าพี่ก็คิดถึงฉัน อย่าปฏิเสธเลยค่ะ เหนื่อยเปล่า ๆ”
“ทำไม...”
“หืม?”
“ทำไมยังมาที่นี่ ทำไมยังทำแบบนี้”
“เพราะฉันรักพี่ไงคะ ไม่เปลี่ยน...พี่จะเป็นยังไง ฉันก็ยังรักพี่ ต่อให้พี่พิการ หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว ฉันก็ยังจะรักพี่เหมือนเดิม”
“_”
“ฉันพร้อมเรียนรู้ทุกอย่างที่พี่เป็น” เตชินท์ไม่ตอบอะไรเธอ เขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง โดยมีร่างบางเดินตามหลังมา
“พี่คิดถึงฉันใช่ไหมคะ” ฝ่าเท้าหนาชะงักไป เขาสบตากับเธอที่เดินเข้ามาใกล้ พิ้งค์พลอยเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
“ในหัวใจของพี่ตรงนี้...มันเรียกร้องฉัน แต่สมองของพี่ผลักไสฉัน เพราะฉะนั้น...ช่วยทำตามหัวใจหน่อยได้ไหม”
“_”
“พี่คะ...” แม้ว่าจะพล่ามบอกกับเขามากแค่ไหน แต่ชายหนุ่มก็ยังคงนิ่ง พิ้งค์พลอยเลียริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย เธอกำมือเข้าหากันแน่น “ทำไมคะ...”
“_”
“นอกจากอาการป่วยของพี่แล้ว พี่ยังมีเรื่องกลัวอีกใช่ไหม”
“_”
“ฉันรู้...ห้องนั้น” พิ้งค์พลอยว่าพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปยังห้องที่ปิดสนิทอยู่นั้น หลังจากค้นข้อมูลอยู่นานสองนานสิ่งที่รู้เพิ่มมาก็คือ...เขาต้องมีอุปกรณ์และห้องสำหรับทำกิจกรรม ห้องนั้น...ต้องมีบางอย่างที่บอกไม่ได้
“เพ้อเจ้อ...”
“ไม่ ไม่ได้เพ้อ ฉันรู้...” คิ้วหนากระตุกด้วยความแปลกใจ เขาเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอต้องไปรู้อะไรบางอย่างมา ซึ่งดูแล้วไม่เกินไปกว่าที่เขาคิด
“นายท่าน...พี่ชอบให้เรียกแบบนี้”
หมับ!
“ใครบอกเธอ...” ฝ่ามือหนาเอื้อมไปคว้าต้นแขนเล็กเข้าหาตัว ดวงตาคมลุกวาว ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยของพิ้งค์พลอยเบ้ด้วยความเจ็บ เธอพยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุด
“ไม่มี ฉันรู้เอง”
“ไม่จริง...มีคนบอกเธอ”
“แสดงว่าเรื่องที่ฉันพูดคือเรื่องจริงสินะ พี่ชอบให้เรียก...นายท่าน” เตชินท์กลืนน้ำลายลงคอ เขามองริมฝีปากเล็กที่ขมุบขมิบเรียกเขาด้วยใจที่สั่นไหว
“ให้ฉันเรียกพี่...นายท่าน”
“พลอย...อึก” ชายหนุ่มชะงักคำพูดไว้เพียงแค่นั้น เขากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ปฏิเสธไม่ลงว่าชอบที่เธอเอ่ยเรียก เสียงเล็ก ๆ ที่เอ่ยเรียกเขานั้น...
“ฉันอยากโดน...ทำโทษ”
หญิงสาวเน้นย้ำคำว่าทำโทษ เธอรู้สึกว่าเขากำลังกำแขนของเธอเพิ่มมากขึ้น เตชินท์ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด
“เธอไม่ชอบมันแน่ ๆ”
“ไม่ ฉันยังไม่ได้ลองเลย อย่าตัดสินฉัน” พิ้งค์พลอยเดินเข้าไปใกล้เขา จนปลายเท้าในส้นสูงห้านิ้วชิดกับปลายรองเท้าสลิปเปอร์ เตชินท์กำลังก้าวขาถอยหลังแต่แม่คุณเล่นดึงคอเสื้อสายเดี่ยวของตัวเองลงจนเผยให้เห็นเนินอกอวบใต้บราเซียร์ลายลูกไม้สีดำ
“พลอย...”
“...อย่าปฏิเสธฉัน” หญิงสาวว่าเสียงแผ่วเบาก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยของเขาลงมา ความสูงที่ต่างกันมากทำให้แรงดึงของเธอนั้นกระชากอย่างแรง และแน่นอนว่าเขาตั้งหลักไม่ทัน ทว่า
“อื้ออ~” เตชินท์กลับเผลอตัวย่อตัวลงใช้ท่อนแขนแกร่งช้อนสะโพกกลมกลึงขึ้น เขาบดจูบเธอโดยที่หญิงสาวไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มแม้ว่าจะตั้งใจไว้อย่างนั้น
เตชินท์เป็นดั่งเชื้อเพลิงอย่างดีที่รอคอยไฟมาจุดติด พิ้งค์พลอยตกใจแต่ก็ทำใจดีสู้เสือ เธอกำเสื้อยืดของเขาไว้แน่น ไม่ใช่จูบแรกของเธอเพราะความเป็นนักแสดงทำให้เธอผ่านการจูบมาแล้วหลายหน แต่การจูบทุกครั้งที่ผ่านมาไม่ได้เรียกให้ใจของเธอกระหน่ำเต้นแรงเช่นนี้
“อื้มม!!” เตชินท์ไม่ปล่อยให้สาวเจ้าหายใจเลยสักนิด เขาคำรามในลำคอย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มใช้เขี้ยวฟันขบริมฝีปากล่างของเธอให้เผยอริมฝีปากกว้าง ก่อนที่ลิ้นสากจะเข้าไปชอนไชหาความหอมหวาน ตักตวงเอาอย่างมูมมาม เสียงจูบของเขาดังแข่งกับเสียงลมหายใจถี่กระชั้น เตชินท์ทำให้ร่างบางอ่อนระทวย เธอหายใจไม่ออก
“อึก...พะ พอ...ก่อน” หญิงสาวถอนจูบออก เธอหอบหายใจหลังจากโดนสูบลมหายใจไปนาน อกอวบกระเพื่อมไหว เธอสูดอากาศเข้าปอดอย่างเหนื่อยอ่อน
“โทษที...” เขาปล่อยเธอลง พิ้งค์พลอยยกมือขึ้นเสยผม เธอส่ายหน้าให้กับเขา
“ฉันไม่ได้ว่าอะไร แค่...ตกใจ”
“เพราะอย่างนั้นเธอถึงต้องกลับ” ชายหนุ่มหมุนตัวหันหลังให้เธอ ทว่าฝ่ามือบางกลับคว้าข้อมือหนาไว้เสียก่อน
“ฉันอยากลองค่ะ...นายท่าน” เตชินท์เลื่อนสายตามองฝ่ามือเล็ก ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นตามเรียวแขนของเธอ จ้องมองหน้าอกอวบนั้นอย่างหื่นกระหาย เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองดวงหน้าสวย
“เธอจะเสียใจ”
“ไม่ สัญญา ฉันจะไม่เสียใจ” พิ้งค์พลอยว่าพลางกับกัดริมฝีปากล่าง เธอก้าวขาเดินเข้าใกล้เขา ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้า ใจดวงน้อยสั่นไหว เธออ่านข้อมูลมาเยอะพอสมควร เขาชอบแบบนี้...
“นายท่าน...” เตชินท์ข่มเปลือกตาปิดลง ก่อนที่เขาจะยกยิ้มมุมปากราวกับว่าถูกใจอย่างไงอย่างนั้น ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างลืมตัว เขาย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอพลางเชยคางมนขึ้นให้สบตากับเขา
“เห่าสิ...” พิ้งค์พลอยกลืนน้ำลายลงคอ หญิงสาวเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเห่าออกมาตามคำสั่งของเขา
“โฮ่ง ๆ”
“หึ แสนรู้...” เขาลูบศีรษะเธอพลางยกยิ้มบาง ๆ เตชินท์ตอนนี้ต่างไปจากทุกครั้งที่เธอเห็น เขาดู...ดุร้าย ราวกับสัญชาตญาณของนักล่าได้เข้าสิง
“อึก ฉัน...อึก”
“หืม...”
“เปล่าค่ะ” พิ้งค์พลอยหวั่นใจ เตชินท์กำลังไล่สายตาพินิจมองเธอในท่าคลาน ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าของหญิงสาวจิกเกร็ง เธอตื่นเต้นจนกรอบหน้าใสมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้น
“เธอพร้อมใช่ไหม”
“ค่ะ...นายท่าน” พิ้งค์พลอยอยากกรี๊ดออกมาดัง ๆ ได้ยินอย่างนั้นร่างหนาก็ลุกขึ้น ซึ่งหญิงสาวกำลังจะลุกตาม ทว่า
“อย่าลุก คลานอย่างนั้น” พิ้งค์พลอยชะงักไป เธอนิ่งค้างก่อนจะอยู่ในท่าคลานเช่นเดิม มองดูร่างหนาที่เดินไปเอากุญแจห้องลับออกมา เขาไขกุญแจเข้าไปในห้องนั้น ก่อนจะเปิดประตูออกอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยเรียกเธอ
“เข้ามาสิ...” พิ้งค์พลอยคลานเข่าเข้าไปตามคำสั่งของเขา ร่างบางในชุดกระโปรงสั้นแสนยั่วยวนนั้นทำชายหนุ่มเผลอเลียริมฝีปากอย่างลืมตัว ซึ่งพอหญิงสาวเข้ามาในห้องและเสียงดังกริ๊กของการล็อกประตูนั้นทำให้เธอเอี้ยวคอหันไปมองในทันที
“ลุกขึ้น...” พิ้งค์พลอยตัวสั่นเทา เธอลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของเขาในทันที ก่อนจะนิ่งตะลึงให้กับสิ่งของภายในห้อง ฝ่ามือบางยกขึ้นปิดปากที่เธออ้าค้างด้วยความตกใจ โต๊ะขนาดใหญ่กลางห้องนี้มีเชือกสีแดงห้อยระโยงระยางจากบนเพดาน เธอหันไปมองรอบกาย รูม่านตาค่อย ๆ ขยายออกด้วยความตกใจแม้จะเตรียมใจมามากพอสมควร อุปกรณ์ต่าง ๆ มีสีดำคาดด้วยสีแดงเป็นส่วนใหญ่ โซ่ แส้ กุญแจมือมีอยู่เต็มตู้โชว์ เธอข่มตาปิดลงก่อนจะหันไปมองร่างหนาอีกครั้ง
“ไง...”
“หืม?”
“เธอคิดว่ายังไง”
“ยังไงเหรอ...หมายถึง เอ่อ วะ ว่าฉัน เอ่อ...พี่คะ” พิ้งค์พลอยว่าเสียงสั่น เธอกำมือเข้าหากันแน่นด้วยความหวั่นใจ กลัวไปเสียหมดทุกอย่าง จินตนาการไม่ออกว่าครั้งแรกของเธอจะเป็นเช่นไร
“เธอกำลังกลัว” เขาเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ ก่อนจะเชยคางมนขึ้นมาสบตา ร่างบางสั่นเทาจนเขาหวั่นใจไปด้วย
“อย่ากลัวพี่...” พิ้งค์พลอยส่ายหน้าเบา ๆ เธอไม่อยากกลัวเขา แต่...เธอกลัวว่าจะทนไม่ไหว
“เธอจะเริ่มชิน...ไม่รู้สึก และจะชอบในที่สุด” เตชินท์ว่าพร้อมกับเดินอ้อมตัวเธอ จนกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง ในมือของเขามีแส้สีดำยาวกว่าช่วงตัวของเธอ เขาไปคว้ามาเมื่อไรเธอไม่ทันเห็น ชายหนุ่มใช้แส้เขี่ยใบหน้านวลพร้อมกับยกยิ้มบาง ๆ
“มัน...เจ็บหรือเปล่า”
“เจ็บ...แค่ครั้งแรก” เขาว่าพร้อมกับตวัดปลายแส้เล็กน้อย ดวงตากลมโตหรี่ลงด้วยความตกใจ เพียงแค่นี้เขาก็รู้แล้ว
พรึ่บ!
“ออกไปแล้วก็รีบกลับ” เขาทิ้งแส้ลงพื้น ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับหันหลังหนี ชายหนุ่มไหล่ตกด้วยความผิดหวังเล็กน้อย เขาแอบคิดในใจว่าพิ้งค์พลอยจะชอบ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับได้
“ฉัน...แค่ตื่นเต้นค่ะ”
“พลอย เธอไม่ได้ชอบมัน”
“ไม่ ๆ ฉันแค่ตื่นเต้น” เขาหันมามองเธออีกครั้ง ขณะที่พูดเธอก็กำมือแน่น สายตาล่อกแล่กไม่กล้าสบตากับเขา
“หึ อย่าโกหกตัวเองหน่อยเลย เธอจะเจ็บตัวเปล่า ๆ” เขาย่างเท้าเข้ามาหาเธอ ก่อนจะยื่นมือไปกำหลังคอระหง ออกแรงกระชากจนใบหน้าเล็กเข้ามาชิดกับใบหน้าของเขา
“อึก...จะ เจ็บ”
“หึ...” เขาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ เตชินท์กดปลายจมูกลงที่แก้มนุ่มนิ่ม เธอน่าทะนุถนอมเกินกว่าจะชอบอะไรแบบนี้
“รู้ไหมว่าสิ่งหนึ่งที่พี่ชอบทำบ่อย ๆ คืออะไร”
“คะ...”
“ขืนใจไง เวลาเห็นทาส ไม่สิ...ผู้หญิงกรีดร้องเสียงดัง ๆ ราวกับทรมาน...พี่ชอบ” พิ้งค์พลอยสบตากับเขา แววตาแน่วแน่นั้นกำลังบอกกับเธอว่าเขาพูดเรื่องจริง
“ฉัน...ทะ ทนได้”
“พี่ไม่อยากให้เราทน...พี่อยากให้เราชอบ” เธอหายใจหอบเหนื่อย เตชินท์นวดต้นคอของเธอโดยการบีบแรง ๆ ก่อนจะคลายออก
“ฉันยังไม่ลองเลยแล้วจะรู้เหรอว่าชอบหรือไม่ชอบ”
“เธออยากลอง?”
“ค่ะ...”
“แน่ใจ?”
“ค่ะ...” เธอตอบรับด้วยความมั่นใจอีกครั้ง พิ้งค์พลอยไม่ได้ก้าวขาถอยหลัง เธอขยับเข้าหาเขา ทว่า
“ถ้าเธอไม่ชอบ...” เธอกลับชะงักฝ่าเท้าเมื่อเขาเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง เตชินท์กลืนน้ำลายลงคอจนได้ยินเสียงเอื้อก เขาชักจะไม่มั่นใจในคำถามของตัวเอง แต่ก็อยากได้คำตอบ
“ถ้าหากว่าเธอไม่ชอบ เธอจะเลิกรักพี่ไหม...”
ชายหนุ่มเลียริมฝีปากเบา ๆ หลังจากถามเธอไป ไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่เธอรู้ความลับของเขาในที่สุด ให้เธอจากไปโดยที่เธอไม่รู้...ยังดีกว่าที่เธอกลัวเขาจนต้องจากไป ชายหนุ่มไม่ต้องการอย่างหลังแม้ว่ามันจะไม่ต่างกัน